หนึ่งในเกมที่อยู่กับพวกเรามานานหลายปี และยังได้รับความนิยมจากผู้เล่นเฉพาะกลุ่ม ก็คือเกมธีมมอนสเตอร์ หรือเกมไคจู ที่ผู้เล่นอาจจะไม่รู้มาก่อนว่าเกมดังกล่าวมีให้เล่นมาตั้งแต่ยุค 1980 จนถึงปัจจุบัน
แม้เกมไคจูอยู่ในวงการเกมมานาน แต่เกมธีมนี้ถือว่ายังไม่ได้รับความสนใจจากผู้เล่นทั่วไปมากนัก เพราะแน่นอน เกมนี้ออกแบบมาเพื่อสำหรับคนรักหนังมอนสเตอร์โดยเฉพาะ แต่ War of the Monster อาจจะเป็นเกมแรก ที่ทำให้คนเล่นทั่วไปหันมาสนใจเกมไคจูมากขึ้น รวมถึงเป็นเกมที่แฟน ๆ ไคจูให้เสียงตอบรับเดียวกันว่าหนึ่งในเกมต่อสู้ธีมไคจูที่ดีที่สุดในตอนนี้
ภาพรวมของเกมไคจู แม้ยังมีให้เล่น แต่ขาดพัฒนาการ
หากพูดถึงเกมไคจู หรือมอนสเตอร์ญี่ปุ่น แน่นอนว่าหลายคนจะนึกถึงเกมดัดแปลงจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ของ Toho อย่าง ก็อตซิลลา (Godzilla) เพราะหนังเรื่องดังกล่าว ถูกดัดแปลงกลายเป็นเกมหลายภาคตั้งแต่ยุค 1980 จนถึงปัจจุบัน ที่ตอนนี้มีเกม Godzilla แล้วประมาณ 20 ไตเติล
แต่อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักของเกมไคจูในปัจจุบัน รวมถึงเกมจากยุค 1990-2000 คือเกมไคจูส่วนใหญ่จะเป็นแนว Fighting Arena ที่มอนสเตอร์ทั้งสองฝ่ายต้องต่อสู้จนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง ในขณะที่ฝ่ายที่เดือดร้อน หรือผู้โชคร้ายที่สุด ก็คือประชาชนตาดำ ๆ ที่ต้องหนีออกจากเมือง เพราะสัตว์ประหลาดบุกโลก และต้องเห็นบ้านกับเมืองของตัวเองต้องถูกทำลายอย่างยับเยิน
แม้เกมไคจูส่วนใหญ่สามารถตอบโจทย์ให้เหล่าแฟน ๆ ด้วยการสร้างเป็นเกมต่อสู้ที่มีระบบทำลายล้างตึกอาคาร พร้อมมี Roster เป็นสัตว์ประหลาดมอนสเตอร์ชื่อดังหลายตัว แต่เนื่องจากเกมไคจูมักเป็นเกมแนวเดิม ๆ ติดต่อกัน ทำให้เกมไคจูหลายไตเติล หลายภาค มีลักษณะดูเหมือนกันเกือบทุกเกม หาความแตกต่าง หาความเอกลักษณ์ไม่ค่อยได้เท่าไหร่นัก
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไม War of the Monsters ซึ่งเป็นเกมต่อสู้จากปี 2003 ถูกกล่าวขานบ่อยจากสังคมเกมที่หลงใหลในมอนสเตอร์ว่าเป็นหนึ่งในเกมไคจูที่ดีที่สุด ณ ตอนนี้ และเป็นเกมจดหมายรักถึงคนชอบมอนสเตอร์อย่างแท้จริง
รู้จัก War of the Monsters เกมจดหมายรักถึงคนรักไคจู
War of the Monsters เป็นเกมต่อสู้ที่พัฒนาโดยทีมงาน Incognito Entertainment หรือทีมงานเดียวกับผู้สร้างเกม Downhill Domination เกม Racing จักรยาน BMX ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเกมคอนโซล PlayStation 2
โดยพล็อตของ War of the Monsters จะเกิดขึ้นในช่วงปี 1950 ที่วันหนึ่ง จู่ ๆ มียานอวกาศ UFO ได้รุกรานโลก แล้วสร้างความเสียหายให้แก่โลกมนุษย์เป็นอย่างมาก ด้วยเหตุผลดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกจึงรวมตัวกัน เพื่อคิดค้นพัฒนาอาวุธลับที่จะสามารถต่อกรกับยานอวกาศ UFO แล้วนำพาโลกสู่ความสงบสุขอีกครั้ง
แม้อาวุธลับของนักวิทยาศาสตร์สามารถต่อต้านยาน UFO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ทว่าเรื่องน่ายินดี กลับกลายเป็นฝันร้ายที่เป็นจริง ระหว่างยาน UFO ได้รับความเสียหาย จู่ ๆ เชื้อเพลิงยานอวกาศ ซึ่งเป็นของเหลวกัมมันตภาพรังสีสีเขียวได้รั่วไหลออกมา ส่งผลทำให้สัตว์ มนุษย์ หรือแม้แต่หุ่นยนต์ที่ไม่ใช่สิ่งมีชีวิต เมื่อติดสารดังกล่าวจะกลายเป็นมอนสเตอร์ยักษ์ แล้วเป้าหมายของมันมีเพียงอย่างเดียว คือทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า พร้อมทำสงครามกับมนุษย์ เอเลี่ยน และมอนสเตอร์ด้วยกันเอง
ก็ต้องบอกเลยว่าเนื้อเรื่องเกม War of the Monsters เหมือนกับพล็อตดั้งเดิมของหนังมอนสเตอร์หลายเรื่อง ที่สัตว์เล็ก ๆ ตัวหนึ่งโดนสารเคมีอันตราย แล้วกลายพันธุ์เป็นมอนสเตอร์ยักษ์ไล่ถล่มเมืองจนราบเป็นหน้ากลอง แม้มันไม่ใช่พล็อตที่แปลกใหม่ ดูเรียบง่ายไม่ซับซ้อน แต่มันก็เป็นสิ่งที่แฟน ๆ หนังไคจูต่างคาดหวังว่าจะเจอในเกมนี้ แล้วมันก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายเช่นกัน
แต่แน่นอนว่าสิ่งที่ดีที่สุดของเกม War of the Monsters ไม่ใช่ด้านเนื้อเรื่อง ไม่ใช่ด้านเกมเพลย์ แต่เป็นด้านการนำเสนอ ที่แสดงให้เห็นว่าทีมพัฒนาเกมมีความเข้าใจในหนังมอนสเตอร์ และทำการค้นคว้าเป็นอย่างดี
ความล้ำหน้าของเกม War of the Monsters คือด่านทุกด่าน ล้วนเต็มไปด้วยสีสันมีชีวิตชีวา โดยปัญหาส่วนใหญ่ที่จะเจอในเกมไคจู คือบรรยากาศของด่านมีแต่ความแห้งแล้ง เหมือนเรากำลังต่อสู้ในเมืองร้าง ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่เกิดขึ้นสำหรับเกมนี้
ใน War of the Monsters ทุกด่านที่เป็นเมือง จะมีบรรยากาศเต็มไปด้วยความวุ่นวาย เช่นระหว่างการต่อสู้ เราจะเห็นชาวเมืองหนีตายกันอย่างอลม่าน ถนนเต็มไปด้วยรถตำรวจ รถพยาบาล รถดับเพลิง และบนอากาศ จะมีเฮลิคอปเตอร์จากสำนักข่าว และเฮลิคอปเตอร์จู่โจม ซึ่งผู้เล่นสามารถหยิบมันขึ้นมา เพื่อโยนใส่คู่ต่อสู้ได้ หรือหักเสาไฟฟ้า คานเหล็ก หรือเสาหินจากฉาก มาใช้เป็นอาวุธระยะประชิดได้เช่นกัน
แน่นอนว่าตึกทุกตึก อาคารทุกหลัง ผู้เล่นสามารถทำลายล้างได้ด้วยการต่อยตี แต่บางอาคาร มอนสเตอร์จะสามารถปีนขึ้นไป เพื่อใช้สำหรับการหลบหนี ตั้งหลัก รวมถึงถ้าตึกมีความกว้างมากพอ ก็ใช้เป็นสนามอารีน่าขนาดเล็กได้อีกด้วย และที่สำคัญที่สุด ถ้าหากตึกมีขนาดใหญ่มากพอ ผู้เล่นสามารถพยายามทำลาย เพื่อให้ตึกถล่มทับคู่ต่อสู้จน K.O. ภายในครั้งเดียว
เนื่องจากผู้เล่นสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับฉากสภาพแวดล้อม ทำให้บรรยากาศการต่อสู้ของ War of the Monsters เต็มไปด้วยความวุ่นวาย วินาศสันตะโร ซึ่งเป็นประสบการณ์การเล่นเกมไคจูที่แฟน ๆ หนังมอนสเตอร์หวนหามานานหลายปี
การออกแบบมอนสเตอร์ของเกมนี้ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังไคจูชื่อดังในยุค 1950 หลายเรื่องอย่างชัดเจน เช่น มอนสเตอร์คิงคอง ได้แรงบันดาลใจมาจากหนัง King Kong, มอนสเตอร์ที่ดูคล้ายกับไดโนเสาร์ ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังคลาสสิก The Beast from 20,000 Fathoms หรือ Godzilla และสัตว์ประหลาด กับหุ่นยนต์อีกหลายตัว ที่ใครดูหนังมอนสเตอร์มาเยอะ จะเข้าใจทันทีว่ามอนสเตอร์ตัวนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเรื่องอะไร
แม้การต่อสู้ไม่ได้มีระบบที่ซับซ้อน ลูกเล่นเยอะเหมือน Street Fighter หรือ Tekken แต่ก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้การต่อสู้มีความท้าทาย มีความระทึกอยู่บ้าง โดยเกมนี้ผู้เล่นจะมีหลอดเลือด HP กับหลอด Stamina สีเขียว ซึ่งหลอด Stamina จะลดลงทุกครั้ง เมื่อกดโจมตีแบบระยะไกลหรือใช้ท่าจับ หากหลอด Stamina หมด ผู้เล่นจะไม่สามารถใช้ท่าโจมตีปกติได้ จนกว่าหลอดฟื้นอีกครั้ง ฉะนั้นทุกการโจมตี เกมเมอร์ต้องคอยตรวจสอบหลอด Stamina ของตัวเองตลอดเวลา ก่อนตัดสินใจใช้ท่าพิเศษ
และที่สำคัญที่สุด การควบคุมมอนสเตอร์มีการตอบสนองดี มีการเคลื่อนไหวค่อนข้างรวดเร็วรวดเร็ว ทำให้ระบบการต่อสู้ของเกมนี้เข้าถึงได้ เล่นสนุกสนานอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากเกมไคจูบางเกมที่มีการเคลื่อนไหวช้า เพื่อจำลองการเคลื่อนไหวของมอนสเตอร์ยักษ์ให้สมจริง แต่ส่งผลทำให้การต่อสู้อืดอาดช้าจนเล่นไม่สนุก
ถึงอย่างนั้น War of the Monsters ไม่ใช่เกมระดับ Perfect ซะทีเดียว ตัวเกมมีปัญหาที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้ เช่น ปัญหามุมกล้องบดบังวิสัยทัศน์, ความแฟร์ของ A.I. ในโหมดเล่นคนเดียว, ขาดความหลากหลายของรูปแบบภารกิจ กับความคืบหน้า ทำให้การเล่นเกมเป็นเวลานาน อาจมีความรู้สึกซ้ำซากจำเจ แต่หากมองข้ามข้อเสีย โดยรวมแล้ว War of the Monsters ก็ถือเป็นเกมเล่นสนุกสนานพาเพลิน ที่แฟนหนังไคจูจะต้องหลงรัก ด้วยการนำเสนอที่ตรงจุด และคุณภาพเกมโดยรวม เป็นไปตามที่แฟนหนังคาดหวังไว้
ถึงแม้ War of the Monsters เป็นเกมสมัย PlayStation 2 แต่ล่าสุด เกมดังกล่าวได้ลงในระบบ PS4 และ PlayStation Plus ระดับ Premium ถ้าหากผู้เล่นสนใจเกมดังกล่าว ก็สามารถกดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ PlayStation Store