กระแสสังคมทั้งในต่างประเทศและเมืองไทยนั้นวิจารณ์ผลกระทบของการเล่นเกมกับชีวิตจริงมายาวนานหลายยุคสมัย วันนี้ GamingDose จะพาไปลองดูกันสิว่าถ้าเกมมันมีผลกับชีวิตเราจริงๆแล้วจะเป็นยังไง
หมายเหตุ* บทความนี้เต็มไปด้วยการเสียดสีประชดประชัน บุคคลซึ่งเป็นโรคเครียดควรหลบหลี้หนีให้ไกล
ถ้าผมเล่น Counter-Strike, Call of Duty, Battlefield
ผมคงกลายเป็น
ถึงผมจะเชื่อมั่นว่ามีวัยรุ่นบนโลกนี้หลายคนที่เล่นเกมเหล่านี้และได้รับแรงบันดาลใจจนไปไปเป็นทหารจริงๆ ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี (อย่างวันก่อนก็มีแฟนเพจของ GamingDose เข้ามาเล่าว่าตัดสินใจไปสอบทหารเพราะมีเกมเป็นแรงบันดาลใจ) แต่มันก็ไม่ใช่ว่าคนเล่นเกม FPS ทุกคนจะต้องอยากไปเป็นทหารเสียหมด เพราะถ้าเราได้รับผลกระทบจากเกมเหล่านี้จริงๆ ดูจากยอดขายแล้วป่านนี้เราน่าจะมีทหารล้นประเทศไปแล้ว
ถ้าผมเล่น Surgeon simulator 2013
ผมคงกลายเป็น
สุดยอดคุณหมอถือกำเนิดขึ้นได้จากสุดยอดเกมจำลองการผ่าตัดที่สมจริงที่สุดในโลก จนโรงพยาบาลทั่วโลกต่างสั่งซื้อไปให้คุณหมอไว้เล่นซ้อมผ่าตัดจริงๆ (ที่ไหนสั่งไปใช้บอกกูด้วย กูจะได้ไม่โผล่ไป)
ถ้าผมเล่น FIFA
ผมคงกลายเป็น
ถ้าเล่น FIFA แล้วเตะบอลเก่งป่านนี้ Admin แถวนี้น่าจะติดทีมชาติไทยไปแล้ว
ถ้าผมเล่น Payday
ผมคงกลายเป็น
ผมยังนั่งรอฟังข่าวอยู่ว่าจะมีวันไหนที่โจรปล้นธนาคารโดนจับแล้วอ้างว่า ผมได้รับแรงบันดาลใจจากการเล่น Payday ครับ
ถ้าผมเล่น Mario
ผมคงกลายเป็น…
ในหมู่มวลเกมทั้งหมดที่ว่ามา Mario นี่เป็นแบบอย่างที่เลวร้ายที่สุดแล้วแก่เยาวชนแล้ว เรามีไอ้หนวดโรคจิตที่ไล่ทำร้ายสัตว์โลก กระโดดเหยียบเต่า แถมกินเห็ดเมายา อีกต่างหาก สมควรโดนแบนจริงๆ น้องๆหนูๆ อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะจ๊ะ
และถ้าผมเล่น Guitar Hero
ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะเล่นกีตาร์ได้ระดับขั้นเทพเมพขิง (ถึงแม้ผมจะเชื่ออีกเช่นกันว่ามีเด็กหลายคนหัดเล่นกีตาร์เพราะเกมนี้)
สรุปกันได้เลยว่ามันไม่เกี่ยวหรอกครับ ว่าพวกผมจะเล่นเกมอะไร จริงอยู่ว่าเกมสร้างแรงบันดาลใจให้คนเล่นเกมได้ แต่มันก็ได้หมายความว่าำำพวกผมจะได้รับผลกระทบ (แง่ลบ) จากพวกมันจนถึงขั้นลงมือไปทำอะไรบ้าๆจริงๆ ถ้าไม่อย่างนั้นเราคงได้เห็นพาดหัวข่าว…แบบนี้กันไปแล้ว