ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายข่าวที่เป็นประเด็นเด็ดเจ็ดสีเกิดขึ้นติด ๆ กันจนเข้าไปเผือกกันแทบไม่ทัน หนึ่งในเรื่องที่เป็น Talk of The Town มากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของศิลปินนักร้องคนหนึ่งกับเรื่องการคบซ้อน มีแฟนพร้อมกันสองคนมาอย่างยาวนานถึงสิบปีเต็ม ทำให้เหล่าชายไทยไม่โสดขวัญหนีดีฟ่อไปตาม ๆ กัน (เพราะไม่รู้ว่าจะโดนแฟนตัวเองสอบเข้มหลังข่าวออกหรือเปล่า) แน่นอนว่าประเด็นนี้ถือว่าน่าสนใจ เพราะในโลกวิดีโอเกมของเราก็มีการหยิบยกประเด็นนี้มาพูดถึงกันอยู่สม่ำเสมอ
สิ่งหนึ่งเราต้องพูดกันก่อนก็คือ เรื่องของความรักนั้นไม่เข้าใครออกใครก็จริง แต่เราก็ควรที่จะจำเอาไว้ก่อนว่า ไม่ใช่ทุกคนที่โอเคกับการคบกันแบบหลายคนพร้อมกัน คนที่จับปลาสองมือนั้นส่วนใหญ่มักจะมีจุดจบที่ไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก เพราผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่า ไม่ว่าใครก็ตามมันก็ต้องอยากเป็น “หนึ่งในใจคุณ” ของใครสักคนอย่างแน่นอน และถ้าหากมารู้ทีหลังว่าเราเองเป็นแค่ตัวสำรองของเขา ใครมันจะไปทนได้ล่ะ
แน่นอนว่าในโลกความเป็นจริง เรามักจะต่อต้านการคบชู้หลายใจกันอย่างแพร่หลาย ในสภาพสังคมทั่ว ๆ ไป หรือบางศาสนาก็มองว่า การประพฤติผิดในกามนั้นเป็นบาปที่น่ารังเกียจ เช่นศีล 5 ข้อที่ชาวพุทธอย่างเรา ๆ คุ้นเคยกันดี (หรือถ้าไม่ใช่ก็น่าจะเคยเรียนผ่านตากันมาบ้างในห้องเรียนนั่นแหละ) และคนเหล่านั้นก็มักจะตกเป็นเป้านินทาถ้าหากถูกจับได้ เพราะการคบซ้อนหรือคบชู้หลายใจนั้น เป็นเรื่องที่คนในสังคมส่วนใหญ่ “ไม่ให้การยอมรับ” นั่นเอง
กลับมามองกันที่โลกของวิดีโอเกมกันบ้าง หลายครั้งเรามักจะได้เห็นตัวละครที่คบชู้หลายใจได้รับผลลัพธ์ที่ก่อเกิดมาจากความโลเลหรือเผื่อเลือกกันอยู่เสมอ โดยเฉพาะในเกมที่เน้นในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ตัวอย่างที่น่าจะเห็นได้ชัดที่สุดก็น่าจะมาจาก The Witcher 3: Wild Hunt ที่เราจะต้องเลือกว่า ระหว่าง Yennefer คนรักเก่าจากฉบับนิยาย หรือ Triss จอมเวทย์สาวที่แปรเปลี่ยนจากเพื่อนสนิทมาเป็นคนรัก ซึ่งถ้าใครตัดสินใจเลือกคนใดคนหนึ่งไปก็ดีไป แต่ถ้าหากผู้เล่นโลเล เลือกที่จะเก็บเธอไว้ทั้งสองคน เกมก็จะลงโทษเราด้วยการให้สองสาวนั้นจับ Geralt ตัวเอกของเรากับเสาเตียง แล้วชิ่งหนีไปเลยทั้งคู่ แห้วรับประทานกันไปแบบแก้ตัวใหม่ไม่ได้จนกว่าจะไปโหลดเซฟในช่วงก่อนที่จะตัดสินใจคบซ้อนเลยทีเดียว
หรือบางทีในบางเกมก็ไม่ได้ลงโทษคนเล่นแบบโหดร้ายขนาดนั้น ใน Mass Effect ภาคแรกนั้นจะมีช่วงที่เราจะต้องเลือกว่าระหว่าง Kaidan (ถ้าเล่นตัวเอกหญิง) Ashley (ถ้าเล่นตัวเอกชาย) และ Liara (ตัวเอกชายและหญิง) เราจะเลือกใคร ซึ่งตรงนี้ก็ยังดีที่เกมจะบังคับเราเลยว่าจะเลือกใครกันแน่ หรือถ้าอย่างในภาคหลัง ๆ ที่ในระหว่างภาค 2 เราไปมีความสัมพันธ์ตัวละครหลักตัวอื่น และพอกลับมาจะมีบทสนทนาแนวตัดพ้อต่อว่ากับผู้เล่นด้วยในเรื่องนี้ แม้จะไม่ถึงกับลงโทษแบบเด็ดขาดอย่าง The Witcher แต่ก็เป็นอะไรที่เข้าท่าอยู่เหมือนกัน
เกมอีกแนวหนึ่งที่ผู้เขียนคิดว่าเรื่องการสัมพันธ์นั้นสำคัญไม่แพ้กันก็คือเกมแนวปลูกผักทำสวน ไม่ว่าจะ Harvest Moon หรือ Stardew Valley ก็มีส่วนของการจีบหนุ่มจีบสาวมาเป็นระบบหลักของเกม และการจะจีบใครสักคนในเกมนี้เราก็ต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อเขาหรือเธอคนนั้นอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะทั้งการเข้าไปพูดคุย การให้ของขวัญที่เธอประทับใจ (โดยเฉพาะคาเรนที่ต้องซื้อไวน์ราคาแสนแพงไปให้เธอ) รวมไปถึงสานสัมพันธ์หลังแต่งงานเพื่อมีลูกสืบสกุล เพื่อฉากจบที่ดีที่สุดหรือคุณภาพชีวิตในการทำไร่ทำสวนที่ดีขึ้น แต่ถ้าหากเราโลเลหรือทำตัวเผื่อเลือก เกมก็จะไม่เปิดโอกาสให้เราไปต่อได้เพราะยังไงสุดท้ายเราก็ต้องเลือกคนที่เป็น”หนึ่งในใจคุณ” เพียงคนเดียวอยู่ดี หรือไม่อย่างงั้นก็ต้องแก้ปัญหาโดยการลง Mod ให้แต่งงานได้หลาย ๆ คนพร้อมกันไปเลย
จะเห็นได้ว่าความสัมพันธ์ที่คนส่วนใหญ่ต้องการก็คือความสัมพันธ์แบบผัวเดียวเมียเดียว และการคบซ้อนนั้นเป็นสิ่งที่สังคมรังเกียจ แต่ก็ยังมีความสัมพันธ์อีกประเภทหนึ่งก็คือ Polyamorous Relationship ที่เป็นกลุ่มความสัมพันธ์ในแบบที่มากกว่าสองคนขึ้นไป มีการให้ความรักความเอาใจใส่อย่างเท่าเทียมกัน และทุกคนในความสัมพันธ์นี้รับรู้และตกลงกันได้ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ไม่ได้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ และจะแตกต่างจากการมีความสัมพันธ์แบบ Open Relationship ที่ไม่ว่าใครก็จะสามารถไปมีความสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ได้ กระนั้นมันก็ยังมีความแตกต่างจากในข่าวและคนที่มีความสัมพันธ์ในลักษณะนี้จะใช้ชีวิตค่อนข้างลำบาก เพราะมักจะถูกเหมารวมว่าเป็นประเภทพวกที่ไม่ดีนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แม้เรื่องของความสัมพันธ์จะเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความเข้าใจรอบด้านเพราะมีการตีความไปอย่างหลากหลาย แต่ถ้าหากความสัมพันธ์นั้นไม่สร้างความเดือดร้อนและทำให้ผู้ที่มีมันนั้นเกิดความสุขและสบายใจ มันก็น่าจะเป็นเรื่องที่โอเคแล้ว ทุกคนบนโลกใบนี้ล้วนมีทางเลือกที่จะตัดสินใจตามความต้องการของตน โดยที่ความต้องการนั้นไม่ไปก่อความเดือดร้อนรำคาญและทำร้ายความรู้สึกของผู้อื่นเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอ ขอให้ทุกคนมีสติและอย่างตัดสินใจทำสิ่งใดที่ทำร้ายความรู้สึกแก่คนที่รักเลย เพราะสิ่งที่สูญเสียไปจากการทำร้ายกันทางจิตใจ อาจจะไม่สามารถรักษาได้เหมือนกับบาดแผลภายนอกที่อยู่บนร่างกายก็เป็นได้ครับ