เวลานี้เรียกว่าไม่มีเกมไหนที่ร้อนแรงไปกว่า Apex Legends อีกแล้ว ด้วยความสนุกที่แตกต่างจากเกมแนว Battle Royale อื่น ๆ ในท้องตลาด รวมไปถึงความรวดเร็วและเข้มข้นที่ไม่เหมือนใคร จนทำให้หลายคนอาจจะต้องปรับตัวกันยกใหญ่หลังจากเล่นกันเลยทีเดียว วันนี้เราจะมาดูเทคนิคเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ที่ควรทราบใน Apex Legends ว่าควรเตรียมรับมือกับอะไรกันบ้าง
ปรับตัวให้เข้ากับความเร็วของเกม
สำหรับคนที่เคยเล่น Titalfall มาก่อน น่าจะคุ้นเคยกับ Movement ที่มีความคล่องตัวสูงของเกมกันมาบ้างแล้ว แม้จะถูกตัดระบบการกระโดดสองชั้นและวิ่งชิ่งกำแพงไป แต่โดยรวมก็ยังรวดเร็วคล่องตัวเหมือนเดิม ซึ่งผู้เล่นที่ชินกับ Pace ที่ช้าของเกมอย่าง PUBG มาก่อนก็อาจจะมีการงงจังหวะของเกมกันบ้าง แต่ถ้าใครที่โดดมาจาก Black Ops 4 ก็จะคุ้นเคยได้ไม่ยากนัก ดังนั้นสิ่งที่ควรทำอันดับแรกคือพยายามปรับตัวให้รู้จังหวะของเกมก่อนนั่นเอง ซึ่งจังหวะการเข้าปะทะนั้นจะเร็วกว่าและถึงเนื้อถึงตัวมากกว่า ทำให้เราต้องหูไวตาไวมากขึ้นตามไปด้วย ในช่วงแรกจึงขอแนะนำให้ค่อย ๆ เรียนรู้จังหวะของเกม ว่าความเร็วของตัวละครต่าง ๆ นั้นอยู่ที่เท่าไหร่ การปรับตั้งค่าในเกมถนัดหรือไม่ เช่นความไวของการเล็งเป้าผ่านเมาส์หรือคอนโทรลเลอร์ จนถึงจุดหนึ่งเราก็จะคุ้นเคยกับมันในที่สุด
เลือกตัวละครที่เข้ากับรูปแบบการเล่นของตัวเองที่สุด
Legends หรือตัวละครต่าง ๆ ในเกมคือจุดเด่นที่สุดของ Apex Legends แต่ละคนมีความสามารถที่ช่วยเกื้อหนุนการเล่นมากมาย เช่น Gibraltar ที่มีโล่ขนาดใหญ่ คอยช่วยเป็นกันชนให้เพื่อนร่วมทีม Lifeline แพทย์สนามกับความสามารถในการเพิ่มพลังชีวิตและสนับสนุนเพื่อนอย่างเต็มที่ Bangalore กับสกิลสนับสนุนการโจมตีมากมาย เป็นต้น แม้จะยิงไม่เก่งมากแต่ถ้าหากรู้จักใช้ความสามารถในเวลาที่เหมาะสมก็ช่วยในการเล่นได้มากเช่นกัน
แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า เนื้อแท้จริง ๆ ของ Apex Legends ก็ยังคงเป็นเกมเดินหน้ายิงที่มีการเสริมระบบความสามารถของตัวละครเข้าไป การยิงที่แม่นยำจึงยังคงจำเป็นอยู่เช่นเดิม ดังนั้นใครที่ยิงเก่ง ๆ ก็จะยังได้เปรียบคนทั่วไปอยู่เหมือนเดิม ส่วนถ้าใครยังไม่รู้ว่าจะเล่นเป็น Legends คนไหนดี ก็สามารถไปเช็คได้จากบทความนี้ได้เลย
จัดลำดับความสำคัญในการเก็บของให้ดี
สิ่งที่สำคัญที่สุดในเกมแนว Battle Royale ก็คือความพร้อมของอุปกรณ์และอาวุธติดตัว ว่าถนัดมือไหม ยาหรือของเสริมอื่น ๆ มีพอใช้หรือไม่ ซึ่งของเสริมจำพวก Mod เองก็มีความสำคัญไม่แพ้อาวุธที่มีอยู่ในเกมเลยแม้แต่น้อย โดยเฉพาะ Mod ระดับสีม่วงขึ้นไปจะช่วยให้เราได้เปรียบศัตรูอย่างมากในช่วงครึ่งหลังของเกม ดังนั้นต่อให้ระบบการยิงจะรวดเร็วกว่าเดิม แต่การจัดการความสำคัญของไอเท็มและอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงยังคงมีความจำเป็นมากที่สุดอยู่ดี
ส่วนลำดับการเก็บของต่าง ๆ นั้นให้เริ่มค้นหาอาวุธหลักก่อน ตามด้วยชุดเกราะ ยาต่าง ๆ และอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่นระเบิดครับ
ใช้ระบบ PING ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
เรียกได้ว่าเป็นระบบที่ยอดเยี่ยมที่สุดสำหรับเกมนี้ไปโดยปริยายสำหรับ PING ที่สามารถสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมได้โดยที่แทบไม่จำเป็นต้องเปิดไมค์คุยกันเลย ทั้งการระบุตำแหน่งที่จะไป ของในจุดต่าง ๆ ว่ามีอะไรในจุดนั้นบ้าง ตำแหน่งของศัตรู และอีกมากมาย อย่าลืมปรับปุ่มให้สามารถใช้ฟังก์ชั่นนี้ได้อย่างถนัดมือ เพราะในบางครั้งการระบุตำแหน่งของศัตรูได้แม่นยำในทันทีนั้นสามารถช่วยรักษาชีวิตเพื่อนร่วมทีมเราได้มากทีเดียว
อย่าประมาทปืนลูกซองและไรเฟิลซุ่มยิง
เฉกเช่นในเกมอย่าง Fortnite ที่ปืนลูกซองนั้นเป็นปืนที่มีประสิทธิภาพสูงในระยะประชิดและระยะกลาง โดยเฉพาะปืนอย่าง Peacekeeper ที่มีความรุนแรงสูง ถ้าไม่มีเกราะและโดนยิงเข้าหัวเข้าไปรับรองว่าทรุดแน่นอน และไรเฟิลซุ่มยิงเองก็อันตรายไม่แพ้กัน ซึ่งถึงแม้การเข้าปะทะกันในเกมนี้จะหนักไปที่ระยะกลางและประชิดเป็นส่วนมาก แต่การถูกยิงจากระยะไกล ๆ จนล้มนั้นก็ถือเป็นสิ่งที่ไม่น่าโสภาเช่นกัน ดังนั้นห้ามประมาทแม้จะมีอาวุธครบมือก็ตาม
Teamwork และการสื่อสารคือทุกสิ่ง
สิ่งสุดท้ายที่ต้องจำให้ขึ้นใจก็คือการทำงานร่วมกับเพื่อนร่วมทีมนั้นสำคัญที่สุด เพราะตัวเกมในเวลานี้จะบังคับให้เราเล่นแบบ Squad 3 คนเท่านั้น การแยกเดี่ยวไปตายโดยที่ไม่มีเพื่อร่วมทีมช่วยเหมือนเป็นการฆ่าตัวตายโดยแท้ ดังนั้นสื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมและช่วยเหลือพวกเขาให้มากที่สุด
ทั้งหมดนี้คือเทคนิคเบื้องต้นที่ควรทราบของเกม แต่ในการเล่นในแต่ละรอบนั้นจะมีการปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อยู่เสมอ ดังนั้นสิ่งที่ควรมีก็คือความตื่นตัวในการเล่นตลอดเวลา ซึ่งยังมีเทคนิคและข้อมูลอีกมากมายที่ซ่อนอยู่ในเกม โดยทางเราจะนำเสนอในโอกาสถัดไปครับ