วิดีโอเกม Multiplayer สำหรับยุคปัจจุบัน ระบบโหมด Competitive เริ่มเข้ามามีบทบาทต่ออุตสาหกรรมเกมมากขึ้น จนสามารถผลักดันให้ถือกำเนิดวงการกีฬา Esport ก็ต้องบอกเลยว่านี่คือยุคสมัยของเกม Multiplayer อย่างแท้จริง
แน่นอนว่าเกมเมอร์ไม่น้อยคน ต่างต้องล้วนผ่านประสบการณ์โหมดเล่นเกมพร้อมกันหลายคน และปฏิเสธไม่ได้ว่าเป็นประสบการณ์เล่นเกมที่สุดยอดมาก ทั้งพบความท้าทายแบบใหม่, ระบบเกมเพลย์มีพลิกแพลงตามโอกาส, แถมติดต่อสื่อสารกับชาวเกมเมอร์ได้ทั่วโลก ซึ่งเป็นสวรรค์ของเหล่าผู้เล่นชัด ๆ !
แต่เมื่อห้วงกาลเวลาผ่านไป เกมเมอร์อาจสังเกตเห็นว่าคนรอบตัวคุณบางส่วน เริ่มไม่สนุกกับการเล่นเกม Multiplayer หรือให้เวลาเล่นมันน้อยมากจนน่าตกใจ ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่คนคนเดียว แต่พบเห็นได้ตามเกมเมอร์ทั่วโลก แล้วจะมีสาเหตุหลักอะไรบ้าง ? สามารถหาคำตอบได้ที่บทความนี้ครับ
ชีวิตจริงเครียดพออยู่แล้ว ต้องมารบกับคนในออนไลน์อีก?
ผมเล่น Rocket League อย่างเดียว ณ ตอนนี้ แต่สำหรับเกมอื่น ไม่มีทางแตะมันแน่นอน
ชีวิตผมเครียดพออยู่แล้ว ผมต้องการเล่นเกมเพื่อความผ่อนคลาย ไม่ใช่แหกปากตะโกนกับเด็กวัย 12 ขวบที่เล่นเกมเก่งกว่าผม – u/bohlingc
ต้องบอกเลยว่าเป็นสาเหตุหลักเลยก็ว่าได้ เมื่อผู้เล่นเติบโตมากขึ้น ความรับผิดชอบยิ่งใหญ่ก็ตามมาติด ๆ โดยเฉพาะช่วงวัยมหาวิทยาลัยกับวัยทำงาน ที่ทุกคนต้องโฟกัสเรื่องการทำงานหรืออ่านหนังสือเตรียมสอบแบบเต็มกำลังจนแทบไม่มีเวลาว่างในการเล่นเกม ซึ่งความเครียดสะสมเหล่านั้นพร้อมจะระบายอารมณ์ผ่านวิดีโอเกม ไม่ว่าจะ Singleplayer หรือ Multiplayer ก็ตาม
ในขณะที่เกมเมอร์บางส่วนเพียงเล่นเกมก็สามารถระบายความเครียดออกจากสมอง แต่บางคนต้องการมากกว่านั้น เขาอยากรู้สึกเอนจอยกับเกม สามารถติดต่อคนอื่นเพื่อเพิ่มสีสันชีวิต โดยไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมากอีกด้วย
แต่สังคมของเกม Multiplayer มักต้องมีความขัดแย้ง หรือดราม่าชวนปวดหัวตลอดเวลา พวกเขาเองคงไม่อยากต่อปากต่อคำกับผู้เล่น Toxic ซะเท่าไหร่นัก เพราะมันไม่เกิดประโยชน์อะไร และเผลอ ๆ เราอาจจะเป็นฝ่ายก้าวร้าวซะเสียเอง
และยิ่งเป็นสังคมเกมที่ไม่เห็นหน้ากันตรง ๆ ทำให้เกมเมอร์ต่างไม่มีความเกรงใจซึ่งกันและกัน จึงเกิดปัญหาผู้เล่นสายโกงเกม ด่าทอ เหยียดหยาม และอื่น ๆ อีกมากมาย เพียงเพราะความสะใจส่วนตัวเท่านั้น
การเล่นเกม Multiplayer มันไม่ต่างกับตัวเร่งระเบิดเวลาของผู้เล่น ฉะนั้นพวกเขาจึงรู้สึกสนุกสนานเล่นเกมเหล่านั้นน้อยลง และหันมาเล่นเกม Singleplayer หรือโหมด PvE เพื่อแลกด้วยสุขภาพจิตที่ดีขึ้นตามมา
เข้าถึงจุดอิ่มตัวของเกม
ผมคิดว่าเกมออนไลน์สมัยนี้มันก็เหมือนเดิมไปหมดและรู้สึกเบื่อกับมันมาก ผมแก่เกินที่จะตามวิดีโอเกมแล้วในช่วงปีผ่านมา – u/KING5TON
แม้จะมีเกมเมอร์อีกหลายคนพร้อมจะถวายชีวิตให้วิดีโอเกมตลอดห่วงเวลาของชีวิต แต่ก็มีผู้เล่นเกมเยอะไม่ใช่น้อย ที่หันหลังให้กับเกม Multiplayer เพราะรู้สึกอิ่มตัว เกมเมอร์เหล่านั้นอาจจะอยู่ในสังคมเกม Multiplayer เดิม ๆ มานานถึง 3-5 ปี จนคอนเทนต์เริ่มขาดความน่าสนใจ
เคสนี้สามารถพบเห็นกับเกม Multiplayer อายุยาวทุกประเภท ไม่ว่าจะ Overwatch, World of Warcraft, Team Fortress 2, Apex Legends หรือเกมอื่น ๆ อีกหลายอย่าง เพราะแม้คอนเทนต์อัปเดตจะน่าสนใจมากแค่ไหน แต่เกมเพลย์หรือคุณภาพสังคมก็ยังแทบเหมือนเดิม
นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเกมบางเกม (โดยเฉพาะ MMORPG) จึงมีการปรับปรุงระบบเกมเพลย์ หรือเปลี่ยนภาพกราฟิกแบบยกใหญ่ เพื่อให้ระบบเกมเพลย์หรือการเล่นมีความสดใหม่ตลอดเวลา แต่มีจำนวนเกมน้อยนิดที่ทำแบบนั้น
เราจึงมักพบเห็นผู้เล่นตามเว็บบอร์ด, Facebook หรือ Reddit ต่างบ่นเป็นประจำว่า “ผมรู้สึกเบื่อเกมนี้จัง” หรือ “ไม่มีอะไรน่าสนใจ” อยู่เสมอ เพราะความจำเจจากการเล่นเกมเดิมมาตลอด 1-2 ปี จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีอาการ Burnout เป็นเรื่องธรรมดา
แต่มีเกมเมอร์สาย Multiplayer อีกหลายคน พอตัดสินใจกลับมาเล่นเกมดังกล่าวอีกครั้ง กลับไม่สนุกสนานเหมือนเดิม เพราะความรู้สึกว่า “เหมือนเดิม” ได้ถูกปลูกฝังเข้าไปในหัวแล้ว ซึ่งอาการเหล่านี้จะเรียกว่า “อิ่มตัว” หรือพอเพียงกับเกมแบบถาวร ทำให้บางคนตัดสินใจแขวนเมาส์ เนื่องจากแก่เกินไปที่จะเดินตามเนื้อหาเกมทันนั้นเอง
เพราะไม่มีใครเล่นประจำด้วย พลังหมดไฟจึงตามมา
ผมเน้นเกมเล่น Singleplayer กับ Multiplayer แบบนั่งโซฟา เนื่องจากเพื่อนของผมไม่มีเวลาว่างเล่นเกมออนไลน์ซะเท่าไหร่นัก ตอนนี้ส่วนใหญ่มากจึงเล่นเกมแต่เกมเหล่านั้น – u/Dweller
ไม่ใช่เพราะว่าผู้เล่นไม่มีเพื่อนเล่นเกมด้วยกัน เนื่องจากอยู่สภาพสังคมไร้เพื่อน แต่เพื่อนไม่มีเวลา (เล่นเกม) ให้กับคุณต่างหาก
สำหรับเกมเมอร์ชื่นชอบเกมประเภท Co-op อย่าง Left 4 Dead หรือ Payday 2 ที่เคยเป็นเจ้าพ่อครองตลาดเกมบนแพลตฟอร์ม Steam โดยมีระบบการเล่นเน้นความสามัคคีกับวางแผนเพื่อผ่านด่านต่าง ๆ โดยเกมเมอร์ต้องอาศัยเพื่อนร่วมทีมมีความน่าเชื่อถือสูงสุด ซึ่งไม่มีใครคนไหนน่าไว้วางใจเท่า “เพื่อน” คุณอีกแล้ว
แต่แล้วแน่นอน เมื่อกาลเวลาผ่านไป เพื่อนของท่านแต่ล่ะคนจะต้องแยกย้ายทำหน้าที่ส่วนตัวและให้เวลากับคุณลดลง ส่งผลทำให้ผู้เล่นปราศจากเพื่อนร่วมเล่นเกม ซึ่งเล่นเกมเป็นประจำด้วยกัน รวมถึงต้องเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่ด้วยการสร้างปฏิสัมพันธ์คนบุคคลแปลกหน้าบนโลกออนไลน์
แต่กว่าเกมเมอร์จะสร้างเนื้อสร้างตัวใหม่จนลงตัว มันก็สายไปซะแล้ว ผู้เล่นเองก็ต้องหน้าที่การงานของตนเองต้องจัดการจนไม่มีเวลากับให้เพื่อนมากพอ แม้จะมีเวลาว่างเล่นเกมมากแค่ไหนก็ตาม
ทำให้เกมเมอร์สาย Co-Op บางคน จึงมีอาการหมดไฟ Multiplayer ตามมา เนื่องจากปราศจากเพื่อนเล่นประจำ ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของเกม Co-Op ทั้งหมดที่ขาดไม่ได้
สังเกตว่าบุคคลผู้หมดไฟกับการเล่นเกม Multiplayer ล้วนแต่ผ่านการชื่นชอบเกมประเภทดังกล่าวมาทั้งสิ้น แต่เนื่องจากอุปสรรคสาเหตุหลายอย่าง เริ่มเข้ามาถาโถมในชีวิตประจำวันให้รับผิดชอบ และเกมเมอร์มีพัฒนาการด้านวุฒิภาวะ จึงสามารถเลือกปล่อยวางวิดีโอเกมมากขึ้น ไม่เหมือนกับเด็กที่มีเกมเป็นเพื่อนรักของคุณ
พวกเขาจึงยอมหันหลังให้เกมประเภทเล่นหลายคน และเน้นเกม Singleplayer หรือเกม Multiplayer ตัวอื่น ๆ ที่มอบความบันเทิงมากกว่า Competitive เพื่อลดความปวดหัวจากการใช้ชีวิต หรือลดเวลาให้เกมน้อยลง เพิ่มเวลาให้กับครอบครัวการงานมากขึ้นครับ