การทำงานเอกสารส่วนใหญ่เราก็จะทำบน Google Docs หรือถ้าเป็นการใช้งานขั้น Advance ก็จะทำงานบน Microsoft Word กัน ซึ่งไฟล์เอกสารที่เราทำได้ก็จะต้องเป็นไฟล์ .doc เพื่อใช้ในการเปิดบน Microsoft Word นั่นเอง แต่หลายครั้งที่เราต้องเอาเนื้อหาจากไฟล์ PDF ที่ไม่สามารถแก้ไขข้อความได้ ถ้าจะให้ Copy จาก PDF แล้วนำมาลง Word ก็กลัวว่าจะเจออาการภาษาวิบัติไม่ก็ตัวอักษรเพี้ยนไปเลย แต่ถ้าเราแปลงไฟล์ PDF ไปเป็น Word ก็จะแก้ปัญหาพวกนี้ได้ ฉะนั้นวันนี้เราจะขอนำเสนอเว็บไซต์ที่สามารถแปลงไฟล์ PDF เป็นไฟล์ Word ได้ แต่ละเว็บจะมีข้อดีหรือจุดเด่นตรงไหน ไปดูกันเลย
1. iLovePDF
เว็บไซต์ยอดนิยมที่ใครหลายคนมักจะนึกถึงเวลาที่จะแปลงไฟล์หรือจัดการกับไฟล์ PDF เพราะจุดเด่นของ iLovePDF คือการที่มีเครื่องมือให้เราเลือกอย่างหลากหลาย และยังมีหน้าเมนูที่อ่านแล้วทำความเข้าใจได้ง่าย สำหรับเครื่องมือในการแปลง PDF เป็น Word เราสามารถเข้าไปใช้งานได้ฟรี แต่จะมีจำกัดจำนวนครั้งในการใช้งานต่อวัน ถ้าอยากใช้งานเยอะๆ ก็ต้องสมัครสมาชิกก่อนนะ
เข้าใช้งาน iLovePDF ได้ที่นี่4
2. SmallPDF
เว็บไซต์ SmallPDF เป็นเว็บไซต์ที่เราจะเห็นเป็นอันดับต้นๆ ในการ Search บน Google เลย เพราะตัวเว็บมีการออกแบบแนวสดใส น่าใช้งาน และมีการออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย ส่อนเรื่องของคุณภาพงานที่ได้ออกมาหลังจากการแปลงไฟล์ก็บอกเลยว่าแจ่ม และแม่นยำมาก บนเว็บไซต์นอกจากจะมีเครื่องมือสำหรับการแปลง PDF เป็น Word แล้วยังมีเครื่องมืออื่นๆให้เราได้ใช้งานกันเช่นย่อไฟล์ , รวมไฟล์ , แยกไฟล์ หรือจะเป็นการลบหน้าบนไฟล์ PDF ก็ทำได้เช่นกัน แต่ในการใช้งานฟรีก็จะมีข้อจำกัดตรงที่เราสามารถอัปโหลดไฟล์เพื่อใช้งานได้เพียงวันละ 2 ไฟล์ ถ้าจะใช้งานเยอะกว่านั้นก็ต้องสมัครแบบ Pro ก่อนถึงจะใช้งานได้
เข้าใช้งาน SMALLPDF ได้ที่นี่
3. PDFCANDY
เว็บไซต์นี้มีจุดเด่นที่จำนวนเครื่องมือที่มีให้ใช้งานกันมากถึง 50 รูปแบบ เลย ไม่ว่าจะเป็นการแปลง PDF เป็น Word , PDF เป็น JPG , ย่อ , แก้ไข หรือรวมไฟล์ฺก็มีหมด และอีกจุดที่น่าสนใจคือการใช้งานฟรีแบบไม่จำกัด และยังสามารถดาวน์โหลดมาเป็นโปรแกรมลงเครื่องเพื่อใช้งานออฟไลน์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีระบบความปลอดภัย โดยที่ตัวเว็บจะลบไฟล์ที่เราอัปโหลดลงไปบนเว็บ หลังจากที่เราทำการแปลงหรือจัดการไฟล์เรียบร้อยแล้ว
เข้าใช้งาน PDFCandy ได้ที่นี่
4. PDF to DOC
ตัวเว็บ PDF to DOC เป็นเว็บไซต์ที่มีความสมบูรณ์ของไฟล์ที่แปลงมามากเลยทีเดียว รองรับการแปลง PDF เป็นไฟล์หลายประเภทเช่น Word , JPG , Text หรือจะแปลงจากไฟล์สกุลนั้นๆเป็น PDF ก็ได้ ถึงแม้ว่าตัวเว็บจะไม่ได้มีเครื่องมือให้ใช้งานมากมาย แต่ถือว่าคุณภาพที่ได้ออกมาถือว่าดี สมเป็นเว็บแปลงไฟล์ แต่ข้อจำกัดที่พบคือตอนนี้ภาษาที่แปลงได้ดีคือภาษาอังกฤษ ส่วนภาษาไทยจะยังมีอาการสระหายบ้างประปราย
เข้าใช้งาน PDF to DOC ได้ที่นี่
5. PDF Online
เว็บไซต์นี้อาจจะดูเรียบง่ายสักนิดนึง ด้วยเครื่องมือที่ไม่ได้มีให้ใช้งานเยอะ และหน้าตารวมไปถึงการใช้งานที่ไม่ง่ายสักเท่าไหร่ แต่บอกได้เลยว่าคุณภาพของไฟล์ที่แปลงมาแล้วทำได้ดีมากเลย เพราะอย่างน้อยก็ดีกว่าการติดตั้งโปรแกรมหรือหลีกเลี่ยงการติดเครดิตของโปรแกรมหรือเว็บไซต์นั้นๆ
เข้าใช้งาน PDF Online ได้ที่นี่
6. Adobe.com
หลายคนน่าจะเคยใช้งาน Adobe Acrobat เพื่อใช้ในการอ่านไฟล์และแก้ไขไฟล์ต่างๆ ซึ่งในหน้าเว็บของ Adobe ก็มีบริการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word เหมือนกัน แต่มีการรองรับภาษาอังกฤษเท่านั้น ไม่สามารถแปลงไฟล์ที่มีภาษาไทยได้ เพราะไฟล์ภาษาไทยที่ได้จากการแปลงจะมีตัวอักษรที่ไม่สามารถอ่านได้ ดังนั้นเราแนะนำให้ใช้เฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้นนะ
เข้าใช้งาน Adobe.com ได้ที่นี่
7. ThaiDocs
เว็บไซต์สุดท้ายที่เราจะมาแนะนำก็คือ ThaiDocs ซึ่งเป็นเว็บที่พัฒนาโดยคนไทย มีเครื่องมือในการแปลงไฟล์ PDF เป็น Word และยังมีเครื่องมือที่โดดเด่นอยู่นั่นคือการแก้ไขตัวอักษรเพี้ยน โดยตัวเครื่องมือสามารถแก้ไขปัญหาเวลาที่เรา Copy ข้อความจากไฟล์ PDF มาแล้วตัวอักษรเพี้ยน ให้เรานำข้อความที่เพี้ยนมาใส่แล้งตัวเว็บก็จะแปลงเป็นข้อความที่สมบูรณ์นั่นเอง
เข้าใช้งาน ThaiDocs ได้ที่นี่
และทั้งหมดนี้ก็เป็นเว็บไซต์ที่สามารถช่วยเราให้แก้ไขหรือจัดการกับไฟล์ PDF ได้แล้ว นอกจากนี้ในแต่ละเว็บไซต์ก็มีเครื่องมืออื่นๆ ที่สามารถจัดการกับไฟล์ PDF เช่นการรวมไฟล์ , แปลงจาก PDF เป็นไฟล์สกุลอื่นๆ หรือจะเป็นการเปลี่ยนไฟล์สกุลอื่นๆเป็น PDF ก็ทำได้ ขึ้นอยู่กับเครื่องมือในแต่ละเว็บไซต์ ฉะนั้น เราต้องเลือกเครื่องมือการใช้งานให้ตรงกับจุดประสงค์ของเราด้วยนะ
