Bandai Namco Games เป็นทีมตัวแทนจำหน่ายเกมสัญชาติญี่ปุ่นที่เริ่มให้ความสนใจตีตลาดฝั่งไทยมากขึ้น โดยสังเกตได้เห็นชัดจากการประกาศทำซับไตเติลแปลไทยอย่างเต็มรูปแบบในเกม Jump Force ที่ผ่านมา
แน่นอนว่า Bandai Namco Games ได้จัดบูธใหญ่ที่งาน Thailand Game Show 2019 เพื่อโปรโมต และทดลองเกมใหม่ในฉบับเดโมก่อนใคร หนึ่งในนั้นคือเกม One Piece Pirate Warriors 4 กับ Sword Art Online Alicization Lycoris โดยจะมีแผนวางจำหน่ายเกมเร็ว ๆ นี้ แล้วพวกเรารู้สึกอย่างไรจากการทดลองเกมดังกล่าว สามารถรับชมได้เลยครับ
One Piece Pirate Warriors 4
One Piece Pirate Warriors 4 ถือเป็นเกมประเภท Musou ที่แฟน ๆ มังงะ One Piece หลายคนรอคอย หลังจากซีรีส์ห่างหายไปนานถึง 5 ปี ทั้งที่ตัวเกมมีกระแสตอบรับดีมากอย่างท่วมท้น
One Piece Pirate Warriors 4 ถือเป็นเกมที่เข้าถึงง่ายมาก เหมาะสำหรับผู้เล่นทุกคน ด้วยระบบเกมเพลย์ที่ไม่ซับซ้อน เข้าใจง่าย และเน้นการทำคอมโบกับจำนวน K.O. เป็นหลัก ทำให้ความรู้สึกการเล่นเกมดังกล่าวมีความสนุกสะใจตามสไตล์เกม Musou ที่คุณต้องฟีลกู้ดทุกครั้งที่กวาดศัตรูจำนวนมาก ทั้ง ๆ ที่ผู้เขียนไม่ได้เป็นแฟนซีรีส์ One Piece เดนตาย ก็ยังสนุกสนานกับเกมนี้
การควบคุมมีการตอบสนองดี รวมถึงตัวเกมได้ใส่ระบบท่าไม้ตายโดยมีฉากคัตซีนพิเศษเอาใจแฟน ๆ และด้วยภาพกราฟิกเจนปัจจุบัน (น่าจะใช้ Unreal Engine 4) ทำให้ตัวเกมมีการอัปเกรดกราฟิกจากภาคก่อนเป็นอย่างมาก ข้อเสีย ณ ตอนนี้มีเพียงอย่างเดียว คือปัญหาภาพเฟรมเรตตก เมื่อผู้เล่นใช้ท่าไม้ตายที่มีเอฟเฟกต์อลังการ แต่ปัญหานี้อาจได้รับการแก้ไขดีขึ้น เมื่อตัวเกมออกจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
สรุปคุณภาพเกมโดยรวม One Piece Pirate Warriors 4 จัดว่าเป๋นเกมเล่นสนุกเมามันมาก แม้เวลาเล่นเดโมจะสั้นนิดเดียว ถ้าหากท่านเป็นแฟนเกมแอ็กชัน Musou หรือซีรีส์ One Piece คุณจะชื่นชอบเกมนี้แน่นอน
แต่นอกเหนือจากนั้น ระบบเกมเพลย์ของ Sword Art Online Alicization Lycoris จัดว่าเป็นเกมแอ็กชัน RPG คุณภาพน้ำดีตามมาตรฐานเกมยุคปัจจุบัน องค์ประกอบของเกม RPG ที่คาดหวังควรจะมีได้ใส่เข้ามาเกมนี้ เช่นระบบสลับตัวละครระหว่าง Kirito, Eugeo, Alice, Medina การออกคำสั่งปาร์ตี้ ปุ่มลัดสลับกดสกิล ฯลฯ แต่สิ่งที่ผู้เขียนชื่นชมมากที่สุด ก็คงไม่มีทางหนีพ้นเรื่องการออกแบบวิชวลเอฟเฟกต์ กับสถานที่ต่าง ๆ มีความสวยงามเป็นธรรมชาติอย่างมาก จนคาดหวังว่าตัวเกมอยากให้มี Photo Mode ไว้ถ่ายรูปเล่นอย่างมาก
แต่ต้องยอมรับเลยว่าผู้เขียนยังหาความพิเศษของระบบแอ็กชัน-RPG ของเกมนี้ไม่ได้เลย อาจเป็นเพราะตัวเกมมีสเกลขนาดใหญ่มาก จนเราไม่ได้สัมผัสในเกมเดโมซึ่งมีเวลาเล่นจำกัด แต่โดยรวมแล้ว
แถม : One Punch Man: Hero Nobody Knows
หลังการเปิดตัวอย่างฮือฮาของเกม One Punch Man: Hero Nobody Knows ด้วยระบบหมัดเดียวจอดของ Saitama ทำให้เกมเมอร์หลายคนสนใจเกมดังกล่าวเป็นอย่างมาก แต่หลังจากผู้เขียนลองสัมผัสเกมนี้ในงานแล้ว ความรู้สึกการเล่นกลับไม่ได้มีความประทับใจเป็นพิเศษมากนัก
ใน One Punch Man: Hero Nobody Knows ฉบับเดโม ผู้เล่นสามารถเลือกนักสู้ได้สามคนระหว่าง Saitama, Genos, Tatsumaki (Terrible Tornado), Speed-o’-Sound Sonic กับ Bang แล้วต้องต่อสู้กับฝั่ง CPU แบบ 3 vs 3 โดยระบบการเล่นเกมจะคล้ายคลึงเกม Jump Force ทั้งระบบควบคุม การปล่อยท่าต่อสู้พิเศษ และท่าไม้ตาย แต่สิ่งที่แตกต่างจากเกม Jump Force คือภาพกราฟิกแบบ Cell Shade (หรือหลายคนเรียกกันว่า 2.5D) ทำให้ระหว่างการเล่นเกมรู้สึกสบายตากว่าเกมดังกล่าวมาก
แต่ความประทับใจหลังการเล่น One Punch Man: Hero Nobody Knows ก็ต้องบอกเลยว่า “เฉย ๆ” เนื่องจากการออกแบบเกมโดยรวม ยังคงเป็นเกมแนว Arena Fighting สูตรสำเร็จที่ไม่มีอะไรใหม่ ๆ นอกจากระบบการเอาตัวรอด เพื่อรอให้ Saitama วิ่งเข้าสู่สนามประลองจะมีความสร้างสรรค์ และแปลกใหม่ก็ตาม ซึ่งก็หวังว่าเกมเต็มของ One Punch Man: Hero Nobody Knows จะมีคอนเทนต์ที่น่าสนใจกว่านี้ครับ