หนึ่งในระบบเด่นของ Valorant คือบรรดาความสามารถของเหล่าตัวละครหรือ Agent ที่มีอยู่ในเกม ที่จะช่วยให้การยิงต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามทำได้หลากหลายมากขึ้น จนบางครั้งการใช้ Skill ถูกจังหวะก็สามารถช่วยเปิดช่องไปสู่ชัยชนะได้อย่างง่ายดาย วันนี้เรามาดูกันว่าความสามารถของเหล่า Agent ในเกม Valorant นี้มีอะไรกันบ้าง
อนึ่ง การใช้ Skill ในเกมนี้จะมีทั้งแบบที่มีติดตัวอยู่แล้ว และต้องซื้อเพิ่ม เหมือนกับระเบิดในเกม CS: GO ที่แต่ละตัวละครจะมีไม่เหมือนกัน การเลือกใช้ให้ถูกสถานการณ์และแผนของทีมจะช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้นมากทีเดียว
ตัวละครสาย Duelist
Jett
สาวเกาหลีผู้ว่องไวคนนี้มาพร้อมกับชุด Skill ที่ช่วยให้การเคลื่อนที่เข้าหาศัตรูเป็นไปได้อย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้เล่นแนวหน้าที่จะต้องปะทะกับศัตรูเป็นคนแรก ๆ และยังมีท่าพรางตาที่ช่วยหันเหความสนใจจากฝ่ายตรงข้ามได้ด้วย
- Cloudburst – ปาระเบิดควันปิดการมองเห็นตรงเป้าหมายชั่วคราวประมาณ 7 วินาที เหมาะสำหรับการปาเพื่อหันเหความสนใจหรือพรางตัวเพื่อใช้ Skill อื่นเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่
- Updraft – กระโดดขึ้นจากพื้นในระดับความสูงที่มากกว่าปกติ ทำให้สามารถปีนขึ้นกำแพงในบางจุดที่เข้าถึงยากได้ สายซุ่มหลายคนมักจะเลือกใช้ Skill นี้เพื่อเข้าถึงจุดที่ได้เปรียบในการซุ่มยิง
- Tailwind(Signature) – พุ่งตัวไปยังทิศทางที่ต้องการอย่างรวดเร็ว สามารถใช้ได้ในทุกสถานการณ์ทั้งบุกเข้าหาศัตรูที่กำลังบรรจุกระสุน หรือจากจุดที่เสียเปรียบได้ทันที แต่ต้องระวังถ้าหากใช้ท่านี้เข้าไปในกลางวงศัตรูต่อหน้า เพราะตัว Jett จะมี Delay ในการหยิบปืนประมาณเกือบ 1 วินาที ทำให้อาจโดนยิงจนตายก่อนได้ และยังสามารถใช้ทำลาย Skill Trapwire ของ Cypher ได้ด้วย
- Blade Storm(Ultimate) – เรียกมีดบินขึ้นมาโจมตีศัตรู ถ้าโดนเข้าที่หัวแบบไม่ใส่เกราะจะตายทันที หากใช้ถูกจังหวะจะสามารถเก็บศัตรูได้หลายคนในคราวเดียว
Phoenix
Phoenix ถือเป็นตัวละครที่ได้เปรียบมากในพื้นที่แคบ จาก Skill ในการคุมพื้นที่หลายแบบ และการ Flashbang ให้ศัตรูตาพร่า หากใครเดินเข้าไปแบบไม่ระวังตัวก็อาจจะกลายเป็นเหยื่อของเขาได้โดยง่าย
- Blaze – สร้างกำแพงไฟเพื่อกันพื้นที่เป็นเวลา 8 วินาที ศัตรูที่อยู่ในบริเวณนั้นจะเสียพลังชีวิตแบบต่อเนื่อง ส่วน Phoenix จะได้พลังชีวิตคืนเมื่อยืนอยู่ในบริเวณที่ไฟลุกอยู่ รวมไปถึงปิดการมองเห็นในฝั่งตรงข้ามอีกด้วย
- Curveball – ปล่อยลูกบอลแสงที่ทำให้ทุกคนที่เห็นตาพร่าเป็นเวลาประมาณ 1.1 วินาที เลือกได้ว่าจะเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวา แต่ระยะทำการของ Curveball นั้นสั้นมาก และปาไปตรง ๆ ไม่ได้ จึงเหมาะแก่การใช้เคลียร์ห้องด้านในที่คาดว่าศัตรูจะแอบอยู่ และท่านี้จะมีผลต่อเพื่อนร่วมทีมด้วย
- Hot Hands(Signature) – ปาระเบิดไฟลงพื้นเกิดเป็นพื้นที่ลุกไหม้ประมาณ 7-8 วินาที ถ้าศัตรูมาเหยียบจะเสียพลังชีวิตอย่างต่อเนื่อง แต่ Phoenix จะได้พลังชีวิตเพิ่ม ท่านี้มีผลต่อเพื่อนร่วมทีมด้วยเช่นกัน
- Run it Back(Ultimate) – สร้างร่างแยกที่ควบคุมได้เดินเข้าไปโจมตีหรือล่อหลอกศัตรูได้ โดยจะสลายหายไปเมื่อถูกโจมตีจนพลังชีวิตหมดหรือหมดเวลาในการใช้(มีระยะเวลาประมาณ 15 วินาที) และร่างสลายไป Phoenix จะกลับมายืนตรงบริเวณที่ร่าย Skill อีกครั้งหนึ่ง
Raze
สำหรับผู้เล่นสายลุยและชอบเป็นตัวเปิดการบุกด้วยระเบิด Raze คือคำตอบที่ดีที่สุดในตอนนี้ ด้วย Skill การใช้ท่าระเบิดที่หลากหลาย และ Ultimate ที่รุนแรง ยิ่งถ้าผนวกใช้กับการคุมพื้นที่จากเพื่อนร่วมทีมด้วยจะทำให้เธออันตรายขึ้นมากทีเดียว
- Boom Bot – ปล่อยกับระเบิดที่มีลักษณะเหมือนแมงมุมเดินไปข้างหน้า เมื่อชนกำแพงก็จะเปลี่ยนทางและเดินตรงไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งเมื่อเจอเป้าหมายเป็นศัตรู มันก็จะระเบิดสร้างความเสียหายถึงตายได้ แต่ตัว Boom Bot สามารถถูกยิงให้พังได้ก่อนที่จะระเบิด การปล่อยท่านี้ออกไปแบบตรง ๆ อาจเป็นการเสียเปล่าได้
- Blast Pack – ระเบิดแบบ Satchel Charge ที่จะระเบิดเมื่อผู้เล่นก็สั่งเองหรือผ่านไปเป็นเวลาประมาณ 5 วินาที ซึ่งสามารถติดกับกำแพงหรือตัวของศัตรูก็ได้ มีความแรงในระดับถึงตายได้เช่นกัน ศัตรูสามารถยิงทำลายได้ นอกจากนั้นยังใช้ในการเคลื่อนที่ขึ้นที่สูงหรืออีกฝั่งหนึ่งได้อย่างรวดเร็ว คล้ายกับระเบิดของ Junkrat ในเกม Overwatch นั่นเอง
- Paint Shells(Signature) – ระเบิดมือแบบมาตรฐานที่มีความรุนแรงสูง เมื่อระเบิดไปชุดแรงและจะมีสะเก็ดกระจายออกมาสร้างความเสียหายเพิ่มเติมอีก หากใช้ดี ๆ สามารถเก็บศัตรูเป็นกลุ่มได้เลย
- Showstopper(Ultimate) – Raze จะหยิบปืนยิงจรวดขนาดใหญ่ขึ้นมายิงใส่เป้าหมาย ระเบิดเป็นวงกว้างและสร้างความเสียหายระดับนัดเดียวตาย แต่ต้องรีบยิงก่อนที่ระยะเวลาทำการจะหมดลง
Reyna
Agent คนล่าสุดของเกม มาพร้อมความสามารถที่ป่วนเกมได้ยอดเยี่ยม ทั้งดูดพลัง พรางตา และอีกมากมาย จนอาจเรียกได้ว่าเป็นตัวละครที่เก่งมากจนลุยเดี่ยวได้แทบจะทุกสถานการณ์เลย
- Devour(Signature) – ดูดลูกพลังสีม่วงที่ได้จากการฆ่าศัตรูมาฟื้นพลังชีวิต สามารถฟื้นพลังจนเกินความจุสูงสุดจนอยู่ในสถานะ Overheal ได้ ช่วยเพิ่มความอึดให้กับเธออย่างมาก
- Dismiss(Signature) – ดูดลูกพลังสีม่วงที่ได้จากการฆ่าศัตรูมาเป็นพลังในการเคลื่อนที่แบบวิญญาณ ศัตรูจะไม่สามารถโจมตีใส่เราได้ในช่วงเวลานี้และตัวของ Reyna จะเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นเป็นเวลาประมาณ 3 วินาที และจะมองเห็นศัตรูได้ชัดขึ้น แต่ Reyna จะไม่สามารถโจมตีศัตรูได้เมื่อเปิดใช้งาน Skill นี้
*Devour และ Dismiss จะใช้ Ability Count ร่วมกัน โดยสามารถใช้ทั้งสอง Skill รวมกันได้สูงสุด 4 ครั้งต่อหนึ่งรอบการเล่น*
- Leer – โยนลูกบอลพลังออกไปยังพื้นที่เป้าหมาย ศัตรูที่เห็นลูกพลังนี้จะถูกจำกัดการมองเห็นและได้ยินชั่วขณะหนึ่ง สามารถถูกยิงจนพังหายไปได้ และลูกพลังยังสามารถโยนทะลุกำแพงได้ด้วย(สามารถมองตำแหน่งในการโยนได้จากใน Mini map)
- Empress(Ultimate) – เปิดโหมดพิเศษที่จะทำให้มองเห็นศัตรูได้ชัดเจนขึ้น สามารถใช้งานท่า Devour และ Dismiss ได้ไม่จำกัดครั้งเมื่อเปิดใช้งาน
Agent สาย Controller
Brimstone
Brimstone ถือเป็น Agent สายควบคุมที่มีทักษะในการคุมพื้นที่ได้อย่างยอดเยี่ยม หากใครที่ชอบเล่นแบบคุมพื้นที่การวางระเบิดหรือบุกแบบไม่ทันตั้งตัวด้วยระเบิดควัน เขาคือตัวเลือกที่เหมาะสมอย่างมาก
- Incendary – ท่ายิงระเบิดเพลิงแบบปืน Grenade Launcher เมื่อตกถึงพื้นจะลุกไหม้อยู่ในบริเวณที่ยิงไปเป็นบริเวณกว้าง เหมาะมากที่จะใช้เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้าสู่พื้นที่หรือจุดอันตราย
- Stim Beacon – วางพื้นที่พิเศษที่จะมอบสถานะ Rapid Fire ให้กับทุกคนในทีม ซึ่งจะเพิ่มอัตราการยิงให้สูงขึ้น สามารถถูกยิงทำลายได้
- Sky Smoke(Signature) – ปล่อยระเบิดควันลงในจุดที่ต้องการสูงสุดสามลูกพร้อมกันผ่านทาง Tactical Map แต่ระยะในการวางจะจำกัดเฉพาะในบริเวณที่ Brimstone อยู่เท่านั้น เหมาะมากสำหรับใช้เป็นตัวเปิดการบุกแบบไม่ให้ศัตรูมองเห็น หรือวางในจุดยุทธศาสตร์เพื่อไม่ให้ศัตรูบุกเข้ามามั่ว ๆ และยังมีระยะเวลานานเกือบ 15 วินาทีอีกด้วย
- Orbital Strike(Ultimate) – เปิด Tactical Map และเรียกเลเซอร์ยิงลงมาจากฟ้า โดยจะสร้างความเสียหายแบบต่อเนื่องในพื้นที่ ๆ ยิงลงมาเป็นเวลา 4 วินาที หากใช้ในจังหวะที่ศัตรูยังไม่รู้ตัวหรือในพื้นที่แคบเช่นจุดวางระเบิดก็มีโอกาสเก็บศัตรูได้อย่างรวดเร็ว สำหรับศัตรูที่มีเกราะเต็มจะใช้เวลาประมาณ 1.5 วินาทีก็จะสามารถยิงจนตายได้
Omen
นักฆ่าผู้ใช้เงาพรางตัวและเคลื่อนที่ได้ในชั่วพริบตา ด้วยทักษะที่เขามีทำให้ผู้เล่นสามารถเข้าถึงตัวศัตรูได้โดยที่พวกมันไม่รู้ตัว หากใช้พลังของเขาได้ดี ไม่ว่าใครก็สามารถจัดการเป้าหมายได้แบบที่พวกมันไม่ทันตั้งตัวแน่นอน
- Shrouded Step – วาร์ปไปยังพื้นที่เป้าหมาย โดยจะใช้เวลาในการร่าย Skill ประมาณ 1.5 วินาที เหมาะสำหรับใช้เข้าถึงพื้นที่สูงเพื่อใช้เป็นจุดซุ่มยิงหรืออื่น ๆ แต่ไม่เหมาะที่จะเอาไว้ใช้หนีหรือบุกเข้าหาศัตรู เพราะอาจถูกยิงระหว่างร่าย Skill ได้ง่าย
- Paranoid – ปาบอลพลังไปยังพื้นที่เป้าหมาย ศัตรูที่เห็นมันเข้าจะถูกลดวิสัยทัศน์ในการมองเห็นลง โยนทะลุกำแพงได้ และศัตรูสามารถยิงทำลายลูกพลังได้
- Dark Cover(Signature) – ปล่อย Shadow Orb เข้ามาบดบังพื้นที่เป้าหมาย ในการปาสามารถกดปุ่ม Alternate Fire เพื่อปาให้ไกลขึ้นได้ โดยกลุ่มควันที่สร้างขึ้นจะมีผลอยู่ที่ 12 วินาที ซึ่งใช้งานทั้งการบุกหรือป้องกันได้ดีเยี่ยม มีเวลา Cooldown ประมาณ 30 วินาที
- From The Shadow(Ultimate) – เปิด Tactical Map และเคลื่อนที่ไปยังจุดที่ต้องการได้ทันที หลังเลือกจุดที่จะไปแล้วจะใช้เวลาในการเคลื่อนที่ประมาณ 2.5 วินาทีก่อนที่จะวาร์ปไป ก่อนใช้งานควรแน่ใจว่าจุดที่ไปนั้นจะไม่มีศัตรูดักรออยู่ และควรใช้ในช่วงที่รู้ว่าศัตรูจะไปดักรออยู่บริเวณไหน ซึ่งก็ต้องอาศัยข้อมูลจากเพื่อนร่วมทีมเพื่อประโยชน์สูงสุด
Viper
นักฆ่าสาวผู้ใช้พิษในการคุมพื้นที่และโจมตีศัตรู ท่าของเธอนั้นกินพื้นที่เป็นบริเวณกว้างและสร้างความเสียหายกับศัตรูอย่างต่อเนื่อง เป็น Agent อีกคนที่สามารถปิดพื้นที่ไม่ให้ศัตรูเข้าถึงจุดอันตรายได้ดี
*Viper จะมีเกจพิเศษสำหรับการใช้พิษเพิ่มขึ้นมา และ Skill บางท่าจำเป็นต้องใช้พลังจากเกจนี้ด้วยเช่นกัน สามารถฟื้นพลังคืนมาได้ 5 แต้มทุก 1 วินาที*
- Snake Bite – ยิงระเบิดพิษลงตรงบริเวณที่เป็นเป้าหมาย ศัตรูหรือเพื่อนร่วมทีมที่เข้ามาเหยียบจะได้รับความเสียหายจากพิษ 25 แต้มทุก 1 วินาที มีระยะเวลาเกิดผลอยู่ที่ 8 วินาที จุดประสงค์ในการใช้จะเหมือนกับระเบิดเพลิงของ Phoenix และ Brimstone
- Poison Cloud – ปาระเบิดแก๊สพิษลงในบริเวณเป้าหมาย ใช้เกจแก๊สพิษในการร่าย 20 หน่วยและจะลดลงเรื่อย ๆ จนกว่าจะกดยกเลิก หมอกที่ถูกสร้างขึ้นด้วยระเบิด Poison Cloud จะสร้างความเสียหายให้ศัตรูที่อยู่ในหมอก 10 หน่วยต่อวินาที สามารถใช้ซ้ำได้หลังจากยกเลิกผลของระเบิดลูกก่อนหน้าไปแล้วชั่วขณะหนึ่ง
- Toxic Screen(Signature) – สร้างกำแพงแก๊สพิษขึ้นมาบังสายตาจากศัตรู ศัตรูที่เดินอยู่ในม่านกำแพงจะได้รับความเสียหายจากแก็สพิษเช่นเดียวกับท่า Poison Cloud รวมไปถึงใช้เกจแก๊สพิษเช่นเดียวกัน สามารถร่ายซ้ำได้เมื่อยกเลิกผลการยิงของท่าแรกไปแล้ว
- Viper’s Pit(Ultimate) – สร้างก้อนหมอกพิษขนาดใหญ่คลุมบริเวณเป้าหมาย โดย Viper จะมองเห็นศัตรูที่อยู่ในหมอกได้ชัดเจนมากขึ้น และลดวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของศัตรูลง รวมไปถึงได้รับความเสียหายจากพิษอีกด้วย เหมาะสำหรับใช้งานในช่วงที่ Spike ได้ถูกวางไปแล้ว และต้องการคุมพื้นที่เพื่อป้องกันฝ่ายตรงข้าม
สาย Sentinel
Sage
Sage ถือได้ว่าเป็น Agent ยอดนิยมที่ต้องเจอเกือบทุกเกมเลยก็ว่าได้ ด้วยทักษะการ Heal และชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมที่มีค่ามาก รวมไปถึงยังมี Skill ที่ช่วยเกื้อหนุนและก่อกวนฝ่ายตรงข้ามได้ดีมาก จึงไม่น่าแปลกใจที่เราจะต้องเห็นเธอในเกมนี้อยู่ตลอด
- Barrier Orb – สร้างกำแพงน้ำแข็งขึ้นมาขัดขวางไม่ให้ใครผ่านไปได้ สามารถหมุนหรือเลือกตำแหน่งการวางได้ด้วยการคลิกและหมุนเมาส์ไปในทิศทางที่ต้องการได้ ถูกทำลายได้ด้วยอาวุธปืนหรือระเบิด ผู้เล่น Sage หลายคนนอกจากจะใช้ในการป้องกันพื้นที่แล้ว มันยังถูกใช้เพื่อเอาไว้ Boost เพื่อนร่วมทีมหรือตัวเองขึ้นไปบนที่สูงกว่าปกติได้ด้วย
- Slow Orb – โยน Orb สร้างพื้นน้ำแข็งขึ้นมา ศัตรูที่เข้ามาเหยียบจะติดสถานะ Slow ทำให้เคลื่อนที่ได้ช้าลง ใช้ในการป้องกันพื้นที่ไม่ให้ศัตรูสาย Duelist ที่เคลื่อนที่เร็ว ๆ เข้ามาก่อกวนได้อย่างมาก
- Healing Orb(Signature) – ใช้พลังรักษาตัวเองหรือเพื่อนร่วมทีมแบบเดี่ยว โดยจะฟื้นพลังชีวิตให้จนเต็ม 100 ภายใน 5 วินาที โดยในระหว่างที่กำลังฟื้นพลังอยู่หากศัตรูโจมตีเข้ามาก็จะช่วยฟื้นเลือดไปด้วยเช่นกัน
- Resurrection(Ultimate) – ชุบชีวิตเพื่อนร่วมทีมให้กลับมาสู้ได้อีกครั้งหนึ่ง แต่ในระหว่างที่เพื่อนร่วมทีมฟื้นขึ้นมาจะมีระยะเวลาที่ไม่สามารถป้องกันตัวเองได้ชั่วขณะหนึ่ง หากโดนยิงตอนนี้ก็จะได้รับความเสียหายไปตามปกติ ดังนั้นก่อนชุบอย่าลืมดูว่ามีศัตรูอยู่ในพื้นที่หรือไม่ด้วย
Cypher
หน่วยสอดแนมที่สามารถตรวจสอบพื้นที่เพื่อป้องกันหรือบุกเข้าไปได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยกล้อง Spycam ของเขา แถมยังมี Skill สำหรับขัดขวางการเคลื่อนที่สำหรับพวกชอบพุ่งเข้ามามั่ว ๆ อีกด้วย
- Cyber Cage – สร้าง Cyber Cage ขึ้นตรงตำแหน่งเป้าหมาย บดบังวิสัยทัศน์ในบริเวณนั้นเป็นเวลาประมาณ 6 วินาที
- Trapwire – วางกับดัก Tripwire ตรงจุดที่ต้องการ ศัตรูที่เข้าใกล้จะถูกล่ามให้เคลื่อนที่ได้ช้าลง พร้อมกับเผยตำแหน่งของตัวเอง สามารถถูกยิงทำลายได้
- Spycam(Signature) – โยนกล้องวงจรปิดไปยังจุดที่ต้องการ ใช้ส่องและระบุตำแหน่งของศัตรูได้ด้วยการยิงลูกดอกปักเข้าที่ตัวศัตรูเพื่อระบุตำแหน่ง ตัวกล้องสามารถถูกยิงทำลายได้ถ้าถูกพบเข้า ซึ่งในแต่ละแผนที่จะมีจุดที่กล้องสามารถมองเห็นได้ทั่วอยู่หลายจุด จึงต้องลองศึกษากันดูให้ดี
- Neural Theft(Ultimate) – ใช้กับศพของศัตรูที่ตายไปแล้วในรอบนั้น เพื่อระบุตำแหน่งเพิ่มเติมของศัตรูที่ยังเหลืออยู่ในฉาก โดยร่างที่ยังใช้ได้จะขึ้นว่ามี Uplink อยู่ด้านบน
Breach
Breach เป็นตัวละครสาย Initiator ที่เหมาะกับการบุกแบบตรง ๆ มาก เพราะท่า Skill ของเขาจะช่วยเสริมสิ่งเหล่านี้ให้เด่นชัดขึ้นไปอีก เรียกว่าใครที่เข้ามาขวางทางเขานั้นมีโอกาสที่จะเจ็บหนักยิ่งกว่าที่เป็นเลยก็ได้ หากใครมีเพื่อนร่วมทีมที่สามารถระบุตำแหน่งของศัตรูได้จะช่วยให้เขาเฉิดฉายได้มากขึ้นไปอีกด้วย
- Aftershock – ใช้ปืน Fusion Charge ยิงคลื่นกระแทกที่ทะลุกำแพงได้ สร้างความเสียหายอย่างมากให้กับศัตรูจนอาจถึงตายในทีเดียวได้เลย
- Flashpoint – ใช้ปืน Fusion Charge ยิงระเบิด Flash ทำให้ศัตรูตาพร่าชั่วขณะ(0.1 – 1.75 วินาที ตามระยะเวลาในการชาร์จ) รวมไปถึงผู้เล่นของฝั่งเราด้วย สามารถยิงทะลุกำแพงได้
- Fault Line(Signature) – ยิงคลื่น Seismic Blast ทำให้ศัตรูติดสถานะ Daze 3 วินาที สามารถกดค้างเพื่อชาร์จพลังยิงให้ไกลขึ้นได้สูงสุด 50 เมตร เหมาะมากสำหรับเปิดเกมบุกในจุดที่ศัตรูดักรออยู่อย่างยิ่ง
- Rolling Thunder(Ultimate) – Faust Line เวอร์ชั่นอัปเกรด ยิงคลื่น Seismic Blast ในระยะ 38 เมตรและมีรัศมีกว้างกว่าเดิม และทำให้ศัตรูติดสถานะ Daze นาน 6 วินาที ซึ่งใช้ได้เลยโดยไม่ต้องรอชาร์จ และยังกินพื้นที่ในมุมกว้างมากกว่าอีกด้วย
*สถานะ Daze จะทำให้ศัตรูเคลื่อนที่ช้าลง 85%, ลดอัตราการยิง 80%, เวลาในการฟื้นตัวจากแรงดีดของปืนมากขึ้น 50% *
สาย Initiator
Sova
ณ เวลานี้ Sova เป็นตัวละครสาย Initiator เพียงคนเดียวของเกม ทว่าความสามารถของเขาก็โดดเด่นไม่แพ้ตัวละครวายอื่นเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาสามารถสอดแนมและโจมตีศัตรูในจุดที่คาดไม่ถึงได้อย่างต่อเนื่อง หากผู้เล่นรู้ตำแหน่งของแผนที่เป็นอย่างดี รับรองว่าเขาจะเป็นตัวทำเกมชั้นยอดของทีมได้เลย
- Shock Bolt – ยิงลูกธนูไฟฟ้าสร้างความเสียหายให้กับเป้าหมาย กดยิงค้างเพื่อยิงได้ไกลขึ้น และสามารถกด Alternate Fire เพื่อเลือกได้ว่าจะยิงชิ่งกับกำแพงได้กี่ครั้ง(สูงสุดสองครั้ง)
- Owl Drone – ปล่อยโดรนออกไปสำรวจพื้นที่ สามารถ Ping บอกตำแหน่งของศัตรูได้ด้วยการยิงลูกดอกใส่ศัตรู ซึ่งจะเป็นการเปิดเผยตำแหน่งของมันเป็นระยะเวลา 3 วินาที แต่ตัวโดรนสามารถถูกยิงทำลายได้ และลูกดอกมี Cooldown อยู่ที่ประมาณ 5 วินาที
- Recon Bolt(Signature) – สุดยอด Skill สอดแนม เมื่อยิงออกไปจะทำการตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายด้วยคลื่น Pulse ว่ามีศัตรูอยู่ในบริเวณนั้นหรือไม่ สามารถยิงชิ่งกำแพงได้สูงสุดสองครั้งเหมือน Shock Bolt
- Hunter’s Fury(Ultimate) – ยิงคลื่นพลังสายฟ้าทั้งหมดสามครั้งด้วยธนูในระยะ 66 เมตร สามารถยิงทะลุกำแพงและเปิดเผยตำแหน่งของศัตรูได้ มีความแรงต่อนัดที่ 80 หน่วย แต่การระบุตำแหน่งของศัตรูจะมีแค่ตัว Sova เท่านั้นที่มองเห็น หากใช้ดี ๆ อาจสามารถเก็บศัตรูได้ทั้งกลุ่มโดยที่ไม่ต้องโผล่หน้าออกไปปะทะตรง ๆ ได้เลย