เรียงเล่นมาเป็นเรื่องบทบาทของเด็กๆและเกมจาก Ender’s Game สู่ชีวิตจริง
Ender’s Game คือวรรณกรรมเยาวชนที่สร้างชื่อมาตั้งแต่ปี 1985 เขียนโดย Orson Scott Card ก่อนที่จะถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ในปลายปี 2013 โดยมี Harrison Ford ร่วมแสดงนำ
Ender’s Game พูดถึงเรื่องราวในอนาคตที่มีศัตรูจากต่างดาวรุกรานจนกองทัพต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์โดยหันมาใช้เยาวชนในการควบคุมยวดยานและวางแผนการรบผ่านการฝึกนอกโลก โดยกองทัพจะทำการคัดสรรเด็กที่ได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นไปฝึกและออกสนามในภายหลัง
โดยเด็กที่ถูกคัดเลือกไม่ใช่เด็กที่เปี่ยมสภาพในการจับอาวุธรบ แต่มีความพร้อมในการวางแผน รวมไปถึงกลยุทธ์ต่างๆ
คือเด็กที่เล่นเกม
ในภาพยนตร์มีการพูดถึงการเล่นเกมของ Ender อยู่หลายฉากและหลายระดับ นับตั้งแต่ต้นเรื่องที่ให้เห็นการทำคะแนนเอาชนะเพื่อนในกองฝึก หรือเกมที่ตัวเอกใช้เล่นในยามว่างก่อนที่จะพบว่าเกมที่ว่านั้นมีบทบาทมากกว่าเพียงฆ่าเวลา
แต่มันส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้เล่น
เมื่อพูดถึงการเล่น ก็มักไม่ค่อยมีใครให้ราคา เพราะการเล่น ไม่ใช่การทำงาน อย่างยิ่งเมื่อมันถูกติดคำเป็น “เล่นๆ” ที่ให้ความหมายถึงการไม่จริงจัง แต่ผู้เขียนทำการกลับขั้ว เล่น-จริง เด็ก-ผู้ใหญ่ ให้มาอยู่ในบทบาทที่สลับกัน เป็นการดึงคุณค่าที่ซ่อนเร้น และลดการกดขี่ของขั้วตรงข้ามที่มีต่อกัน
บทบาทของเด็กๆและเกมใน Ender’s Game จึงมีความสำคัญในโลกนั้นเป็นอย่างยิ่งแต่นั่นก็เป็นเรื่องราวที่ถูกแต่งขึ้นในช่วงเวลาก่อนการสิ้นสุดของสงครามเย็น และการขึ้นมาของทศวรรษที่ 90
ในปัจจุบันอาจไม่ต่างกัน แต่หากมาดูดีๆแล้ว การละเล่น หรือ “เล่นๆ” ก็อาจเป็นต้นขั้วจุดประกายให้กับสิ่งที่ยิ่งใหญ่ตามมา อย่างหน้าที่การงานหรือความสำเร็จของหลายคนก็มีจุดกำเนิดมาจากการทำเล่นๆ หรือในฐานะงานอดิเรก
การเล่นเกมในปัจจุบันหลังจากการมาของธุรกิจการแข่งขัน E-Sport ก็ทำให้การเล่นไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ในประเทศอย่างเกาหลีหรือจีน นักแข่งเกมมีรัศมีระดับร็อคสตาร์หรือดารานักร้อง
โดยทั่วไปแล้วการรับสารและที่ความในสิ่งที่เราบริโภคเป็นไปได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่นการอ่านหรือรับชมที่สารที่รับอาจไม่ตรงกับจุดประสงค์ของผู้ส่งหรือผู้เขียน แต่อาจเป็นประเด็นหรือสิ่งใหม่ๆในมุมมองที่แตกต่าง การเล่นเกมก็ไม่ต่างกัน ซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลที่จะเล่นให้เกิดอะไรตามมามากน้อยแค่ไหน
แต่อย่างน้อยการเล่นก็ไม่ได้ทำหน้าที่เดียวหรือทำให้เวลาผ่านไปอย่างสูญเปล่า