BY Aisoon Srikum
15 Jan 20 5:42 pm

ทำไมเราถึงยอมเสียเงินมหาศาลให้กับเกมประเภท Free to Play

48 Views

อย่างที่เราทราบกันดีจากข้อมูลสรุปของหลายสื่อจากปี 2019 ว่าปีนี้ เหล่าเกมเมอร์แทบจะทั่วโลกต่างควักเงินเปย์ให้กับเกมประเภทเล่นฟรีทั้งหลาย มากยิ่งกว่าเสียเงินซื้อเกมมาเล่น หรือหนักกว่านั้น ก็คือเสียเงินซื้อไอเทมในเกมที่เราซื้อมาอีกที! แล้วทำไมอะไรคือสาเหตุที่ผู้เล่นควักเงินจ่าย วันนี้มาร่วมหาคำตอบและคาดเดาไปพร้อม ๆ กัน

รู้จักกับเกม Free to Play และ In-App Purchase

เกม Free to Play แปลตรงตัวเลยคือเกมเล่นฟรี (หรือบางที่ก็๗ะใช้คำว่า F2P ย่อมาจาก Free to Play ความหมายเดียวกัน) คือเกมที่เราสามารถเข้าไปดาวน์โหลดจากหน้าเว็บไซต์ หรือหน้าร้านค้าของผู้พัฒนาหรือผู้ให้บริการนั้นได้เลย เกมประเภท Free to Play นี้มีอยู่หลากหลายเกมที่เป็นที่นิยมในบ้านเรา ยกตัวอย่างเช่นถ้าเป็นฝั่ง PC ก็จะมีทั้ง Dota 2 , Warframe , Path of Exiles , Paladins หรือแม้กระทั่ง Apex Legends เป็นต้น และจะยิ่งมากไปกว่านี้ถ้าเป็นเกมมือถือ เพราะปัจจุบันต้องบอกว่าเป็นยุคที่เกมมือถือเข้ามาแย่งพื้นที่ส่วนแบ่งตลาดมากยิ่งขึ้น หากให้เอ่ยถึงเกมมือถือ Free to Play ในบ้านเราเอาที่แบบโด่งดังมากคือ RoV , PUBG Mobile , Free Fire ฯลฯ และอื่น ๆ อีกมาก

หลายคนอาจสงสัยว่าเกมฟรีพวกนี้หาเงินหรือสร้างรายได้ได้ยังไง คำตอบก็คือ In-App Purchase หรือก็คือระบบเติมเงินนั่นแหละ แต่ละเกมก็จะมีไอเทมเด็ด ๆ มาขาย ตั้งแต่แพคเกจที่ทำให้การเล่นของเราสะดวกสบายยิ่งขึ้น ไปจนถึงไอเทมจำพวกทรัพยากรต่าง ๆ ที่ทำให้เราเล่นได้เก่งและไวกว่าคนอื่น

เมื่อเล่นเกมออนไลน์ ก็เหมือนกับการเข้าสังคมจำลอง

ทำไมถึงวกมาเรื่องเกมออนไลน์ ก็เพราะเกม Free to Play ส่วนใหญ่นั้น เป็นเกมออนไลน์ซะเป็นส่วนมาก (ดูจากลิสต์ในหัวข้อด้านบนก็คงจะเห็นชัดแล้ว) หากให้เทียบกันแบบให้เห็นภาพชัด ๆ หากคุณเล่นเกม Single Player ที่เน้น Story เป็นหลัก เราอาจจะไม่ต้องแข่งขันกับใคร เพียงแค่เล่นไปตามเนื้อเรื่อง เสพระบบเกมเพลย์จนเต็มอิ่มแล้วก็จบ ก็เหมือนกับคุณอยู่ในบ้าน โลดแล่นไปกับความสุขและพื้นที่ส่วนตัวที่คุณมี ถ้าเป็นเกม Co-op ก็เหมือนออกไปหาเพื่อน หรือชวนเพื่อนมาบ้าน แต่ถ้าเป็นเกม Multiplayer มันเหมือนกับคุณเข้าสู่สังคมอีกรูปแบบหนึ่งที่เป็นสังคมจำลอง

จะมีทั้งการปฏิสัมพันธ์กับผู้เล่นอื่น การร่วมมือกัน การต่อสู้กัน และการแข่งขันกันในเกมออนไลน์ และเมื่อมีการแข่งขันกันเกิดขึ้น เราทุกคนย่อมต้องหาวิธีที่ทำให้เราเก่งเร็ว ๆ ซึ่งนี่แหละเป็นสิ่งที่ทางผู้พัฒนามองเห็นและใส่ In-App Purchase เข้ามาให้เราเลือกจับจ่ายใช้สอยกัน เพื่อแข่งกันเก่งเหนือใคร

สูญเสียกันไปขนาดไหนกับคำว่า “ของมันต้องมี”

สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เราต้องสูญเสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับเกมประเภท Free to Play ก็น่าจะหนีไม่พ้นวลีฮิตติดปากอย่างคำว่า “ของมันต้องมี” นี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น Skin ฮีโร่ในเกม Moba สุดอลังการที่เห็นแล้วว้าวมาก ๆ , คอสตูมแต่งตัวละครในเกมแนว MMORPG ที่สวยงามจนเราอยากจะรูดบัตรเครดิตเอามาเป็นเจ้าของ หรือแม้กระทั่งตัวละครระดับ SSR , UR ทั้งหลายจากเกมมือถือ หรือนักเตะระดับเทพจากเกมที่เราต้องเสียเงินซือ้เกมอยู่แล้วอย่างพวก FIFA ที่เราต้องกินเกลือต่างข้าวเพื่อให้ได้มันมา จะไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีมันจะดีกว่า

แม้ว่าตัวละครบางตัว ชุดบางชุด ไอเทมบางอย่างจะมีค่าสเตตัสแฝง แต่ส่วนมากจะเน้นเป็นความสวยงามมากกว่า และจิตใต้สำนึกคนเราก็แพ้อะไรสวย ๆ งาม ๆ หรือไอเทมจำพวกแฟชั่นอยู่แล้วด้วย ดังนั้นไม่แปลกใจถ้าคำว่า ของมันต้องมี ได้มาดูดเงินในกระเป๋าของผู้เล่นไปจนเกลี้ยง ยิ่งถ้าชิ้นไหนที่มีแลว้ทำให้เราเก่งขึ้นกว่าคนอื่นมาก บางคนนี่แทบจะหมดตัวเพื่อหาไอเทม หรือตัวละครนั้น ๆ กันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าใครไม่เดือดร้อนเรื่องเงินก็แล้วไป แต่ถ้าใครเติมแล้วเดือดร้อนตัวเองก็อาจจะต้องพิจารณากันเสียหน่อยแล้ว

การแข่งขันที่ทำให้เราอยากเอาชนะและอยู่เหนือคนอื่น

ไม่มีใครที่ไม่อยากอยู่เหนือคนอื่น หรือได้รับการยอมรับจากผู้คน หรือแม้กระทั่งการเอาชนะผู้อื่น แม้กระทั่งในโลกของเกมออนไลน์ก็ตาม กรณีนี้เราอาจจะพูดถึงในแง่ของเกม MMORPG เท่านั้น เพราะเกม MOBA หรือเกมประเภทอื่น จะไม่ค่อยมีการเติมเงินเพื่อให้เราเก่งกว่า (หรือที่เราเรียกกันว่า Pay to Win) แต่กับเกม MMORPG การที่เราเติมเงินนั้นจะช่วยเราได้หลายอย่าง เช่นอัตราการตีบวกที่สูงขึ้น ส่งผลให้เราได้อาวุธแกร่ง ๆ เร็วขึ้น เก็บเลเวลได้เร็วขึ้น และอื่น ๆ อีกมากมาย

ซึ่งสิ่งเล็กน้อยพวกนี้ก็จะทำให้ตัวละครแข็งแกร่งขึ้นเร็วกว่าคนอื่น นำไปสู่การไต่อันดับภายในเกมที่มีให้เห็นกันเป็นประจำ และกลายเป็นคนดังมีชื่อเสียงในเกมไปในที่สุด หรือเอาให้เห็นภาพหน่อยก็เหล่านักแต่งตัวสายแฟชั่นในเกมเต้นชื่อดังสมัยก่อนอย่าง Audition , แต่งรถจนสวยเฉียบจนทุกคนจำได้อย่าง Raycity ทั้งหมดนี้อาจจะต้องใช้ไอเทมที่เราต้องเสียเงินจริง ๆ ซื้อมาทั้งนั้นถึงจะทำได้ กล่าวแบบโดยรวมก็คือ ไม่ว่าจะมันจะส่งผลแค่ให้ตัวละครเราแข็งแกร่งขึ้นโดยตรง หรือทำให้ตัวละครเราสวยโดดเด่นสะดุดตา มันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เรายอมเสียเงินทั้งนั้น

สรุปว่าทำไมเราถึงยอมเสียเงินให้กับเกมฟรีมากกว่า ?

  • ความอยากได้อยากมี
  • เข้าสังคม
  • ทำให้เราเก่งขึ้น

สามข้อนี้น่าจะเป็นปัจจัยหลัก ๆ แต่เดี๋ยวก่อน เราจะบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องผิด ถ้าหากว่าคุณยังรู้ลิมิตของตัวเองในการใช้จ่ายไปกับการเติมเงินซื้อไอเทมในเกม ควบคุมการใช้จ่ายของคุณให้ดี อย่าให้เดือดร้อนเพราะการเล่นเกม เพียงเท่านี้ก็ไม่มีใครไปว่าคุณได้แล้วล่ะ ดีไม่ดีอนาคตต่อจากนี้ เราน่าจะเห็นเกมฟรีที่ประสบความสำเร็จอย่างมหาศาลจากการที่แฟน ๆ พร้อมใจกันเปย์แหลกลาญมากขึ้นอีกหลายเกมก็เป็นได้

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top