BY KKMTC
14 Dec 18 5:57 pm

ทำไม Microtransactions จึงลามไปถึงเกม Singleplayer

14 Views

ในอดีตกาลที่ผ่านมา Microtransactions เคยเป็นระบบที่ผู้คนต่างยอมรับในสังคมเกมเมอร์ แต่เมื่อยุคสมัยย่อมเปลี่ยนไป ปัจจุบันระบบ Microtransactions หรือ DLC กลายเป็นกระแสต่อต้านอย่างรุนแรงต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นข่าวฉาวสุดโด่งดังอย่างเกม Star Wars Battlefront II จนกลายเป็นวาทกรรมระดับโลก หรือเกม Middle-earth: Shadow of War หรือ Forza Motorsport 7 จนเกมเมอร์ต่างรู้สึกเดือดดาลจนทีมงานต้องถอดระบบ Microtransactions ในภายหลัง

แต่ทั้ง ๆ ที่กระแสลบ Microtransactions ใน Singleplayer มากขนาดนี้ แต่ทำไมทีมงานยังคงพยายามจะยัดระบบนี้ต่อไป และนี่เป็นการไขข้อสงสัยว่าคือ “ทำไม Microtransactions ถึงลามไปถึงเกม Singleplayer”

Middle Earth Shadow of Mordor

ต้นกำเนิดเพราะวงการเกมอยู่ยากขึ้นทุกวัน

บอกสาเหตุหลักมีหนึ่งเดียวนั้นคือ “เพราะโลกเราโหดขึ้นทุกวัน” เพราะโลกมีความล้ำสมัยมากขึ้นทุกวัน วิดีโอเกมจึงจำเป็นต้องพึ่งพาประโยชน์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็น Motion Capture หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อดึงประสิทธิภาพเกมให้ได้สูงและสะดวกที่สุด

แต่วิวัฒนาการที่ล้ำขึ้นกลับเป็นดาบสองคมสำหรับเหล่าผู้สร้างเกม เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะต้องแลกด้วยราคาที่สูงขึ้นตามมา จึงทำให้ทุนการสร้างเกมทุกยุคทุกสมัยจำเป็นต้องใช้งบประมาณที่มีแต่สูงขึ้นทุกปี โดยเฉพาะทีมสตูดิโอเกมที่เน้นการสร้างผลงานเกมประเภท Singleplayer จะได้รับผลกระทบหนักกว่าเกม Multiplayer เพราะเกมประเภท Singleplayer จะมีวิธีการสร้างเกมที่ซับซ้อนและใช้เวลาที่เยอะกว่า

เกม Singleplayer ประเภทมีเนื้อเรื่องหนึ่งเกม จำเป็นต้องใช้จำนวนพนักงานหลายตำแหน่งเพื่อสร้างและขัดเกลาเกม หรือต้องพึ่งพนักงาน Freelance ผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ อย่างเช่นนักเขียนบท, นักแสดง, ผู้ออกแบบคาแรกเตอร์ หรือศิลปินต่าง ๆ ซึ่งเพียงแค่ขั้นตอน Pre-Production (เตรียมการผลิต) กับ Production (ขั้นตอนผลิต) ก็สามารถผลาญงบประมาณเป็นจำนวนมหาศาลแล้ว (ถ้าอยากรู้งบประมาณในการสร้างเกม AAA แบบละเอียดสามารถอ่านได้ที่บทความ หากอยากสร้างเกมระดับ AAA สักเกมต้องใช้งบเท่าไหร่ ครับ)

แต่โชคชะตาก็เล่นตลกอีกครั้ง กระแสความนิยมของเกม Singleplayer ลดลง แต่เกม Multiplayer เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกมแจ้งเกิดได้ยากยิ่งขึ้น กลับทำกำไรได้ลดลง ไหนจะปัญหาเกมเมอร์สายดูอีก ผู้จัดจำหน่ายจึงจำเป็นต้องงัดไม้ตายที่ยืมมาจากเกม Multiplayer นั่นคือระบบ Microtransactions ลงสู่ Singleplayer

กลายเป็นว่าปัจจุบัน วงการวีดีโอเกมเป็นเรื่องของธุรกิจกับเงินทองไปแล้ว บริษัทเกมที่สร้างกำไรให้แก่ผู้จัดจำหน่ายมากที่สุดก็จะอยู่รอดต่อไป ทางสตูดิโอเกมจึงโดนกดดันอย่างหนักด้วยการพยายามยัดเนื้อหา Microtransactions ลงเกมประเภท Singleplayer เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการสร้างกำไรเพิ่มเติม แม้จะไม่มีความจำเป็นก็ตาม

Deus Ex

จากอยู่รอดกลายเป็นโกยผลประโยชน์

ย้อนกลับไปในตอนแรกที่ผู้เล่นบอกว่าเกลียด Microtransactions? ความจริงแล้วไม่เลย เกมเมอร์ชื่นชอบการใช้จ่าย Microtransactions สุด ๆ ต่างหาก เพราะว่านับตั้งแต่ Microtransactions ได้เข้ามามีบทบาทต่อเกม Singleplayer บริษัทเกมได้มีผลตอบแทนกำไรที่เพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะ Ubisoft ได้เผยออกมาแล้วว่าทีมงานสามารถทำรายได้เพิ่มถึง 35% จากการขาย DLC กับ Microtransactions

ในขณะที่เกมเมอร์เห็นข่าวนี้แล้วต่างด่าสาปแช่ง Ubisoft กับผู้เล่นที่อุดหนุน Microtransactions ว่าเป็นตัวการทำให้อุตสาหกรรมเกมแย่ลง แต่รู้หาไม่ว่า สาเหตุที่ทำให้ระบบ Microtransactions กับ Lootbox มาอยู่จนถึงทุกวันนี้เป็นเพราะว่าผู้เล่นบางคนยังคงอุดหนุนอย่างต่อเนื่อง แล้วพร้อมยอมรับว่าระบบดังกล่าวสามารถทำให้ Ubisoft ได้เติบโตและฟันกำไรเละจริง ๆ

มันฟังดูน่าเจ็บใจ แต่มีดูเหมือนว่ากระแสต่อต้าน Microtranseactions ในเกม Singleplayer ในตอนนี้ได้เริ่มซาลงไปเยอะเช่นกัน อาจจะเป็นเพราะว่าผู้คนเริ่มปรับตัวเข้าหาหรือปลงกับธุรกิจเกมแบบใหม่ที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากปล่อยผ่าน

ซึ่งถึงแม้ว่านักวิเคราะห์วีดีโอเกมอีกหลายฝ่ายได้วิเคราะห์ว่าระบบ Microtransactions อาจทำลายอุตสาหกรรมเกมในระยะยาว แต่ก็มีอีกฝั่งมองว่าทำให้ตลาดเกมเจริญขึ้นจริง ๆ แต่ต้องแลกด้วยภาพลักษณ์วงการที่แย่ลงเช่นกัน ซึ่งทีมงานผู้สร้างเกมก็รู้สึกตัวดีว่าการยัด Microtransactions เป็นกระทำที่ทำให้ภาพลักษณ์ของเกมไม่ดี แต่พวกเขามองว่าไม่มีทางเลือกอื่น ๆ อีกแล้ว เพราะว่าสปิริตผู้สร้างเกมกับเงินไม่สามารถไปร่วมกันได้ และ เงิน เป็นสิ่งที่สำคัญที่จะทำให้บริษัทเกมอยู่รอดต่อไป

Forza-Motorsport 7

แล้วกระแสวิจารณ์ระหว่างผู้เล่นกับ Microtransactions ใน Singleplayer เป็นอย่างไรบ้าง?

กระแสต่อต้าน Microtransactions ซาลงไปแต่ก็ยังกำลังร้อนระอุอยู่บางส่วนที่มีผู้เล่นเกมหลายคนที่ไม่เห็นด้วยและออกมาต่อต้านกับระบบดังกล่าวจนเนื้อหาประเภท DLC / Expension Pack ได้ติดร่างแหไปด้วย โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับระบบ Microtransactions ใน Singleplayer ได้กล่าวไว้ว่า

“ถ้าเป็น DLC ธรรมดาผมจะไม่ว่าอะไร แต่ถ้าเป็น Microtransactions ผมรู้สึกปรี๊ดทันที ผมคิดว่าระบบนี้เหมือนพยายามฉ้อโกงผู้เล่นด้วยการหาเงินกับเกมที่มีราคาเต็มอยู่แล้ว” Nux, Giant Bomb

“ผมเติบโตในยุค PS1/PS2 ที่เกมทุกเกมต้องลงที่แผ่น CD/DVD และสิ่งที่คุณจ่ายไปแล้วได้มันกลับมาคือ “การเล่นเกม” เต็ม แล้วมาดูตอนนี้สิ…”  u/c010rb1indusa, Reddit

“ผมเชื่อว่า Microtransactions เป็นระบบที่แย่ เพราะเนื้อหาเกมที่ควรลงตั้งแต่ช่วงเปิดตัวครั้งแรก แต่กลับโดนตัดทิ้งไปอย่างดื้อ ๆ เพื่อให้ทีมงานได้ขายของมากขึ้น ตัวอย่างเกมที่โด่งดังคือ Street X Tekken” u/IIDragonPhoeniX, Reddit

เพียงตัวอย่างทั้งสามประโยคก็มีเหตุผลหนักแน่นพอแล้วว่าไม่มีเกมเมอร์คนไหนชื่นชอบระบบ Microtransactions หรือ DLC อย่างแน่นอน เพราะธุรกิจของเกมในปัจจุบันไม่เหมือนกับในอดีตที่ผู้เล่นสามารถจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวเพื่อได้รับเกมเต็มคุณภาพคับแก้ว หรือเกมเคยมีที่มี DLC สุดสร้างสรรค์และคุ้มค่าที่จะจ่ายเงิน

ซึ่งหันมามองวงการเกมจนถึงทุกวันนี้ ที่ทีมงานกลับขาย Microtransactions ด้วยการยื่นเสนอเป็นร้านค้าแลกขายไอเท็มลวก ๆ หรือแม้กระทั่งเกม Multiplayer ราคาเต็มแล้วใส่ระบบ Microtransactions เพื่อดูดเงินอีกทีหนึ่ง

Far Cry 5

แล้วความคิดคนทั่วไปคิดอย่างไรสำหรับ Microtransactions?

ผู้เล่นทั่วไปส่วนใหญ่จะมีความคิดเห็นว่าระบบ Microtransactions ในเกม Singleplayer ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อวงการเกม เพราะเป็นเกมเล่นคนเดียวที่ไม่มีการแข่งขันใด ๆ เลย

“ทำไมคุณต้องแคร์ผู้อื่นที่ยินดีจ่ายเงินเพื่อให้เกมดำเนินเร็วหรือแกร่งมากขึ้น? นี่คือ Singleplayer เที่ล่นคนเดียว คุณไม่จำเป็นต้องเดือดร้อนอะไรเลย” – Hunkulese, Giant Bomb

“ตราบใดเมื่อระบบเกมรู้สึกแฟร์ ผมโอเคกับการจ่ายเงินในบางครั้งเพื่อให้เกมดำเนินเร็วขึ้น” – dafdiego777, Giant Bomb

“ถ้าหากคุณไม่ชอบ Microtransactions ใน Singleplayer/Offline คุณก็มีทางเลือกมากมายที่คุณไม่จำเป็นต้องซื้อและมองข้ามมัน” – u/Fluffysniper, Reddit

นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งเดียวที่ทำไมผู้เล่นยังคงสนับสนุนระบบ Microtransactions ใน Singleplayer เพราะผู้เล่นไม่ได้รู้สึกได้รับผลกระทบอะไรจากระบบนี้มากนัก และให้ความคิดเห็นว่าแม้ว่าบางครั้งจะรู้สึกรำคาญตาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสในการเล่นเกมมากนัก พร้อมกลับเข้าใจในเหตุผลว่าทำไมทีมงานถึงยัด Microtransactions ในเกมออฟไลน์

assassin’s creed odyssey

สุดท้ายแล้ว ระบบการใส่ Microtransactions ลงใน Singleplayer เป็นเรื่องที่ผิดและเข้าข่ายทำลายเกมหรือไม่? คำตอบสำหรับผู้เขียนคือ ไม่ เพราะว่าทีมงานเพียงแค่มองโอกาสหาทำกำไรเพิ่มเติ่ม และตัวเกมไม่ได้บังคับให้ผู้เล่นจ่ายเงินซื้อไอเท็มอีกด้วย

แต่ผมก็เข้าใจว่าทำไมเกมเมอร์หลายคนรู้สึกไม่พอใจที่มีระบบ Microtransactions ในเกม Singleplayer เพราะเหมือนเป็นการแสดงความเหลื่อมล้ำในมุมมองของเหล่าผู้เล่นที่คิดว่า สปิริตของผู้พัฒนาเกมนับวันยิ่งหายไปและยอมแพ้ให้กับอำนาจเงิน หรือใคร ๆ ก็อยากจะซื้อเกมราคาเต็มด้วยเนื้อหาเต็มเหมือนในอดีต แต่ทำไมจะต้องพยายามใส่ระบบ Microtransactions อีกละ

คำตอบทุกอย่าง คือ “ธุรกิจ” ครับ บริษัทเกมก็ต้องหาเงินให้ได้มากที่สุด เพื่อเลี้ยงเงินเดือนลูกน้องและทำให้ตัวแทนจำหน่ายรู้สึกแฮปปี้กับผลงานยอดขายเกม ซึ่งผมเชื่อว่าทีมงานทุกฝ่ายก็อยากจะบอกให้ผู้เล่นเข้าใจในส่วนนี้เหมือนกัน (แต่ก็ทำไม่ได้ เดี๋ยวภาพลักษณ์เกมเสียหาย)

ฉะนั้นให้คิดซะว่า Microtransactions ใน Singleplayer ก็คือร้านค้าที่เหล่าทีมงานเข้ามายื่นขอเสนอขายของแก่ผู้เล่น เพื่อนำเงินมาใช้เป็นทุนในการสร้างเกมที่ดีต่อไปในผลงานต่อไปในอนาคตครับ

Achina Limanwat

เค - Content Writer

Back to top