Gran Turismo เป็นแฟรนไชส์เกมแข่งรถแบบสมจริงของค่าย Polyphony Digital ที่ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น จนกลายเป็นหนึ่งในเกมลูกรักของ PlayStation และมีการผลิตออกมาหลายภาค จนล่าสุดมีภาค 7 ที่กำลังวางแผนออกวางจำหน่ายบนเครื่อง PlayStation 5 ภายในปีนี้
เพื่อเป็นการเตรียมตัว Gran Turismo 7 ที่จะจำหน่ายในปีนี้ เราได้จัดอันดับเกม Gran Turismo ภาคที่ดีที่สุดสู่น้อยที่สุดจากความคิดเห็นส่วนตัว แล้วจะมีผลลัพธ์ที่น่าสนใจอย่างไรบ้าง ก็สามารถรับชมได้เลย
Gran Turismo 4
Gran Turismo 4 เป็นเกมแข่งรถแนวสมจริงที่หลายคนต่างยกย่องว่าเป็นหนึ่งในเกม PlayStation 2 ที่ดีที่สุด เพราะเป็นตัวเกมสามารถต่อยอดจาก Gran Turismo 3 แล้วมีพัฒนาการก้าวกระโดดมาก ๆ อย่างเห็นได้ชัด
เกมดังกล่าวมาพร้อมกับจำนวนคอนเทนต์เยอะมากจนน่าตกใจ ในเกม GT4 มีจำนวนรถให้เลือกใช้และสะสมทั้งหมดมากกว่า 700 คันจากแบรนด์ผู้ผลิตรถ 80 ยี่ห้อ และสนามแข่งรถทั้งหมด 51 แห่ง นอกจากนี้ Gran Turismo Mode (โหมด Career ของเกมนี้) มีการปรับปรุงจาก GT3 ให้ผู้เล่นมีทางเลือกอิสระมากขึ้น รวมถึงมีอีเวนต์การแข่งขันต่าง ๆ มีความยากท้าทายแตกต่างกันอีกด้วย
ภาพกราฟิก Gran Turismo 4 ก็ได้รับการชื่นชมอย่างมากจากนักวิจารณ์หลายคนว่ามีความสวยงามสมจริงเกินมาตรฐานเกมยุคสมัยนั้น (แถมปรับปรุงจาก GT3 อย่างเห็นได้ชัด) และเป็นเกมภาคแรกที่มีการเดบิวต์ Photo Mode หรือโหมดถ่ายรูป ที่ให้ผู้เล่นสามารถถ่ายรูปรถที่คุณรักโดยใช้ฉากพื้นหลังจากสถานที่จริง
แม้ Gran Turismo 4 โดนวิจารณ์เรื่องความฉลาดของ A.I. ซึ่งยอมให้โดนผู้เล่นแซงได้ง่าย ๆ รวมถึงโหมด B-Spec ที่ให้ผู้เล่นรับบทเป็นผู้ออกคำสั่งนักขับรถระหว่างการแข่งขันดูไม่มีความจำเป็นสักเท่าไหร่นัก แต่ถึงอย่างนั้น GT 4 ก็ประสบความสำเร็จมาก ๆ จนขึ้นแท่นเป็นเกมที่ขายดีที่สุดของ PlayStation 2 เป็นอันดับ 3 ด้วยยอดขาย 11.76 ล้านชุด
Gran Turismo 2
เนื่องจาก Gran Turismo มีกระแสตอบรับดีมากตามที่ทีมงานตั้งเป้าไว้ ทำให้นักพัฒนาเกมเริ่มตั้งเป้าเริ่มพัฒนาเกม Gran Turismo ภาค 2 โดยทันที ซึ่งเกมภาค 2 มีการอัปเกรดจากเกมภาคแรก ด้วยจำนวนรถและสนามแข่งที่เยอะกว่าเดิม, โหมดเนื้อเรื่องมีรายละเอียดซับซ้อนมากขึ้น และภาพกราฟิกได้รับการปรับปรุงให้สวยงาม รวมถึงเป็นเกมภาคแรกที่เปิดตัวโหมดการแข่งรถ Rally
Gran Turismo 2 จึงเปรียบเสมือนเป็นการปลดล็อก “เกือบ Full Potential” ของเกม Gran Turismo ภาคแรก ด้วยการเพิ่มคอนเทนต์เป็นจำนวนมหาศาลจนเกมต้องใช้ CD 2 แผ่นในการเล่นเกม แต่เนื่องจากเกมดังกล่าวถูกเร่งการพัฒนาให้รีบออกวางจำหน่าย ทำให้เกมดังกล่าวประสบปัญหามี Glitch ภาพกราฟิก, มีคอนเทนต์โดนตัดก่อนออกวางจำหน่าย รวมถึงไม่มีเวลาพอที่จะแก้บั๊กหลงเหลือในเกม จนส่งผลทำให้มีบั๊กที่ทำให้เกมไม่สามารถทำ Completion Rate ได้ถึง 100%
อย่างไรก็ตาม หากมองข้ามปัญหาบั๊กต่าง ๆ ที่กล่าวไว้ด้านบน Gran Turismo 2 ก็ยังคงเป็นเกมที่มีคุณภาพยอดเยี่ยม และครองใจเกมเมอร์ขาซิ่งได้หลายคน จนเกมดังกล่าวสามารถทำยอดขายได้ 9.3 ล้านชุด
Gran Turismo 5
หลังจาก GT3 และ GT4 ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น แน่นอนว่าแฟนเกม GT หลายคน หรือรวมถึงผู้เขียนเอง ก็รู้สึกตื่นเต้นกับการรอวางจำหน่ายเกม GT5 ในระบบ PlayStation 3 แม้เกมดังกล่าวประสบปัญหาติดโรคเลื่อนหลายรอบก็ตาม (ไม่นับเกม GT5 Prologue)
หลังการวางจำหน่าย GT5 ก็ต้องบอกเลยว่าตัวเกมมีคุณภาพสมกับที่รอคอยจริง ๆ เกมดังกล่าวมีภาพกราฟิกสวยงามเกินมาตรฐานเกม PS3 หลายเกม (ส่วนตัวยกให้เกม GT5 สวยงามเท่ากับ Uncharted ของค่าย Naughty Dog) ระบบการขับรถยนต์กับฟิสิกส์มีความสมจริงยิ่งกว่า GT4 หลายเท่า, เพิ่มจำนวนคู่แข่งในสนามจากสูงสุด 6 คันเป็น 12 คัน, สามารถมองเห็นมุมมองข้างในรถยนต์, เพิ่มมุมกล้อง Cockpit View, รองรับระบบ Multiplayer ผ่าน PS Plus และจำนวนคอนเทนต์ก็เยอะกว่าภาคก่อน ด้วยรถยนต์ที่มีให้เลือกใช้ราว 1,000 คัน และสนามแข่งรถทั้งหมด 77 แห่ง
ข้อเสียของ GT5 คล้ายกับ GT4 คือความฉลาด A.I. ยังคงไม่ได้รับการปรับปรุงที่ดีขึ้นเท่าที่ควร ซึ่งทำให้การแข่งขันในบางอีเวนท์ขาดความท้าทายอย่างมาก
Gran Turismo Sport
Gran Tursimo Sport เป็นเกมภาคแรกของ GT ที่ทีมพัฒนาเกมยืนยันอย่างหนักแน่นว่าจะเป็นเกมเน้นระบบ Multiplayer และการแข่งขัน ESport เป็นหลัก รวมถึงไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง ซึ่งหลังจากมีการรายงานรายละเอียดเกมดังกล่าว ก็ต้องบอกเลยผมไม่ชื่นชอบแนวทางใหม่ของ Gran Turismo Sport เอาซะเลย
หลังจาก Gran Turismo Sport ออกวางจำหน่ายเป็นวันแรก ส่วนตัวรู้สึกเกมมีจำนวนคอนเทนต์น้อยมากเกินไป โหมดต่าง ๆ ที่มีอยู่ในเกม GT ภาคเก่า เช่น Gran Turismo Mode, โหมดสอบใบขับขี่ ไม่มีในเกมภาคดังกล่าว รวมถึงจำนวนสนามแข่งรถกับรถยนต์ที่ให้เก็บสะสมมีน้อยนิดเดียว
แม้ส่วนตัวจะชื่นชมว่าภาพกราฟิกมีความสวยงามเป็นธรรมชาติมาก เสียงรถยนต์มีการปรับปรุงจากภาคก่อนจนไม่มีกล้าล้อว่าเครื่องดูดฝุ่นอีกต่อไป และระบบ Multiplayer มีการเพิ่มกฎเกณฑ์มากมาย ซึ่งทำให้เกมเมอร์เกือบทุกคนเล่นเกมโหมด Competitive กันอย่างแฟร์ ๆ แต่ด้วยจำนวนคอนเทนต์ที่น้อย บวกกับไม่มีโหมด Career สุดคลาสสิก ก็ทำให้ผมรู้สึกทั้งชื่นชอบและเกลียดเกมนี้ในเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกมออกวางจำหน่ายไปแล้วสักระยะหนึ่ง ตัวเกมได้รับการอัปเดตเพิ่มคอนเทนต์รถกับสนามแข่งใหม่เกือบทุกเดือน นอกจากนี้ มีการเพิ่มโหมด Singleplayer ในภายหลัง ก็ทำให้ผู้เขียนชื่นชอบ GT Sport มากขึ้น จนล่าสุด เกมสามารถทำยอดขายได้แล้ว 8 ล้านชุด
Gran Tursimo 3: A-Spec
หนึ่งในเกมแห่งประวัติศาสตร์ของ PlayStation 2 ที่ทำให้แฟรนไชส์เกม GT โด่งดังจนถึงขีดสุด เพราะการเปิดตัวเกมดังกล่าว ทำให้เกมเมอร์หลายคนต้องทึ่งกับภาพกราฟิก ความสมจริง ความใส่ใจในรายละเอียดที่มีการอัปเกรดจาก GT2 ใน PlayStation อย่างเทียบไม่ติด
Gran Turismo 3: A-Spec เป็นเกมแรกของแฟรนไชส์ GT ที่ลงให้กับเครื่อง PlayStation 2 แล้วสร้างความประทับใจให้กับนักเขียน ด้วยภาพกราฟิก ระบบเสียง และความสมจริงในการขับรถยนต์ในเกมที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทำให้ GT3 ขึ้นแท่นเป็นเกม Racing ที่หลายคนต่างยกย่องว่าเป็นการสร้างนวัตกรรมให้แก่วงการเกม รวมถึงขึ้นแท่นเป็นเกมที่ขายดีที่สุดของ PlayStation 2 เป็นอันดับ 2 ด้วยยอดขาย 14.89 ล้านชุด พร้อมกวาดรางวัล “เกมยอดเยี่ยมตลอดกาล” และ “เกม Racing ยอดเยี่ยมประจำปี 2001” จากสื่อหลายแห่ง
ข้อเสียของ Gran Turismo 3: A-Spec ก็คงมีแค่อย่างเดียว คือจำนวนรถที่มีให้เลือกใช้น้อยเพียงราว 180 คันเท่านั้น (จากที่ GT 2 มีให้เลือกเยอะถึง 650 คัน) ทำให้แฟน ๆ GT บางส่วน (รวมถึงผม) ก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่คอนเทนต์เกมมีน้อยกว่าที่คาดหวังไว้
Gran Turismo 1
หลังจาก Kazunori Yamauchi ใช้เวลาพัฒนาเกม Gran Turismo นานถึง 5 ปี โดยมีนักพัฒนาทั้งหมดเพียง 7-15 คนเท่านั้น สุดท้าย การทำงานหนักของเขาก็ไม่เสียเปล่า เพราะหลังจาก Gran Turismo วางจำหน่ายเป็นครั้งแรก เกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับที่ดีมากจากสื่อและนักเล่นเกมหลายคน ด้วยภาพกกราฟิกที่สวยงามล้ำหน้า ตัวเกมมีความใส่ใจในรายละเอียด รถทุกคันผ่านการซื้อลิขสิทธิ์มาจากรถในชีวิตจริง และต้องสอบใบขับขี่ ก่อนเข้าแข่งขันอีเวนต์ต่าง ๆ ส่งผลทำให้เกมดังกล่าวมีความสมจริงมาก ๆ ในยุค PlayStation
นอกจากนี้ ระบบการควบคุมรถยนต์มีความแตกต่างจากเกมแข่งรถทั่วไป ในเกม Gran Turismo จะมีการควบคุมรถที่สมจริงและยากกว่าเกมแข่งรถอาร์เขต รวมถึงมีจำนวนรถให้เลือกราว 140 คัน ซึ่งนับว่าเยอะมาก ๆ สำหรับเกมยุค PlayStation ทำให้ Gran Turismo เป็นเกมแข่งรถที่เขย่าวงการเกมไปทั่วโลก และเป็นหนึ่งในเกมในดวงใจสำหรับผู้เขียนซึ่งยากที่จะลืมเลือน
Gran Turismo 6
ส่วนตัวไม่ค่อยมีอะไรให้กล่าวถึงเกี่ยวกับ Gran Turismo 6 เพราะเกมดังกล่าวเปรียบเสมือนเป็นเพียงเกมเวอร์ชันอัปเกรดจาก GT5 ที่เพียงเพิ่มคอนเทนต์รถ และสนามแข่งรถให้เยอะขึ้น รวมถึงเป็นเกมแรกของ GT ที่ซื้อลิขสิทธิ์การแข่งขัน FIA (Federation Internationale de l’Automobile) มาอนุญาตให้ใช้ในเกม
แม้ Gran Turismo 6 จะประสบความสำเร็จได้คะแนนรีวิวเป็นเกมดีมากจากสื่อหลายแห่ง รวมถึงเกมยังคงเล่นตามสไตล์ GT ที่หลายคนรู้จัก แต่ว่าเกม GT6 แทบไม่มีการปรับปรุงระบบจากเกมภาค 5 เลย แถมเป็นเกมภาคแรกของ GT ที่มีการขาย Microtransactions อีกด้วย ทำให้ส่วนตัวมีความเห็นว่า GT6 ควรขายเป็นเนื้อหา DLC ของ GT5 มากกว่าการขายเป็นเกมภาคใหม่ และด้วยเสียงวิจารณ์ดังกล่าวทำให้ GT6 ทำยอดขายได้ทั้งหมดเพียง 5.2 ล้านชุดเท่านั้น
โดยรวมแล้ว GT6 ไม่ใช่เกมที่แย่ แถมยังคงเป็นเกมเล่นสนุกตามสไตล์ GT แต่หากเปรียบเทียบกับเกมภาคเก่าแล้ว ส่วนตัวรู้สึกว่า GT6 ไม่ค่อยมีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษเท่าไหร่นัก
Gran Turismo PSP
เพื่อให้เกมสามารถรันได้ลื่นไหล 60FPS บน PSP เกม Gran Turismo ภาคนี้จึงมีการดาวน์เกรดภาพกราฟิก และลดจำนวนคู่แข่งในสนามแข่งจาก 6 คัน เหลือเพียง 4 คันเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่แท้จริงสำหรับ GT PSP คือเกมดังกล่าวไม่มีโหมดเนื้อเรื่องเหมือนภาค 1-4 ซึ่งทำให้การเล่นเกมดังกล่าวแทบจะไม่มีจุดประสงค์ใด ๆ เลย นอกเหนือจากการเก็บเงินจากการเข้าแข่งขัน แล้วนำเงินในเกมไปซื้อรถเพื่อสะสมเข้าโรงรถของตัวเอง
แม้ Gran Turismo PSP จะไม่มีโหมดเนื้อเรื่อง ทำให้เกมสามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับคนเพิ่งหัดเล่น และเป็นเกมเหมาะสำหรับแพลตฟอร์มเครื่องเกมพกพาอย่าง PSP แต่แน่นอนว่าเนื่องจากตัวเกมขาดโหมดสำคัญ ก็ทำให้แฟนเกมบางคนตัดสินใจที่จะมองข้ามเกมภาคนี้ไป โดยสำหรับความคิดเห็นตัว ขอยกให้ GT PSP เป็นเกม GT ที่ชื่นชอบน้อยที่สุด แม้มันจะไม่ใช่เกมที่แย่ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น แล้วแฟน ๆ Gran Turismo ทุกท่าน ยกให้เกม Gran Turismo ภาคไหน
