Far Cry หนึ่งในแฟรนไชน์ที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนานกับชาวเกมเมอร์อย่างเรา ๆ มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี
องค์ประกอบหลายอย่างได้ทำให้เกมนี้เป็นเกมที่ประสบกับความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน แน่นอนหนึ่งในความสำเร็จของ Far cry ที่ได้กับเหล่าเกมเมอร์คือ ตัวร้ายประจำภาคซึ่งนับตั้งแต่ภาค 3 เป็นต้นมาตัวร้ายกลายเป็นสิ่งที่น่าจับตามองของซี่รี่ย์นี้
ในปี 2012 เป็นปีที่วงการเกมนั้นมีศัตรูหรือตัวร้ายเป็นศัตรูที่ผู้เขียนเรียกว่า “ไม่เป็นพวกคนไม่ดีหรือไม่ก็คงจะเป็นพวกขัดขวางความสงบสุขของชาวโลก” ซึ่งหากมองดูเกมในยุคนั้นเหล่าหลายคงไม่ต่างจากพวกนี้ เช่น เหล่า Templar ใน AssasinCreed 3, Raul Menendez ใน Call of duty black ops 2 หรือ Alex’s ใน Prototype 2 ซึ่ง Far Cry 3 ได้เปิดตัวคนบ้าอย่าง Vass ขึ้นแน่นอนหากผู้เขียนมองครั้งแรกแน่นอนว่าความคิดเขาคงไม่ต่างจากเหล่าร้ายที่ผ่านมา แต่ว่าผมคิดผิดและนี่กลายเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ที่จะอยู่คู่กับ Far Cry ไปอีกนานและกลายเป็นสูตรสำเร็จที่ Far cry ต้องมี เราจะมาดูว่าเพราะอะไรตัวร้ายที่มีความวิกลจริตจึงส่งเสริมให้ Far Cry กลายเป็นเกมที่ดีซึ่งในบทความนี้เราจะกล่าวถึงสองตัวร้ายใน Far cry 3 และ 4
Vass Motenegro บุคลิกภาพชนิดต่อต้านสังคม (Antisocial Personality Disorders) Far Cry 3
(Did I ever tell you what the definition of insanity is? Insanity is doing the exact… same fucking thing… over and over again )
Vass คือหนึ่งในตัวร้ายที่เปิดตัวขึ้นมาในภาคที่ 3 ภาพแรกที่ ทำให้ผู้เขียนพบกับเขาไม่ใช่การที่เขามาเคาะกรงขังตอนเล่นเกม แต่เป็นหน้าปกของเกมที่มีรูปเขาปรากฏอยู่ แน่นอนว่าเราต้องสงสัยแน่ ๆ ว่าเขาคนนี้เป็นใครมาจากไหนหรือต้องการทำอะไรกับเรา
ในทางจิตวิทยาการวินิจฉัยอาการของเขาคือ “บุคลิกภาพผิดปกติชนิดต่อต้านสังคม” มีลักษณะเด่นคือ การละเมิดหรือไม่สนใจสิทธิของผู้อื่น รวมทั้งไม่สามารถปฏิบัติตามกฎของสังคม โดยมักเริ่มมีอาการตั้งแต่อายุ 15 ปี พบมากในเพศชาย สาเหตุมักเกิดจากปมในในวัยเด็ก พันธุกรรม หรือการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม จากสถิติพบบุคลิกภาพชนิดนี้ในผู้ต้องขังในเรือนจำมากถึงร้อยละ 75 นับตั้งแต่เราเจอเขาตั้งแต่เข้ามาในเกมจนถึงการที่เราสังหารเขาตายนั้นล้วนแต่เป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำ สิ่งที่เรากลัวจากเขานั้นจากชายคนนี้ไม่ใช่อาวุธ แต่เป็นการที่เราจะถูกสาดใส่ด้วยความห่าม ความรุนแรงและประโยคสนทนาที่เรียกได้ว่ากระแทกความกลัวถึงก้นบึ้งของหัวใจ นอกจากนี้สิ่งที่เขาทำกับเรา ไม่ว่าจะเป็นการจับเราไปถ่วงน้ำ การราดน้ำตัวเราพร้อมกับเพื่อนเราแล้วจุดไฟเผา ล้วนทำให้รู้สึกว่าคนประเภทนี้ไม่ควรทั้งในชีวิตจริงและหรือในเกมอื่นอีกต่อไป
ความผิดปกติของเขาที่กล่าวมานำไปสู่การที่เหล่าเกมเมอร์ได้รับรู้ไม่ใช่แค่เพียงความรุนแรงหรือความบ้าของเขาเท่านั้นแต่ว่ายังส่งผ่านไปถึงโลกของเกมที่มีความวิกลจริตอยู่ในหลากหลายมุมและหลายฝ่าย เพียงแต่ว่า เขาเด่นกว่าทุกตัวละครที่อยู่ในภาค 3 แม้ในช่วงหลังเกมพยายามทำให้เราไปสนใจคนอื่นเช่น Citra แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผู้เล่นลืม Vass ไปได้เลยนี่คือสิ่งที่ Far Cry 3 ได้พยายามนำเสนอและนำเสนอออกมาได้ดี
Pagan min บุคลิกภาพผิดปกติชนิดหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorders )
(men only really love you in hindsight , when too much distance buildup)
Paga min ตัวร้ายของภาคนี้ พื้นเพของเขานั้นเดิมทีเขาชื่อ Gang Min เกิดในฮ่องกงในปี 1966 เป็นลูกชายของพ่อค้ายาเสพติดรายหนึ่งอยู่ในบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ เขาเกลียดพ่อของตัวเองเพราะมองว่าพ่อของเขาเป็นพวกล้าหลัง แต่ถึงกระนั่นเขากับพ่อก็ร่วมงานกัน จนกระทั่งวันหนึ่งพ่อเขาตายอย่างไม่ทราบสาเหตุทำให้เขาได้ครอบครองธุรกิจของพ่อเขาและเปลี่ยนชื่อตัวเองเป็น Pagan Min ตามชื่อของอาณาจักรที่กษัตริย์ท่านหนึ่งของราชวงค์คองบอง ที่ได้ทำการสังหารพ่อของตัวเองเพื่อยึดอาณาจักร ต่อมาเมื่อ Kyrat เกิดสงครามกลางเมืองระหว่างฝ่ายราชวงค์และฝ่ายกบฏ เขาเลือกช่วยเหลือราชวงค์จนสามารถที่จะยึดพระราชวังได้แต่เขาได้หักหลังกลุ่มราชวงค์และยึด Kyrat เป็นของตัวเอง
https://www.youtube.com/watch?v=u2a0g6ag-2w
หากดูจากประวัติของเขาที่ผ่านมานั้นจะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้ได้หล่อหลอมให้เขากลายเป็น บุคลิกภาพผิดปกติชนิดหลงตัวเอง (Narcissistic Personality Disorders ) ลักษณะเด่น : หลงตนเองคิดว่าตนเองสำคัญกว่าใคร และอ่อนไหวต่อคำวิจารณ์ พบในเพศชายมากกว่าเพศหญิง นับตั้งแต่ฉากแรกที่ผู้เล่นเจอกับเขานั้นความวิกลจริตของเขานั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับผู้เล่นแต่เกิดขึ้นกับคนที่อยู่ใต้การบังคับบัญชาของเขา ความหลงตัวเองทำให้เขาไม่แคร์ที่จะใช้ทรัพยากรทุกอย่างเพื่อที่จะได้สิ่งต่าง ๆ มาและดำรงฐานะของตนให้สูงกว่าคนอื่น การพบกันแต่ละครั้งของผู้เล่นกับเขานั้นจะไม่เหมือนกับการเจอ Vass ที่เราต้องพยายามเอาตัวรอด แต่เป็นการตั้งคำถามสั้น ๆ ว่าเขาต้องการอะไรจากเรา นอกจากนี้ด้วยความที่เขามีความมั่นใจในตัวเองสูงทำให้เขาแสดงความก้าวร้าวต่อผู้ที่ไม่เห็นด้วยอย่างไร้ปรานี
สำหรับผู้เล่นอย่างเรานั้น Pagan Min แม้ว่าเขาจะหลงตัวเองถึงขั้นวิกลจริตแต่ว่าเหตุผลที่เขาทำแบบนั้นและที่สำคัญคือไม่ใช่ดีหรือเลวแต่ว่าเป็นเพียงสีที่ออกเทา ๆ เท่านั้น เหมือนว่าต้องการให้ผู้เล่นตัดสินเขาด้วยตัวเอง หากเราเลือกฉากจบแบบ alternative (ฉากจบแบบทางเลือกที่ไม่ได้ดำเนินเนื้อเรื่องหลัก) เราจะพบว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายมากนัก ในทางกลับกันเขากับเป็นที่ดูจริงใจกว่าที่คิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ Far Cry 4 อยากนำเสนอที่ว่า “ถึงเป็นตัวร้ายแต่ก็ไม่ได้ร้ายทุกอย่าง”
สุดท้ายนี้ในขณะที่ภาคที่ 5 กำลังจะออกในไม่กี่วันข้างหน้า เราคงได้ตั้งคำกับต่อไปถึงการนำตัวร้ายร้ายวิกลจริตเข้ามาสู่เกมว่าจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่าเรามิอาจจะตัดสินได้อย่างเต็มปากจนกว่าจะได้ลองสัมผัสตัวเกมเต็ม
เอกสารอ้างอิง
เอกสารการวินิจฉัยโรค https://www.facebook.com/D2JED/
