“เวลาเป็นสิ่งมีค่า” คำนี้ทุกคนอาจจะคุ้นเคยกันดี เพราะมันคือเรื่องจริงของชีวิตจริง แต่ถ้าเวลาเป็นสิ่งมีค่าในเกมด้วยแล้วล่ะก็ ถือว่าน่าสนใจ แต่มันไม่ใช่เกมที่มีสัจธรรมชีวิตลึกล้ำอะไรขนาดนั้น เพราะ Neon White ผลงานเกม FPS ผสมกับ Speedrunning ตัวนี้ ได้นำเสนอประสบการณ์การเล่นเกมอันหลากหลาย ทั้งรวดเร็ว ระทึกใจ และเนื้อหาแบบการ์ตูนคอเมดี้ วันนี้เราขอนำเสนออีกหนึ่งเกมอินดี้ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในทุก ๆ ด้าน Neon White
Story
ผู้เล่นจะรับบทเป็นตัวละครหนุ่มไร้ชื่อที่แตงตัวด้วยลุคสีขาวโพลน เขาตื่นขึ้นมาบนโลกแห่งหนึ่งที่เรียกว่าสวรรค์ แต่เขากลับถูกพระเจ้าตัดสินว่าเป็นผู้ที่เต็มไปด้วยบาป และไม่ได้รับการให้อภัยโทษจากพระเจ้า แต่โชคก็เข้าข้างเขา เพราะช่วงเวลาที่เขาตื่นขึ้นมาบนสวรรค์ คือช่วงเวลา “10 วันก่อนการพิพากษา” ซึ่งจะมีการแข่งขันประจำปีบนสรวงสวรรค์ที่จะให้เหล่าคนบาปได้มาแข่งขันกันกำจัดปีศาจที่บุกเข้ามาเป็นประจำ และหากใครปราบปีศาจได้จำนวนมากที่สุด ก็จะได้รับการให้อภัยโทษพร้อมกับได้อยู่บนสวรรค์แห่งนี้ และมันไม่ใช่แค่การแข่งขันธรรมดา ผู้เข้าแข่งขันทุกคนจะต้องสวมใส่หน้ากากปีศาจร้าย ที่ติดระเบิดเอาไว้ด้วย หากพยายามจะถอดออก มันก็จะระเบิดและถูกทำลายดวงวิญญาณทันที
แน่นอนว่ากลุ่มคนบาปไม่ได้มีแค่ตัวเอก (White) แต่ยังมีกลุ่มคนที่ White คุ้นหน้าคุ้นตา แต่จำเป็นจะต้องเรียกชื่อกันด้วยนามแฝงที่เป็นสีของคนคนนั้นเท่านั้น ซึ่งตัวละครแต่ละตัว ล้วนสูญเสียความทรงจำ แต่ยังคงจำกันได้ ว่าเคยรู้จักกันมาก่อน จึงเกิดบทสนทนาและความสัมพันธ์แปลก ๆ ในการดำเนินเรื่องราว จนเหมือนกับเรากำลังดูการ์ตูนวัยรุ่นอยู่สักเรื่องหนึ่ง และแม้ว่าเนื้อเรื่องจะดูน่าสนใจ แต่ด้วยการเล่าเรื่องของมันที่เป็นฉากนิ่ง มาพร้อมคำบรรยาย เหมือนกับเกม JRPG ใครที่อยากเสพเนื้อเรื่องก็จะต้องเชี่ยวชาญภาษาอังกฤษในระดับหนึ่ง หรือใครจะเล่นไป Translate ไป ก็ทำได้ เพราะเกมจะไปสู่บทสนทนาต่อไป ก็ต่อเมื่อเราเป็นคนกดเองเท่านั้น หรือใครจะ Fast Forward เร่งความเร็วไปเลยก็ได้เช่นกัน แต่ทางที่ดี เราแนะนำว่าเสพเนื้อเรื่องเกมนี้ด้วยจะดีกว่า เพราะมันถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของเกมนี้เลยก็ว่าได้
Presentation
สิ่งที่โดดเด่นสะดุดตาไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ของ Neon White คือเรื่องของ Presentation หากใครที่เห็นตัวอย่าง และเห็นหน้าปกเกม จะรู้ได้ทันทีว่า มันมีความเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นสูงมาก ซึ่งในเกมจริงก็เป็นแบบนั้น โดยมีการตัดสลับกันระหว่างฉากคัทซีนที่เป็นตัวละครยืนคุยกันแบบหนังสือการ์ตูน กับฉากแบบ 3D ที่เราจะได้เห็นการเคลื่อนไหวบ้าง แต่อย่างแรกจะเยอะกว่าพอสมควร
แต่ส่วนที่น่าชื่นชมคือเรื่องของเสียงพากย์ของแต่ละตัวละคร ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก ทำให้เราสามารถคาดเดาบุคลิกและนิสัย รวมไปถึงตัวตนของตัวละครตัวนั้น ๆ ได้ แม้จะได้ยินแค่เสียงพากย์และไม่เห็นฉากเคลื่อนไหวแบบแอนิเมชั่นเลย แต่เพราะเสียงพากย์ทำให้เราสามารถเข้าถึงบุคลิกของตัวละครตัวนั้นได้เป็นอย่างดี จุดแข็งอีกอย่างคือ เรื่องของฉาก เพราะเกมนี้ เป็นเกมการเล่นแบบจบเป็นฉาก ๆ ไป ดังนั้นแต่ละฉากจำเป็นต้องผ่านการดีไซน์มาอย่างพิถีพิถัน ทั้งการเล่นให้สนุก การแข่งขันกับเวลา การคอมโบที่ต้องลงตัวกัน (ส่วนนี้จะพูดต่อในส่วนของเกมเพลย์) แต่กับเกมที่ต้องใช้ความสนุกในการออกแบบฉาก และทำได้ดีเสมอต้นเสมอปลาย เกมนี้ถือว่าทำได้ยอดเยี่ยมมาก
ถ้าจะมีข้อเสียนิดหน่อยก็คือ ระบบของการ Skip Cutscene ของเกมนี้ ที่น่าจะทำได้ดีกว่านี้ เพราะบทสนทนาของตัวละครในเกมนี้ค่อนข้างเยอะ บางคนอยากจะเร่งให้มันไปเร็ว ๆ และอ่านรายละเอียดสำคัญ ๆ ไปด้วย แต่เกมนี้ เมื่อเราใช้ฟีเจอร์ Fast Forward ด้วยการกด F มันคือการเร่งสปีดสูงสุด จนแทบไม่ต่างอะไรกับการกด Skip ใครที่อยากเก็บตก รายละเอียด เนื้อเรื่องก็คงต้องยอมดูคัทซีนกันไปยาว ๆ ไม่ก็ข้ามไปเลย
นอกเหนือไปจากนี้ ส่วนของการออกแบบฉาก กราฟิก ความสวยงาม และดนตรีประกอบ ล้วนจัดอยู่ในระดับที่คุ้มค่ากับการเป็นเกมอินดี้ โดยเฉพาะเพลงประกอบ ที่ทำออกมาได้ส่งเสริมกับเกมการเล่นในรูปแบบ Fast-Paced มาก ๆ ในแทบจะทุกฉาก หากใครอยากเก็บสะสมเพลงเพราะ ๆ แนะนำว่าตอนซื้อเกม ให้กดตัว Soundtrack Edition เพื่อเอาไฟล์เพลงเพราะ ๆ มานั่งฟังด้วยเลยจะคุ้มค่ามาก ๆ
สำหรับตัวเกมนั้นเป็นเกมแบบ Single Player ที่เน้นการเล่าเรื่องเท่านั้น ไม่มีโหมดออนไลน์ ยกเว้นแต่จะส่งคะแนนของเราขึ้นไปบน Scoreboard ระดับโลกซึ่งน่าจะต้องใช้เวลาฝึกฝนกันนาน ก็ขึ้นอยู่กับผู้เล่น แต่เกมนี้จะไม่มีโหมดออนไลน์ หรือ Co-op ใด ๆ ให้เล่น ใครสายเพื่อนเยอะ มีเพื่อนเล่นด้วยก็อาจจะต้องคิดให้ดีก่อนซื้อ
Gameplay
เกมเพลย์ของ Neon White นั้น จะโฟกัสไปที่เกมการเล่นแบบ Speedrunning FPS แบบตะลุยด่านแพลตฟอร์ม มันไม่ใช่เกมแอ็คชั่น บู๊แหลก ฆ่าล้างบางสัตว์ประหลาด แต่มันคือการแข่งขันความเร็ว ในการเคลียร์แพลตฟอร์มฉากนั้น ๆ โดยใช้เวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ และต้องบริหารจัดการการ์ดอาวุธที่เรามีอยู่ โดยใน 1 ฉากจะมี Demon หรือเหล่าปีศาจที่อยู่ภายในฉาก และเราต้องกำจัดมันให้หมดไปพร้อม ๆ กับการทำเวลาให้รวดเร็วที่สุดไปด้วย
อาวุธในเกมนี้จะมาในรูปแบบของ Soul Card โดยเบื้องต้นเลยคือ Katana Sword หรือดาบคาตานะ ก่อนที่เราจะได้การ์ดใบอื่น ๆ มา แต่เราไม่สามารถเลือกใช้เองได้ ในแต่ละด่านมันจะสุ่มการ์ดอาวุธมาให้เราใช้งาน โดยการ์ดแต่ละใบ นอกจากจะใช้แทนอาวุธปืนแล้ว ยังสามารถคลิกขวา เพื่อใช้ความสามารถพิเศษของการ์ดใบนั้น ๆ ได้ แต่การ์ดอาวุธใบนั้นจะหายไปเลย ทำให้ก่อนใช้ เราต้องคิดและวางแผนให้ดี เพราะถ้าไปต่อไม่ได้ เผลอใช้การ์ดใบนั้นไปแล้ว ก็ต้องรีเซ็ทฉาก เล่นใหม่อย่างเดียวเท่านั้น
การจะปลดล็อคฉากใหม่ ๆ และเนื้อเรื่องใหม่ ๆ ได้นั้น จะขึ้นอยู่กับระบบที่ชื่อว่า Neon Rank โดยมันจะเริ่มแบบนับถอยหลัง เริ่มตั้งแต่ระดับ 99 ลดต่ำลงไปเรื่อย ๆ วิธีการเพิ่ม Neon Rank ก็คือ เล่นฉากนั้น ๆ ให้ได้อย่างน้อยในระดับ Gold Medal หรือสีทองขึ้นไป เราก็จะได้รับการเลื่อนระดับ Neon Rank สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วในการเล่น เพราะไม่อย่างนั้นเราก็ไม่สามารถปลดล็อคเนื้อเรื่องใหม่ ๆ ได้ แต่เหนือกว่าการปลดล็อคเนื้อเรื่องใหม่ ๆ คือการเล่นฉากนั้น ๆ ให้ได้ในระดับ Platinum ขึ้นไป โดยวิธีการได้ก็คือทำเวลาให้น้อยที่สุด หรือเอาง่าย ๆ คือผ่านด่านให้เร็วที่สุด ซึ่งในช่วงแรก รับรองเลยว่า เราจะเกิดคำถามว่า ฉากแบบนี้จะเล่นยังไงให้ทันในเวลาที่กำหนด ? และมันจะเป็นสาเหตุให้เราจะต้องเล่นด่านนั้นซ้ำไปซ้ำมา เพื่อแข่งขันกับตัวเอง ทำเวลาให้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น แม้เพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็เป็นสิ่งจำเป็น เกมนี้จึงทำให้เวลาเป็นสิ่งมีค่าอย่างแท้จริง เพราะบ่อยครั้งเองที่ตัวผู้เขียน ทำลายสถิติเดิมไม่ได้ โดยมีส่วนต่างเวลาที่ห่างกัน ไม่ถึง 1 วินาทีก็เกิดขึ้นบ่อย ๆ กับเกมนี้
มันเลยทำให้ Replayable ในการเล่นซ้ำของเกมนี้มีสูงมาก ๆ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบที่จะท้าทายตัวเองเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว เพราะเกมนี้จะมีทั้ง Scoreboard ให้เราเทียบกับตัวเอง หรือเพื่อนในระบบ หรือ Scoreboard ระดับโลก (ต้องปลดล็อค Reach Insight หรือเล่นให้ได้เหรียญ Platinum เยอะ ๆ ก่อน) นี่คือเกมที่เกิดมาเพื่อท้าทายฝีมือและความเร็วของตัวเองอย่างแท้จริง
แต่ในขณะเดียวกัน เกมยังแฝงความสนุกในการเล่นแบบ Action Platformer และการ Management บริหารจัดการเข้ามาด้วย ศัตรูแต่ละประเภท เมื่อเรากำจัดแล้วจะดรอปการ์ดอาวุธออกมา โดยเราต้องมาดูว่า การ์ดแต่ละใบนี้ ควรใช้ในสถานการณ์ใด เช่นการ์ดปืนพก ถ้าหากเรากดใช้งานจะเป็นการกระโดดสูง หรือการ์ดปืนไรเฟิลที่กดใช้งานจะเป็นการ Dash ตรงไปด้านหน้า และยิ่งเราเล่นไปไกล ๆ ใน 1 ฉากก็จะยิ่งมีการ์ดให้เล่นกันหลายแบบในด่านเดียว ท้าทายการบริหารจัดการและแข่งขันความเร็วควบคู่กันได้อย่างลงตัว
ฉากต่าง ๆ ภายในเกมจะเป็นการเข้าไปเล่นยังจุดต่าง ๆ และเราสามารถย้อนกลับมาที่ Hub หรือศูนย์กลางของเราได้ตลอดเวลา จาก Hub เราสามารถไปที่บาร์ เพื่อพูดคุยกับตัวละครอื่น เก็บสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ และเราสามารถเพิ่มความสนิทสนมกับตัวละครอื่น ๆ ในเกมได้ด้วย แต่มันก็ใส่มาพอเป็นพิธี ไม่ใช่ระบบที่เยอะหรือลึกล้ำอะไร แต่ก็ถือว่าทำให้เกมมีระบบและลูกเล่นเพิ่มเติม มากกว่าการแข่งขันความเร็วในเสี้ยววินาที
แต่แม้ดีไซน์เกมเพลย์จะสนุก และครีเอทีฟอย่างมาก แต่ข้อเสียของมันก็คือ เกมนี้จะไม่เหมาะกับคนที่ชอบเล่นเกมแบบสบาย ๆ เพราะอย่างน้อย การจะปลดล็อคฉากใหม่ ๆ ก็ต้องเล่นให้ได้ระดับ Gold Medal ขึ้นไป ซึ่งไม่สามารถจะทำได้ตั้งแต่ครั้งแรก ผู้เล่นต้องผ่านการเรียนรู้ การเล่นพลาด และรู้จุด เหลี่ยม มุม ที่สามารถเร่งความเร็วในการผ่านด่านของเราได้แม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวก็ยังดี ใครที่ไม่ชอบทดลองเล่นอะไรซ้ำ ๆ หลาย ๆ แบบ อาจจะเบื่อเกินกว่าจะเล่นให้จบได้ด้วยซ้ำไป แต่สำหรับผู้ที่ชื่นชอบท้าทายตัวเอง ชอบแข่งขันกับความเร็วเป็นชีวิตจิตใจแล้วล่ะก็ Neon White ถือว่าเป็นเกมที่จะช่วยกระตุ้นอะดรีนาลีนของคุณได้เป็นอย่างดี ถ้าไม่เบื่อไปเสียก่อน
Performance
หากเทียบกันในหมู่เกมอินดี้ด้วยกันแล้ว Neon White ถือว่ามีอะไรปรับแต่งค่อนข้างน้อยกว่าพอสมควร เช่นส่วนของ Graphic ที่สามารถปรับได้เพียงแค่ความละเอียดหน้าจอ Frame Rate Limit แสงเงา และ Anti-Aliasing เท่านั้น นอกนั้นก็ไม่มีให้ปรับแล้ว ใครที่อยากซื้อเกมนี้มาเล่นก็เช็คสเปคคอมพิวเตอร์เอาไว้หน่อยก็ดี เพราะแม้จะเป็นเกมอินดี้ไม่ค่อยกินสเปค แต่ถ้าสเปคไม่ผ่านจริง ๆ การจะปรับแต่งให้มันพอจะเล่นได้ก็ยากหน่อย เพราะเกมไม่ค่อยเอื้ออำนวยในการ Config Setting ต่าง ๆ มากนัก แถมบางหมวดอย่าง General ก็ปรับได้เพียงแค่ Field of View กับภาษาเท่านั้นด้วย ในเรื่องการตั้งค่านั้นถือว่าแก้ไขอะไรได้น้อยมาก ๆ
แต่โชคดีที่ตัวเกมเองก็ Optimized มาดีพอสมควร ด้วยความที่มันเป็นเกม Action FPS Platformer แถมยังต้องแข่งขันกับเวลาอย่างรวดเร็ว ชนิดวินาทีเดียวก็พลิกเกมได้แล้ว ถ้าเฟรมเรทตก หรือตัวเกมมีปัญหาขึ้นมา รับรองว่าเล่นไม่สนุกแน่นอน แต่ตลอดระยะเวลาการเล่น ตัวเกมแทบไม่มีปัญหาใด ๆ ในระหว่างการเล่นเลย และได้เฟรมเรทกับประสิทธิภาพที่ไหลลื่นตลอดเวลาการเล่น เรื่อง Optimized ยังไงก็หายห่วงได้
Neon White ถือเป็นอีกหนึ่งเกมอินดี้ ที่นำเสนอระบบการเล่นที่โดดเด่น และถือว่ามีความสร้างสรรค์ในการออกแบบเกมเพลย์สูงมาก หากคุณกำลังมองหาเกมอินดี้ราคาไม่แพง และน่าจะสนุกกับมันได้หลายชั่วโมงแล้วล่ะก็ เกมนี้ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากในสัปดาห์นี้เลย