BY StolenHeart
21 Apr 20 5:20 pm

สรุปเนื้อเรื่อง Crysis ภาค 1-3

214 Views

เนื่องในโอกาสที่ Crysis เกมเดินหน้ายิงสุดอลังการของ Crytek ที่เคยสร้างตำนานเอาไว้ในอดีตจะกลับมาอีกครั้งในรูปแบบ Remastered ทาง GamingDose จึงขอนำทุกคนกลับไปรับรู้เรื่องราวของเกมตั้งแต่ภาคแรกจนถึงภาคล่าสุดกันอีกครั้ง ว่าตำนานของชุด Nano Suit ตัวนี้เคยพาเราไปเจอกับอะไรมาบ้างครับ

เนื้อเรื่อง Crysis 1

ปี 2020 กองทัพเกาหลีเหนือนำกองทัพเข้ายึดเกาะ Lingshan ที่อยู่ในคาบสมุทรเกาหลี และเป็นหนึ่งในหมู่เกาะของประเทศฟิลิปปินส์ โดยในเกาะแห่งนั้นมีนักธรณีวิทยาจากสหรัฐอเมริกากำลังสำรวจอะไรบางอย่างในพื้นที่นั้นอยู่ Dr. David Rosenthai หัวหน้าทีมสำรวจได้เจออะไรบางอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน และอาจทำให้โลกของเราเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล

ซึ่งนั่นทำให้เขาตัดสินใจส่งข้อความไปยัง Raptor Team กองกำลังรบพิเศษที่ตรึงกำลังรออยู่ภายนอกเกาะ หน้าที่ของพวกเขาคือช่วยสนับสนุนและปกป้องทีมสำรวจจากการขุดค้นสิ่งที่อยู่ในเกาะแห่งนี้ โดยมีสมาชิกในทีมคือ Nomad, Psycho, Aztec, Jester และ Prophet ที่เป็นหัวหน้าทีม

สมาชิกทั้งหมดได้รับชุด Nano Suit เทคโลยีใหม่ล่าสุดของกองทัพที่ช่วยเพิ่มความสามารถของร่างกายให้สูงขึ้นอย่างมหาศาล เช่นพละกำลัง ความแข็งแกร่ง ความเร็ว และยังสามารถล่องหนพรางตัวได้ด้วย และนี่เป็นงานแรกที่พวกเขาจะได้ใช้มัน

ทว่างานของพวกเขาก็ไม่ง่ายตั้งแต่เริ่มเสียแล้ว เมื่อสมาชิกทุกคนในทีมเริ่มกระโดดร่มลงมาด้วยความเร็วสูง พวกเขาก็ถูกอะไรบางอย่างที่กำลังบินอยู่เข้าพุ่งชนจนสมาชิกในทีมต้องแยกจากกัน Nomad โดนพุ่งชนจนร่มชูชีพขาดและดิ่งลงสู่พื้นด้วยความรวดเร็ว โชคดีที่เขาร่อนตกลงในน้ำและได้ Nano Suit รับแรงกระแทกแทนเขา แต่ก็ทำให้ชุดชำรุดใช้งานไม่ได้ไปชั่วคราว

หลังจากสมาชิกในทีมกลับมารวมตัวกันได้(และ Prophet ก็ซ่อมชุดของ Nomad ให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ) พวกเขาก็พบว่า Aztec ได้ถูกอะไรบางอย่างฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยม ทั้งที่เขาก็สวม Nano Suit สุดแกร่งเอาไว้ แถมยังฆ่าเหล่าทหารเกาหลีเหนือที่อยู่ในบริเวณนั้นไปด้วย แสดงให้เห็นว่านี่ไม่ใช่ฝีมือของทหารเกาหลีเหนือ แต่เป็นอะไรที่น่ากลัวมากกว่านั้น แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ต้องทำภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาให้สำเร็จ นั่นก็คือการช่วยเหลือหน่วยสำรวจและเก็บกู้สิ่งที่พวกเขาเจอมาให้ได้

Nomad ต้องเผชิญหน้ากับทหารจากเกาหลีเหนือจำนวนมากที่พร้อมเข้าเอาชีวิตของเขา และทีมงานของ Dr. Resenthai เองก็มีเจ้าหน้าที่จาก CIA แทรกซึมเข้ามาเพื่อเก็บข้อมูลที่ทีมสำรวจพบเจอ และเมื่อ Nomad เข้าไปในเกาะลึกมากเท่าไหร่ เขาก็ได้เห็นสิ่งประหลาดที่ไม่เคยเจอมาก่อนมากขั้นเท่านั้น เช่นเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่เปลี่ยนพื้นที่เขตร้อนให้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งได้ภายในพริบตาเดียว

ในที่สุด Nomad และเพื่อนร่วมทีมก็เข้าถึงตัวของ Dr. Rosenthai ในศูนย์วิจัยของเขาได้สำเร็จ ซึ่งที่เขาเจอนั้นคือซากฟอซซิสของสิ่งประดิษฐ์ที่อยู่ในโลกมนุษย์มานานกว่าสองล้านปี และยังมีความเกี่ยวข้องกับเครื่องจักรลึกลับที่พวกของ Nomad เจอ และมันยังเป็นรากฐานของเทคโนโลยี Nano Suit ของ Raptor Team ด้วย นั่นแปลว่าเทคโนโลยีล่าสุดนี้มีต้นกำเนิดมาจากต่างดาว และพวกเขายังนำมันมาต่อยอดเพื่อสร้างสิ่งประดิษฐ์อื่นอีก

Dr. Rosenthai เรียกสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวพวกนี้ว่า Ceph พวกมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีเทคโนโลยีก้าวหน้า และดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ได้มีอยู่แค่ในเกาะแห่งนี้ รวมไปถึงน่าจะแอบซ่อนอยู่ในโลกของเรามานานหลายล้านปีแล้ว ทว่าในระหว่างที่ Dr. Rosenthai กำลังจะใช้เครื่องสแกนเพื่อตรวจสอบองค์ประกอบของเครื่องจักรของพวก Ceph ก็เกิดพลังงานเยือกแข็งระเบิดออกมาโจมตีทุกคนในศูนย์วิจัยจนแข็งกันไปหมด แต่ Nomad รอดมาได้เพราะตัว Nano Suit มีระบบปรับอุณหภูมิในร่างกายไม่ให้เกิดการแข็งตัว

เมื่อไม่มีทางเลือก Nomad จึงต้องถอนตัวไปยังจุดที่เครื่อง VTOL ของกองทัพรออยู่ และเขายังพบว่าในเวลานี้ กองทัพเกาหลีเหนือก็มี Nano Suit แบบเดียวกับที่พวกเขาใช้ นั่นทำให้เขาเข้าใจได้ทันทีว่าทางกองทัพพยายามป้องกันไม่ให้เกาหลีเหนือแย่งชิงเอาเทคโนโลยีนี้ไปนั่นเอง

ทางกองทัพบกสหรัฐฯตัดสินใจเข้าบุกเกาะ Lingshan อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีผู้พัน Strickland เป็นผู้นำการรบ เป้าหมายคือยึดศูนย์วิจัยบนเกาะคืนมา ทว่าภูเขาไฟใจกลางเกาะก็เริ่มปะทุขึ้นมา และสิ่งปลูกสร้างของพวก Ceph ขนาดใหญ่ที่แอบซ่อนอยู่ในภูเขาไฟก็ปรากฏขึ้น Nomad ที่เห็นดังนั้นจึงรีบไปยังจุดนั้นทันที ทว่าก็สายเกินไป เพราะกองกำลังของฝ่ายเกาหลีเหนือได้ไปถึงก่อนแล้ว พร้อมกับจับตัวเหล่านักสำรวจไว้เป็นตัวประกัน

ที่แสบไปกว่านั้นคือนายพล Kyong ของฝ่ายเกาหลีเหนือสามารถควบคุมชุด Nano Suit ของ Nomad ได้ และชุดของเขาก็ถูกสั่งหยุดการทำงาน และยิงตัวประกันทิ้งไปหนึ่งคนพร้อมกับเตรียมจุดชนวนระเบิดเพื่อเปิดเข้าไปยังสิ่งก่อสร้างของพวก Ceph ทว่าหลังการระเบิด คลื่นพลังแช่แข็งของพวก Ceph ก็ระเบิดออกมาฆ่าทหารของ Kyong จนหมด

Nomad ที่ชุดเริ่มกลับมาทำงานได้แล้วเข้าต่อกรกับนายพล Kyong แต่ยังไม่ทันจะรู้พลภูเขาก็ถล่มลงมาเสียก่อน ซึ่งเคราะห์ดีที่ตัวประกันคนอื่นรวมไปถึง Helena ลูกสาวของ Dr. Rosenthai นั้นสามารถหลบหนีไปได้จากเครื่อง VTOL ที่มารับพอดี แต่ Nomad นั้นไม่สามารถหนีไปได้ทัน และร่วงลงไปยังพื้นด้านล่างของภูเขา

Nomad ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งในสิ่งก่อสร้างของพวก Ceph ที่แรงดึงดูดด้านในนั้นเป็นศูนย์ทำให้เขาต้องลอยตัวอยู่กลางอากาศ แต่ด้วยเครื่อง Hydro Thruster ทำให้เขาสามารถเคลื่อนตัวกลางอากาศได้ ซึ่งด้านในนั้นเขาได้ค้นพบว่าพวก Ceph นั้นมีแผนที่จะยึดครองโลกใบนี้ ทำให้เขาต้องรีบหาทางออกมาจากที่แห่งนั้น เพราะตอนนี้แกนกลางภายในเริ่มที่จะระเบิดพลังเยือกเข็งที่ความเย็น -200 องศาไปทั่วเกาะแล้ว

เมื่อออกมาได้สำเร็จ Nomad ก็ถูกเหล่ากองทัพเครื่องจักรของ Ceph เข้าโจมตี แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก Prophet ที่เข้าใจการทำงานของอาวุธพวก Ceph เพื่อนำมาใช้ต่อกรกับพวกมันได้ แต่ชุดของ Prophet นั้นชำรุดเสียหายพอดีเนื่องจากการชารจ์พลังงานที่ต้องใช้ความร้อนสูงมาก ทำให้ตัวของ Prophet เองต้องล่าถอย และผู้พัน Strickland ก็เสียชีวิตลงจากการโจมตีของพวก Ceph ด้วย

Nomad และกองทัพสหรัฐฯต่างตรึงกำลังต่อต้านพวก Ceph กันต่อ และเคลื่อนย้ายซากของพวก Ceph กลับประเทศ เพื่อปิดฉากศึกนี้โดยเร็ว พวกเขาได้ตัดสินใจใช้หัวรบนิวเคลียร์เพื่อล้างทุกอย่าง ทว่าก็ไม่ได้ผล แถมพวก Ceph เองก็เปิดฉากสวนกลับทันทีด้วยทุกสิ่งที่มี รวมไปถึงส่งหุ่นขนาดยักษ์เข้าบดขยี้กองกำลังฝ่ายมนุษย์

โชคดีที่พวกเขาค้นพบวิธีสลายเกราะของหุ่นยักษ์ได้ด้วยการใช้คลื่นสัญญาณของชุด Nano Suit ของ Nomad ในการสลายเกราะพลังงานของพวกมัน และใช้เครื่อง VTOL เข้าโจมตีจุดอ่อนได้สำเร็จ พร้อมกับถอนตัวออกจากพื้นที่ ทว่า Nomad บว่าProphet สหายของเขายังติดอยู่ในโดมน้ำแข่งของพวก Ceph ทำให้เขาตัดสินใจกลับไปค้นหาสหายของเขาบนเกาะอีกครั้ง

เนื้อเรื่อง Crysis 2

สามปีผ่านไปหลังเหตุการณ์ในภาคแรก โลกได้ถูกไวรัสที่มีชื่อว่า Manhattan Virus ที่พวก Ceph คิดค้นขึ้นแพร่ระบาดไปทั่วเกาะ Manhattan ในมหานครนิวยอร์ก ทำให้เกาะทั้งเกาะต้องถูกปิดตายและอยู่ภายใต้กฎอัยการศึก ผู้คนต่างสติแตกจากทั้งโรคระบาดและการบุกรุกของเหล่าเอเลี่ยนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จนทำให้ทางรัฐบาลสหรัฐอเมริกาออกกฎหมายให้หน่วยทหารรับจ้างเข้ามาดำเนินงานในพื้นที่เขต Manhattan ได้

C.E.L.L. ที่ก่อตั้งโดย Crynet คือหนึ่งในหน่วยงานเหล่านั้น พวกเขาทำหน้าที่รักษาความสงบและคอยโต้ตอบการรุกรานของพวกเอเลี่ยนอย่างสุดความสามารถ นำทีมโดยผู้การ Lockhart และ Tera Strickland ลูกสาวของนายพัน Strickland จากภาคที่แล้วนั่นเอง และทาง Crynet เองก็ยังเป็นบริษัทที่คิดค้นและพัฒนาชุด Nano Suit ขึ้นมาอีกด้วย

หน่วย C.E.L.L. ได้รับภารกิจในการปกป้องและพาตัว Dr. Nathan Ghoul จาก Crynet ออกมาจากพื้นที่ Manhattan เพราะเขาแจ้งว่าได้ค้นพบความลับบางอย่างของเหล่า Ceph ที่อาจจะมีผลทำให้มนุษย์กลับมาชนะสงครามได้ โดยพวกเขาได้ร่วมมือกับเหล่านาวิกโยธินในการทำภารกิจนี้

ทว่าภารกิจของพวกเขากลับจบลงอย่างเลวร้ายเพราะเหล่า Ceph เข้าโจมตีอย่างรุนแรงจนไม่อาจต้านทานได้ จนเหลือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ Alcatraz นาวิกโยธินของหน่วย C.E.L.L. ที่กำลังจะถูกจัดการ แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก Prophet ผู้ที่รอดกลับมาจากความตายในภาคแรกนั่นเอง

ทว่า Prophet เองก็อยู่ในสถานะที่ย่ำแย่มาก เนื่องจากตัวของเขาติดเชื้อ Manhattan Virus ในระยะสุดท้าย และจะตายในอีกไม่ช้า ที่ยังยืนอยู่ได้ก็เพราะพลังของชุด Nano Suit ทำให้เขาตัดสินใจสั่งเสียทุกอย่างแก่ Alcatraz และมอบ Nano Suit ให้ก่อนที่จะยิงตัวตาย เพื่อให้ Nano Suit เชื่อมต่อกับ Alcatraz อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งด้วยเทคโนโลยีอันสุดยอดของมัน ทำให้อาการบาดเจ็บของเขาฟื้นตัวทันที

Alcatraz ที่ฟื้นตัวจนหายดีต้องหนีการตามล่าจากทั้งเหล่า Ceph และหน่วย C.E.L.L. เพราะพวกเขาได้รับคำสั่งมาว่าให้ฆ่า Prophet ที่ติดเชื้อไวรัส(และ Prophet ก็สวมชุดของเขาอยู่) จนในที่สุดเขาก็ได้พบกับ Dr. Ghoul เป้าหมายแรกสุดของเขา ซึ่งเขาได้เผยความลับที่ได้เจอในระหว่างการทดลองและวิจัยมาตลอดหลายปี

Dr. Ghoul กล่าวว่า Nano Suit ที่ Alcatraz สวมใส่อยู่อาจเป็นทางรอดของเหล่ามนุษยชาติ เพราะด้วยคุณสมบัติการรักษาอาการบาดเจ็บและบาดแผลต่าง ๆ ที่อาจทำให้ผู้สวมใส่สามารถสร้างวัคซีนต้านไวรัสขึ้นมาได้ เพียงแต่ต้องอาศัยข้อมูลทางชีววิทยาของพวก Ceph ที่เก็บงำเอาไว้ และนี่จะเป็นกุญแจที่นำพาพวกเขาไปสู่ชัยชนะได้

ทว่าแผนที่จะค้นหาวัคซีนฟ้องกันไวรัสยังไม่ทันสำเร็จ หน่วย C.E.L.L. ของ Lockhart และ Tara ก็เข้ามารวบตัวพวกเขาเสียก่อน Alcatraz ที่กำลังเพลี้ยงพล้ำอยู่นั้นก็ได้รับการติดต่อจาก Jacob Hargreave ประธานบริษัทและหนึ่งในสองผู้ก่อตั้งของ Crynet  ที่เข้ามาเผยความลับที่ซ่อนอยู่ในชุด Nano Suit ที่เขาสวมใส่อยู่พร้อมกับ Reboot ระบบของชุดไปด้วย

Hargreave เล่าว่าเขาสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการสร้างชุด Nano Suit นี้มาได้ตั้งแต่ปี 1998 โดยตัวเขาได้ขโมยเทคโนโลยีนี้มาจากพวก Ceph ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างก็คือเพื่อสร้างสิ่งที่สามารถต่อกรกับพวกมันที่กำลังจะบุกรุกมาที่โลกในอนาคต ทว่าตัวชุดนั้นยังไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะนำไปใช้ต่อกรกับเหล่า Ceph ได้เลย จนเกือบจะถูกตีตราว่าเป็นผลงานการทดลองอันล้มเหลว

แต่ตัว Nano Suit นั้นมีคุณสมบัติที่จะดูดซับและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ ๆ มาจากการต่อสู้ ซึ่งมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยมเพราะ Prophet ที่สวมชุดนี้มาก่อนได้รับรู้ถึงวิธีการใช้งานอาวุธของพวก Ceph รวมไปถึงได้เห็นเทคโนโลยีของพวกมันอย่างเต็มตาอีกด้วยแถมในการต่อสู้ที่ผ่านมาของ Alcatraz เองก็ทำให้ตัวชุด Nano Suit นี้พัฒนาขึ้นอย่างมากจนอาจถึงขั้นหาวัคซีนรักษาไวรัสได้ และ Hargreave เองก็ต้องการให้ Nano Suit พัฒนาต่อไปโดยที่ไม่สนใจว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

หลังจากที่รู้เรื่องราวเบื้องต้น Dr. Ghoul ก็สามารถหลบหนีไปได้โดยได้รับความช่วยเหลือจาก Tara ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของ CIA ที่แทรกซึมเข้ามาค้นหาความลับใน Crynet ซึ่งก็ทำให้ Alcatraz รอดตายมาได้ก่อนที่จะถูกผู้การ Lockhart สำเร็จโทษ และเพื่อค้นหาความจริงที่ Hargreave ยังแอบซ่อนไว้ ทำให้เขาตักสินใจบุกเข้าไปในสำนักงานใหญ่ของ Crynet ทันที

Alcatraz สามารถบุกเข้ามายังใจกลางของ Crynet ได้สำเร็จและค้นพบความลับอันน่าสะอิดสะเอียนของพวกเขา Hargreave รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่เกาะ Lingshan และปล่อยให้มันเป็นไปแบบนั้น เพื่อให้ชุด Nano Suit พัฒนาตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งผู้สวมใส่แต่ละคนที่ทำภารกิจในเกาะนั้นจะได้รับประสบการณ์และความแข็งแกร่งมาไม่เหมือนกัน และสุดท้ายเขาก็จะครอบครองข้อมูลทุกอย่างและให้ Nano Suit เพื่อนำไปกอบกู้มนุษยชาติต่อไปนั่นเอง

และตอนนี้ Alcatraz เองคือผู้ถือครองข้อมูลของชุด Nano Suit ที่สมบูรณ์ที่สุดในเวลานี้ ทำให้ Hargreave ส่งกองกำลัง C.E.L.L. มาหมายจะฆ่าเขาเพื่อยึดชุดเป็นของตัวเองและนำไปกอบกู้โลก แต่ Tara ก็เข้ามาช่วยเหลือเขาได้ทันเวลาพร้อมกับบอกว่า Dr. Ghoul ได้หลบหนีออกไปจากพื้นที่ได้สำเร็จแล้ว หน้าที่ของเขาก็คือค้นหาตัว Hargreave ให้เจอเพื่อเค้นความจริง

แต่สิ่งที่ Alcatraz เจอนั้นชวนให้ตกใจยิ่งกว่าเก่า เพราะ Hargreave ที่เขาเห็นมาตลอดนั้นแท้ที่จริงคือภาพโฮโลแกรมที่ระบบของ Crynet สร้างขึ้น ส่วนตัวจริงของเขานอนเป็นผักอยู่ในแคปซูลรักษาสภาพร่างกาย ซึ่งเมื่อถึงเวลาจวนตัว Hargreave ก็ได้บอกกับ Alcatraz ว่า ในเวลานี้มีแต่เขาเท่านั้นที่จะสามารถช่วยเหลือมนุษยชาติได้ เพราะข้อมูลของชุด Nano Suit ที่สมบูรณ์ที่สุดนั้นอยู่กับเขา และขอให้เขาช่วยโลกใบนี้ด้วย

หลังจากที่สั่งเสียเรียบร้อย ห้องทำงานของ Hargreave ก็ถล่มลงมาพร้อมกับการบุกรุกของเหล่า Ceph ที่กรูเข้ามาจากทุกทาง และในเวลาเดียวกันทางกองทัพสหรัฐฯก็เตรียมพร้อมที่จะใช้ขีปนาวุธโจมตีเข้าใส่ยานขนาดยักษ์ของพวก Ceph ที่โผล่ขึ้นมาในใจกลางเกาะ Manhattan พร้อมกับ Spore Sphere ขนาดใหญ่ที่พวกมันใช่ในการแพร่เชื้อ Manhattan Virus ที่แรงขึ้นกว่าเดิม และพร้อมกวาดล้างมนุษย์ทุกคนในเกาแห่งนี้

ด้วยความร่วมแรงร่วมใจอย่างสุดความสามารถระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และตัว Alcatraz ที่มีพร้อมทั้งข้อมูลทางชีวภาพและเทคโนโลยีของ Ceph บุกเข้าใจกลางของยานแม่ได้สำเร็จ ระเบิดทุกอย่างของพวก Ceph จนแหลก พร้อมกับพ่นวัคซีนรักษา Manhattan Virus ไปทั่วเกาะ เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ของเหล่ามนุษย์ในที่สุด

แต่แม้เหล่า Ceph ใน Manhattan จะแตกพ่ายไปแล้ว แต่งานของพวกเขายังไม่จบ เพราะยังมีเหล่า Ceph อีกจำนวนมากที่ต้องกำจัดให้สิ้นซาก และ Alcatraz เองก็พร้อมที่จะสืบทอดชื่อและมรดกของ Prophet ที่เขาได้รับมาในการปกอ้งเหล่ามนุษยชาติต่อไป

เนื้อเรื่อง Crysis 3

ปี 2047 Prophet กลับมาได้อีกครั้งในร่างของ Alcatraz เนื่องจากความทรงจำของเขาได้ฝังอยู่ใน Nanosuit จนกลับมามีชีวิตได้อีกครั้งหนึ่ง เขารวมกลุ่มกับอดีตเพื่อนร่วมทีม Raptor อย่าง Psycho และทหารระดับสูงอีกหลายคนที่สวมชุด Nanosuit ไว้พร้อม ออกตามล่าพวก Ceph ที่พวกเขาเรียกมันว่า Alpha Ceph ซึ่งพวกมันคือ Ceph ที่อยู่บนโลกนี้มานาน สะสมองค์ความรู้ของมนุษย์โลกและแทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว เป็นภัยที่พวกเขาต้องจัดการทิ้งให้จงได้

เหล่าทีมนักล่าต่างค้นหาและจัดการพวก Ceph ไปมากมาย จนในที่สุด Psycho และ Prophet ก็พบร่องรอยของ Alpha Ceph ในไซบิเรีย ทว่าพวก C.E.L.L. ก็ได้หักหลังเหล่านักรบในชุด Nanosuit จัดการปิดระบบของชุด Nanosuit ของพวกเขาในตอนนั้น และถอดชุดแย่งชิงองค์ความรู้ของเทคโนโลยีจากต่างดาวที่อยู่ในชุดของพวกเขา และจับตัวของ Prophet ไปยังโรงงานแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก

Prophet ที่กำลังจะถูกพวก C.E.L.L. แยกชิ้นส่วน ได้รับการช่วยเหลือจาก Claire Fontanelli และ Karl Ernest Rasch หัวหน้ากองกำลังต่อต้านที่มีจุดประสงค์ในการหยุดยั้งพวก C.E.L.L เพราะในตอนนี้เขาคือนักรบในชุด Nanosuit ที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของโลกใบนี้ ซึ่งเขาและเธอได้อธิบายถึงเป้าหมายของพวก C.E.L.L ในตอนนี้ ว่าพวกมันออกตามล่านักรบ Nanosuit ก็เพื่อใช้เทคโนโลยีของพวก Ceph ในการสร้างพลังงานอันไร้ขีดจำกัด และผูกขาดพลังงานทั้งหมดของโลกนี้

ซึ่งพลังงานที่พวก C.E.L.L. คิดค้นขึ้นคือ System X ที่เป็นแหล่งพลังงานของทั้งโลกในตอนนี้ ซึ่งเป้าหมายของกองกำลังต่อต้านก็คือการทำลายระบบ System X เพื่อปลดปล่อยโลกใบนี้จากพวก C.E.L.L. ที่กำลังกุมอำนาจอยู่ ซึ่งทั้ง Prophet และ Psycho ก็ตอบตกลงเข้าร่วมกับพวกเขาเพื่อปลดปล่อยโลกใบนี้

Prophet และ Psycho สามารถปิดระบบ System X ของ C.E.L.L. ได้สำเร็จ และพวกเขาก็พบว่าระบบ System X นี้ออกแบบมาเพื่อให้ Alpha Ceph ที่พวกเขาตามหามานานได้ดูดซับพลังงานอันไร้ขีดจำกัดดังกล่าวนี้ แต่ยังไม่ทันที่พวกเขาจะทำอะไรต่อ โรงงานก็เปิดระบบทำลายตัวเอง และปลุก Alpha Ceph ให้ตื่นจากการหลับใหล ซึ่งมันก็ได้เปิด Worm Hole หรือรูหนอนเชื่อมต่อโลกกับดาวบ้านเกิดของพวกมันเข้าด้วยกัน เพื่อให้กองกำลังจากต่างดาวบุกเข้าสู่โลกได้อีกครั้ง เพื่อกวาดล้างสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ให้หมดสิ้น

แต่ Prophet เองก็ได้ปลดล็อกความสามารถของ Neural Block ในชุด Nanosuit ทำให้ได้รู้ว่าพวก C.E.L.L. วางแผนที่จะใช้สิ่งที่เรียกว่า Archangel อาวุธพลังงานที่ยิงจากดาวเทียม และ System X คือแหล่งพลังงานที่จะใช้กับอาวุธชิ้นนี้เพื่อการสังหาร Alpha Ceph ให้สิ้นซาก แต่เพราะพลังงานที่มากจนเกินไปอาจทำให้โลกแตกสลายได้ พวกเขาจึงต้องบุกไปยังศูนย์ควบคุมของ Archangel เพื่อปิดการทำงานของมันเสียก่อน

และ Psycho ยังค้นพบว่า Claire คือหนึ่งในนักวิทยาศาสตร์ที่เคยถอดชุด Nanosuit ออกจากตัวของเขา ซึ่งเธอได้รับสารภาพว่าเคยทำงานให้กับ C.E.L.L. แต่ด้วยความรู้สึกผิดที่เธอทำต่อเหล่านักรบในชุด Nanosuit ทำให้เธอตัดสินใจเข้าร่วมกับกลุ่มต่อต้านในภายหลัง ซึ่ง Psycho ก็ให้อภัยเธอพร้อมกับช่วยเหลือ Prophet ที่อยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกด้วย

ทว่าในขณะเดียวกัน Karl ก็เกิดอาการคลั่งขึ้นมาและถูกพวก Ceph ยึดร่าง เนื่องจากเขาได้แอบใช้เทคโนโลยีของพวก Ceph ในการยืดชีวิตให้กับตัวเอง ออกทำร้ายทั้ง Prophat และ Claire จนบาดเจ็บสาหัส แต่ด้วยห้วงสำนึกในช่วงท้าย เขาได้ทำการเสียสละตัวเองเพื่อขัดขวางไม่ให้ Alpha Ceph จัดการกับพวก Psycho และ Prophet ซึ่ง Claire เองก็ยอมเสียสละตัวเองเพื่อให้ Prophet รอดไปได้เช่นกัน สร้างความเศร้าโศกให้กับ Psycho อย่างยิ่ง ได้แต่ตัดพ้อว่าถ้าเขายังมีพลังของ Nanosuit อยู่เขาคงช่วยเธอไม่ให้ตายได้

ตอนนี้เป้าหมายของ Psycho และ Prophet ก็คือการทำลายล้าง Alpha Ceph ที่ตื่นขึ้นมาแต่ทว่าพวกเขาทั้งสองยังคงติดอยู่ในใจกลางของ Ceph Master Mind แต่ด้วยความพยายามอย่างเต็มความสามารถ ทำให้พวกเขาเข้าถึงตัวของ Alpha Ceph ได้สำเร็จ แต่เวลาที่พวกเขามีอยู่นั้นไม่สามารถปิด Wormhole ที่พวก Ceph จากต่างมิติบุกเข้ามาได้ แถมพลังที่ Alpha Ceph ยิงเข้ามาทำให้ Prophet หลุดไปในอวกาศ

Prophet เห็นอย่างชัดเจนว่ายานของพวก Ceph กำลังจะทะลุ Wormhole เข้ามาสู่โลก แต่โชคยังดีที่ในบริเวณนั้นมี Archangel อยู่ใกล้ตัว เขาจึงลอยตัวไปหยิบมันขึ้นมาเพื่อยิงใส่ทั้งยานแม่และ Wormhole แรงระเบิดที่เกิดขึ้นนั้นทำลายทั้งยานแม่ของ Ceph และ Wormhole ไปพร้อมกัน Prophet โดนแรงกระแทกจากลำแสงพุ่งตรงกลับมายังพื้นโลก ที่เกาะ Lingshan ที่ ๆ ทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อ 27 ปีก่อนนั่นเอง

หลังจาก Prophet ได้กลับมายังพื้นโลก เขาก็พบว่า C.E.L.L. ได้ถูกสั่งยุบพร้อมยึดทรัพย์สินทั้งหมดไป เพื่อสืบสวนหาความผิดที่พวกเขาได้กระทำในช่วงที่ผ่านมา ส่วน Nanosuit ของ Prophet ก็หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกับเขา กลับคืนมาเป็นเขาคนเดิมในสมัยที่ยังไม่ได้ใส่ชุด และเรื่องราวการผจญภัยอันยาวนานของ Prophet ก็จบลงตรงนี้

ในขณะเดียวกัน Micheal หรือ Psycho ได้ออกตามล่าเหล่าทหารและเจ้าหน้าที่ของ C.E.L.L. ที่หลบหนีไปได้ เพื่อแก้แค้นให้กับทุกคนต่อไป

SHARE

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top