มือเขียนบทมากประสบการณ์ผู้พา Tomb Raider ผงาดสู่ความยิ่งใหญ่
หากถามว่าการจะเป็นวิดีโอเกมที่ยอดเยี่ยมได้นั้นจำเป็นต้องมีอะไรบ้าง สำหรับหลายคนอาจจะนึกถึงกราฟิกที่งดงามเสมือนจริง ระบบเสียงรอบทิศทางที่ยกบรรยากาศที่เห็นมาสวมทับความเป็นจริงที่สัมผัส หรือระบบฟิสิกส์ที่สมบูรณ์แบบกรวดหินดินทรายที่เคลื่อนย้ายอย่างแยบยล …..แต่สำหรับบางคนอาจตอบว่าเนื้อเรื่องและการบอกเล่าเนื้อหาที่ควบแน่นต่างหากที่สำคัญ
ถ้าคุณเป็นคนเล่นเกมที่คิดว่าการเล่าเรื่องราวในตัวเกมเป็นสิ่งสำคัญ Rhianna Pratchett ก็เป็นอีกชื่อหนึ่งที่คุณควรจะรู้จัก เธอเป็นมือเขียนบทที่มีบทบาทอย่างมากต่อวงการเกม โดยเธอได้ฝากผลงานในวิดีโอเกมมายาวนานเป็นเวลากว่า 13 ปีนับตั้งแต่ Beyond Divinity เมื่อปี 2004
แม้ว่าเธอจะมีผลงานในวงการเกมมาไม่น้อย แต่ชื่อเสียงของเธอได้ถูกพูดถึงมากขึ้นเมื่อได้เข้ามารับบทบาทหัวหน้าทีมเขียนบทให้กับการ Reboot ครั้งสำคัญของตระกูลเกม Tomb Raider เมื่อ 4 ปีก่อน
ใน Tomb Raider และ Rise of the Tomb Raider เธอได้มีส่วนในการตัดสินใจที่จะเริ่มแยกตัวตนของ Lara Croft ตัวละครหลักออกจากภาพจำในเกมภาคก่อนหน้าเมื่อครั้งอดีต เธอให้ความเห็นว่าสิ่งที่ผู้พัฒนาคนก่อนๆ ทำนั้นเป็นการผลักให้ Lara Croft เป็นตัวละครที่ตอบสนองต่อความต้องการของผู้เล่นผู้ชายเป็นหลัก ซึ่งครั้งหนึ่งมันเคยเป็นสิ่งที่เธอไม่ชอบเท่าไหร่นักเมื่อตอนเด็ก
“Lara Croft เป็นตัวละครที่มีความมุ่งมั่น แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอจะต้องกลายเป็นคนที่ฆ่าคนร้ายได้อย่างเลือดเย็น เธอไม่จำเป็นต้องไร้ความรู้สึกอีกต่อไป ฉันคิดว่าการที่เราปรับเปลี่ยนจุดนี้และใส่เนื้อหาที่อธิบายได้อย่างมีเหตุมีผลลงไปนั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้เล่นรู้สึกมีประสบการณ์ร่วมกันกับตัวละครได้ดีกว่าเดิม”
หากจะบอกว่า Rhianna Pratchett มีความเป็นนักสตรีนิยมสูงก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะนอกจากเธอจะเคยยอมรับว่าตัวเองสนใจในเรื่องนี้อย่างมาก เธอยังสะท้อนมุมมองของตัวเองออกมาผ่านการเล่าเรื่องและนำเสนอของตัวละคร Lara Croft ได้เป็นอย่างดี ตัวละครที่เธอสร้างไม่จำเป็นจะต้องสวยสง่าผ่าเผยจนเกินจริง แต่จำเป็นที่จะต้องทำสิ่งต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยตัวเองเหมือนกับที่ตัวละครผู้ชายทำในเกมอื่นๆ ซึ่งเธอเองก็ยอมรับว่าตัวละครอย่าง Ellen Ripley และ Sarah Connor ก็เป็นสิ่งที่เธอใช้อ้างอิงกับตัวละครของ Lara Croft ในปัจจุบัน
“มันมีความรู้สึกเหมือนเรากำลังจะทำเกมใหม่อยู่บ้าง เพราะเราจำเป็นที่จะต้องสร้างตัวตนใหม่ของ Lara Croft โดยยังคงไว้ซึ่งบุคลิกที่เราคุ้นเคยไม่ว่าจะเป็นความกล้าหาญ ความดื้อรั้น ความมั่งมี และความชาญฉลาด”
ช่วง 4 ปีหลังของการทำหน้าที่เขียนบทให้กับเกม Tomb Raider เธอได้คว้ารางวัลสำคัญจากงาน Videogame Writing at 68th Writers Guild of America Awards 2016 จากผลงานเกม Rise of the Tomb Raider และเคยถูกเสนอชื่อเข้าชิงในงาน WGGB Best Videogame Script 2013 อีกด้วย
“การเขียนบทในเกมนั้นมันเหมือนกับการเขียนบทภาพยนตร์ที่เราต้องถ่ายทำไปพร้อมกัน บางสิ่งบางอย่างอาจต้องถูกตัดออก คุณต้องเขียนบทที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลง และไม่กดดันจนเกินไปหากว่ามีบางอย่างต้องถูกถอดทิ้งออกไปเลย”
Rhianna Pratchett มีมุมมองที่น่าสนใจว่ามนุษย์นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่ชื่นชอบการเล่าเรื่อง มนุษย์มองหาเรื่องราวของสิ่งต่างๆ ตลอดเวลาแม้ว่ามันอาจจะไม่มีอะไรเลยก็ตาม ดังนั้นเกมอย่าง Limbo หรือ Inside ที่สามารถเล่าเรื่องได้โดยไม่จำเป็นจึงกลายเป็นเกมที่เธอหยิบยกมาแนะนำหากคุณกำลังมองหาเกมที่ทำหน้าที่เล่าเรื่องต่างๆ ได้ชัดเจนที่สุด
แม้ว่าปัจจุบันด้วยกระแสของอีสปอร์ตหรือการแข่งขันวิดีโอเกมจะเข้ามาอย่างหนักหน่วงจนค่ายเกมต่างๆ หันไปจับกระแสดังกล่าวกันมากขึ้น แต่ตัวเธอเองยังมองว่าเกมที่เน้นการเล่าเรื่องมากกว่าการแข่งขันของผู้เล่นก็ยังคงสำคัญ
“ฉันไม่คิดว่าเราจะได้เห็นจุดจบของเกมที่เน้นเนื้อเรื่องเล่นคนเดียวหรอก ผู้เล่นจำนวนมากยังคงชื่นชอบเกมเหล่านี้อยู่แต่ในขณะเดียวกันเกมที่เน้นการแข่งขันก็ไม่จำเป็นจะต้องลดทอนการเล่าเรื่องลงไปเช่นกัน”
ปัจจุบัน Rhianna Pratchett ลาออกจากการรับหน้าที่เขียนบทให้กับเกม Tomb Raider เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมาและมาก่อตั้งทีมพัฒนาเกมอินดี้เล็กๆ ที่เน้นไปที่การเล่าเรื่องของเกมเป็นหลัก เรียกว่ามุ่งสู่ทางของตนเองอย่างแท้จริง