กระแสตายไปแล้วซักพักกับมาฟื้นอีกครั้งแล้วตายอีกรอบ สมกับชื่อเกมประเภท “ซอมบี้”
“เล็งพวกมันที่หัวแล้วพวกมันจะหมดลมหายใจทันที” คำแนะนำพื้นฐานที่ได้ผลที่สุดสำหรับในการกำจัด “ซอมบี้” ไม่ว่าเกมเมอร์หรือแฟน ๆ หนังซอมบี้หลาย ๆ คนต่างก็จินตนาการว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ซอมบี้ครองโลกขึ้นแล้วตัวเราจะมีบทบาทอะไรบ้าง ? เราจะกำจัดมันมันให้หมด! ฆ่าทุกอย่างที่ขวางหน้า! หรือ เราจะเป็นคนที่ฉลาด มีความเป็นผู้นำ สามารถรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ในโลกซอมบี้ และอื่น ๆ ตามบทบาทในอุดมคติของตัวเอง
ทุกเกมทุกภาพยนตร์ต่าง ๆ มีกระแสเป็นระยะ ที่ซักวันจะต้องดับไปตามกาลเวลา แต่สำหรับกระแสเกมซอมบี้เหมือนจะเป็นประเภทเกมที่ยังมีให้เล่นให้เรื่อย ๆ อย่างไม่หยุดหย่อน (แต่ก็ไม่ล้นทะลัก) ซึ่งบทความนี้จะเรื่องเกี่ยวกับความเป็นมาเกี่ยวกับภาพยนตร์ซอมบี้พร้อมกับเกมซอมบี้ที่น่าจดจำ
ต้นกำเนิดซอมบี้และบิดาผู้กำเนิดซอมบี้กินคน
อดีต ซอมบี้ เป็นเรื่องนิทานพื้นบ้านชาวเฮติโดยมีคอนเซ็ปศพคนตายที่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง เป็นเพียงแค่เรื่องความเชื่อ ไสยศาสตร์ เวทมนตร์ดำ กับเรื่องเหนือธรรมชาติ ซึ่งในช่วงปี 1930 เป็นยุคที่สื่อบันเทิงเข้ามาบทบาททางสังคมและเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น เช่น งานภาพยนตร์ งานศิลปะ งานการแสดงละครเวที และงานดนตรี
ในตอนนั้นวีดีโอเกมยังไม่กำเนิด หนังซอมบี้ส่วนใหญ่ ยังเป็นแค่รูปแบบหนังผีสยองขวัญธรรมดา ๆ บทบาทซอมบี้ยังเป็นแค่ลูกน้องคอยรับใช้จากเบื้องบน ทำตามเจ้านายทุกอย่างดั่งทาส พอหมดประโยชน์ก็กำจัดทิ้ง ซึ่งซอมบี้ในยุคนั้นจะมีสีผิวขาวซีด ตัวแข็งทื่อ ไม่ฉลาด หิวโหยสมองของมนุษย์ ในปัจจุบันคนรุ่นใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ดูตลก สอบตกในเรื่องความน่ากลัว แต่สำหรับตอนนั้น มันคือสิ่งที่ว้าวและสร้างความบันเทิงใช้ได้เลยสำหรับภาพยนตร์สยองขวัญ นับแต่นั้นมาซอมบี้จึงเป็นตัวประกอบสร้างบรรยากาศจนเป็น Stereotype ในภาพยนตร์หนังสยองขวัญตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่งภาพยนตร์ซอมบี้เรื่อง The Night of the Living Dead ภาพยนตร์กำกับโดย George A. Romero ในปี 1968 หนังที่สร้างนิยามซอมบี้ใหม่ให้น่ากลัวกว่าเดิม
ลักษณะซอมบี้ของภาพยนตร์เรื่องนี้ เดินช้าเหมือนคนไม่มีวิญญาณ ไม่ฉลาด ผิวสีขาวซีด เหมือนในยุคก่อน แต่สิ่งที่แตกต่างจากที่ซอมบี้ที่ผ่านมาคือ มันชอบมาเยอะเป็นกลุ่ม มันกินมนุษย์เป็น ๆ มีพละกำลังแข็งแรงและอึด ทว่าสิ่งที่แตกต่างที่สุดอย่างสิ้นเชิง คือเรื่องการนำเสนอที่ไม่เหมือนหนังสยองขวัญผ่านมาที่เน้นบรรยากาศที่น่ากลัว แต่เป็นหนังสยองขวัญที่สร้างความตึงเครียด จิตตก มืดมน ความรุนแรงถึงขีดสุด เช่น อภัยวะฉีกขาด ซอมบี้กินคนเป็น ๆ จนเห็นลำไส้ เสียงกรีดร้องของตัวละครโดนซอมบี้รุุมล้อมกัดกิน รวมไปถึงการเผยสันดานสัญชาตญาณดิบของมนุษย์ เมื่อถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดสุด ๆ และเป็นการสื่อถึงสิ่งที่น่ากลัวกว่าซอมบี้ก็คือมนุษย์ด้วยกันเอง ซึ่งหนังเรื่อง The Night of the Living Dead เป็นการสร้างนิยามของซอมบี้สมัยใหม่ จนเกิดภาพยนตร์ประเภทใหม่ขึ้น “หนังประเภทซอมบี้” จนผู้กำกับได้รับฉายาว่า “บิดาแห่งหนังซอมบี้”
เมื่อซอมบี้เริ่มเดบิวสู่วีดีโอเกม และกลายเป็น Pop Culture
แม้วีดีโอเกมจะเกิดขึ้นเมื่อกลางปี 1970 แต่เกมประเภทซอมบี้ได้กระจายไวรัส ในปี 1980 ซึ่ง Micheal Jackson ราชาแห่งเพลงป็อป ได้ปล่อยเพลง มิวสิควีดีโอหนังสั้น “Thriller” ฉากเต้นซอมบี้ได้ออกสายตาชาวโลก จนเป็นที่กล่าวขานเป็น MV ที่ดีที่สุดในโลก นับแต่นั้นมา “ซอมบี้” ได้กลายเป็นป็อปคัลเจอร์นับแต่นั้นมา ไม่ใช่เป็นเพียงผีแล้ว
ไม่พ้นแม้แต่วีดีโอเกม ในช่วงนั้นวีดีโอเกมในรูปแบบต่าง ๆ เริ่มมีเกมหลากหลายมากขึ้น ประเภทเกมซอมบี้คือหนึ่งในนั้น ยกตัวอย่างเด่น ๆ อย่าง Zombie Zombie เกมซอมบี้เกมแรกของโลก Ghosts and Goblins เกมเเอ๊คชั่น Side Scrolling ใช้เนื้อหาอ้างอิงจากภาพยนตร์สยองขวัญคลาสสิคในอดีต หรือ Beast Buster เกมยิงซอมบี้ในรูปแบบ Rail Shooting ที่เร้าใจ ทว่ากราฟิกยังอยู่ในยุค 8-Bit การประมวลผลประสิทธิกราฟฟิกยังคงจำกัด การถ่ายทอดตัวละครซอมบี้จึงยังไม่แข็งเเรงในช่วงเวลานั้น แต่ก็จัดว่าเริ่มต้นได้ไม่เลวเลย สำหรับวีดีโอเกมในยุคแรก
Resident Evil เกมที่ให้นิยามซอมบี้สมัยใหม่
ในปี 1996 กำเนิด The House of Dead เกม Rail Shooting Arcade ที่นำเสนอซอมบี้หลากหลายชนิด มีวิธีกำจัดที่แตกต่างกันไป รวมถึงมีการใช้พลังเหนือธรรมชาติเข้าช่วย ทำให้สร้างความแปลกใหม่และน่าสนใจสำหรับเกมตู้อาร์เขต แต่ในปีเดียวกัน เกมซีรี่ส์เกม Resident Evil โดย Capcom ได้กำเนิดขึ้นรวมถึงได้สร้างปรากฏการณ์ให้แก่วงการเกมสยองขวัญ
Resident Evil (หรือ BioHazard ในประเทศญี่ปุ่น) เป็นเกมที่ให้นิยามเกมประเภท “Survival Horror” อย่างแท้จริง รูปแบบของเกมเพลย์ที่จะเน้นการเอาตัวรอดจากซอมบี้มากกว่าที่จะปะทะ คุณสามารถเลือกที่จะต่อสู้หรือหลีกเลี่ยงตามสถานการณ์ ตามความคิด รวมไปถึงมีการจัดการไอเท็ม จัดอาวุธ เพื่อเตรียมรับมือให้ได้กับทุกสถานการณ์ บรรยากาศสถานที่กับเพลงในเกมวังเวง (โดยเฉพาะฉากเปิดประตู) การไขปริศนาในคฤหาสน์ซับซ้อน
รวมถึงเป็นอีกเกมหนึ่งที่เป็นการสร้างนิยามซอมบี้แบบใหม่ เป็นการติดเชื้ออาวุธชีวภาพ T-Virus เป็นไวรัสผลิตตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถติดเชื้อด้วยการกัด หรือโดนข่วนเหมือนกับไวรัสพิษสุนัขบ้าในชีวิตจริง ให้ความรู้สึกว่าซอมบี้อันตรายกว่าที่เดิมหลายเท่า จนกลายเป็นนิยามซอมบี้ใหม่อีกครั้ง โดยไม่ได้จำกัดเพียงแค่ภูติผีปีศาจอีกต่อไป
เนื่องจากไม่มีเกมซอมบี้เกมไหนที่น่าจดจำและงัดสู้กับ Resident Evil ได้ดีพอ จริงอยู่ที่เกมประเภท Survival Horror ยังเป็นที่นิยมในสมัย PlayStation 1 แต่ส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาพวกสัตว์ประหลาด ภูติผีวิญญาณซะส่วนมาก จนกระแสเกมซอมบี้ได้หายไปช่วงระยะหนึ่งเลยทีเดียว ทั้ง ๆ ที่ในภาพยนตร์ยังเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ยุคทองแห่งวีดีโอเกม กระแสซอมบี้กลับมาฟื้นอีกครั้ง
หลังจากหายเงียบไปนานสำหรับเกมซอมบี้ ปี 2006 ทีมงาน CAPCOM ได้ผลิตเกมซอมบี้เกมใหม่ชื่อว่า DEAD RISING เป็นเกม Exclusive ลงเฉพาะแพลตฟอร์ม XBOX360 เท่านั้น (ตอนนี้ไม่ใช่ละ) พระเอก Frank West นักข่าวอิสระผู้ที่ติดอยู่ในห้างสรรพสินค้า Willamette, Colorado โดยเขาจะต้องสืบค้นข่าวพร้อมทั้งช่วยเหลือผู้คนเท่าที่จะทำได้ ภายใน 72 ชม.
ตอน Trailer เปิดตัวเกมและลองเนื้อหาของเกมเพลย์ ผู้เล่นหลายคนต่าง ๆ ได้เข้าใจและรู้ว่าเกมนี้ได้ไอเดียอ้างอิงหลายอย่างมาจากภาพยนตร์เรื่อง Dawn of The Dead หนึ่งในผลงานชิ้นเอกของ George A. Romero ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจัดเซตติ้งในห้างสรรพสินค้ากลางดงซอมบี้ ศัตรูบอสที่เป็นมนุษย์ด้วยกันเอง ความรุนแรงขีดสุด เลือดสาด สมกับเป็นหนังซอมบี้ที่ควรจะเป็น ทุกอย่างในห้างสามารถใช้เป็นอาวุธได้ หรือคุณจะทำอะไรไร้สาระอย่างลองชุดเสื้อผ้าต่าง ๆ ตั้งแต่ชุดผู้หญิงสุดกระแด๊ะ ยันชุดเด็กตัวน้อยสุดรัด
ตั้งแต่ปี 2008 ยุคทองของวีดีโอเกมได้เริ่มต้นขึ้น เกมซอมบี้มากมายได้เปิดตัวจนเป็นกระแสในวงการเกม โดยจะเน้นการใช้ประสิทธิภาพกราฟิกและการประมวลผลในการแสดงผลจำนวนซอมบี้ที่อยู่หน้าจอมากขึ้น เพราะซอมบี้ในยุคนี้เกมจะลดฟิลลิ่งสยองขวัญ แต่มาในรูปแบบเกมแอคชั่นเลือดสาดจัดเต็ม เพื่อให้เข้าถึงทุกผู้เล่นมากขึ้น อย่างเช่น วีดีโอเกม Left 4 Dead เกม FPS co-op 4 คน เป็นเกมต้องใช้ความสามัคคี การวางแผน ในการฝ่าฟันฝูงซอมบี้ ใช้การนำเสนอใกล้เคียงกับหนังภาพยนตร์ให้มากที่สุด มีการใช้เอฟเฟค Film Grain รวมถึงฉาก Loading Screen เป็นเกมแรกที่ใช้ซอมบี้รูปแบบ “ซอมบี้วิ่งร้อยเมตรกระหายเลือด” ได้แรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ “28 Days Later” รวมถึงซอมบี้ชนิดพิเศษที่สามารถควบคุมได้ในโหมด 4 Vs. 4
รวมถึงอีกเกมหนึ่งที่กล่าวถึงคือโหมด Nazi Zombie สำหรับเกม Call of Duty ที่พัฒนาโดย Treyarch ผู้กำกับอย่าง George A. Romero เป็นบอสรับเชิญในภาค Black Ops
ปีต่อมาก็คือ Dead Island เกมซอมบี้ที่เปิดตัวในปี 2011 พัฒนาโดย Deep Silver โดยเกมใส่ระบบเกม RPG กับระบบคราฟอาวุธเข้าไป พร้อมกับใส่ระบบ CO-OP ไว้เล่นสนุกกับเพื่อน ๆ หรืออีกเกมอย่าง Telltale Games ได้สร้างเกม Point & Click ที่มีเนื้อหาที่ที่ตึงเครียด ไม่แพ้ต้นฉบับกราฟิกโนเวลและทีวีซีรีส์ชื่อดัง “The Walking Dead : Telltale Game Series” จนได้รางวัล Game of Year ในปี 2012 สาขาเนื้อเรื่องยอดเยี่ยม
และทิ้งท้ายด้วย ล่าสุดเกม The Last of Us เกม Exclusive สำหรับ PlayStation ที่ตั้งแนวคิดสุดล้ำ เชื้อสปอร์ Cordyceps ที่สามารถควบคุมสมองได้ในส่วนของสัตว์จำพวกแมลง ตัวเกมได้ตั้งสมมติฐานว่ามันสามารถติดเชื้อสู่มนุษย์ได้จะเกิดอะไรขึ้น เเละมนุษยชาติจะดำเนินชีวิตอยู่ต่อไปอย่างไร ท่ามกลางการผจญภัยของ Joel และ Ellie
เกมซอมบี้เป็นเกมที่มีกระแสดับ ๆ ตื่น ๆ เพราะแนวคิดสามารถพัฒนาได้อิสระก็จริง แต่พอนำมาประยุกต์เป็นวีดีโอเกมปรากฎว่าไม่สามารถสร้างไอเดียอื่น ๆ ได้ ด้วยองค์ประกอบไม่เหมาะสมเคมีที่ไม่ตรงกัน ในขณะที่สื่อภาพยนตร์สร้างไอเดียใหม่ได้เรื่อย ๆ หรือจะเป็นผู้เล่นยังติดภาพลักษณ์ซอมบี้เละ ๆ กัดกินมนุษย์สด ๆ อยู่ หลุดไปมากกว่านั้นคือ “มันไม่ใช่ซอมบี้มันคือมอนสเตอร์” ทำให้เกมซอมบี้สว่นใหญ่ยังคงติดอยู่กับเกมประเภท Survival Horror หรือ Action Horror เพราะเกมซอมบี้จะประยุกต์ได้ขนาดไหนก็ยังเป็นเกมสยองขวัญอยู่ดี จึงเป็นเกมที่ไอเดียไม่สละสลวยเท่าที่ควร จนกระแสเกมซอมบี้จางลงไปในที่สุดอีกครั้ง
เกมซอมบี้ในปัจจุบันแทบไม่มีพัฒนาโดยทีมงานใหญ่เลย แต่แล้วทีมงาน OVERKILL ได้พัฒนา The Walking Dead รวมถึงเกม Days Gone เกม Exclusive เฉพาะ PS4 ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นการสื่อให้เห็นว่าเกมซอมบี้ยังไม่หายไปไหน ผมก็หวังว่าเกมซอมบี้จะอยู่ต่อไปไม่เลือนลาง แล้วมีแนวคิดที่สามารถพัฒนาได้มากขึ้นกว่าเดิม