ย้อนกลับไปช่วงปี 2008 เกมยุค PlayStation 3 และ Xbox 360 บางเกม มักจะใช้ภาพโทนสีน้ำตาล-ส้ม ซึ่งด้วยภาพที่ดูไม่สมจริง และขาดความเป็นธรรมชาติ ก็อาจสร้างความขัดใจให้เกมเมอร์ที่ให้ความสำคัญกับภาพกราฟิก
แต่แน่นอน ทีมพัฒนามีสาเหตุจำเป็นที่ต้องนำภาพโทนสีน้ำตาล-ส้มมาใช้ในเกม แล้วสาเหตุเพราะอะไรนั้น ก็พบกับบทความนี้ได้เลย
สีน้ำตาล-ส้ม สีเด็ดที่ว่าทำให้ภาพสวยขึ้น ?
Phil RA นักเขียน Blogger เกี่ยวกับวิดีโอเกมใน Gemasutra ได้เปิดเผยเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับการพัฒนาเกม ชี้ว่าสาเหตุหลักที่เกมเจเนอเรชันที่ 7 หรือเกมยุค PlayStation 3 กับ Xbox 360 นิยมใช้ภาพโทนน้ำตาล (หรือบางคนเรียกว่าสีส้ม) และสีเทา เพราะฮาร์ดแวร์เกมคอนโซลในสมัยนั้นยังมีข้อจำกัดในด้านประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้บางเกม ไม่สามารถพัฒนาให้ตัวเกมดูสมจริงเหมือนที่ทีมงานตั้งเป้าไว้ เนื่องจากเครื่องยังแรงไม่มากพอ
อ้างอิงคำพูดจาก Phil กล่าวว่าแม้เกมคอนโซล PlayStation 3 และ Xbox 360 มีคุณสมบัติสามารถเรนเดอร์ Texture, สภาพอากาศ และพื้นผิวได้รวดเร็วดีขึ้นกว่าเกมคอนโซลรุ่นก่อน (PS2, Xbox, GameCube) อย่างก้าวกระโดด แต่มีสิ่งหนึ่งที่เกมคอนโซลยุค 7 ยังไม่สามารถประมวลผลภาพกราฟิกแบบเรียลไทม์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนั่นคือ ระบบแสงแบบไดนามิก (Dynamic Lightning)
อย่างที่เกมเมอร์หลายคนทราบกันดี ระบบการเปลี่ยนสภาพแปลงอากาศแบบเรียลไทม์ในเกมเจเนอเรชันที่ 7 โดยใช้ควบคู่กับระบบแสงแบบไดนามิก ซึ่งช่วยให้ภาพเกมมีความสมจริงมากขึ้นนั้นยังเป็นสิ่งที่ใหม่มาก ๆ แม้ทีมงานสามารถออกแบบเกมให้มีระบบแสงสมจริง สามารถเรนเดอร์แสงไดนามิกแบบเรียลไทม์ แต่เกมคอนโซลยุคนั้นก็ยังไม่มีประสิทธิภาพมากที่จะทำแบบนั้น หรือแม้จะออกแบบระบบดังกล่าวได้ เกมอาจต้องแลกกับการกินทรัพยากรเครื่องอย่างหนัก จนส่งผลให้ตัวเกมไม่สามารถรันได้อย่างเสถียรภาพ
เนื่องจากช่วงเวลานั้น เกมเมอร์หลายคนเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพกราฟิก, Performance และความ Immersive ให้ผู้เล่นอินกับโลกภายในเกมมากขึ้น ทำให้ทีมงานต้องหาวิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น ที่ทำให้ตัวเกมสามารถนำเสนอกราฟิกให้สมจริงที่สุด ซึ่ง Phil ยืนยันว่าเพียงแค่แอนิเมชันการเคลื่อนไหวของตัวละครที่แข็งกระด้าง และมีระบบแสงที่ไม่ดีมากพอ ก็อาจทำให้ผู้เล่นหลุด Immersion ไม่อินไปกับเกมได้ทันที
แน่นอนว่าปัญหาที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อจำกัดประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์นั้น ไม่ใช่เป็นสิ่งที่ทีมพัฒนาเกมสามารถแก้ไขกันได้ง่าย ๆ ทางทีมงานจึงต้องใช้วิธี “ซ่อนปัญหา” แบบแก้ขัดไปก่อน ด้วยการปรับโทนสีของภาพในเกม เพื่อหลอกล่อให้ผู้เล่นสนใจภาพกราฟิกของเกมโดยรวม มากกว่าการมองกราฟิกเฉพาะบางส่วน หรือง่าย ๆ ทีมงานใช้ภาพสีน้ำตาลเฟค ๆ เพื่อประโยชน์ให้ภาพเกมโดยรวมดูสมจริงนั่นเอง
Phil ระบุว่าเนื่องจากเกมส่วนใหญ่ในยุคนั้น มีการใส่เอฟเฟกต์ Ambient Occlusion หรือการจำลองแสงเงาระหว่างวัตถุในฉากแบบเรียลไทม์อยู่แล้ว รวมถึงการปรับสีให้เนียนไปกับบรรยากาศภายในเกม มีส่วนช่วยให้ตัวเกมลดการกินทรัพยากรเครื่อง เพราะใช้การเรนเดอร์แสงไดนามิกน้อยลง ซึ่งส่งผลทำให้ Performance ของเกมรันได้ดีขึ้น แถมทำให้สไตล์ภาพมีความโดดเด่นไม่ซ้ำกับใคร
ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่นักว่าทำไมเกมแนว Open-World ในยุค 2008 และก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่ จึงใช้ภาพโทนสีน้ำตาลและสีเทาในการหลอกกราฟิกแก่ผู้เล่น เพราะหากเกมใช้ระบบแสงแบบไดนามิก แน่นอนว่าตัวเกมอาจมีปัญหาเฟรมเรตแย่จนไม่สามารถเล่นเกมได้เลย โดยตัวอย่างเกมที่ใช้ภาพโทนสีน้ำตาลกับสีเทาที่โดดเด่นที่สุด คงไม่มีทางหนีพ้น Grand Theft Auto IV โดยเกมดังกล่าวจะมีภาพโทนสีน้ำตาลในช่วงเวลาเย็น และมีโทนสีเทา ในช่วงเวลาฝนตกกับกลางคืนในเกม
แม้ทาง Phil RA ไม่ได้มีการระบุสาเหตุอื่น ๆ เพิ่มเติม แต่เชื่อว่าอีกเหตุผลหนึ่งที่ทีมพัฒนาตัดสินใจให้เกมมีภาพโทนสีน้ำตาลหรือสีอื่น ๆ เป็นเพราะสไตล์ภาพ และ Art Direction ที่ต้องการนำเสนอศิลปะให้เข้ากับบรรยากาศของเกม
ภาพเกม GTA IV ฉบับลง Mod และเวอร์ชัน Vanilla / ภาพจากช่อง YouTube “Candyland”
Fallout 3 เป็นเกมแอ็คชัน RPG ของค่าย Bethesda ที่ผู้เล่นหลายคนมักวิจารณ์ว่าตัวเกมใช้ภาพโทนสีเขียวจัดมากเกินไป แต่ถึงอย่างนั้น แฟน ๆ เชื่อว่าสาเหตุที่ตัวเกมมีภาพโทนสีเขียว เพราะทีมงานต้องการนำเสนอแผนที่ Capital Wasteland ให้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยอันตรายทั้งจากมอนสเตอร์ดุร้าย เหล่าโจรบ้าคลั่ง และสารกัมมันตรังสีสุด Toxic จากระเบิดนิวเคลียร์ที่เป็นพิษเป็นภัยต่อทุกคน ทำให้การใช้โทนสีเขียวใน Fallout 3 เป็นเรื่องสมเหตุสมผล และช่วยเสริมสร้างบรรยากาศให้โลก Capital Wasteland ดูอันตรายมากขึ้นได้จริง
คล้ายกับหนังแอ็คชัน Sci-fi ตระกูล The Matrix ที่เกือบทุกภาคจะมีภาพเป็นโทนเป็นสีเขียว โดยพี่น้อง Wachowski เคยให้สัมภาษณ์ว่าสาเหตุที่ตัวหนังมีโทนสีเขียว เพราะต้องการให้ผู้ชมสามารถแยกออกได้ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริง ซึ่งใช้โทนสีฟ้า และโลกเสมือน The Matrix ซึ่งใช้เป็นสีเขียว โดยอีกเหตุผลหลักที่โลกใน The Matrix มีสีเขียว เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าที่ส่วนใหญ่ใช้ตัวอักษรสีเขียวจัดจ้าน
อย่างไรก็ดี เราสังเกตว่าเกมในยุคปลายเจเนอเรชันที่ 7 และเกมเจเนอเรชันที่ 8 (PlayStation 4 กับ Xbox One) ได้เน้นนำเสนอภาพให้ดูมีความสมจริงมากขึ้น และเทรนด์การใช้ภาพโทนสีน้ำตาลกับสีเทาได้รับความนิยมลดลง เนื่องจากเกมคอนโซลกับ PC ในปัจจุบัน มีประสิทธิภาพความทรงพลังมากขึ้น จนทำให้การเรนเดอร์แสงแบบไดนามิกซึ่งเคยเป็นปัญหาโลกแตก ไม่ใช่เป็นเรื่องที่ยากท้าทายอีกต่อไป จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเกมเมอร์หลายคนมองว่าเกมระหว่างยุคที่ 7 และยุคที่ 8 จึงมีสไตล์ภาพที่แตกต่างกันราวฟ้ากับเหว
