เมื่อก่อน เครื่องเล่นเกมพกพาต่างๆ ที่มีหลายเจ้าผลิตออกมา ต้องบอกว่าตอบโจทย์และเป็นเหมือนรุ่นบุกเบิกในแนวคิดของการเล่นเกมที่ไหนก็ได้ ซึ่งเป็นผลให้ในเวลาต่อมา เราทุกคนก็ได้เล่นเกมบนมือถือกันแล้ว และในปัจจุบัน ก็มีมือถือราคาประหยัด ที่สามารถเล่นเกมแรงๆ ได้เหมือนกัน แต่จะมีรุ่นไหนบ้าง ไปดูกันเลย
1. Realme 8 5G ราคา 9,999 บาท
เริ่มกันด้วยมือถือรุ่นใหม่จาก Realme อย่าง Realme 8 5G ที่รองรับสัญญาณ 5G ตามชื่อ ด้วยพลังในการประมวลผลของชิป Mediatek Dimensity 700 5G และให้ RAM 8GB , Storage 128GB ทำให้การเล่นเกมบนมือถือเครื่องนี้ สามารถเล่นได้สบายๆ และตัวหน้าจอมีขนาด 6.5 นิ้ว Refresh Rate 90Hz IPS ทำให้ภาพในเกมที่รองรับ ลื่นตา สมูทแบบสุดๆ และแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 5,000 mAh พร้อมเทคโนโลยีชาร์จไว 18 วัตต์ บอกได้เลยว่า เล่นเกมได้ยาวๆ
2. Samsung Galaxy A32 5G ราคา 9,999 บาท
Samsung A32 5G ตัวนี้ถือว่าเป็นมือถือราคาประหยัดของ Samsung แต่ก็อัดแน่นไปด้วยสเปกที่สามารถเล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ เพราะมาให้ชิป Midiatek 720 และ RAM 8GB , Storage 128 พร้อมทั้งแบตเตอรี่ให้มาจุใจถึง 5,000 mAh ขนาดหน้าจอ 6.5 นิ้ว ซึ่งอาจจะไม่ได้มี Refresh Rate เยอะเหมือนแบรนด์อื่นๆ แต่บอกได้เลยว่าเล่นเกมกับเครื่องนี้ ภาพสวย เพราะจอเป็น Super AMOLED รับรอง ไม่มีผิดหวังแน่นอน
3. POCO X3 Pro ราคา 8,999 บาท
ถือว่าเป็นอีกตัวที่น่าจับจอง เพราะด้วยสเปกที่จัดเต็ม กับราคาที่ไม่เกิน 10,000 บาท เพราะตัว POCO มีชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 860 ซึ่งเป็นตัวที่พัฒนามาจาก Snapdragon 855 ต้องบอกว่าแค่ CPU ก็กินขาดแล้ว แต่ยังไม่หมด เพราะยังให้ RAM 8GB , Storage 256GB , หน้าจอ 6.67 นิ้ว 120Hz IPS , รองรับการชาร์จไว 33 วัตต์ เล่นเกมจนแบตหมด ชาร์จไม่นาน ก็กลับมาเล่นใหม่ได้
4. Redmi Note 10 Pro ราคา 8,999 บาท
สมกับที่เป็นตระกูลมือถือที่เน้นเรื่องงบประหยัดแต่สเปกจัดจ้าน กับ Redmi Note 10 Pro ที่มีสเปกเป็น Qualcomm Snapdragon 732 , หน้าจอ Super AMOLED 120Hz , แบตเตอรี่ 5020 mAh พร้อมชาร์จไว 33 วัตต์ ต้องบอกเลยว่า ดูจากสเปกคือเล่นเกมได้ลื่นๆ แถมยังใช้งานหน้าจอได้ลื่นตา สีสด ซื้อมือถือรุ่นนี้มีแต่คุ้มกับคุ้ม
5. realme narzo 20 Pro ราคา 7,499 บาท
realme Narzo 20 Pro ถือว่าตอบโจทย์เกมมิ่งได้อย่างรอบด้าน ด้วยการเลือกหน้าจอ Refresh Rate ระดับ 90Hz ช่วยให้แสดงผลได้อย่างลื่นไหลเนียนตา พร้อมชิปตัวท็อปของซีรีส์เกมมิ่งอย่าง MediaTek Helio G95 ซึ่งมีเทคโนโลยี HyperEngine Gaming เพื่อช่วยให้รีดประสิทธิภาพการเล่นเกมให้ลื่นไหลยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับพลังชาร์จไว 65W SuperDart Charge อีกด้วย
6. Vivo Y72 5G : 9,999 บาท
ว่ากันต่อกับมือถือราคาประหยัดไม่เกิน 10,000 บาท เน้นเล่นเกมกับ Vivo Y72 5G ด้วยรูปทรงที่จับถนัดมือ พร้อมกับชิปประมวลผล Mediatek Dimensity 700 ที่สามารถเล่นเกมทั่วไปได้สบายๆ หายห่วง พร้อมทั้งยังมีการรองรับ 5G , RAM 8GB , Storage 128GB , แบตเตอรี่ 5000 mAh , หน้าจอ 6.58 นิ้ว ซึ่งไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป จับถนัดมือ เหมาะกับการซื้อไปเล่นเกมตีป้อมกับเพื่อนๆ เป็นที่สุด
7. Xiaomi Mi 11 Lite ราคา 8,999 บาท บาท
Xiaomi Mi 11 Lite มือถือซีรีส์เรือธงในราคาประหยัดที่ Xiaomi ออกมาเพื่อคนที่อยากได้ตระกูล Mi 11 แค่มีงบไม่ถึง 10,000 บาท ซึ่งสเปกหลาย ๆ จุดเองก็มีความคล้ายคลึงกับรุ่นพี่ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ AMOLED 90Hz แสดงสีสันได้ 10-bits , CPU Snapdragon 732G , RAM 8GB , Storage 128GB , แบตเตอรี่ 4,250 mAh พร้อมชาร์จไว 33 วัตต์ สำหรับ Xiaomi Mi 11 Lite นั้นถึงจะเป็นรุ่นตัดสเปกแต่ก็สามารถเอาไปใช้เล่นเกมได้ดีเหมือนรุ่นพี่เช่นกัน และยังมีข้อดีตรง Refresh Rate หน้าจอที่ดูแล้วลื่นตาอีกด้วย แต่มาในราคาเพียง 8,990 บาทเท่านั้น
8. OnePlus Nord N10 5G ราคา 9,990 บาท
มือถือตัวสุดท้ายกับค่ายที่มีแนวคิดในการออกมือถือสเปกแรง แต่ราคาประหยัดอีกหนึ่งตัว นั่นคือ OnePlus Nord N10 5G โดยชิปประมวลผลที่ใช้นั้นถึงแม้จะเป็น Snapdragon 690 แต่ประสิทธิภาพในการประมวลผลก็แทบจะเทียบเท่ากัน Snapdragon 765G เลยทีเดียว พร้อมทั้งหน้าจอขนาด 6.49 นิ้ว 90Hz , RAM 6GB , Storage 128GB , แบตเตอรี่ 4,300 mAh พร้อมรองรับชาร์จไว 30 และยังมีโหมดเพื่อการเล่นเกมอีก 2 โหมด นั่นคือ Gaming Mode และ Fnatic Mode ทำให้การเล่นเกมลื่นไหลได้อีก
และทั้งหมดนี้ก็เป็นมือถือราคาประหยัด แต่อัดแน่นไปด้วยสเปก ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับการเล่นเกมได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ความชอบในตัวแบรนด์มือถือของแต่ละคน อาจจะเป็นเรื่องของ UI , ดีไซน์มือถือ หรือ ศูนย์บริการใกล้บ้าน ก็เลือกได้ตามความสบายใจและงบประมาณของแต่ละคนได้เลย