ช่วงไม่กี่ปีมานี้ เทคโนโลยี Virtual Reality ถือว่าสมบูรณ์ขึ้นมาก จากเดิมที่ต้องพึ่งอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ระดับสูง มีสายระโยงระยางเต็มห้อง แต่ ณ ปัจจุบัน มันถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นอุปกรณ์แบบยืนเดี่ยว ที่ไม่ต้องเสียบกับอะไร เพียงแค่สวมเข้ากับศีรษะ ก็สามารถสนุกได้เลย
ในเรื่องคอนเทนต์ เมื่อก่อนอุปกรณ์ VR อาจถูกสร้างมาเพื่อการเล่นเกมเป็นส่วนใหญ่ แต่ปัจจุบัน คอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้เกิดขึ้นมากมาย ทั้งภาพยนตร์ คอนเทนต์ท่องเที่ยว รวมไปถึงการเดตแบบสมจริง โดยล่าสุด GamingDose ได้รับเกียรติไปทดสอบอุปกรณ์ VR รุ่นใหม่จากทาง AIS ซึ่งถือเป็นอุปกรณ์ยุคใหม่ ที่อัดแน่นไปด้วยคอนเทนต์มากมายที่กล่าวไว้ข้างต้น
และเนื่องจาก AIS VR เป็นอุปกรณ์ที่ประทับใจเรามาก วันนี้เราเลยจะมาเล่าสู่กันฟัง ถึงความรู้สึกในการใช้งาน ในแบบรีวิวสั้น ๆ จาก GamingDose
ฮาร์ดแวร์ระดับคุณภาพ ในราคาสมเหตุผล
เริ่มด้วยคุณสมบัติของ AIS VR 4K กันก่อน ตัวอุปกรณ์เปิดมาด้วยลักษณะแบบ Stand-alone ใช้งานได้โดยไม่ต้องมีคอมพิวเตอร์ มาพร้อมกับคอนโทรลเลอร์รูปร่างรีโมท และสเปกของตัว VR ที่ค่อนข้างจะไว้ใจได้ในปี 2020 ดังนี้
- จอภาพระดับ 4K 75hz
- Snapdragon 835
- Ram 4GB
- Rom 64GB (ใส่ SD Card ได้ 256GB)
- แบต 4200 mAh เล่นได้ประมาณ 3 ชั่วโมง
- น้ำหนัก 276 กรัม
ตัวสเปกเรียกได้ว่าน่าสนใจอย่างมาก ในฐานะ VR แบบ Stand-alone เนื่องจาก CPU ที่ให้มา เรียกได้ว่าเป็นอดีตตัวท็อปของวงการสมาร์ทโฟน ทำให้หายห่วงในเรื่องของการประมวลผล เมื่อรวมกับจอภาพระดับ 4K 75hz เนียนตาเข้าไป AIS VR ตัวนี้จึงน่าสนใจมาก ในเรทราคาประมาณไม่เกิน 15,000 บาท
จุดเด่นอีกอย่างที่เรียกได้ว่า เด่นมาก ๆ คือเรื่องของน้ำหนัก ปกติคนที่เล่น VR แบบ Stand-alone มักจะเจอปัญหาในเรื่องน้ำหนัก ที่มักหนักส่วนหน้าจนทำให้คอเคล็ดกันไปเป็นแถบ ๆ แต่สำหรับ AIS VR เขาย้ายแบตเตอรี่ไปไว้ข้างหลังหัว เพื่อสร้างความสมดุลของน้ำหนัก ส่งผลให้ VR ตัวนี้ดูใส่ง่าย ไม่หนักคอเหมือนรุ่นอื่น ๆ
จัดเต็มคอนเทนต์โดย AIS
*หมายเหตุ ภาพนี้เกิดจากระบบ Cast อุปกรณ์ AIS VR 4K ขึ้นจอทีวี โดยจะเห็นเป็น 2 จอตามลักษณะดวงตาของผู้สวมใส่ แต่ผู้สวมใส่จะมองเห็นเป็นภาพสามมิติเต็มจอ เพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมกับผู้สวมใส่ด้วย
มาถึงการเริ่มต้นเล่นจริงบ้าง ในช่วงแรก ผู้เขียนทดสอบเจ้า VR ตัวนี้ด้วยเกมสุดฮิตอย่าง Angry Bird ซึ่งต้องบอกเลยว่า ได้อารมณ์การเล่นในอีกรูปแบบ เพราะปกติแล้วเราอาจจะมองเห็นมุมยิงได้เพียงมุมเดียว ในลักษณะแบบสองมิติ แต่การใช้ VR เล่นเกมนี้ เราสามารถมองได้หลายมุมมองมาก ๆ จนอาจหามุมยิงแปลก ๆ เพื่อทำคะแนนระดับสูงได้
ต่อมาผู้เขียนก็ทดสอบกับหลาย ๆ เกม พบว่า VR ตัวนี้เล่นได้สนุก และรองรับเกมหลาย ๆ แนว ไม่ว่าจะเป็น Action, Puzzle หรือแม่กระทั่งเกมแบบ Music ก็มีให้เล่นกันแบบเพลิน ๆ ถ้ามีติดบ้านน่าจะไม่เป็นอันกินอันนอน ใส่เจ้าแว่นนี้ไว้ตลอดเวลา (ฮา)
*หมายเหตุ ภาพนี้เกิดจากระบบ Cast อุปกรณ์ AIS VR 4K ขึ้นจอทีวี โดยจะเห็นเป็น 2 จอตามลักษณะดวงตาของผู้สวมใส่ แต่ผู้สวมใส่จะมองเห็นเป็นภาพสามมิติเต็มจอ เพื่อให้ผู้ชมได้มีส่วนร่วมกับผู้สวมใส่ด้วย
นอกจากเกมแล้ว ตัว AIS VR ยังมีฟีเจอร์เด่น ๆ อยู่สองลักษณะ และเป็นคอนเทนต์ที่มีเฉพาะของเครื่องนี้เท่านั้น คือ Star Dating ที่เปิดโอกาสให้คุณเดทกับคนดังผ่านแว่น ที่เด็ด ๆ ก็คงจะเป็น ‘เป๊ก ผลิตโชค’ บิวกิ้น พีพี และสกาย ซึ่งแต่ละคนนี่คือ ดารานักร้องสุดฮอทในปีสองปีนี้กันทั้งนั้น สาว ๆ น่าจะชื่นชอบได้ไม่ยาก เพราะขนาดผู้เขียนเป็นผู้ชาย ยังแอบละลายกับพี่เป๊กเลย
ส่วนอีกฟีเจอร์หนึ่งก็เป็นฟีเจอร์เทพ ๆ ที่เหมาะสำหรับช่วงนี้อย่างมาก เพราะมันคือ Travel ที่เปิดโอกาสให้คุณเที่ยวผ่านแว่นแบบ 360 องศา หมุนไปไหนก็ได้เจอบรรยากาศจริง ๆ ตอนเล่นเราแนะนำให้ถือไปเล่นที่สวนหลังบ้าน สูดกลิ่นดินให้เต็มปอด รับประกันความสดชื่น
ถัดจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่างเช่นการดูภาพยนตร์ในโรงแบบเสมือนจริง การดูวิดีโอผ่านแพลตฟอร์ม การสาธิตโค้ชออกกำลังกายเสมือนจริง และอื่น ๆ อีกมากมายที่รอให้คุณสัมผัส
อุปกรณ์ VR สำหรับคุณ
AIS VR 4K ถือเป็นอุปกรณ์ VR อีกตัวหนึ่งที่น่าสนใจมากในยุคนี้ เพราะด้วยสเปกที่ดี แรง เหมาะสมกับราคา แถมมีคอนเทนต์ต่าง ๆ ให้ใช้งานอย่างมากมาย รองรับเกมกว่าหนึ่งร้อยแบบ (และจะรองรับเพิ่มอีกในภายหลัง) มี Exclusive Contents ให้เลือกใช้งานมากมาย เหมาะมากสำหรับการกักตัวอยู่บ้าน ในช่วงเวลาเช่นนี้
หากใครสนใจสั่งซื้อ AIS VR สามารถดูข้อมูลเกี่ยวกับแพ็กเกจ หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
