งบพอประมาณ ควรจัดหูฟังตัวไหนดี ลองมาดูกัน
หนึ่งในสิ่งที่เหล่าเกมเมอร์ตัวจริงใส่ใจในการหามาใช้งานก็คือหูฟังหรือ Gaming Headset ที่มีคุณภาพดี เพราะถ้าได้หูฟังที่ดี ก็จะได้รับอรรถรสในการเล่นเกมที่ดีขึ้นไปด้วย รวมไปถึงมีความได้เปรียบในการเล่นจากการแยกเสียงปืน เสียงฝีเท้าและอื่น ๆ ช่วยระบุตำแหน่งของศัตรูในเกมได้ดีขึ้น และนอกจากการแยกเสียงแล้ว ไมโครโฟนที่ดีก็จะช่วยให้การสื่อสารในทีมไม่มีขาดตอน และช่วยสร้างมิตรภาพและความสนุกให้กับผู้เล่นได้มากขึ้นตามไปด้วย
แต่ปัญหามันมักจะอยู่ที่ว่า หลาย ๆ คนมักจะมีงบประมาณที่จำกัดในการเลือกซื้อหูฟัง และหูฟังที่คุณภาพดีก็มักจะราคาแพงมาก (เกิน 3,000 ขึ้นไป) ทำให้เกมเมอร์กระเป๋าแห้งต่างต้องร้องไห้เพราะความแพงของมัน แต่ก็ยังถือว่าที่ในโลกนี้ยังไม่โหดร้ายจนเกินไปนัก เพราะก็ยังมีหูฟังที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพงจนเกินเอื้อมให้เลือกใช้งานอยู่พอสมควร วันนี้เราจะมาดูกันว่า หูฟังที่ราคาไม่เกิน 2,000 บาทนั้นมีรุ่นไหนกันบ้างครับ
ก่อนอื่นต้องชี้แจงก่อนว่า ทำไมถึงตั้งงบไว้ที่ 2,000 บาทเพื่อหูฟังสำหรับเล่นเกม ในงบจำนวนเท่านี้ คืองบที่สามารถหาหูฟังคุณภาพที่ค่อนข้างดีมาใช้งานได้อย่างสบายใจ และยังมีการรับประกันที่เหมาะสม โดยในราคาระดับนี้มีที่โดนใจตัวผู้เขียนอยู่ 5 รุ่นด้วยกัน และเหมือนกับใน Feature ของสัปดาห์ก่อน ว่านี่คือการรวบรวมข้อมูลจากทางเวปไซด์ต่าง ๆ และประสบการณ์ของผู้เขียนในการเลือกหูฟังรุ่นที่คิดว่าดีที่สุดในราคาระดับนี้มา ซึ่งถ้าหากเพื่อน ๆ ผู้อ่านคนไหนมีหูฟังรุ่นอื่นที่น่าสนใจหรือถูกกว่าในงบประมาณระดับนี้ก็สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ใน Comment เหมือนเดิมครับ
Hyper X Cloud Stinger – ราคา 1,990 บาท
เริ่มกันที่หูฟังแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งตีตลาดในบ้านเราได้ไม่นาน แต่มีคุณภาพสมราคาอย่าง Hyper X กันก่อน สำหรับรุ่น Stinger ตัวนี้ก็เรียกได้ว่าค่อนข้างตอบโจทย์ของหูฟัง Gaming ได้ครบถ้วนแม้จะเป็นหูฟังแบบ Stereo 2.0 ก็ตาม แถมด้วยลูกเล่นที่สามารถหันตัวหูฟังพับได้ 90 องศา ทำให้สะดวกต่อการพาดไว้ตรงคอหรือวางไว้บนโต๊ะโดยที่ไม่ต้องใช้ที่แขวนได้ง่าย และการแยกรายละเอียดเสียงกับความชัดของไมโครโฟนก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีมากทีเดียว อาจจะติดนิดหน่อยตรงที่การจับปรับระดับของหูฟังนั้นจะยากนิดนึง แต่โดยรวมเป็นหูฟังราคาไม่เกินสองพันที่คุ้มค่ามากตัวหนึ่ง
Corsair HS50 – ราคา 1,590 – 1,990 บาท
มาที่หูฟังราคาเบาจาก Corsair กันบ้าง รุ่น Hs50 ตัวนี้เล่นรุ่นเล็กสุดในรุ่น Hs แต่ถึงจะเป็นรุ่นเล็ก แต่ความสามารถนั้นไม่เล็กเลย กับระบบเสียง Surround 2.0 มีการเชื่อมต่อที่ง่ายดาย และไมโครโฟนถอดประกอบหรือพับงอได้ แม้จะดูเรียบง่ายแต่ก็ให้พลังเสียงที่อยู่ในระดับที่ดีมากทีเดียว แม้จะไม่อลังการมากแบบหูฟังแบบ 5.1 หรือ 7.1 แต่ก็เก็บรายละเอียดเสียงได้ครบถ้วน แต่จุดที่ต้องระวังคือฟองน้ำหุ้มหูฟังที่เป็นหนังที่อาจจะมีการฉีกขาดหรือลอกออกได้เมื่อใช้งานไปนานๆ แต่โดยรวมจัดเป็นหูฟังที่คุ้มราคามาก และอาจจะหาซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่ารุ่นอื่น ๆ ที่แนะนำในนี้เลยทีเดียว รวมไปถึงนำไปใช้งานกับเครื่องคอนโซลก็ได้ด้วยเช่นกัน
Cougar Phontum – ราคา 1,990 บาท
เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่เข้ามาตีตลาดในบ้านเรามานานพอสมควร และมีเกมมิ่งเกียร์คุณภาพดีอยู่ค่อนข้างมาก และเจ้า Phontum ตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวที่จัดว่าคุ้มค่า โดยมาพร้อมกับการปรับระดับในส่วนของ Ear cup ที่อิสระ และยังถอดเปลี่ยนตัวฟองน้ำให้เหมาะสมกับใบหูของเราได้ด้วย ส่วนคุณภาพเสียงก็จัดว่าโหดเพราะมีขนาดลำโพงที่ใหญ่มากถึง 53mm ให้เสียงที่ชัดเจนครบทุกรายละเอียด และยังมีความยืดหยุ่น ถอดเปลี่ยนสายเพื่อนำไปใช้กับเครื่องคอนโซลหรือโทรศัพท์มือถือได้ด้วย แม้จะเป็นแบรนด์ที่หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับความเป็นหูฟังแบบเกมมิ่ง แต่ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าหาซื้อมาใช้งานมากตัวหนึ่ง
Creative Sound BlasterX H3 – ราคา 1,690 บาท
ถ้าเอ่ยชื่อ Creative ส่วนใหญ่แล้วเราจะนึกถึงแบรนด์ที่ทำ Soundcard สำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์กันมากกว่า แต่อันที่จริงแล้ว Creative เองก็มีผลิตภัณฑ์ Gaming Gear มาลงในตลาดอยู่นานพอสมควรแล้ว และเจ้า Sound BlasterX H3 ที่เป็นรุ่นเล็กสุดนี้ก็ถือว่าเป็นหูฟังสำหรับเล่นเกมที่คุ้มค่าอีกหนึ่งตัว แต่ย่านความถี่ของตัวหูฟังตัวนี้อาจจะนะน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ ที่แนะนำในที่นี้ไปบ้าง แต่ก็ยังฟังเสียงต่าง ๆ ได้ค่อนข้างชัดเจนและมีตัวไมโครโฟนที่ทำงานได้โอเค และยังเหมาะกับการฟังเพลงอีกด้วย
Razer Electra V2 – ราคา 1,990 บาท(รุ่นที่ไม่ใช่ USB)
ตัวสุดท้ายส่งเข้าประกวดโดย Razer กับ Electra V2 ซึ่งแน่นอนว่าจุดเด่นของหูฟังแบรนด์ Razer จะอยู่ที่พลังเบสที่แน่นหนามาก ซึ่งตัว Electra V2 นี้ก็ยังคงจุดเด่นจากรุ่นเก่ามาได้เหมือนเคยนั้นก็คือความแหนาแน่นของเบส และความหลากหลายในการเชื่อมต่อที่ครบครันทั้ง PC เครื่องคอนโซลและโทรศัพท์มือถือ และที่พาวเวอร์อัพขึ้นมาคือไมโครโฟนที่ถอดเสียบได้ แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของฟองน้ำหูฟังที่เป็นหนัง เพราะมีโอกาสฉีกขาดได้ง่ายมากถ้าใช้งานไม่ระวัง
หูฟังทั้งห้าตัวนี้สำหรับส่วนตัวของผู้เขียนนั้นเป็นหูฟังที่มีคุณภาพดีและอยู่ในงบประมาณที่วางเอาไว้ จริงอยู่ที่อาจจะมีแบรนด์หูฟังที่ถูกกว่านี้และมีคุณภาพดี อย่างเช่น Oker หรือ Nubwo แต่สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนเชื่อก็คือ ถ้าเพื่อน ๆ ผู้อ่านเป็นเกมเมอร์ตัวจริงก็ต้องยอมลงทุนเพื่อรับความบันเทิงที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งแน่นอน อย่าลืมมาคุยกันครับ ว่าหูฟังที่เพื่อน ๆ แนะนำในงบประมาณ 2,000 หรือถูกกว่าตัวไหนที่โดนใจเพื่อน ๆ กันบ้างครับ