หากจะนับตัวละครจากเกมที่มีดวงซวยระดับพระกาฬชนิดที่ว่าโผล่มาตอนไหนก็พินาศเมื่อนั้นแล้ว หนึ่งในตัวละครดังกล่าวนั้นต้องมีชื่อของ Max Payne ติดมาด้วยอย่างแน่นอน และเรื่องราวความเป็นมาของตำรวจเลือดเดือดคนนี้ก็น่าสนใจไม่น้อย วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง ว่าพ่อตำรวจเลือดเดือดคนนี้ต้องผ่านความบัดซบอะไรในชีวิตมาบ้าง
ความเป็นมา
เด็กชาย Max Payne เกิดในปี 1969 กับครอบครัวที่ไม่ค่อยภาสุขนัก พ่อของเขา Jack Payne เป็นทหารผ่านศึกในสงครามเวียดนาม และป่วยเป็นโรค PTSD หรือประสบเหตุกระทบกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรงเพราะสงคราม ทำให้เขาเป็นคนที่ชอบใช้ความรุนแรงกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกชายและภรรยา และเขายังติดเหล้าขนาดหนักอีกด้วย
ในปี 1976 หลังการตายของแม่ เด็กชาย Max ผู้ทนไม่ไหวกับความเมาหยำเปของพ่อ ทำให้เขาใช้ปืนของเล่นขู่พ่อของเขาเพื่อแสดงการต่อต้านว่าไม่ไหวกับเขาอีกต่อไป เขาทั้งผิดหวังและเสียใจที่พ่อเป็นคนไม่ได้เรื่อง ก่อนที่จะหนีออกจากบ้านไปอยู่กับคุณตาของเขาในภายหลัง และสามปีต่อมาพ่อของเขาก็ได้เสียชีวิตลง
คุณตาถือเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อ Max ในเรื่องของการใช้ชีวิตอย่างมาก ซึ่งคุณตามักจะเล่าเรื่องตำนานต่าง ๆ ให้ฟังอยู่เสมอ และดูแลเขาเป็นอย่างดี จนสามารถผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายมาได้
ชีวิตที่รุ่งเรือง
เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น Max เลือกที่จะสอบเข้าโรงเรียนตำรวจในนิวยอร์ก ด้วยความสามารถอันล้นเหลือและความมุ่งมั่นตั้งใจของเขา ทำให้เขาเป็นที่หนึ่งของรุ่น และได้เข้าบรรจุเป็นนักสืบแห่งกรมตำรวจนิวยอร์กในที่สุด ซึ่งที่นั่นเขาได้พบกับ Alex Balder ที่เป็นนักสืบคู่หูของเขา และทั้งสองก็นับถือกันและกลายเป็นเพื่อนสนิทกันในเวลาต่อมา
ตำรวจหนุ่มทั้งสองปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจ และสามารถไขคดีใหญ่ ๆ ได้หลายครั้งติดกัน จนได้รับการขนานนามว่าเป็น “ตำรวจฮีโร่” แห่งเมืองนิวยอร์กในเวลาต่อมา
หลังจากนั้นไม่นาน Max ก็ได้พบกับ Michelle ที่ถูกนักเลงสองคนข่มขู่ในซอยแห่งหนึ่ง เขาได้เข้าไปช่วยเหลือเธอและอัดพวกนักเลงเหล่านั้นลงไปกอง หลังจากนั้นไม่นานทั้งสองหนุ่มสาวก็เริ่มคบหาดูใจ และแต่งงานกันในอีกหกเดือนต่อมา และให้กำเนิดบุตรสาวคนหนึ่งชื่อว่า Rose ในปี 1998 เรียกได้ว่าช่วงชีวิตของเขานั้นช่างมีความสุข และจะได้สร้างครอบครัวที่อบอุ่นแบบที่เขาไม่เคยมีมาก่อนในอนาคต
ชีวิตที่พังทลาย
ความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงของเขาเกิดขึ้นในวันที่ 22 สิงหาคม 1998 เมื่อเขากลับมาในบ้านที่เงียบผิดปกติใน Hell’s Kitchen พร้อมกับโทรศัพท์ลึกลับ และมีนักเลงขี้ยาบุกเข้ามาที่บ้านของเขา ฆ่าภรรยาและลูกสาวของเขาทิ้งอย่างโหดเหี้ยม เหลือไว้เพียงแค่ความโศกเศร้าและเสียงร้องโหยหวนที่มีต่อการสูญเสียสิ่งสำคัญในชีวิตไป
หลังจากจัดการเรื่องงานศพของครอบครัวเรียบร้อย Max ก็ตอบรับคำขอของ Alex เพื่อนสนิท ให้ไปร่วมงานกับ DEA หรือหน่วยปราบปรามยาเสพติด ในการค้นหาต้นตอของยาเสพติดชนิดใหม่ที่มีชื่อว่า Valkyr ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรมของครอบครัวของเขา
หลังจากที่สืบคดีที่เกี่ยวข้องมาอย่างยาวนาน ใน ปี 2001 เขาเริ่มได้เบาะแสสำคัญที่จะชี้ไปสู่ตัวการที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการผลิตยาเสพย์ติดตัวนี้ ซึ่งก็มีทั้งเหล่านักเลง เจ้าพ่อมาเฟีย หรือกระทั่งคนในวงการเมืองและบริษัทยักษ์ใหญ่ที่มีเอี่ยวกับยาตัวนี้
ซึ่งในระหว่างการสืบคดีและไล่ล่าเหล่าผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายนั้น เขาได้พบกับภาพฝันร้ายทั้งหลายจากการสูญเสียครอบครัว และการสูญเสียที่มากขึ้นยิ่งกว่าเก่า แม้จะมีความหวังที่เขาจะได้สานสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ๆ จะมีให้เห็นบ้าง เช่น Mona Sax มือสังหารสาวที่ออกแก้แค้นให้น้องสาว หรือ Vladimir Lem หัวหน้าแก๊งมาเฟียรัสเซียที่ยื่นข้อเสนอให้กับ Max ในการสืบคดี
จนในที่สุดเขาก็ได้รู้ว่าผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ก็คือบริษัท Aesir บริษัทค้ายาข้ามชาติที่แอบผลิตยาเสพติด Valkyr มาขายในตลาดผ่านทางแก๊งมาเฟียทั้งหลายในนิวยอร์ก แม้เขาจะพลาดท่าถูก Nicole Horne จับได้และฉีดยาใส่เกินขนาดให้ตาย แต่เขาก็ยังรอดมาได้ และก็ได้รับรู้ความลับบางอย่างมากจา Alfred Woden วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ ผู้ที่ให้ข้อมูลแก่ Max ว่า ยังมีกลุ่มคนวงในหรือ Inner Circle ที่เสียผลประโยชน์จากสิ่งที่ Aesir ทำ และยังเผยว่า Aesir คือบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการตายของครอบครัวของเขาอีกด้วย
ในที่สุด Max ก็ตัดสินใจทำตามที่ Alfred ขอมา นั่นก็คือการล้างบางเหล่าทหารรับจ้างของ Aesir และ Nicole ทั้งหมด และเขาก็สามารถจัดการทุกคนใน Aesir ได้สำเร็จ ปิดฉากการแพร่ระบาดของยา Valkyr ลงได้สำเร็จ และด้วยความช่วยเหลือจาก Alfred ก็ทำให้ Max ไม่รับโทษจากการล่าสังหารทุกคนในบริษัทแห่งนี้อีกด้วย
กลับสู่ NYPD
ไม่นานหลังจากนั้น Max ก็กลับมาสู่กรมตำรวจนิวยอร์กในฐานะนักสืบคดีอาชญากรรม และยังคงทำผลงานในการสืบคดีต่าง ๆ ได้ดีเช่นเคย โดยคราวนี้เขามีคู่หูเป็น Winterson สาวใหญ่ผู้มีความสามารถในการสืบคดีที่ไม่แพ้ Max แม้แต่น้อย
ปี 2003 Max ยังคงเผชิญหน้ากับอาการหลอนจากฝันร้ายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งเขาได้รับสัญญาณวิทยุรับแจ้งเหตุยิงกันในโกดังแห่งหนึ่ง ซึ่งก็พบว่าเป็นกลุ่มนักฆ่าที่สวมรอยเป็นพนักงานทำความสะอาดเพื่อจัดการกับเป้าหมายที่รับมอบหมายมา หรือที่เรียกกันว่า Cleaner นั่นเอง
หลังจากการยิงต่อสู้กันในที่สุด Max ก็ได้พบกับ Mona Sax ที่เขาคิดว่าตายไปแล้วปรากฏตัวออกมา จัดการกับพวกนักฆ่าก่อนที่จะหนีไป
หลังจากนั้นทั้ง Max และ Winterson ก็พบว่าโกดังที่เกิดเหตุนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ในความดูแลของ Vladimir Lem สหายเก่าของเขา และก็กำลังมีเรื่องอยู่กับเหล่ามาเฟียอิตาลีที่นำโดย Vinnie Gognitti ซึ่งในฐานะเพื่อน Max ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือเขาด้วย
ไม่นานนัก Mona Sax ก็ได้เข้ามาหาเขาถึงที่พัก และเตือนว่าเขากำลังถูกจับตามองอยู่ และก็จริงตามนั้น เหล่า Cleaner กลุ่มเดิมได้ตามมาฆ่าเขาและ Mona รวมไปถึงพวกมันยังคอยจับตาดู Max ทุกฝีก้าวมาหลายสัปดาห์แล้ว และในที่สุดบ้านของเขาก็ถูกพวก Cleaner ระเบิดทิ้งจนไม่เหลือซาก
Max จึงจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจาก Mona เกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้นโดยด่วน โดยเธอให้ข้อมูลว่าพวก Cleaner นั้นจะเข้าไปจัดการกับสมาชิกของ The Inner Circle และพวกเขาต้องไปชวยเหลือสมาชิกผู้นั้น แต่ก็สายเกินไป เพราะพวก Cleaner ได้มาถึงก่อนและสังหารเขาไปแล้วเรียบร้อย
หลังจาก Max จัดการกับพวก Cleaner ได้สำเร็จ ก็พอดีกับจังหวะที่ตำรวจนิวยอร์กมาถึงพอดี พร้อมกับ Winterson ที่ไม่เข้าใจว่า Max มาทำอะไรที่นี่ กลายเป็นสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกไปในทันที
เงื่อนงำที่ซ่อนอยู่
หลังจากกลับมาที่สถานีตำรวจ Max ก็ถูกบังคับจากผู้บังคับบัญชา ให้ถอนตัวออกจากคดีนี้ พร้อมกับให้เขียนรายงานส่งให้เขา ส่วน Mona Sax นั้นก็ถูกคุมตัวอยู่ในคุกใต้ดิน ซึ่งหลังจาก Max ได้ไปหาเธอแล้ว เธอก็ไล่ให้เขาโทรหา Alfred Woden สมาชิกระดับสูงของ Inner Circle ที่เขารู้จักดี
แต่ไม่นานหลังจากนั้น พวก Cleaner ก็บุกเข้ามาที่สถานีตำรวจเพื่อสังหาร Mona แต่เธอก็ฉวยโอกาสหลบหนีออกจากคุกไปได้ ส่วน Max ก็ตามเธอไปถึงที่แหล่งกบดาน โดยมี Vlad ที่แวะมารับเขาพอดี และหลังจากที่เจอกันอีกครั้ง ด้วยความปรารถนาในใจอันเปี่ยมล้นของ Max และ Mona ทำให้ทั้งสองเกิดมีใจให้แก่กัน
แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อ พวก Cleaner ก็บุกเข้ามาอีกครั้ง และทำให้ทั้งสองสามารถหาช่องทางในการเดินทางไปยังแหล่งกบดานของพวกมันได้สำเร็จ ซึ่งเขาก็ได้พบว่าพวก Cleaner นั้นซ่องสุมกองกำลังและอาวุธหนักมากมายหลายชนิด พร้อมกับซากศพของคนตายมากมาย แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อ พวก Cleaner ที่เหลือก็มาพบเขาเข้าเสียก่อน และยิงต่อสู้กันจนเกิดระเบิดขึ้น
Max หนีตายออกมาจากอาคารได้ก่อนที่จะเกิดระเบิดขึ้น แต่คราวซวยของเขายังไม่หมด เพราะเขาถูกแท่งเหล็กทับร่างจนขยับไม่ได้ แต่เคราะห์ดีที่ Mona มาช่วยเหลือเขาไว้ได้ทันและจัดการกับพวก Cleaner ไปได้จนเกือบหมด ท้ายที่สุด Max และ Mona ก็ได้พบกับ Winterson ที่ตามพวกเขามาถึงที่ แต่ Max ก็ยอมเอาตัวปกป้อง Mona จนถึงกับยอมชักปืนออกมายิง Winterson จนเกือบตาย
Max บอกให้เธอรีบหนีไป แต่ Winterson ก็ใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย คว้าปืนมายิง Max จนบาดเจ็บสาหัส ก่อนที่จะสิ้นใจไป
ฝันร้ายในคืนฝนกระหน่ำ
Max ถูกพาตัวมารักษาที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งภาพหลอนจากฝันร้ายต่าง ๆ ยังคงหลอกหลอนเขาไม่หยุด แถมพวก Cleaner ก็ยังตามมาฆ่าเขาถึงที่อีกด้วย โชคดีที่ Max ได้รับเบาะแสบางอย่างจากศพของ Winterson นั่นก็คือไม้ขีดจากร้านอาหาร Vodka ของ Vlad นั่นเอง
แต่ก่อนที่เขาจะไปที่ร้านของ Vlad นั้น เพื่อความแน่ใจ เขาจึงไปหา Alfred Woden ?คฤหาสน์ ซึ่งเขาเองก็มีสภาพที่ร่อแร่เต็มทนจากอาการป่วย ซึ่ง Alfred ก็ให้ข้อมูลแก่ Max ว่า ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความวุ่นวายทั้งหมดนี้ก็คือ Vlad เพื่อนซี้ของ Max นั่นเอง และทำให้เขาตัดสินใจไปหา Vlad ที่ร้าน Vodka ต่อไป
แต่ที่ร้าน Vodkaนั้นก็เต็มไปด้วยอาวุธและกองกำลังของ Vlad มากมายรอต้อนรับเขาอยู่ และเขาก็พบว่า WInterson นั้นมีความสัมพันธ์กับ Vlad และเธอก็ให้ความช่วยเหลือเขาในเรื่องของข้อมูลภายในกรมตำรวจนิวยอร์ก และเธอเองเป็นคนที่โทรบอก Vlad ว่าจะไปหา Max และ Mona ที่แหล่งกบดานหลักของพวก Cleaner
นอกจากนั้นเขายังพบว่า Vlad ยังหลอกล่อให้ของขวัญกับ Vinnie ลิ่วล้อคนสำคัญของแก๊งมาเฟียอิตาลี เป็นชุดตัวการ์ตูน Captain BaseBallBat-Boy ที่เขาชื่นชอบ โดยการแอบวางระเบิดเอาไว้ในชุด ซึ่งแน่นอนว่า Vinnie หลงกลติดกับเข้าเต็มเปา ทำให้ Max ต้องฝ่าดงสงครามระหว่างพวกรัสเซียกับอิตาลีออกไปเพื่อพาเขาไปถอดระเบิดออกที่แหล่งกบดานของ Mona
รักที่เจ็บปวด
แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น เพราะ Vlad ได้ไปรอเขาก่อนอยู่แล้ว พร้อมกับเผยแผนชั่วที่เขาเก็บซ่อนไว้กับตัวมานาน ซึ่งที่จริงแล้วเขาก็คือหนึ่งในสมาชิกของ Inner Circle ที่ช่วยเหลือ Alfred ทำงานสกปรกมาโดยตลอด และคราวนี้เขาก็จะเข้าไปยึดอำนาจจาก Alfred เพื่อครอบครองทุกอย่างใน Inner Circle เสียเอง
Vlad ยิง Max เข้าที่หัว พร้อมกับจัดการ Vinnie และเตรียมปล่อยให้เขาตายในกองเพลิง แต่เคราะห์ยังดีที่ Mona กลับมาช่วยเขาได้ทัน และนั่นทำให้ Max ตัดสินใจที่จะบุกไปหา Vlad ที่กำลังหาทางจัดการกับ Alfred ในคฤหาสน์ของเขา แต่สุดท้าย Mona ก็หักหลัง Max และเผยตัวว่า เธอเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกของ Inner Circle ที่ทำงานให้กับ Alfred เช่นกัน และก็ถูก Vlad ลอบเข้ามายิงจากด้านหลังจนบาดเจ็บสาหัส
Alfred ที่ดูเหตุการณ์อยู่ในห้องนิรภัย ได้ออกมาขัดขวาง ก่อนที่จะถูก Vlad ยิงจนเสียชีวิต พร้อมกับที่พื้นของคฤหาสน์ระเบิดจนตกลงมาในชั้นใต้ดิน แต่ด้วยดวงที่ยังแข็งอยู่ Max ก็ยังรอดมาได้ และออกตามล่า Vlad อีกครั้ง จนในที่สุดก็สามารถจัดการกับเขาได้สำเร็จ
ท้ายที่สุดหลังจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ Mona ก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหว ได้ตายจากโลกนี้ไป ทำให้เหลือ Max เพียงคนเดียวที่รอดชีวิต แต่ท้ายที่สุด เขาก็พิสูจน์ตัวเองด้วยหลักฐานที่มีว่า WInterson นั้นเกี่ยวข้องกับ Vlad และ Inner Circle จนทำให้เขาพ้นจากความผิดที่ถูกกล่าวหาได้สำเร็จ
ชีวิตที่จมดิ่ง
แม้จะรอดจากการพิจารณาคดีไปได้ แต่สาธารณชนต่างก็เต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัยในตัวของ Max ทำให้เกิดข้อครหามากมายในเรื่องนี้ จนในที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นตำรวจแห่งนิวยอร์ก กลายเป็นคนติดเหล้าและยาแก้ปวดอย่างหนัก และย้ายไปอยู่ที่นิวเจอร์ซี่ พร้อมกับมองดูความเป็นไปของเมือง ว่าผู้อิทธิพลคนใหม่จะเริ่มขยายอำนาจไปเมื่อไหร่
ในปี 2012 Max ตื่นจากฝันร้ายที่เต็มไปด้วยความรู้สึกผิดในใจ ที่เขาทำให้ผู้หญิงที่เขารักทั้งหมดตายจากโลกนี้ไป ซึ่งเขาก็ได้ไปเยี่ยมหลุมศพของภรรยาและลูก ก่อนที่จะไปนั่งดื่มที่บาร์เจ้าประจำตามปกติ ก่อนที่จะมีเรื่องกับลูกชายของผู้มีอิทธิพลในเมือง แต่เขาก็ได้ Raul Passos อดีตเพื่อนร่วมรุ่นสมัยเรียนโรงเรียนตำรวจเข้ามาช่วยไว้ได้ทัน พร้อมกับเข้ามาแนะนำตัวอย่างเป็นกันเองและเสนองานใหม่ให้ทำ นั่นก็คือการคุ้มครองบุคคลสำคัญในบราซิล
แต่คราวเคราะห์ของ Max ยังไม่หมดเท่านั้น เพราะเขาพลั้งมือฆ่าลูกชายของผู้มีอิทธิพลในเมืองที่มีเรื่องด้วยจนตาย ทำให้เขาและ Passos ต้องหนีตายออกจากเมืองนี้ให้เร็วที่สุด ท้ายที่สุด Max ก็ยอมรับข้อเสนอของเขา และไปทำงานที่บราซิลในเมืองเซา เปาโลกับเขา
ชีวิตใหม่ในต่างแดน
ในช่วงแรกงานคุ้มครองนั้นดูเหมือนจะไม่ได้ลำบากอะไรมากนัก แต่เขาก็ได้เจอกับอะไรบางอย่างในระหว่างที่อยู่ในปานามา ที่เหล่าโจรสลัดนั้นฆ่าเหล่านักท่องเที่ยวที่อยู่บนเรือสำราญไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงท่าทีแปลก ๆ ของนายจ้างกับ Passos ซึ่งก็ทำให้ Max เริ่มรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลในงานชิ้นนี้
หลังจากนั้นไม่นานที่เซา เปาโล Max ที่ได้ทำงานเป็นผู้คุ้มครองของตระกูล Branco ก็ได้พบกับกลุ่มแก๊งต่าง ๆ ของบราซิลที่ต้องการลักพาตัว Fabiana ภรรยาของ Rodrigo พี่ใหญ่ของตระกูล และเจ้าของบริษัทอสังหาฯรายใหญ่ในบราซิล ซึ่งแม้การลักพาตัวครั้งแรกในงานเลี้ยงจะไม่สำเร็จ แต่ในครั้งถัดมาใน Club Moderno กลุ่ม Comando Sombra ก็สามารถจับตัว Fabiana ไปได้
ซึ่งกลุ่ม Comado Sombra ต้องการแลกตัวเธอกับเงินค่าไถ่จำนวนมหาศาล ซึ่งพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะส่งเงินให้ แต่ก็มีมือที่สามเป็นกลุ่มทหารรับจ้าง Cracha Preto เข้ามาขัดขวางและชิงเงินค่าไถ่ไปในระหว่างการส่งมอบ
และนั่นก็ทำให้แผนของพวกเขาเปลี่ยนไปอีกครั้ง โดยคราวนี้ Max และ Passos ต้องบุกไปช่วยเหลือ Fabiana ในแหล่งกบดานของพวก Comando Sombra แต่การช่วยเหลือก็ล้มเหลว เพราะหัวหน้าของพวกมันยังสามารถพาตัว Fabiana หนีพวกเขาไปได้อีก
ความโชคร้ายที่โหมกระหน่ำ
ไม่กี่วันหลังจากนั้น Max และ Passos ก็ได้ไปพบกับ Rodrigo ที่บริษัทเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ก็มีพวก Cracha Preto บุกเข้ามาหาถึงที่และสังหารทุกคนในบริษัท จนเกือบหมด Passos และพี่น้องคนอื่น ๆ ของตระกูล Bronco หนีรอดไปได้ แต่พี่ใหญ่และพนักงานคนอื่น ๆ ไม่ได้โชคดีแบบนั้น และที่สำคัญคือเทปจากกล้องวงจรปิดก็หายไปด้วย แถมยังมีการวางระเบิดเอาไว้อีกด้วย
Max หนีรอดมาได้โดยที่ไม่บาดเจ็บอะไรมาก และทำให้เขาตัดสินใจที่จะสืบเรื่องนี้ด้วยตัวเองแบบเดียวกับสมัยที่ตัวเองเป็นตำรวจ ด้วยการโกนหัวเพื่อไม่ให้คนจำได้ และเข้าไปสืบหาเบาะแสในเมือง Favela ย่านสลัมของเซา เปาโล แม้จะไม่ได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติม แต่เขาก็ได้รับการช่วยเหลือโดย Wilson Da Silva ตำรวจหน่วยสอบสวนของเซา เปาโล ที่ให้อาวุธและเบาะแสของพวก Cracha Preto แก่เขา และเบาะแสของ Fabiana ที่อยู่ในเมืองนี้
แต่เมื่อเขาได้เจอกับ Fabiana ทุกอย่างก็เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว น้องสาวของเธอและน้องเล็กตระกูล Bronco ที่มาช่วยถูกจับ และ Fabiana ก็ถูกยิงจนเสียชีวิต และในขณะเดียวกัน พวก Cracha Preto และ UFE ตำรวจพิเศษของเซา เปาโล ที่รับทำงานสกปรกให้กับนักการเมืองก็เข้ามาแทรกแซงในเมือง จับชาวเมืองไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ Max ต้องเอาตัวรอดออกมาจากเมืองโดยมี Giovana น้องสาวของ Fabiana และคนรักของ Passos ที่กำลังท้องอยู่ออกมา โดยมีพวก Cracha Preto คอยตามล่าเป็นระยะ
แม้ Raul จะมาช่วย แต่เขาก็ไม่ได้รับ Max หนีตามไปด้วย ทำให้เขาโมโหมาก แต่เคราะห์ดีที่ Wilson มาเจอเขาพอดี และให้เบาะแสสำคัญชิ้นต่อไปแก่เขา นั่นก็คือแหล่งกบดานของพวก Cracha Preto ในโรงแรมร้างแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นห้องผ่าตัดเพื่อนำอวัยวะของชาวเมืองมาขายในตลาดมืดนั่นเอง
Max สามารถทำลายโรงแรมที่เป็นทั้งแหล่งค้าอวัยวะมนุษย์และคลังแสงของพวก Cracha Preto ได้สำเร็จ และ Passos ก็กลับมาช่วยเขาและเคลียร์ความแคลงใจลงไปได้ และต่อมา Max ก็เข้าไปลุยกับพวก UFE ที่เป็นสาเหตุทำให้นายจ้างของเขา Rodrigo ต้องตาย ซึ่ง UFE ได้รับการสนับสนุนและว่าจ้างจาก Victor น้องคนรองให้สังหารเขา เพราะต้องการมรดกของพี่ชาย รวมไปถึงขยายอำนาจเพื่อการเมืองอีกด้วย
ปิดบัญชีแค้น
แม้ Max จะได้เจอกับตัวการใหญ่ของ UFE จากการบุกเข้าสำนักงานของพวกมัน แต่ Victor และหัวหน้าของพวก UFE นั้นสามารถหนีไปได้ ซึ่งโอกาสเดียวของ Max ที่เหลืออยู่ก็คือที่สนามบินเซา เปาโลที่พวก UFE และ Victor กำลังขนทรัพย์ต่าง ๆ หนีออกจากประเทศนี้ไป และหลังจากการต่อสู้อันยาวนาน ในที่สุด Max ก็สามารถจัดการกับหัวหน้าของพวก UFE และ Victor ก่อนที่เขาจะหนีไปได้สำเร็จ
หลังจากจบเรื่องราวทั้งหมดลง Max ก็ออกเดินทางไปสู่โลกกว้าง ที่ซึ่งยังไม่มีใครรู้ว่าที่ไหน และละทิ้งความเจ็บปวดทุกอย่างเอาไว้เบื้องหลัง เพื่อที่จะเดินหน้าต่อไปในชีวิตข้างหน้า
อุปนิสัย
ก่อนที่เขาจะสูญเสียครอบครัวไป Max เป็นคนที่มุ่งมั่นและตั้งใจสร้างสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเองและคนที่รักรอบตัว เพื่อทดแทนวัยเด็กที่มีแต่เรื่องแย่ ๆ แต่หลังจากโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น เขาก็กลายเป็นคนนิ่งขรึมและมองโลกในแง่ร้าย และยังทำให้เขาเป็นคนที่ชอบประชดประชันต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวอย่างมาก และไม่ว่าสถานการณ์จะเลวร้ายขนาดไหน ก็ยังสามารถคิดให้เป็นเรื่องตลกแบบขมขื่นหรือ Dark Humor ได้เสมอ
และด้วยการที่เขาต้องสูญเสียสิ่งสำคัญหลายครั้ง ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับอาการจิตตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องหันไปพึ่งเหล้าและยาแก้ปวดอยู่เสมอ