BY Aisoon Srikum
18 Aug 21 6:22 pm

รีวิว NARAKA: Bladepoint Battle Royale กำลังภายในมาแรงที่น่าจับตามองในระยะยาว

99 Views

หลังจากสร้างกระแสกลายเป็นเกมยอดนิยมไปในช่วงเปิดให้ทดสอบเล่นเมื่อหลายเดือนก่อน มาวันนี้ NARAKA: Bladepoint กลับมาพร้อมตัวเกมเวอร์ชั่นเต็ม ที่มาแรงไม่แพ้กันและยังทำยอดผู้เล่นใกล้ทะลุ 1 แสนคนพร้อมกันเหมือนตอนทดสอบได้อีกด้วย ทั้งที่มันเป็นเกมแบบเสียเงินซื้อ แต่เพราะอะไรมันถึงได้ยอดนิยมจนคนยอมจ่ายเงินซื้อมาเล่นกัน หาคำตอบกันได้ในรีวิว NARAKA: Bladepoint ในเวอร์ชั่นเกมเต็ม

Story

แม้จะเป็นเกม Battle Royale แต่ตัวเกมก็เลือกที่จะเล่าที่มาที่ไป และเนื้อเรื่องของเกมผ่านทางช่วงช่วง Intro หรือฉากเปิดตัวของเกม เมื่อเราเข้าเกมไปในครั้งแรก และหากใครพลาดกด Skip ข้ามไป ก็สามารถย้อนกลับมาดูอีกครั้งได้ทุกเมื่อ สำหรับเนื้อเรื่องของเกมเต็มก็ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง เรื่องราวของหมู่เกาะปริศนาที่ชื่อว่า Isle of Morus สถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ประลองสุดเดือดของเหล่าเทพเจ้าโบราณ และมีเทพหลายองค์ได้ตายลงที่นี่ เลยทำให้มันกลายเป็นสถานที่ต้องสาปและอันตรายเป็นอย่างมาก

รวมไปถึงสิ่งของวิเศษในตำนานอย่างดอกไม้อมตะ (Immortal Flower) และหน้ากากแห่งความเป็นอมตะ (Mask of Immorality) ที่กลายเป็นสองสิ่งของ ดึงดูดเหล่าจอมยุทธ์เข้ามาประลองกันในที่แห่งนี้ และนี่คือเนื้อเรื่องทั้งหมดเกี่ยวกับฉากหลังของตัวเกมอย่าง Isle of Morus และนอกเหนือจากนี้ ส่วนของเนื้อเรื่องเกมจะถูกเล่าผ่านมุมมองและสายตาของตัวละครทั้ง 7 ตัวในเกมแทน แถมไม่ได้เล่าเป็นคัทซีนอะไรเลย เพราะจะเล่าผ่านตัวหนังสือ คล้าย ๆ กับการอ่านนิยาย และการปลดล็อคเนื้อเรื่องของตัวละครแต่ละตัว ผู้เล่นก็จะต้องเล่นภารกิจเพื่อปลดล็อคด้วย ราวกับว่า ถ้าอยากรู้เรื่องราวของตัวละครเหล่านี้ คุณก็ต้องเล่นให้มันเชี่ยวชาญเพื่อสร้างความสนิทสนมก่อนนั่นเอง

กล่าวได้ว่าเนื้อเรื่องอาจเป็นส่วนที่น่าสนใจน้อยที่สุดของเกมนี้แล้ว แต่ใครที่อยากอินกับตัวละครที่เราบังคับและควบคุมได้ การไปนั่งอ่านเนื้อหาก็อาจจะช่วยเติมเต็มอรรถรสให้กับการเล่นได้ไม่มากก็น้อย เกมนี้ยังมีตัวละครที่ข้ามมาจาก Onmyoji อย่าง Yoto Hime ซึ่งทางเกมระบุไว้ชัดเจนว่า เป็นเนื้อเรื่องแยกเดี่ยวออกมา ไม่ได้อิงกับเกมหลัก ส่วนตัวละครอื่น ๆ นั้น ต่างมีที่มาที่ไปที่น่าสนใจไม่แพ้กัน และคาดว่าในอนาคต อาจจะมีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจกว่านี้ เพราะตอนเกมปล่อยก็มีอนิเมะชั่นขนาดสั้นของตัวละคร Viper Ning ออกมาให้ได้ชมกันคร่าว ๆ แล้ว

Presentation

ฉากหลังที่ถูกนำเสนอในเกมเนี้คือหมู่เกาะแห่งปัญญาหรือ Isle of Morus การออกแบบแผนที่เพื่อใช้กับเกม Battle Royale น่าจะเป็นอะไรที่ยากพอสมควร โดยเฉพาะกับเกมที่เน้นการต่อสู้ระยะประชิด แต่เกมนี้ยังคงจัดเต็มในด้านของรายละเอียดในแผนที่ แม้มันจะสลับซับซ้อนแค่ไหน แต่เขาตัดปัญหานี้ทิ้งไปหมดด้วยการออกแบบเกมเพลย์ซึ่งจะเล่าในหัวข้อถัดไป แต่ตลอดการเดินทางในแผนที่ เราจะพบเจอทั้งหมู่บ้านขนาดเล็ก ใหญ่ พื้นที่ที่เหมือนกับพระราชวัง หอคอยสูง เขตทะเลทราย และอื่น ๆ อีกมาก ที่น่าเสียดายไปหน่อยสำหรับเกมนี้คือ สถานที่แต่ละแห่งนั้น ไม่ค่อยจะมีความแตกต่างหรือผลกระทบใด ๆ นัก แต่บางจุดก็ออกแบบมาดีมาก จนการต่อสู้สนุกขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

สิ่งที่ต้องชื่นชมคือดีไซน์ตัวละครที่สมกับเป็นเกมจากประเทศจีน ใครที่ชื่นชอบหน้าตา ทรงผม ความสวย ความหล่อ บอกเลยว่าทั้ง 7 ตัวละครนี้ ดึงดูดผู้คนได้ทั้งหมดอย่างอยู่หมัด โดยเฉพาะตัวละครสาว ๆ ที่ยังไงก็ได้ใจหนุ่ม ๆ แทบจะทุกคนอยู่แล้ว และมันยังมาพร้อมการออกแบบสกินที่ชวนเอาเกมเมอร์สายแฟชั่นต้องกระเป๋าสั่นตลอด เพราะความแตกต่างของการมี กับไม่มีสกินเกมนี้ แตกต่างกันอย่างชัดเจนราวกับแบรนด์เสื้อผ้าตลาด 199 กับแบรนด์เนมสุดหรูระดับโลกยังไงยังงั้น แม้ว่าใส่แล้วมันจะไม่ได้บวกค่าสถานะให้ตีแรงขึ้นแต่อย่างใด แต่เชื่อว่าผู้เล่นหลายคนหลังเห็นสกินทั้งตัวละคร ทั้งอาวุธก็ต้องมีบ้างที่จะกระเป๋าเงินสั่น เติมเงินซื้อให้มันรู้แล้วรู้รอด

ในส่วนของโหมดเกมการเล่นที่เกมมีให้นั้น เกมเป็นเกม Battle Royale ในโหมดปกติอย่าง The Herald’s Trial ก็จะเป็นการแท็กทีม 3 คน หรือลุยคนเดียว เพื่อต่อสู้กับทีมอื่นหรือผู้เล่นอื่น อยู่รอดเป็นอันดับ 1 ให้ได้ แต่ใครที่เบื่อกับการวิ่งหาของ อยากซัดกันมั่ว ๆ มัน ๆ เกมนี้มีอีกโหมดอย่าง Bloodbath ที่จะปล่อยให้ผู้เล่นสู้กันไปเรื่อย ๆ คล้ายโหมด Deathmatch ใครที่ฆ่าได้ก็จะได้คะแนน สะสมไปเรื่อย ๆ จนจบเกม ผู้ที่คะแนนสูงที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะไป และที่เจ๋งมาก ๆ คือห้อง Free Training ที่มีทุกอย่างให้เราทดสอบ ทั้งชุด อาวุธ Soulsjade เครื่องแต่งกาย อาวุธ และอื่น ๆ ให้เราได้ทดลองใช้ ทดลองเล่นก่อนลงสนามจริงกันอย่างเต็มที่ และระบบอื่น ๆ อย่างเช่น Battle Pass ที่ต้องเติมเงินแยก เพื่อซื้อเพิ่มอีกทีก็ยังมี แต่สามารถได้เงินคืนเมื่อเล่นเก็บระดับจนครบแล้วนั่นเอง

ภาพรวมคอนเทนต์ของ NARAKA: Bladepoint ถือว่าเยอะพอสมควรกับตัวเกมในราคา 499 บาท ใครที่ชอบเกม Battle Royale เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และชอบการต่อสู้ระยะประชิดแบบจอมยุทธ์ด้วยแล้วล่ะก็ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

Gameplay

ตามปกติแล้ว เกม Battle Royale ส่วนมากจะเป็นการต่อสู้กันด้วยอาวุธระยะไกลอย่างปืน แต่เราน่าจะได้เห็นหลายค่าย หลายทีมผู้พัฒนาที่พยายามสร้างเกม Battle Royale ระยะประชิดกันมามากแล้ว แต่ก็มีไม่กี่เกมที่ประสบความสำเร็จ เนื่องด้วยปัญหาหลากหลายประการ สิ่งที่ผู้เขียนคิดว่าเป็นปัญหาจริง ๆ คือเรื่องของระบบเซิร์ฟเวอร์และค่า Ping ที่ต้องทำออกมาให้ดี และลื่นไหลมาก เพราะหากเน้นสู้ระยะประชิด แต่เกิดปัญหาแลค ดีเลย์ รับรองว่าผู้เล่นจะไม่สนุกกับมันเอาซะเลย แต่ NARAKA Bladepoint สามารถจัดการปัญหาตรงนี้ได้ดี และทำออกมาได้ดีด้วย

ในเกมนี้จะแบ่งอาวุธอาวุธระยะไกลและอาวุธระยะประชิด แล้วแต่ผู้เล่นจะเลือกใช้งานมีทั้งดาบยาว ดาบใหญ่ ดาบคาตานะ หรืออาวุธใหม่ที่เพิ่งเข้ามาไม่นานอย่างหอกและมีดสั้น ในขณะที่อาวุธระยะไกลก็มีทั้งปืนยาว ปืนสั้น หน้าไม้ ปืนใหญ่ ปืนไฟ โดยอาวุธแต่ละประเภท สามารถติดตั้งหินหยกหรือ Soulsjade แบบพิเศษที่จะทำให้รูปแบบการโจมตีเปลี่ยนแปลงไปอีกแบบหนึ่งได้ด้วย

ไอเทมในเกมจะถูกแบ่งระดับออกอย่างชัดเจน เหมือนกับเกม Battle Royale เกมอื่นทั่วไป ใครที่เคยเล่น Apex Legends มาก่อน จะเข้าใจได้ไม่ยากนั่นคือไล่ไปตั้งแต่สีขาว > ฟ้า > ม่วง > ทอง ซึ่งเราสามารถหาได้จากหลุมไอเทมที่ทำหน้าที่เหมือนกล่อง Loot Box ในเกมอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ระหว่างการฟาร์ม ยังมี Dark Tides Coins ที่เราสามารถนำเงินส่วนนี้ไปซื้อไอเทมได้ตามจุดเกิดของร้านค้าภายในเกมที่มีให้เลือกซื้อตั้งแต่ยา อาวุธ และชุดเกราะระดับสูงโดยไม่ต้องไปเหนื่อยหา และการฆ่าผู้เล่นด้วยกันเองได้ หากคนคนนั้นมีเงินติดตัวไว้เยอะ ก็ถือว่าร่ำรวยใน 1 ศพเลยทีเดียว

ในช่วงการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบนี้ ตัวละครจะมีทั้งหมด 7 ตัวด้วยกัน ซึ่งแต่ละตัวเองก็จะมีสกิลให้ใช้งาน 2 แบบ คือแบบกดใช้ทั่วไปและสกิลท่าไม้ตาย ให้นึกภาพเกมนี้เป็นเกม Apex Legends ฉบับจอมยุทธ์ก็ยังได้ ด้วยการออกแบบสกิลแบบนี้ ทำให้ตัวละครแต่ละตัวมีช่องโหว่เมื่อนำไปเล่นคนเดียว และอาจจะมีการได้เปรียบเสียเปรียบกันได้ ดังนั้นเกมนี้เล่นทีม 3 คนอาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด ส่วนใครอยากลองของจริงก็ลองได้กับโหมด Solo

แม้ว่าเกมนี้จะมีทั้งอาวุธระยะไกลและอาวุธระยะประชิด แต่ใครที่คิดจะเล่นอาวุธระยะไกลเกมนี้อาจจะต้องวัดทักษะและความใจเย็นเสียหน่อย เพราะ Movement ของเหล่าจอมยุทธ์ในเกมนี้ค่อนข้างโลดโผนบวกกับการใช้ Grappling Hook ได้ การจะยิงอาวุธระยะไกลให้โดนนั้นแม้จะไม่ยากเท่าไร แต่จะเอาให้โดนแบบเน้น ๆ ฆ่าให้ตายล่ะก็ ยากพอสมควรเลยทีเดียว

และหากว่าในเกมอื่นมีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมให้กับปืน เกมนี้ก็คือการฝังหยกหรือ Soulsjade กับตัวละครเพื่อเพิ่มค่าสถานะโดยรวมนั่นเอง หยกภายในเกมนี้จะมีทั้งหมด 4 ประเภทคือ Stat Soulsjade ใช้สำหรับเพิ่มสถานะตัวละครทั่วไป / Special Soulsjade ใช้เพิ่มมูฟเมนท์ การเคลื่อนไหว การใช้ไอเทมของตัวละคร / Melee Soulsjade เพิ่มความสามารถและการโจมตีแบบใหม่ให้อาวุธระยะประชิด / Range Soulsjade เพิ่มความสามารถและการโจมตีรูปแบบใหม่ให้อาวุธระยะไกล

Soulsjade นี้แบ่งระดับเหมือนกับไอเทมชิ้นอื่นคือไล่ตั้งแต่ ขาว > ฟ้า > ม่วง > ทอง และเราหยกแต่ละชิ้นจะบ่งบอกชัดเจนว่าส่งเสริมค่าสถานะอะไรบ้าง เบื้องต้นเราสามารถติดตั้ง Soulsjade ได้ 4 ชิ้น แต่หากระเป๋าปลดล็อคเพิ่มเป็น 6 ชิ้นได้ ยิ่ง Soulsjade ระดับสูง ยิ่งเพิ่มสเตตัสที่สูงและกระบวนท่าใหม่ ๆ ให้อาวุธได้ แต่ยิ่งเกรดดียิ่งหายาก ดังนั้นเกมนี้เรื่องโชคจึงมีผลอยู่บ้าง หากเจออาวุธดีและ Soulsjade ดี เราก็จะแกร่งเกินหน้าเกินตาคนอื่นได้

และนี่ไม่ใช่แค่การเล่นแบบคลิกฟันมั่ว ๆ เพราะการโจมตีภายในเกมนี้ จะมีทั้งหมด 3 แบบที่สามารถชนะทาง แพ้ทางกันได้ทั้งหมด การดวลเดี่ยวกับผู้เล่นคนอื่น จึงถือเป็นการประลองทักษะยุทธ์โดยตรง อาวุธแต่ละชิ้นจะมี Moveset ที่แตกต่างกันออกไป ผสมผสานเข้ากับการโจมตีทั้งแบบปกติ แบบ Focus Strike และแบบ Counterstrike ทำให้เกมนี้ถือเเป็นเกม Battle Royale ที่วัดใจผู้เล่นของจริง แต่ฟีดแบคของผู้เล่นในตอนนี้คือ ในช่วงวงหลัง ๆ สกิลท่าไม้ตายของแต่ละตัวละครนั้น กลายเป็นจุดชี้ชะตาเกมการเล่นรอบนั้น ๆ จนมีกระแสให้มีการปรับปรุงอยู่บ้าง

NARAKA: Bladepoint จึงกลายเป็นอีกเกม Battle Royale ที่สนุกมาก แต่ปัญหาต่อจากนี้คือส่วนของคอนเทนต์ในระยะยาว เพราะตอนนี้ First Impression กับผู้เล่นนั้น สำเร็จไปเรียบร้อยแล้ว ต้องรอดูว่าอนาคตต่อจากนี้ ทีมผู้พัฒนาจะงัดไม้เด็ดมารักษาฐานผู้เล่นในเกมของตัวเองได้ยังไง

Performance

เป็นอีกประเด็นที่แฟนเกมต่างพากันถกเถียงอยู่ในตอนนี้ถึงประสิทธิภาพของตัวเกม ที่บางคนใช้สเปคคอมพิวเตอร์แรงเกินขีดจำกัดที่ระบบต้องการ แต่ก็ยังเกิดปัญหาแลค หรือเกมรันได้ไม่ดีพอให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งส่วนตัวผู้เขียนใช้การ์ดจอ GTX 1660 Ti ในการเล่นก็ไม่พบปัญหาใด ๆ โดยตัวเกม Setting คุณภาพเกมแบบ All Medium ก็สามารถเล่นได้ที่เฟรมเรท 70-100 ขึ้นไป แต่ก็จะมีดรอปลงมาบ้างในช่วงที่เอฟเฟคท์ตัวละครถูกใช้งานพร้อม ๆ กันบนหน้าจอ ในขณะที่หลาย ๆ คนที่มีสเปคสูงกว่านี้แต่กลับมีปัญหา คาดว่าจะเป็นปัญหาเฉพาะทางที่ต้องรอทีมงานแก้ไข เพราะตอนนี้เกมลงให้แค่เวอร์ชั่น PC เท่านั้น จึงมีปัญหาที่หลากหลายรูปแบบตามมาให้ได้เห็นกัน

ส่วนของเซิร์ฟเวอร์นั้น ทางทีมงานทำการบ้านมาเป็นอย่างดี เพราะมีการแยกโซนประเทศชัดเจน ในบ้านเราก็มีเซิร์ฟเวอร์ SEA ให้ได้เล่นกันอย่างลื่นไหล แม้จะเจอชาวต่างชาติอย่างเวียตนาม หรือจีนโผล่มาให้เห็นประจำ แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรในการเล่นร่วมกัน และตัวเกมไม่ค่อยมีปัญหาการค้างสักเท่าไร

ส่วนของ Setting และการตั้งค่าก็ทำออกมาได้ละเอียดมาก โดยเฉพาะในเรื่องของเสียง

ท้ายที่สุดกับปัญหาแฮคเกอร์หรือโปร โชคดีที่แม้เกมจะได้รับความนิยมมากขนาดนี้ แต่ดูเหมือนเหล่า Cheater จะยังไม่บุกเกมนี้กัน นี่คือช่วงที่เล่นสนุกมาก ไม่เหล่าคนโกง (จากที่ผมเล่นมาคือไม่เจอ) และในเกมยังแอบใส่ระบบเล็ก ๆ ไว้นั่นคือสกินระดับสูงของอาวุธหอก ที่ถ้าอยากได้ ต้องรีพอร์ทตัวคนโกงให้ทีมงานรับทราบ เป็นการยืมมือผู้เล่นช่วยกันสอดส่องไปอีกแรง แต่มันจะรักษาความสนุกแบบนี้ไว้ได้อีกนานแค่ไหน

 

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top