Call of Duty: Modern Warfare II เป็นเกมภาคที่ผู้เล่นสามารถสลับได้ระหว่าง Killstreak กับ Scorestreak โดยไม่ต้องสละ Perk เหมือนเกมภาค Modern Warfare ภาค 2019 ด้วยเหตุผลดังกล่าว เกมเมอร์มือใหม่อาจจะสับสนว่า Killstreak กับ Scorestreak แตกต่างกันมากน้อยแค่ไหน และอันไหนดีกว่ากัน
โดยบทความนี้จะเป็นการอธิบายระบบทั้งสองให้เคลียร์กระจ่างเกี่ยวกับ Killstreak และ Scorestreak แล้วจะเป็นอย่างไร ก็สามารถเข้าไปอ่านในบทความนี้ได้เลย
วิธีการสลับระหว่าง Killstreak กับ Scorestreak
เกมเมอร์สามารถสลับด้วยการเข้าไปที่หน้า Weapon > Killstreaks แล้วตรงด้านขวาล่าง จะมีตัวเลือกให้กดเปิด-ปิดใช้ Scorestreak ได้ตามใจชอบ
ทำความเข้าใจกับ Killstreak กับ Scorestreak
Killstreak เป็นระบบสุดคลาสสิกที่ต้องมีในโหมด Multiplayer ของเกม Call of Duty เกือบทุกภาค แต่สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Killstreak คือระบบรางวัลให้ผู้เล่นได้ใช้อาวุธพิเศษ ด้วยการสะสม Kill ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ถูกฆ่าตาย ซึ่งเกมเมอร์สามารถตั้งค่าได้ว่าอยากจะใช้งาน Killstreak แบบไหน โดย Killstreak ที่ยิ่งมีอานุภาพมากเท่าไหร่ ผู้เล่นยิ่งต้องสะสม Kill มากขึ้นเท่านั้น ถ้าหากตัวผู้เล่นตาย Killstreak ที่สะสมมาทั้งหมดจะถูกรีเซตเป็น 0 ทันที ต้องเริ่มเล่นใหม่ทั้งหมด
แม้ Killstreak เป็นระบบที่อยู่คู่ Call of Duty มานานแสนนาน แต่แฟน ๆ หลายคน ยังมีการถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวจนถึงทุกวันนี้ เพราะระบบนี้สร้างแรงกดดันให้ผู้เล่นไม่อยากออกบู๊ ไม่ยอมทำ Objective เพราะกลัวการตาย ซึ่งทำให้บรรยากาศการเล่นเกมบางรอบมีความน่าเบื่อ น่าหงุดหงิด แม้ไม่ปฏิเสธว่าการใช้ Killstreak ทำให้โหมด Multiplayer ของเกมนี้ มีความสนุกสนาน น่าตื่นเต้นจริงก็ตาม
ด้วยเหตุผลดังกล่าว Call of Duty จึงออกแบบระบบใหม่ที่เป็นมิตรกว่าเดิมอย่าง Scorestreak เป็นทางเลือกสำหรับคนอยากใช้ Killstreak แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะสู้คนอื่นไม่ไหว โดยการเลือก Scorestreak คือเปลี่ยนจากการสะสม Kill กลายเป็นการสะสมคะแนนทั้งหมดแทน แต่กฎยังเหมือนเดิม คือหากตายแล้ว คะแนน Scorestreak จะโดนรีเซตต้องทำใหม่ทั้งหมด
Scorestreak เปิดตัวครั้งแรกในเกม Call of Duty: Black Ops II แต่อย่างไรก็ตาม Call of Duty: Modern Warfare II เป็นภาคแรกที่ผู้เล่นสามารถกดสลับกันระหว่าง Killstreak กับ Scorestreak ได้ โดยไม่จำเป็นต้องสละ Perk ด้วยระบบดังกล่าวที่เข้าถึงได้กับเกมเมอร์ทุกคน ทำให้หลายคนอาจจะตัดสินใจไม่ได้ว่า Killstreak หรือ Scorestreak อันไหนใช้งานได้ดีกว่ากัน
Killstreak เหมาะสำหรับโหมดเกมเน้น Kill ในการเอาชนะ
โหมดเกมที่เน้นการนับยอด Kill ในการเอาชนะ เช่น Team Deathmatch และ Free-for-All มีความเหมาะสำหรับการใช้ Killstreak เนื่องจากเป็นโหมดเกมที่ไม่มี Objective ให้ยึด หรือกฎการเล่นซับซ้อน เน้นยิงให้เละกันไปข้างหนึ่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าว เพลเยอร์ทุกคนจึงได้รับคะแนนจากการเล่นในโหมดเกมเหล่านั้นค่อนข้างเท่าเทียมกัน แล้วทำให้บางสถานการณ์ส่งผลให้ฟาร์มคะแนนได้ยาก เพราะไม่มี Objective ให้ทำ หรือมีโอกาสให้เล่นเกมแบบสนับสนุนได้น้อย
อย่างไรก็ตาม Killstreak ก็ยังใช้ได้ในหลายโหมดเกม โดยเฉพาะโหมด Kill Confirmed ที่เปลี่ยนจากการนับคะแนนด้วย Kill กลายเป็นการเก็บ Dog Tag จากศพของฝ่ายตรงข้ามแทน ถึงอย่างนั้น ส่วนตัวพบว่าการใช้ Killstreak ทำให้เราหลีกเลี่ยงไม่ยอมทำ Objective เพราะหวังทำแต่ยอด Kill ซึ่งสไตล์การเล่นเกมดังกล่าว อาจจะไม่เป็นที่ชื่นชอบสำหรับบางคน และแน่นอน ใครเล่นเกม FPS ไม่เก่ง มักโดน Kill จากผู้เล่นอื่นเป็นประจำ การเอาตัวรอดเพื่อเก็บสะสม Killstreak ให้ได้นั้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยากมากโดยไม่ต้องสงสัย
Scorestreak ทางเลือกสำหรับคนเน้นทำ Objective มากกว่าการ Kill
ถ้าหากพบว่าเกมเมอร์รู้สึกไม่เก่งในด้านการเอาตัวรอด เราแนะนำให้หันมาใช้ Scorestreak ที่เปลี่ยนจากการสะสม Kill กลายเป็นการสะสมคะแนนแทน
คะแนนที่ได้นอกเหนือจากการ Kill ก็มีหลายวิธีทาง ตั้งแต่ การยิงช่วยเหลือ Assist, การทำลาย UAV, การทำลายยานพาหนะรบของฝ่ายตรงข้าม, การป้องกันฐาน Hardpoint, เก็บ Dog Tag, การยึดฐานในโหมด Domination และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่เป็นการสนับสนุนให้ทีมของเราได้รับชัยชนะ
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากคะแนนที่ได้จากการทำ Objective มักเป็นคะแนนนิด ๆ หน่อย ๆ ที่ไม่ได้เยอะเหมือนกับการยิง Kill 1 ตัว ฉะนั้นวิธีเก็บ Scorestreak ที่ดีที่สุด คือต้องช่วยเหลือสนับสนุน และเก็บ Kill ฝ่ายตรงข้ามเมื่อมีโอกาสด้วย
รวมถึง Scorestreak อาจจะเหมาะสำหรับการใช้อาวุธพิเศษด้านสนับสนุนในช่วงเริ่มต้น เช่น เรียกใช้ UAV, Counter UAV เนื่องจากเมื่อเปิดใช้งานแล้ว ผู้เล่นจะได้รับคะแนนเพิ่มจากการช่วยสนับสนุนด้วย แต่จะใช้ Killstreak เน้นการฆ่าอย่าง Bomb Drone, Cruise Missile ก็ได้ ไม่ขัดสนแต่อย่างใด
สรุป
Killstreak กับ Scorestreak เป็น “Best of the Both World” (ใช้งานได้ดีทั้งคู่) ที่ออกแบบมาสำหรับรองรับเกมเมอร์ที่มีสไตล์การเล่นแตกต่างกัน Killstreak จะเหมาะสำหรับคนสายบู๊ไม่กลัวตาย ส่วน Scorestreak จะเหมาะสำหรับคนเน้นเก็บ Objective หรือสนับสนุน มากกว่าการไล่ Kill
แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการสะสม Killstreak หรือ Scorestreak ก็ยังเป็นเรื่องยากท้าทายสำหรับหลายคน ซึ่งตัวเกมก็ได้มอบตัวช่วยด้วยการให้ใส่ Perk Hardline เป็นการลดจำนวน Killstreak กับ Scorestreak ที่ต้องการลง 1 Kill หรือ 125 Point แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว ผู้เล่นจะต้องพึ่งฝีมือกับดวงในการคว้า Killstreak ที่ต้องการมาใช้งานให้ได้
