เปิดตัวมาก็นาน หายไปก็สักพักใหญ่ ๆ แต่กลับมาเปิดตัวอย่างใหม่แบบเท่มากในงาน Xbox Game Showcase ที่ผ่านมา และวันนี้เราได้สัมผัส Demo ของมันมาแล้ว มันจะเป็นยังไง ขอมาเล่าให้ฟังกับ Flintlock: The Siege of Dawn
Flintlock: The Siege of Dawn จะเปิดฉากมาด้วยเรื่องราวของอาณาจักรแห่งหนึ่งที่รับมือกับกองกำลังปีศาจ แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ ผู้เล่นจะรับบทเป็น Nor Vanek สมาชิกระดับสูงของกองกำลังทหารที่บาดเจ็บและสูญเสียจากการต่อสู้กับเทพปีศาจ Uru แต่เธอรอดตายมาได้ และได้พบกับ Enki จิ้งจอกลึกลับที่จะให้เธอยืมพลังแห่งเทพเพื่อใช้จัดการกองทัพปีศาจ ฟังดูเหมือนการ์ตูนแบบคู่หูโชเน็น ที่ไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมรบร่วมใจจะดริฟท์กลายเป็น Last Boss ตอนจบหรือเปล่า อันนี้ต้องรอติดตามเอาเองในเกมเต็ม โดย Enki จะไม่ได้มาแค่เป็นผู้ช่วยของเรา แต่เพราะน้องคือเทพในร่างจำแลง ดังนั้นข้อมูลข่าวสาร รายละเอียดของโลกในเกม จะถูกบอกเล่าผ่านตัว Enki ด้วย
และนิยามของเกมนี้ เขาบอกว่ามันคือ Souls-Lite ไม่ใช่ Like แต่เป็น Lite นั่นคือมันไม่ได้ยากจนถึงขั้นนั้น แต่ยังอยู่ในระดับที่ท้าทายพอสมควร แต่หลังจากได้ลองเล่นแล้ว รู้สึกว่ามันเป็นการผสมผสานของหลายระบบจาก FromSoftware และใส่เอาระบบเกมแอ็คชั่นมัน ๆ อย่าง Devil May Cry เข้ามา ไม่ได้บอกว่าสปีดเกมมันเร็วขนาดนั้นนะ แต่มันเป็นการเล่นแบบ High Risk, High Reward ที่ผู้เล่นจะเป็นฝ่ายเลือกเองว่าจะยอมเสี่ยงไปถึงขนาดไหน เอาล่ะ ขออธิบายกันเลย
ในเกมนี้ทุก ๆ การ Action ของตัวละคร Nor จะมีการบวกเปอร์เซนต์แต้มพิเศษให้ เจ้าแต้มนี้จะถูกนำไปใช้ในการอัปเกรดสกิลและความสามารถของเรา ไม่ว่าจะเป็นการโจมตี การ Parry การใช้อาวุธปืน หรือแม้แต่การกด Perfect Reload ทุกอย่างจะเป็นโบนัสแต้มพิเศษให้กับเราเสมอ โดยเมื่อเข้าสู่การต่อสู้แต่ละครั้ง หลังจัดการศัตรูทั้งหมดและจบการต่อสู้ไฟท์นั้นลง ผู้เล่นจะมีทางเลือกว่า จะกดรับแต้มที่ได้มาเลยหรือเปล่า ถ้ายังไม่กดรับ เราจะยังคงได้รับแต้มโบนัสที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่.. ถ้าหากเราพลาดถูกโจมตีแม้แต่เพียงครั้งเดียว แต้มโบนัสพิเศษก็จะหายไปทันที แต่เราจะยังได้รับแต้มคะแนนตามปกติ แค่จะไม่ได้ตัวคูณโบนัส
ด้วยระบบนี้ เชื่อว่ามันน่าจะถูกใจแฟน ๆ หลายคน ทั้งคนที่เคย และไม่เคยเล่นเกมแนว Souls สำหรับคนที่เคย ไม่ว่าคุณจะผ่านเกมของ FromSoftware มากี่เกม ๆ คุณอาจจะรู้สึกท้าทายว่าตัวเองจะเก็บแต้มโบนัสไปได้ถึงขั้นไหน แต่สำหรับคนที่ไม่เคย เกมมันก็ไม่ได้ยากจนถึงขั้นที่คุณจะตายรัว ๆ โดยไร้ทางสู้ เพราะศัตรูส่วนใหญ่ของเกมนี้มันไม่ได้ One Hit Kill มันตีแรง ตีหนักก็จริง แต่มันจะทำให้เราเห็นถึงแพทเทิร์นการโจมตีของมันเสมอ รวมไปถึงอาวุธและรูปแบบการต่อสู้ที่หลากหลายมากกว่าเกมตระกูลโซลทั่วไป
ในเกมนี้เราจะมีการโจมตีหลายแบบมาก ๆ อาวุธของเราหลัก ๆ จะเป็นขวานที่ใช้โจมตีเป็นหลัก มีปืนสั้น อันนี้ใครเล่น Bloodborne มา จะเข้าใจเลย มันเอาไว้สกัดการโจมตีของศัตรู การโจมตีของศัตรูทั่วไปจะสามารถกด Parry ได้ ถ้าตรงจังหวะ แต่ถ้าการโจมตีของศัตรูมีวงแสงสีแดงขึ้นมา ถ้าไม่หลบก็ต้องกดปืนสั้นสวนใส่เท่านั้น แหม Bloodborne ไหมล่ะ แต่เราก็ไม่สามารถกดยิงได้รัว ๆ การจะชักปืนสั้นมาตัดการโจมตีศัตรูนั้น เราจำเป็นจะต้องสะสม Stack การใช้งาน โดยสะสมได้จากการโจมตีปกตินั่นแหละ
นอกจากปืนสั้นแล้ว เรายังมีปืนยาว อันนี้เล็งยิงโจมตีจากระยะไกลได้เลย แถมถ้าเกิดเราเล็งเข้าหัว มันจะมี Cutscene Animation แบบ Sniper Elite ด้วย ตัวปืนยาวจะมีกระสุนจำกัดในช่วงแรก และเวลาจะรีโหลดนั้น จะมีบาร์ Perfect Reload ให้เรากด ถ้ากดทันปืนยาวก็พร้อมยิงนัดต่อไปทันที แต่ถ้าไม่ทัน ก็ระวังโดนศัตรูไล่สับจนตายแล้วกัน
ส่วนของการอัปเกรดตัวละครนั้น จะมีทั้งการอัปเกรดอาวุธ และการอัปเกรดสกิล สำหรับอาวุธนั้น เราจะต้องช่างสำรวจ ขยันสืบหาทุกซอกทุกมุมในแผนที่ เพราะจะต้องใช้พวกไม้ เหล็ก ซัลเฟอร์ หรือแร่ธาตุต่าง ๆ ที่ใช้ในการอัปเกรด ส่วนสกิลก็จะได้จากแต้มที่ใช้ในการต่อสู้ ก็อย่างที่บอก ยิ่งเสี่ยงรับโบนัสเยอะ เราก็อาจจะปลดล็อกสกิลดี ๆ มาใช้ได้เร็วขึ้น แต่เราแนะนำว่า ในการเล่นรอบแรก ให้เล่นแบบยอมเจ็บ ยอมไม่รับโบนัสไปก่อน เพราะเกมนี้ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร ไม่อย่างนั้นเราอาจจะ Suffer อยู่กับการเก็บสะสมแต้มโบนัสจนไม่ได้เล่นเกมกันพอดี นอกจากนั้น เกมมันยังมีระบบอย่างการยึดคืนพื้นที่จากพวกกองทัพปีศาจด้วย สมมติว่าในแผนที่นี้ มันมีหมู่บ้านอยู่ประมาณ 3 จุด แต่ละจุดมันจะโดนพวก Army of the Dead ยึดเอาไว้ เราก็ต้องเข้าไปจัดการพวกศัตรูให้หมด หรือจัดการตัวหัวหน้าที่เป็นบอส พอจัดการได้ พื้นที่ตรงนั้นจะกลับมาอยู่อาศัยได้อีกครั้ง ชาวบ้านจะกลับมาเปิดกิจการ ขายของ กลายเป็นศูนย์รวมชุมชน ตรงนี้ผมแอบตลกนิดหน่อย คือฟาดบอสโชะตาย พื้นที่กลับมาใช้งานได้เลย ไม่มีฉากซ่อมแซม บูรณะกอะไรกันหน่อยเหรอ มองในแง่ดี มันอาจจะเป็นแค่ใน Demo ของจริงอาจดูดีกว่านี้ก็ได้ สังเกตได้ว่าแต่ละระบบที่ว่ามา มันเหมือนเป็นเกมยำรวมมิตรชุดใหญ่เลย เอาระบบของหลาย ๆ เกมมาผสมกัน แล้วทำออกมาให้สนุก และเกมนี้ไม่ใช่ Open World นะครับ แนวยอดนิยมปัจจุบันมันคือ Open Zone เล่าเรื่องง่าย แต่ก็มีฉากเปิดกว้างให้ออกสำรวจบ้าง สมัยนี้เขาฮิตแบบนี้กัน
และจะว่ามันเป็น Skill Issued ของตัวผมเองก็ได้ แต่ผมรู้สึกว่าแม้ในความยากระดับ Normal จังหวะการ Parry ของเกมนี้มันก็ยังยาก คือมันต้องเอาแบบใกล้ถึงตัวแล้วจริง ๆ ค่อยกด ถึงจะ Parry ได้ ถ้ากดก่อน กดช้า ตามความเคยชินจากเกมอื่น บอกเลยว่าโดนเต็มข้อจนร่วงแน่นอน และผมลองลดความยากลงมาที่โหมด Story แล้ว มันก็ยัง Parry ยากอยู่ในระดับนึง แต่อย่างว่าแหละ ผมไม่เคยเล่น Souls-Like เคยก็ไม่บ่อยเท่าคนอื่น ดังนั้นอันนี้ให้ตีไปว่า มันคือ Skill Issued ของตัวผมเองไว้ก่อนแล้วกัน
ดูจากทีมสร้าง และราคา Flintlock: The Siege of Dawn ไม่ใช่เกมทุนสูงอะไรเลย จากราคาขายแค่ 719 บาท ก็น่าจะงานระดับ A หรือ AA นี่ล่ะ แต่จากที่ลองมาผมค่อนข้างประทับใจและสนุกกับเกมนี้พอสมควร ที่สำคัญคือเกมนี้ ลง PC Game Pass ด้วย ใครไม่อยากเสียเงินซื้อเต็ม ก็รอเล่นกันได้ เกมจะวางจำหน่าย 18 กรกฎาคม 2024 นี้ บน PC, PS5, Xbox Series รอเล่นกันได้เลย