BY France
7 Sep 21 6:51 pm

รู้จักกับแสงสีฟ้า อันตรายจากหน้าจอสู่ดวงตาเรา

66 Views

หลายคนคงเคยได้ยินเวลาที่เราไปซื้อแว่นสายตาหรือแว่นกรองแสงว่าสามารถป้องกันแสงสีฟ้าได้ หรือบนมือถือและแท็บเล็ตหลายๆยี่ห้อ ก็ยังมีฟีเจอร์ที่สามารถตัดแสงสีฟ้าได้ รวมไปถึงทีวีบางเครื่องก็มีฟีเจอร์นี้เช่นกัน ว่าแต่ การที่เราใช้งานคอมพิวเตอร์ในแต่ละวัน หรือจ้องหน้าจอมือถือเป็นเวลานานๆ จะมีแสงสีฟ้าเข้ามามากมั้ย  ตัวแสงสีฟ้ามีอันตรายขนาดไหน แล้วตัวมันเองเกิดจากอะไร วันนี้เราจะมาหาคำตอบกัน

แสงสีฟ้า คืออะไร

You can use screens at night – and sleep better – if you follow this tip | From the Grapevine

ถ้าจะให้เล่าเรื่องแสงสีฟ้า ต้องให้ทุกคนเข้าใจเรื่องของแสงที่มาจากดวงอาทิตย์ก่อน แสงที่มาจากดวงอาทิตย์คือแสง UV ซึ่งเกิดจากการรวมกันของสีรุ้ง กลายเป็นแสงสีขาวนั่นเอง ซึ่งแสงสีฟ้า ก็คือหนึ่งใน 3 สีที่เราสามารถมองเห็นได้และมีพลังงานสูงนั่นเอง โดยปกติแล้ว แสงที่เรามองเห็นได้จะอยู่ที่ช่วงความยาวคลื่นประมาณ 400-700 nm โดยแสงสีฟ้าอยู่ที่ช่วงประมาณ 380-480 nm นั่นเอง

แล้วบนหน้าจอคอมพิวเตอร์หรือมือถือมีแสงสีฟ้าด้วยเหรอ? จริงๆ แล้วแสงสีฟ้าไม่ได้เกิดจากแสงจากดวงอาทิตย์อย่างเดียว แต่ยังเกิดจากแสงของหลอดไฟ LED และหน้าจอต่างๆที่สามารถเปล่งแสงให้เราเห็นได้นั่นเอง ฉะนั้น ไม่ว่าจะกลางแจ้งหรือในร่ม เราก็หนีแสงสีฟ้าไม่พ้น ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังตัวให้มากเพื่อหลีกเลี่ยงแสงสีฟ้าที่อาจจะมาทำร้ายเราได้

ข้อดี-ข้อเสียของแสงสีฟ้า

Blue Light | Nulty | Lighting Design Consultants

ตามปกติแล้วหลายคนน่าจะเข้าใจว่าแสงสีฟ้าอันตราย แต่จริงๆ แล้วมันก็มีข้อดีอยู่บ้าง เพียงแต่ไม่ควรได้รับเข้ามาในปริมาณมากนั่นเอง ข้อดีของแสงสีฟ้าคือการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนในร่างกายเราที่จะทำให้ร่างกายตื่นตัว กระฉับกระเฉง และเป็นตัวกระตุ้น “นาฬิกาชีวิต” ที่จะคอยเตือนร่างกายว่าเวลาไหนควรทำอะไร เช่น กินข้าว , เข้าห้องน้ำ , เข้านอน และตื่นนอนเป็นต้น สังเกตง่ายๆ เวลาที่เราเล่นเกมกับเพื่อน หรือทำงานตอนกลางคืน ยิ่งปิดไฟในห้องหมด แล้วเหลือแต่ไฟจากหน้าจอคอมอย่างเดียว เราจะรู้สึกว่าหัวแล่น กระฉับกระเฉงเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งก็เกิดจากแสงสีฟ้าที่มาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วย

ส่วนข้อเสียของแสงสีฟ้าก็คือการส่งผลต่อดวงตาโดยตรง ซึ่งจะมีอาการดังนี้

  • อาการตาล้า : เนื่องจากแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมามีความสว่างและเข้มข้น ทำให้ดวงตาของเราทำงานหนัก
  • อาการตาแห้ง : อันนี้จะเกิดขึ้นบ่อยกับคนที่ชอบจ้องมือถือเป็นเวลานานๆ เพราะขนาดของตัวอักษรบนหน้าจอที่เล็กกว่าทำให้เราต้องจ้องมองมากกว่าปกติ
  • จอประสาทตาเสื่อม : เนื่องจากแสงสีฟ้าจะเข้ามาทำลายเซลล์รับแสงในจอประสาทตา และอาจจะทำให้เราสูญเสียการมองเห็นนั่นเอง
  • เวลาชีวิตเพี้ยน : จากที่ยกตัวอย่างไปก่อนหน้านี้ ถ้าเราเล่นเกมหรือทำงานตอนกลางคืนบ่อยๆ ร่างกายก็จะเลือกให้มีการตื่นตัวผิดเวลา แทนที่เวลานอนจะได้นอน ดันตื่นตัว ส่วนเวลาตื่นนอนกลับไม่ตื่นตัวซะงั้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้ระบบการทำงานต่างๆในร่างกายผิดเพี้ยนไปได้

ป้องกันและดูแลดวงตาจากแสงสีฟ้าอย่างไร

Blue Light and Sleep – BeWell Health & Wellness

วิธีการป้องกันดวงตาเราจากแสงสีฟ้ามีด้วยกันดังนี้

  • ใช้แว่นกรองแสงที่สามารถกรองแสงสีฟ้าได้
  • ติดฟิล์มลดแสง/กรองแสงที่หน้าจอของอุปกรณ์ต่างๆของเรา เช่นมือถือ หรือแท็บเล็ต
  • ปรับขนาดตัวอักษรบนหน้าจอมือถือ , แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ให้ใหญ่พอที่จะมองเห็นโดยไม่ต้องจ้องเป็นพิเศษ
  • ควรใช้งานคอมพิวเตอร์ , แท็บเล็ต และมือถือในที่ที่มีแสงสว่างโดยรอบที่เหมาะสม

18 Ways to Relax — How to Have an At-Home Spa Day

ส่วนใครที่ต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ หรือต้องจ้องหน้าคอมตลอด เรามาดูวิธีบุรุงและดูแลดวงตาของเรากัน

  • พักสายตา โดยการเปลี่ยนไปมองวัตถุอื่นที่อยู่ไกลออกไปประมาณ 20 เมตร หรืออะไรที่เป็นสีเขียว ทุกๆ 20 นาที เป็นเวลา 20 วินาที เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อดวงตา
  • ใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเมื่อรู้สึกว่าตาแห้ง
  • กะพริบตา 4 – 5 ครั้งเพื่อให้มีน้ำตามาหล่อดวงตา

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่หลายคนน่าจะต้องทำความเข้าใจกันในยุคที่เราต้องนั่ง Work From Home กันเป็นเวลานาน ยิ่งถ้าอยู่หน้าคอมตั้งแต่เช้าจรดค่ำ หรือบางคนข้ามวันไปเป็นเช้าของอีกวันก็ต้องมีการพักสายตา ละออกจากหน้าจอคอมกันบ้างนะ เพราะยังไงก็ตาม ดวงตาของเรา เราก็ต้องดูแล เพื่อสุขภาพ และการมองเห็นที่ชัดเจนของเรา

SHARE

ปณต ประจันตะเสน

Back to top