ในการพัฒนาเกมหนึ่งในฟันเฟืองที่สำคัญสำหรับการพัฒนาคือ Game Engine ที่เปรียบเสมือนเครื่องมือในการร่นระยะเวลาในการทำเกม แทนที่เหล่านักพัฒนาจะเขียน Code ในทุก ๆ จุดของเกมก็ใช้ Engine ในการทำแทน วันนี้เราจะมาส่องดูเกมในช่วง 1 – 2 ปีนี้ว่าเกมดัง ๆ ทุกวันนี้ใช้ Engine อะไรในการพัฒนา
Unreal Engine (ฟรี)
Unreal Engine เป็น Engine สำหรับการพัฒนาเกมจากทางค่าย Epic Games ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในการทำเกมปัจจุบัน ด้วยการเป็น Engine ฟรีที่มาพร้อมกับความสามารถในการใช้งานที่เหมาะกับนักพัฒนามือใหม่และผู้ชำนาญ อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลายให้เข้ากับอุปกรณ์และกราฟิกในหลาย ๆ รูปแบบ ถึงอย่างไรก็ดี Unreal Engine แลกมากับส่วนแบ่ง 5% ของราคาเกมเมื่อวางจำหน่าย โดยเกมที่ใช้ Unreal Engine 4 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดของ Engine นี้มีประมาณนี้
- Octopath Traveler
- Ace Combat 7: Skies Unknown
- Days Gone
- Gears 5
- Jump Force
- Kingdom Hearts III
- The Outer Worlds
Frostbite Engine (Exclusive EA)
Frostbite Engine คือ Engine ที่ได้รับการพัฒนาโดยทีมงาน D.I.C.E จากทาง EA ที่เป็น Engine สำหรับพัฒนาเกมในเครือของ EA เท่านั้น สำหรับ Engine นี้จะมีจุดเด่นในเรื่องของการพัฒนาที่สามารถปรับแต่งได้ทุกแพลตฟอร์มพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของกราฟิกที่สวยงามและคุณภาพของเสียงที่ทำออกมาได้ดีมาก โดยเกมที่นำเอา Engine นี้มาใช้เด่น ๆ ได้แก่
- Battlefield V
- FIFA 19
- Anthem
- Madden NFL 19
RE Engine (Exclusive Capcom)
RE Engine หรือชื่อเต็ม ๆ คือ Reach for the moon Engine ที่มีจุดเด่นในเรื่องของรายละเอียดของสิ่งของต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของประกอบฉาก ร่างกายของตัวละคร แสงเงาล้วนทำออกมาได้สมจริงรองรับ FXAA + TAA และ Shadow cache นอกจากนี้ยังสามารถที่จะ Output สัญญาณแบบ 4K และรองรับ VR อีกด้วย ซึ่ง Engine นี้เป็นของ Capcom และใช้ได้เฉพาะการพัฒนาเกมในเครือของ Capcom เท่านั้น ซึ่งในตอนนี้มีเกมจาก RE Engine แล้ว 3 เกมคือ
- Resident Evil 7
- Resident Evil 2
- Devil May Cry 5
Source Engine (ฟรี)
นี่คือ Engine จากทีมพัฒนาระดับตำนานจากทาง Valve ที่ปัจจุบันเน้นการเปิดหน้าร้านขายเกมแบบ Digital ซึ่ง Source Engine มีจุดเด่นในเรื่องของการ Optimize ที่รองรับการเล่นเกมใน Hardware หลายระดับ ที่สำคัญยังแจกฟรีอีกต่างหาก แต่ถึงกระนั้นปัจจุบัน Engine นี้ไม่ค่อยจะได้รับความนิยมแล้ว อีกทั้งการที่จะดึงความสามารถของ Engine นี้ออกมาใช้จะต้องใช้ความชำนาญระดับหนึ่ง โดยสองเกมล่าสุดที่ใช้ Engine นี้คือ Apex Legends และ Artifact ที่สร้างขึ้นใน Source Engine 2
Unity (ฟรี)
Unity คือ Engine ที่ได้รับความนิยมในการพัฒนาเกมเป็นอันดับที่สองรองจาก Unreal Engine ที่ใช้ได้ง่ายอีกทั้งยังรองรับเกมหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น 2D หรือ 3D ก็สามารถทำได้ นอกจากนี้ยังรองรับแนวทางการพัฒนาที่หลากหลายเหมาะสำหรับค่ายพัฒนาเกมที่พึ่งเริ่มต้นหรือทุนน้อย นอกจากนี้ยังมี Package ให้เราเลือกซื้ออีกด้วยตามสไตล์เกมที่อยากจะพัฒนา จุดด้อยคือการที่ตัว Engine ยังเป็น 32 bit ทำให้ไม่สามารถที่จะรันเกมขนาดใหญ่ที่ต้องการ RAM มาก ๆ ได้ ซึ่งเกมที่พัฒนาโดย Unity มีดังนี้
- Pillars of Eternity II: Deadfire
- Two Point Hospital
- Hollow Knight
- Overcooked 2
- Thronebreaker: The Witcher Tales
CryEngine (ฟรี)
หากพูดถึงความสมจริงแล้ว คงไม่มี Engine ไหนจะน่าจดจำไปกว่า CryEngine จากทีมงาน Crytek ที่ในปัจจุบันได้รับความนิยมในการสร้างเกมแบบ 3 มิติ โดยจุดเด่นของ Engine คือประสิทธิภาพในการ Render ภาพที่สวยมาก นอกจากนี้ยัง Support DX12 และ Vulkan ทำให้โปรแกรมนี้ค่อนข้างจะเหมาะสมในการพัฒนาเกมระยะยาว แต่ข้อเสียคือ CryEngine การไม่ค่อยที่จะซัพพอร์ทการทำเกมนอกเหนือเกมประเภท FPS อีกทั้งยังต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการใช้ Engine สูงอีกด้วย
- Kingdom Come: Deliverance
- Miscreated
- Hunt: Showdown
- Heathen – The Sons of the Law
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ Engine ที่เราได้นำมาเสนอให้เพื่อน ๆ ได้ทราบกันในวันนี้ ซึ่งทุก Engine มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกันแล้วเพื่อน ๆ ละมี Engine ไหนที่ชอบรึเปล่าสามารถที่จะแบ่งปันกันได้ครับผม