ขึ้นปี 2020 มาได้ไม่ถึงเดือน เราก็ได้เห็นอะไรบางอย่างเกิดขึ้นมากมายกันแล้วเว้นแม้แต่วงการเกม ซึ่งข่าวที่เราเห็นกันถี่ ๆ ตั้งแต่ขึ้นปีมานี้ก็คือการประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายของเกมระดับ AAA หลายเกมที่มาแบบไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็น Final Fantasy VII Remake, Cyberpunk 2077, Marvel’s Avengers และล่าสุดนี้ก็เป็น Dying Light 2 ที่ถูกเลื่อนแบบไม่มีกำหนด เรียกว่าโดนเลื่อนเรียบไม่มีเหลือ
แต่ก็ดูเหมือนว่าการเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมในช่วยต้นปีนี้นั้นก็อาจจะเป็นข้อดีของใครหลาย ๆ คนก็เป็นได้ และเพราะอะไรทำไมถึงเป็นแบบนั้น วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กัน
ย้อนกลับไปดูในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา มีหลายเกมที่โหมกระแสด้านการตลาด โปรโมทกันจนเกิดความ Hype อยากเล่นกันขนาดหนักอยู่หลายเกม เกมเมอร์เกือบทุกคนต่างกระหายอยากที่จะเล่น เพราะด้วยคำพูดสวยหรูจากผู้พัฒนาก็ดี เป็นทีมสร้างระดับตำนานก็ดี เรียกว่าทำเอาพวกเราตัวสั่นเพราะความอยากเล่นกันแบบไม่ต้องสืบกันเลย
ทว่าหลายเกมที่อุตส่าห์ปั่นกระแสกันมาเป็นอย่างดี ก็ต้องมาล้มไม่เป็นท่า (หรือที่บางคนเรียกกันว่า ‘ขบวนแห่คว่ำ’) หากให้ยกตัวอย่างมาก็มีหลายเกมที่เข้าข่ายนี้ เช่น No Man’s Sky ของ Hello Games ที่มีคอนเซปต์น่าสนใจ แต่เปิดตัวมาได้ย้ำแย่และไม่ได้ครึ่งหนึ่งของที่โม้ไว้ Final Fantasy XIV Online ที่เปิดตัวมาได้แย่แบบสุด ๆ จนทีมงานต้องรื้อเกมทำใหม่หมด หรือล่าสุดนี้ก็เป็น Anthem ยอดเกมคว่ำแห่งปี 2019 ที่แย่ไปหมดทุกอย่าง ทั้ง Bug และเนื้อหาของเกม จนสร้างรอยร้าวให้กับ Bioware อย่างที่สุด
แม้จริงอยู่ว่าหลายเกมที่กล่าวมานั้นจะมีการปรับปรุงแก้ไขตัวเกมจนอยู่ในระดับยอดเยี่ยมแล้ว แต่การต้องเสียเครดิตไปกับ “ความล้มเหลวตอนเปิดตัว” นั้นต้องใช้เวลานานมากกว่าจะได้รับความเชื่อมมั่นคืนมาจากผู้เล่น หรืออาจส่งผลกระทบต่อผลงานในเครือชิ้นต่อไปได้เลย ซึ่งเป็นการเสียเวลาอย่างยิ่ง
เพราะแทนที่จะได้สะสมบารมีและความเชื่อมั่นจากผู้เล่น กลับกลายต้องมาแก้ไขในสิ่งที่พลาดไปเพื่อเรียกความเชื่อมั่นในระดับเดิมคืนมานั่นเอง
อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกันกับเรื่องนี้อย่างช่วยไม่ได้ก็คือการ Crunch หรือการที่เหล่าผู้พัฒนาเกม”บังคับ” หรือ “ขอความร่วมมือ” จากทีมงานคนอื่น ๆ ให้ทำงานล่วงเวลาเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อเร่งงานให้เสร็จก่อนวางจำหน่าย แม้จริงอยู่ที่หลายเกมนั้นทำออกมาได้ดีสมกับทุ่มเทแรงกายแรงใจไป แต่หลายเกมก็ไม่ได้ดีอย่างที่คิด ซ้ำยังทำให้เห็นปัญหาที่ถูกละเลยไปหลายจุดของเกมได้ชัดเจนขึ้นอีกด้วย
จึงไม่น่าแปลกใจที่ในช่วงที่ผ่านมา หลายเกมจึงเลือกที่จะเลื่อนวันวางขายออกไปก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้น
และการเลื่อนการวางจำหน่ายนี้ก็เป็นผลดีที่น่าเหลือเชื่อสำหรับพวกเราด้วยเช่นกัน เพราะก่อนที่จะมีการประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายเกมอย่างถล่มทลายนั้น เกมฟอร์มยักษ์ระดับ AAA หลายเกมต่างอัดกัน แย่งออกในช่วงเดือนเมษายนแบบแน่นมาก เช่น Cybertpunk 2077, Final Fantasy VII Remake, Resident Evil 3 Remake และอีกมากมาย การเลื่นอวันวางจำหน่ายดังกล่าวนี้ก็ทำให้หลายคนโล่งอกกันไปไม่น้อย เพราะจะได้ประหยัดเงินไว้ทำอย่างอื่น ไม่ต้องซื้อหมดทุกเกมรวดเดียวจนกระเป๋าฟีบแล้วนั่นเอง
อีกทั้งความเสียหายจากการประกาศเลื่อนวันวางจำหน่ายนั้นก็น้อยกว่าตัวเกมไม่เป็นไปตามที่หวังไว้อย่างมหาศาล เสียเวลาและความรู้สึกน้อยกว่า และมีเวลาทำใจได้มากกว่า เพราะอย่างน้อยเราก็เข้าใจได้ว่าทางทีมงานใส่ใจในผลงานจริง ๆ จึงยอมเลื่อนวันวางจำหน่ายเพื่อรักษาชื่อเสียงและคุณภาพเอาไว้อีกด้วย
หากแต่การเลื่อนวันวางจำหน่ายนี้ไม่ควรใช้ซ้ำกันจนบ่อยเกินไป เพราะหากมากกว่าสองครั้งขึ้นไป ความเสียหายอาจเกิดขึ้นได้มากกว่า ยิ่งถ้าเหตุผลในการเลื่อนวันวางจำหน่ายฟังไม่ขึ้นด้วยแล้ว ก็อาจส่งผลเสียได้มากไม่น้อยเช่นกัน อันนี้อยู่ที่ทีมพัฒนาแล้วว่าจะจัดการแก้ปัญหาไม่ให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสั่นคลอนไปมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม แม้การเลื่อนวันวางจำหน่ายจะเป็นหนทางที่หลีกเลี่ยงความเสียหายใหญ่หลวงได้ค่อนข้างดีที่สุด แต่ยังไงพวกเราก็ยังคงต้องการวันวางจำหน่ายที่แท้จริงของเกมอยู่ดี เพื่อที่จะได้เตรียมตัวเตรียมพร้อม เคลียร์เวลาเล่นเกมและเงินอันมีค่าเพื่อสนุกกับเกมที่รอคอยอย่างเต็มที่
ก็เหมือนกับการเลื่อนนัดกับคนสำคัญ ถ้าครั้งสองครั้งอาจไม่เป็นไร แต่ครั้งต่อ ๆ ไปอาจจะส่งผลเสียมากกว่าที่คิดก็เป็นได้ครับ
