แล้วเกิดอะไรขึ้นกับ Burnout บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจสถานการณ์ของเกมตระกูลดังกล่าวมากยิ่งขึ้น
Burnout เกมปังที่ถูก EA ลืมมาแล้ว 10 ปี
แน่นอนว่าก่อนเข้าสู่เนื้อหาหลัก ต้องทำความเข้าใจกับกระแสตอบรับของเกม Burnout ภาคล่าสุดก่อน
Burnout ภาคสุดท้าย (ไม่นับภาค Remastered และมือถือ) ที่ออกวางจำหน่าย คือ Burnout Paradise สำหรับ PC, PlayStation 3 กับ Xbox 360 ในปี 2008 ซึ่งเป็นเกมแรกของตระกูลที่ใช้ระบบแผนที่ Open-World
Burnout Paradise มีกระแสตอบรับยอดเยี่ยมทั้งด้านระบบเกมเพลย์เมามันเหมือนภาคก่อน มีเพลงประกอบไพเราะ ภาพกราฟิกสวยงาม โมเดลการพังของรถมีรายละเอียดสูง และระบบ Open-World ทำให้โลกจักรวาล Burnout มีชีวิตชีวากว่าภาคก่อน ๆ หลายเท่า
แม้มันอาจจะไม่ใช่ Burnout ที่ดีที่สุด เพราะโหมด Showtime ที่เข้ามาทดแทน Clash Mode ยังไม่สนุกสนานเท่ากับโหมดเก่า แต่เกมดังกล่าวมีกระแสตอบรับดีมาก จนช่วยผลักให้ซีรีส์ Burnout ทำยอดขายรวมทุกภาคได้ทั้งหมด 15 ล้านชุด แล้วเนื่องจาก Burnout Paradise มีข้อดีอย่างเห็นชัด รวมถึงมีศักยภาพสามารถพัฒนาเกมให้ดีขึ้นได้ในภาคต่อไป ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่เกม Burnout ภาคใหม่จะถูกสร้างออกมาให้เราเล่นสัมผัสกันอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ปี 2008 จนถึงตอนนี้ Burnout ยังไม่มีการประกาศเปิดตัวเกมภาคใหม่ รวมถึง EA กับ Criterion Games เอง ก็ไม่ค่อยออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับแฟรนไชส์ Burnout สักเท่าไหร่นัก จึงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจพอสมควร ว่าทั้งที่ Burnout เป็นหนึ่งในซีรีส์เกมที่ประสบความสำเร็จ แต่กลับไม่มีทีมพัฒนาเกมทีมไหนของ EA มาสานต่อแฟรนไชส์ Burnout จนผ่านมา 10 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีเกมภาคใหม่
แม้ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าทำไม EA พยายามแกล้งหลงลืมแฟรนไชส์ Burnout แต่หากอ้างอิงจากการรายงานข่าวหลายสื่อ ดูเหมือนว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับ “การให้ความสำคัญของเกม IP ตัวเอง” ที่ไม่เท่ากัน
ในมุมมองของ EA Need for Speed สำคัญกว่า Burnout
หากพูดถึงเกมแข่งรถของค่าย EA เราเชื่อว่าเกมเมอร์จะนึกชื่อได้เกมสองตระกูลหลัก ก็คือ Need for Speed และ Burnout
Need for Speed เป็นเกมแข่งรถสไตล์อาร์เคดที่อยู่คู่วงการเกมมานานเกือบ 28 ปี และเป็นซีรีส์เกมที่มีความสำคัญต่อ EA ไม่แพ้เกมตระกูล Battlefield, Star Wars และ EA Sports FC (อดีตคือเกม FIFA)
ในปี 2010 ทาง EA เคยมอบหมายให้ Criterion Games ลองพัฒนาเกมของแฟรนไชส์ Need for Speed ซึ่งเกมดังกล่าวคือ ภาค Hot Pursuit ฉบับ Reboot ที่แม้ระบบเกมการเล่นจะยังคงเน้นการหลบหนีตำรวจระหว่างการแข่งรถแบบผิดกฎหมาย แต่มีการใส่องค์ประกอบของ Burnout เข้าไป ส่งผลทำให้เกมเข้าถึงง่ายกว่าภาคต้นฉบับ
Need For Speed: Hot Pursuit (Reboot)
เนื่องจากเกมภาค Hot Pursuit มีกระแสตอบรับดี และทำยอดขายประสบความสำเร็จได้เกิน 5 ล้านชุด ส่งผลลัพธ์ทำให้ EA มีความรู้สึกไว้ใจให้ Criterion Games เป็นหนึ่งในทีมพัฒนาเกมหลัก ที่ทำหน้าที่สร้างเกม NFS ภาคต่อไป โดยแทนที่ EA Black Box ทีมพัฒนาเกม NFS ตั้งแต่ปี 2000 ซึ่งปิดตัวลงเมื่อปี 2012
หลังจากเกมภาค Hot Pursuit กับ Most Wanted ประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น EA ตัดสินใจนำพนักงานจำนวน 80% ของ Criterion Games ให้ไปพัฒนาเกมภาค Rivals แล้วต่อมา พนักงานจำนวน 80% ทั้งหมด ย้ายไปอยู่ในทีมพัฒนาเกมใหม่ชื่อว่า Ghost Games ที่ก่อตั้งเพื่อสร้างเกม NFS ภาคใหม่ ส่วนพนักงานอีก 20% ที่เหลือ ถูกสั่งให้ทำงานเกี่ยวกับโครงการอื่นแทน ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า EA ให้ความสำคัญกับแฟรนไชส์ NFS มากกว่า Burnout
เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ความหวังของเกม Burnout ยิ่งมืดสนิทขึ้นไปอีก เพราะหลังจากก่อตั้ง Ghost Games ขึ้นมา ทาง Alex Ward ผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ กับผู้ให้กำเนิด Burnout พร้อมกับ Fiona Sperry ประกาศลาออกจาก Criterion Games ในปี 2013 แล้วก่อตั้งสตูดิโอเกมอินดี้อย่าง Three Fields Entertainment ในปี 2014 พร้อมสร้างเกม Dangerous Driving ซึ่งเป็นเกมที่สานต่อเจตนารมณ์จาก Burnout
แม้ปี 2014 ทาง EA กับ Criterion เคยประกาศว่าจะทำเกมแข่งรถที่พัฒนาต่อยอดจาก Burnout พร้อมเผยแนวคิดจะเป็นเกมที่ใช้มุมกล้อง First-Person อย่างเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ในปี 2016 ทาง EA ยืนยันกับ Engadget ว่าโปรเจกต์เกมดังกล่าวถูกยุบไปแล้ว
ภาพ Concept Art เกมใหม่ของ Criterion Games ที่ยกเลิกเมื่อปี 2016
Criterion Games ยังคงทำเกมให้ EA ความหวังของ Burnout ภาคใหม่ยังมีให้เห็น
นับตั้งแต่ปี 2012 จนถึงปัจจุบัน Criterion Games สร้างเกม NFS ภาค Most Wanted, Rivals และภาคใหม่ที่มีแผนเปิดตัวในปี 2022 รวมถึงเป็นทีมช่วยเหลือในการสร้างเกม Battlefield V (โหมด Firestorm) กับ ภาค 2042 โดยไม่มีการพัฒนาเกม Burnout ภาคใหม่อีกเลย
ส่วน Ghost Games ที่พนักงานส่วนใหญ่มาจาก Criterion Games ปัจจุบันคือ EA Gothenburg สตูดิโอสนับสนุนด้านวิศวกรรมของ EA ที่ถูกรีแบนด์เมื่อปี 2020 หลังจากทำเกม NFS ภาค Reboot 2015, Payback และ Heat แล้วไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ซึ่งพนักงานหลายคนก็ได้กลับไปทำให้ Criterion Games เพื่อสร้างเกม NFS ปี 2022
แต่จะบอกว่า EA ลืมเลือนแฟรนไชส์ Burnout ก็อาจไม่ถูกต้อง 100% เพราะเมื่อปี 2018 บริษัทมีการวางจำหน่ายเกม Burnout Paradise ฉบับ Remastered ใน PC, PlayStation 4, Xbox One และ Nintendo Switch ซึ่งแม้มันจะไม่ใช่เกมภาคใหม่ แต่อย่างน้อย ก็แสดงให้เห็นว่า EA รู้ว่า Burnout เป็นซีรีส์เกมที่มีตัวตน และยังคงเป็นที่ต้องการจากแฟน ๆ บางกลุ่ม
ภาพ Tech Demo ของ Frostbite Engine
ตอนนี้ Criterion Games ยังคงยุ่งกับการพัฒนาโครงการอื่น ๆ ของ EA และ NFS ภาคปี 2022 จนไม่มีเวลาสร้าง Burnout (หรือ EA ไม่อนุมัติไฟเขียวใหสร้างเกม) แล้วเกมภาคใหม่จะเกิดขึ้นหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่การตัดสินใจของ EA ซึ่งเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์เกม Burnout อยู่ตอนนี้
แหล่งอ้างอิง: SVG