เป็นคำถามที่หลายคนอาจจะกำลังสงสัย กับ Spec เครื่องระดับกลาง จับมาชนกันกับ Shadow of the Tomb Raider จะเป็นยังไงไปดู
สำหรับ Spec เครื่องที่เราหยิบมาทดสอบงวดนี้ถือเป็น Spec เครื่องระดับกลางและเกมเมอร์หลายคนน่าจะมี Spec เครื่องใกล้เคียงกับตัวนี้ บวก ลบ มากน้อยตามแต่กำลังทุนของแต่ละบุคคล
ใครที่มีเครื่องใกล้ ๆ กับตัวนี้และเล็งอยากจะหาเกม Shadow of the Tomb Raider มาเล่นลองไปดูกันได้ว่าเครื่องระดับนี้เล่นเกมนี้ไหวรึเปล่า
Spec ตัวเครื่อง
CPU: Intel i5-6600K
GPU: GTX 1050 Ti
RAM: 8 GB
HDD: GIGABYTE 2.5 256GB SATA 3 SSD
Setting Highest DirectX 12
เริ่มกันที่ปรับสุดให้รู้กันไปเลยว่าเครื่องนี้เล่น Shadow of the Tomb Raider แบบสุดได้ถึงขนาดไหน ผลการทดสอบตัวเกมทำ Frame Rate สูงสุดอยู่ที่ระดับ 30 กว่า ๆ แต่มีอาการกระตุกให้เห็นเป็นบางช่วง โดยเฉพาะในฉากที่มีขนาดใหญ่และมีรายละเอียดแสงเงามาก ๆ Frame Rate สามารถหล่นลงไปแตะหลัก 10 ได้เหมือนกัน ถ้าถามว่าปรับสุดแล้วเล่นได้รึเปล่าก็ตอบได้เลยครับว่าเล่นได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่ว่าคุณ “สนใจ” อาการกระตุกมากขนาดไหน
โดยส่วนใหญ่แล้ว Frame Rate ใน Settting นี้จะขึ้นไม่เกิน 35 และมีหล่นบ้างตามแต่สภาพฉาก แต่ผมว่าดูเป็น Setting ที่ไม่เหมาะกับการเล่นจริงเท่าไหร่สำหรับ Spec นี้
Setting High DirectX 12
เป็นตัว Setting พื้นฐานที่ตัวเกมเลือกมาให้สำหรับเครื่อง Spec นี้ ใน Preset กราฟฟิกที่ระดับ High
การลองเล่นจริงตัวเกมทำ Frame Rate ได้ที่ 30+ ตลอดเวลา โดยสามารถขึ้นไปแตะที่ 40 ได้ในบางฉาก แต่ผมตัดสินใจล็อคเฟรมไว้ที่ 30 เพื่อความลื่นไหลในการเล่น
กราฟฟิกในเกมนั้นเรียกได้ว่าสวยงาม รายละเอียดพื้นผิวชัดเจน แสงเงาก็สมจริง ใครเป็นแฟนเกมแนวนี้บอกได้เลยว่ามีฉากสวยๆให้ชมอยู่หลายฉาก
ใน Setting High สำหรับเครื่องนี้ถือว่าสอบผ่าน ตัวเกมแทบจะไม่หลุดจาก 30 Fps ทั้งฉาก Cut Scene ฉากสำรวจและฉากบู๊ยิงสนั่นระเบิดภูเขาเผากระท่อม
ผมว่านี่เป็น Setting ที่ “เหมาะ” ที่สุดสำหรับเครื่องนี้เพราะได้ทั้งภาพสวยและ Frame Rate ในระดับ 30 นิ่ง ๆ
Setting Medium DirectX 12
ขยับลงมาเป็นกราฟฟิกระดับกลาง ใน Preset Medium กันบ้างในด้านภาพนั้นเรียกได้ว่าไม่ต่างกันเท่าไหร่หนัก เพราะตัวเกมทำการปรับเพียงแค่ตัวลบรอยหยักลงมาเท่านั้นใน Preset ระดับกลาง ส่วน Setting หลักอื่นๆยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
เป็นเพราะตัว Setting ส่วนใหญ่ยังคงเดิมดังนั้น Frame Rate ในกราฟฟิกระดับ Medium จึงไม่ต่างกับระดับ High มากนัก ตัวเกมยังคงสามารถทำ Frame Rate ได้เกิน 30 ตลอดทั้งเกมไม่มีตกหล่นแต่อย่างใด ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากให้ตัวเกมมีอาการ Frame ตกระหว่างเล่น หรือหากทำการปลดล็อค V-Sync คุณก็สามารถพาตัวเกมไปแตะระดับ 40 FPS ได้เช่นกัน
Setting Low DirectX 12
ที่ภาพระดับ “ต่ำ” เราสามารถรีด Frame Rate ของเกมไปให้ถึง 60 ได้ในบางฉาก และมี Frame Rate เฉลี่ยอยู่ที่ 50 ซึ่งหากใครต้องการความลื่นไหลของภาพและไม่สนใจเรื่องความสวยงามนี่ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีเหมือนกัน ตัวเกมเล่นได้ลื่น ๆ ที่ 50 FPS เกือบตลอดทั้งเกม
Lowest DirectX 12
ที่ Setting ต่ำสุดเครื่องนี้สามารถพาคุณไปแตะ 60 FPS ได้ และนี่เป็น Setting สำหรับคนที่อยากเล่นเกมนี้แบบ 60 FPS แต่ก็ต้องแลกมาด้วยงานภาพที่แตกต่างจาก Setting ระดับกลางขึ้นไปแบบชัดเจนมาก ๆ ครับ
สรุป: เครื่อง i5 กับการ์ดจอ 1050Ti สามารถเล่นเกมนี้ได้สบาย ๆ ด้วย Spec เครื่องระดับนี้ผมแนะนำให้เล่นที่ Setting High ตามที่ตัวเกมปรับมาให้ แต่หากต้องการความลื่นไหลสุด ๆ ก็ไปเล่นที่ระดับ Low ได้เลยครับ
ด้านล่างนี้คือคะแนน Benchmark ของทุก Setting
LOWEST
LOW
MEDIUM
HIGH
HIGHEST