ในอีกไม่กี่วัน เกม Hogwarts Legacy ที่แฟน ๆ Harry Potter หลายคนรอคอยจะปล่อยให้เล่นสำหรับทุกคนอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการต้อนรับกระแสไฮป์ เรามาย้อนดูกระแสตอบรับของเกม Harry Potter ที่ผ่าน ๆ มาว่าเป็นอย่างไรบ้าง
Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 1 – 37 คะแนน
มาเริ่มต้นด้วยเกม Harry Potter ที่มีกระแสตอบรับแย่ที่สุดอย่าง Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 1 ที่มีคะแนน Metacritic เฉลี่ยอยู่ที่ 39 คะแนน ซึ่งนับว่าเป็นเกมที่เรียกว่า “เล่นแล้วเสียเวลา” ก็ว่าได้
Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 1 เป็นเกมที่พัฒนาโดย EA Bright Light แล้วออกวางจำหน่ายในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2010 ซึ่งสาเหตุหลักที่เกมนี้มีกระแสตอบรับไม่ดีจากแฟน ๆ และสื่อเกม เพราะทิศทางการสร้างที่ทำเป็นเกมแนว TPS Cover-Based Shooter สไตล์ Gears of War ซึ่งไม่เข้ากับแฟรนไชส์ Harry Potter นอกจากนี้ ด้วยการออกแบบภารกิจที่จำเจ และเกมเพลย์ขาดความล้ำลึก ประสบการณ์โดยรวมจากการเล่นเกมนี้จึงไม่สนุกสนาน จนบางคนบอกว่าเป็นเกมที่สบประมาทฐานแฟนกันเลยทีเดียว
Harry Potter: Hogwarts Mystery – 43 คะแนน
Harry Potter: Hogwarts Mystery เป็นเกมมือถือที่เปิดให้บริการเล่นฟรีครั้งแรกในปี 2018 โดยลงให้เล่นเฉพาะในอุปกรณ์ iOS กับ Android เท่านั้น
สาเหตุหลักที่เกม Harry Potter ภาคนี้มีกระแสตอบรับที่ไม่ดี เพราะตัวเกมมุ่งเน้นขาย Microtransactions มากจนเกินไปด้วยการขายฟีเจอร์ทุกอย่างต้องปลดล็อกด้วยเงินจริง ทั้งที่ของบางอย่างควรเป็นของฟรี แต่ถึงแม้ตัวเกมจะโดนวิจารณ์เละ แต่ถึงอย่างนั้น เกมดังกล่าวสามารถกวาดรายได้ถึง 110 ล้านเหรียญฯ ในช่วงปีแรกหลังเปิดให้บริการ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จทางรายได้ แม้มีกระแสตอบรับแย่
Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2 – 44 คะแนน
คล้ายกับเกมภาคแรก Harry Potter and the Deathly Hallows – Part 2 เป็นเกมที่มีกระแสตอบรับจากแฟน ๆ ที่ย่ำแย่ เพราะมีทิศทางสร้างเป็นแนวเกม TPS สไตล์ Gears of War ที่ไม่เข้ากับแฟรนไชส์ Harry Potter โดยสิ่งที่ปรับปรุงจากเกมภาคแรกมีอย่างเดียว คือ ภาพกราฟิก กับประสิทธิภาพที่ดีขึ้น แต่นอกเหนือจากนั้น การเล่าเรื่อง เกมการเล่น และการออกแบบภารกิจยังเหมือนภาคแรกเกือบทุกประการ
Harry Potter Kinect – 57 คะแนน
ก็ถือว่าตรงตามชื่อไตเติลเกมเลย Harry Potter Kinect เป็นเกม Exclusive สำหรับคอนโซล Xbox 360 ที่เน้นการเล่นผ่านอุปกรณ์ตรวจจับ Motion Controller อย่าง Kinect ให้เกมเมอร์ได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตั้งแต่การขี่ไม้กวาด การปรุงยา และมินิเกมอื่น ๆ มากมาย
แต่น่าเสียดาย ด้วยอุปกรณ์ Kinect ในตอนนั้นยังขาดความเสถียร มีผลทำให้การเล่นเกมนี้ไม่ลื่นไหลเท่าที่ควร รวมถึงเกมดังกล่าววางจำหน่ายในราคา 60 เหรียญฯ ซึ่งเป็นราคาที่ไม่คุ้มค่าเท่าไหร่สำหรับเกมที่ไม่มีเนื้อเรื่อง และคอนเทนต์หลัก
Harry Potter and the Sorcerer’s Stone – 64 คะแนน
นี่อาจจะเป็นเกม Harry Potter ที่ใครหลายคนต้องผ่านไม้ผ่านมือมาก่อน เพราะเกมนี้ออกวางจำหน่ายในสมัยที่ภาพยนตร์ Harry Potter กำลังโด่งดังแบบพีคที่สุดในบ้านเรา
Harry Potter and the Sorcerer’s Stone เป็นเกมแนวผจญภัย Platformer สำหรับ PS1/PS2 ซึ่งเกมดังกล่าวได้สร้างความว้าวให้แฟน ๆ ด้วยเนื้อหาของเกมมีการเคารพต้นฉบับ เสียงพากย์มีคุณภาพดีเกินคาด เพลงประกอบไพเราะ และเกมการเล่นที่หลากหลาย
แม้ภาพกราฟิกจัดว่าสวยงามตามยุคสมัย แต่ด้วยข้อจำกัดของประสิทธิภาพเครื่อง PS1 ส่งผลลัพธ์ทำให้โมเดลตัวละครของเกมนี้มีคุณภาพต่ำจนมีหน้าตาน่ากลัว (เฉพาะในเวอร์ชัน PS1 เท่านั้น) รวมถึงการควบคุมตัวละคร การออกแบบด่าน และมุมกล้องที่มีปัญหา ทำให้ประสบการณ์ที่ได้จากการเล่นเกมนี้ไม่มีสนุกสนานเสมอไป
Harry Potter and the Half-Blood Prince – 66 คะแนน
Harry Potter and the Half-Blood Prince เป็นเกมแนวแอ็กชัน-ผจญภัย Platformer ที่แฟน ๆ ต่างยกนิ้วในด้านการแต่งประกอบโดยฝีมือของ James Hannigan และภาพกราฟิก เอฟเฟกต์ที่สวยงามในยุคนั้น พร้อมมีคอนเทนต์หลากหลาย และเกมการเล่นที่ออกแบบมาเล่นง่าย
อย่างไรก็ตาม ด้วยดีไซน์ภารกิจเดิม ๆ ที่ซ้ำซาก เสียงพากย์กับโมเดลตัวละครที่ย่ำแย่ รวมถึงความยาวของเนื้อเรื่องที่สั้น สามารถเล่นจบได้ภายในวันเดียว ทำให้คุณภาพโดยรวมของเกมนี้เกือบจะเข้าใกล้ถึงคำว่า “เกม Harry Potter ที่ดี” และแฟน ๆ บางส่วนยอมรับว่าหากมองข้ามข้อเสียไปได้ มันก็เป็นเกมสนุก ๆ ที่เล่นฆ่าเวลาได้ดีเลยทีเดียว
Harry Potter and the Order of the Phoenix – 67 คะแนน
อีกหนึ่งเกม Harry Potter ที่มีกระแสตอบรับไม่น่าประทับใจเท่าที่ควร แม้เกมนี้ได้รับเสียงชื่นชมในด้านเพลงประกอบกับเสียงพากย์ตัวละคร ถึงอย่างนั้น ด้วยการออกแบบภารกิจที่ซ้ำซาก จังหวะการเล่าเรื่องที่แปลกประหลาด รวมถึงตัวเกมมีความยากท้าทายที่ง่ายเกินไป จึงเป็นเกมที่แฟน ๆ เล่นแล้วอาจจะน่าเบื่อ และมีความคิดเห็นว่าตัวเกมสามารถทำได้ดีกว่านี้
นี่อาจจะเป็นเกม Harry Potter ภาคเดียวที่หลายคนแนะนำเกมเวอร์ชัน Wii มากกว่าเวอร์ชันอื่น ๆ เพราะเกมเวอร์ชันดังกล่าวมีฟีเจอร์เอกลักษณ์ ที่เกมเมอร์สามารถร่ายคาถาเวทมนตร์ด้วยจอย WiiMote ซึ่งให้ประสบการณ์การเล่นที่แปลกใหม่ และเป็นไปตามที่แฟน ๆ หลายคนคาดหวังไว้ในยุคนั้น
Harry Potter and the Goblet of Fire – 67 คะแนน
Harry Potter and the Goblet of Fire เป็นเกมภาคแรกที่มีโหมด Local CO-OP Multiplayer ที่สามารถเล่นเกมกับเพื่อน ๆ ระหว่างการดำเนินเนื้อเรื่องได้ นอกจากนี้ เกมดังกล่าวมาพร้อมกับเพลงประกอบที่ไพเราะเหมือนเดิม รวมถึงเกมการเล่นจัดว่าอยู่ในเกณฑ์สอบผ่าน หรือบอกได้ว่าไม่ดีมากนักแต่ก็ไม่แย่เช่นกัน
แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกมดังกล่าวได้เริ่มพัฒนาหลังจากเกมภาค Prisoner of Azkaban ออกวางจำหน่ายผ่านไป 1 ปี ซึ่งเท่ากับทีมงานมีเวลาสร้างเพียงนิดเดียว ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ตัวเกมจะมีกระแสตอบรับน่าผิดหวัง เนื่องจากคุณภาพเกมโดยรวมไม่มีการปรับปรุงจากก่อนนี้ กราฟิกดรอปคุณภาพจากภาคก่อนหน้านี้ แถมมีปัญหา Performance ให้พบเห็นด้วย
Harry Potter: Quidditch World Cup – 68 คะแนน
ควิดดิช เป็นเกมกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจักรวาล Harry Potter ด้วยไอเดียที่ล้ำเลิศไม่เหมือนใคร จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่กีฬาดังกล่าวจะถูกดัดแปลงกลายเป็นวิดีโอเกม Spin-Off ของ Harry Potter
Harry Potter: Quidditch World Cup เพียงแค่ชื่อเกม ก็รู้ทันทีว่าเกม Harry Potter ภาคนี้มีความแตกต่างจากภาคอื่น เพราะเกม Harry Potter หลายภาคจะเน้นการออกผจญภัยมาโดยตลอด แต่ไม่ใช่สำหรับเกมนี้ที่ได้เน้นการแข่งขันกีฬาอย่างแท้จริง
ถึงแม้เกม Harry Potter: Quidditch World Cup จะมีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร แต่น่าเสียดายที่ระบบการควบคุมไม้กวาดที่อืดอาด ไม่ลื่นไหลมากพอ โหมดเกมน้อย และฉากบรรยากาศในสนามแข่งที่จำเจ ขาดความหลากหลาย จึงเป็นเกมที่เล่นสนุกสนานในช่วงแรก แต่อาจมีความรู้สึกจำเจในภายหลัง
Harry Potter and the Prisoner of Azkaban – 70 คะแนน
และแล้วก็มาถึงเกม Harry Potter ที่สามารถเรียกได้ว่าเกม “เป็นเกมดี” ที่แม้จะมีข้อเสียอยู่บ้าง แต่ประสบการณ์ที่ได้จากการเล่นเกมนี้จะต้องรู้สึกประทับใจไม่มากก็น้อย
แม้ Harry Potter and the Prisoner of Azkaban เป็นเกมแอ็กชัน-ผจญภัยเหมือนหลายภาค แต่เกมนี้มีจุดเด่นอย่างหนึ่งคือเราสามารถเล่นเป็น Ron กับ Hermione ได้ รวมถึงมีระบบคลาสให้สามารถเลือกการเล่นในสไตล์ที่ตัวเองชื่นชอบ
แม้ระบบเกมเพลย์อาจจะเบสิคเกินไปหน่อยสำหรับใครหลายคน และเนื้อเรื่องมีความยาวที่ค่อนข้างสั้น แต่โดยรวมแล้ว Harry Potter and the Prisoner of Azkaban จัดว่าเป็นเกมดีที่ทุกคนเล่นได้
Harry Potter and the Chamber of Secrets – 71 คะแนน
เกม Harry Potter and the Chamber of Secrets เปรียบเสมือนเป็นการนำฟีเจอร์เด่น ๆ ของเกมภาค Sorcerer’s Stone ที่เคยมีกระแสตอบรับแบบผสมมาขัดเกลาให้ดีขึ้น ส่งผลลัพธ์ทำให้เกมภาคนี้มีมินิเกม คอนเทนต์ที่หลากหลาย แถมมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีกว่าเกมภาค Sorcerer’s Stone อย่างเห็นได้ชัด
Harry Potter and the Chamber of Secrets จัดว่าเป็นหนึ่งในเกม Harry Potter ที่ทำยอดขายประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยตัวเกมขายได้ 9 ล้านชุดทั่วโลก และกวาดรายได้ไปกว่า 500 ล้านเหรียญฯ อ้างอิงจากสถิติเมื่อปี 2003
Lego Harry Potter: Years 1-4 – 79 คะแนน
ในที่สุด ก็มาถึงเกม Harry Potter ที่มีเสียงวิจารณ์ที่ดีที่สุด หรือมีอีกความหมายถึงแปลว่า “เกม Harry Potter” ที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็ว่าได้
Lego Harry Potter เป็นเกมแอ็กชัน-ผจญภัย ที่เป็นการนำภาพยนตร์ Harry Potter มาดัดแปลงกลายเป็นโลกของ Lego ซึ่งอแน่นอนว่าจุดเด่นของเกมนี้ คือระบบ Progression ที่หลากหลาย, มีคอนเทนต์เยอะ, เนื้อเรื่องสนุกสนานผ่อนคลาย มีการล้อเลียนที่สร้างสรรค์ และระบบเกมเพลย์เข้าถึงได้ทุกคน
Lego Harry Potter: Years 5-7 – 76 คะแนน
Lego Harry Potter: Years 5-7 คือเกมภาคต่อจาก Years 1-4 ที่ยังเล่นได้อย่างสนุกสนานเหมือนเกมภาคแรก แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากตัวเกมขาดนวัตกรรม ไม่มีการปรับปรุง หรือคอนเทนต์ใหม่เพียงนิดเดียว จึงเป็นเหตุผลหลักที่เกมภาคนี้ มีคะแนนรีวิวเฉลี่ยน้อยกว่าภาคก่อนนี้
