เมื่อช่วงคืนที่ผ่านมา ทีมงาน Activision ร่วมกับ Sledgehammer Games ได้ประกาศเปิดตัว Call of Duty: Modern Warfare III อย่างเป็นทางการ พร้อมปล่อย Trailer ใหม่เอี่ยมเป็นการเผยว่ากัปตัน Price และหน่วยรบ Task Force 141 ต้องเผชิญหน้ากับ “ภัยคุกคาม” ที่ไม่เคยเจอมาก่อน แต่แน่นอน เกม Modern Warfare III ได้มีฟีเจอร์ใหม่มากมาย ซึ่งเป็นทั้งระบบใหม่ และระบบที่หายไปจากภาคเก่า ได้กลับมาอีกครั้งในภาคนี้ แล้วรายละเอียดเบื้องต้นของเกมภาคนี้มีอะไรบ้าง เราสรุปให้แล้วในบทความนี้
ภารกิจแบบ Open Combat Missions มีทางเลือกในการเล่นมากขึ้น
Modern Warfare III เป็นเกมภาคแรกที่มีระบบ “Open Combat Missions” เป็นการมอบทางเลือกต่าง ๆ ให้ผู้เล่นสามารถปฏิบัติภารกิจให้สำเร็จลุล่วงได้หลากหลายเส้นทาง เช่น หากต้องการลอบเร้น ผู้เล่นต้องใช้ปืนเก็บเสียง สวมแว่นตา Night-Vision และใช้อุปกรณ์ที่ไม่ส่งเสียงดังมากจนเกินไป แต่ถ้าหากต้องการบู๊ล้างผลาญ ผู้เล่นก็สามารถงัดอาวุธแบบจัดเต็ม และต้องสวมเกราะ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เล่นจะไม่ล้มลงอย่างง่าย ๆ ซึ่งแต่ละกลยุทธ์จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่า Open Combat Missions จะมีเฉพาะในบางภารกิจเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่ภารกิจแนวนี้จะอยู่ในช่วงครึ่งหลังของเนื้อเรื่อง ในขณะที่ช่วงเริ่มต้น ภารกิจจะเป็นแนวเส้นตรงตามความคลาสสิกของเกมตระกูล Call of Duty
โหมด 3v3v3 และ War ที่แฟน ๆ บางส่วนชื่นชอบกลับมาอีกครั้ง
Multiplayer ของเกม Modern Warfare III มีโหมดเอี่ยมชื่อว่า “Cutthroat” เป็นโหมดการแข่งขัน Competitive แบบ 3v3v3 ที่ทุกฝ่ายต้องเอาตัวรอดจากข้าศึกจำนวน 6 คน โดยในทีมมีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้น ซึ่ง Cutthroat จะมอบประสบการณ์การเล่นที่สดใหม่ ด้วยบรรยากาศการเล่นที่ดุเดือดและวุ่นวายกว่าเดิม
นอกจากนี้ โหมด War จากภาค WWII ได้กลับมาอีกครั้งในเกมภาคนี้ ซึ่งในโหมดดังกล่าว ผู้เล่นจะต้องทำ Objective ที่หลากหลายในแผนที่สเกลขนาดค่อนข้างใหญ่ โหมดนี้จะมอบประสบการณ์การเล่นที่แปลกใหม่ เพราะต้องปรับสไตล์การเล่นเกมเกือบตลอดเวลา เพื่อรับมือกับการทำ Objective ต่าง ๆ ซึ่งนับว่าเป็นโหมดเกมที่แหวกแนวจาก Call of Duty ดั้งเดิมอย่างเห็นได้ชัด
แผนที่ Modern Warfare 2 (2009) ได้กลับมาอีกครั้ง พร้อมการอัปเกรดให้ดูทันสมัย
หลังจากมีข่าวลือหนาหูมามากมาย ในที่สุด เราก็ได้เห็นข้อมูลจากฝั่ง Activision และ Sledgehammer Games อย่างเป็นทางการสักที
ทีมงานยืนยันว่าแผนที่ Multiplayer จากเกม Call of Duty: Modern Warfare 2 (2009) จำนวน 16 แผนที่ จะบุกเข้าเกม Modern Warfare III อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันแรกที่ออกวางจำหน่าย โดยแผนที่ทั้งหมดจากภาคเก่าที่จะเข้ามาในภาคใหม่ มีดังนี้..
- Afghan
- Derail
- Estate
- Favela
- Karachi
- Highrise
- Invasion
- Quarry
- Rundown
- Rust
- Scrapyard
- Skidrow
- Sub Base
- Terminal
- Underpass
- Wasteland
แผนที่ Multiplayer ที่ระบุมาทั้งหมดจะได้รับการปรับปรุงให้ดูทันสมัย มีความใส่ใจในรายละเอียด ซื่อสัตย์ต่อต้นฉบับ และมีการตรวจความถูกต้อง ทีมงานอธิบายว่าการปรับปรุงครั้งนี้ ได้ทำขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าทำไมแผนที่ Modern Warfare 2 จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจสำหรับแฟน ๆ Call of Duty ตั้งแต่แรก
นอกจากนี้ ทีมงานยืนยันว่าจะมีแผนที่ใหม่จำนวน 12 แผนที่ อัปเดตเข้าเกมหลังจาก Modern Warfare III เปิดให้เล่นอย่างเป็นทางการแล้ว และมีแผนที่ Ground War ใหม่จำนวน 4 แผนที่ในวันที่เกมเปิดให้เล่นวันแรก ซึ่งแน่นอนว่าตารางการอัปเดต Season จะมีการเปิดเผยอีกครั้งหลังจากเกมออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว
ลูกเล่นใหม่เพียบ เคลื่อนที่ว่องไวไร้สะดุด และบางระบบจากภาคเก่ากลับมาอีกครั้ง
Modern Warfare III มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่เอี่ยมที่ไม่เคยมีใน Modern Warfare II หรือเกมภาคก่อน ซึ่งทีมงานได้ยกตัวอย่าง 3 ฟีเจอร์ใหม่ที่โดดเด่น ดังนี้..
Tac-Stance
Tac-Stance ท่ายิงปืนแบบใหม่ที่ทีมงานอธิบายว่า “เป็นจุดกึ่งกลางที่สมบูรณ์แบบระหว่างการยิงแบบ Hip Fire และการเล็งเป้า (ADS)” ซึ่งท่ายิงนี้ที่เหมาะสำหรับการต่อสู้ระยะประชิด และใช้ในสภาพแวดล้อมที่เป็นห้องแคบ โดยลักษณะโดยรวมของ Tec-Stance มีดังนี้…
- อาวุธจะถือในตำแหน่งเอียง
- ท่ายิงปืน Tac-Stance จะเปิด-ปิดเองอัตโนมัติ เมื่อเล็ง ADS
- เมื่อใช้ Tac-Stance จะสูญเสียความแม่นยำของปืนบางส่วน เพื่อแลกกับการยกเล็งปืน และการเคลื่อนที่ที่ว่องไวมากขึ้น
- กระสุนจะกระจายเมื่อใช้ Tac-Stance ทีมงานอธิบายว่าเป็นท่ายิงที่กึ่งกลางระหว่างการยิง ADS และ Hipfire
- ถูกดีไซน์เพื่อใช้ในการต่อสู้ระยะประชิด
- ในค่าเริ่มต้น ผู้เล่นสามารถใช้ Tac-Stance ในขณะสไลด์ตัวได้
Loadout มีลูกเล่นมากขึ้น
ในเกมนี้ ผู้เล่นสามารถสวมใส่อุปกรณ์ทางการทหารได้หลายชิ้น เช่น ถุงมือ, เสื้อยุทธวิธี, รองเท้า และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ช่วยปรับแต่งความสามารถของตัวละครได้มากขึ้น
After-Market Part
ของตกแต่งเสริมที่ออกแบบให้ผู้เล่นสามารถดัดแปลงอาวุธ ให้มันมีคุณสมบัติเข้ากับสไตล์การเล่นที่คุณต้องการ ซึ่งบาง Part สามารถเปลี่ยนจากปืนกลปกติกลายเป็นปืน Bullpup ได้ ซึ่งการดัดแปลงดังกล่าว ทำให้การยกปืนเร็วมากขึ้นโดยไม่สูญเสียพลังทำลายล้างมากจนเกินไป โดย After-Market Part มี Progression และ Challenge เฉพาะตัว ซึ่งรายละเอียดเพิ่มเติมจะมีการประกาศอีกครั้งในอนาคต
นอกจากนี้ ระบบเก่าจากเกม Call of Duty ที่หายไปในเกม Modern Warfare II ได้กลับมาอีกครั้ง เช่น Mini Map แบบดั้งเดิมที่มีจุดแดงชี้ตำแหน่งศัตรู, Slide Cancel และ Reload Cancel กลับมาอีกครั้ง รวมถึงมีการปรับพลังชีวิตใหม่เป็น 150, ลด Damage, การยิงเข้าหัว Headshot จะเพิ่ม Time to Kill
ที่สำคัญที่สุด ทุก Perk เริ่มใช้งานได้ทันทีตั้งแต่แรก โดยไม่จำเป็นต้องอัปเลเวลเพื่อปลดล็อกอีกต่อไป, ใช้ระบบ Perk ใหม่ในชื่อว่า Gear Perk และปรับการเคลื่อนที่ของตัวละครให้รวดเร็วยิ่งขึ้นในทุกจังหวะ รวมถึงเป็นเกมภาคแรกที่ สามารถโอนข้อมูลจาก Modern Warfare II มาเล่นต่อในภาคใหม่ได้
โหมดซอมบี้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่ Call of Duty เคยมีมา
นอกจาก Call of Duty: Modern Warfare III จะเป็นเกมภาคแรกของจักรวาล Modern Warfare ที่มีโหมดซอมบี้แล้ว มันจะเป็นเกมซอมบี้ใน Call of Duty ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกด้วย
ในรายละเอียดเผยว่า โหมดซอมบี้ของ Modern Warfare III มีชื่อโหมดทางการว่า “Modern Warfare Zombies” หรือ “MWZ” เป็นการผสมผสานระหว่าง DMZ และ Outbreak เข้าด้วยกัน โดยแผนที่เป็นแนวเปิดโลกกว้าง (Open-World) และเนื้อเรื่องจะสานต่อเรื่องราวจากจักรวาล Dark Aether ของภาค Cold War กับ Vanguard
ส่วนตัวเกมสามารถเล่นแบบทีม Squad 4 คน รองรับผู้เล่นได้สูงสุด 24 คนต่อ 1 ห้อง โดยกลุ่มผู้เล่นจะต้องทำภารกิจ Task ต่าง ๆ แล้วจากนั้นก็ถอนตัวเพื่อเอาชีวิตรอดอย่างปลอดภัย ซึ่งศัตรูหลักของเกมนี้ แน่นอนว่ามันคือซอมบี้กระหายเลือด และทีมงานกล่าวว่าภาคนี้จะมีศัตรูซอมบี้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในเกม Call of Duty อีกด้วย
Call of Duty: Modern Warfare III ออกวางจำหน่ายในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้