BY Aisoon Srikum
4 Feb 20 4:09 pm

ครบรอบ 1 ปี Apex Legends เกม Battle Royale เล่นฟรีสุดเจ๋งจาก EA และ Respawn

9 Views

เผลอแปปเดียว วันเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปอีกหนึ่งปีแล้ว แต่ใครจำกันได้บ้างว่าวันนี้ (4 กุมภาพันธ์) ในปี 2019 EA และ Respawn ได้ประกาศเปิดตัว Apex Legends เกม Battle Royale จากจักรวาล Titanfall ของตัวเอง ในตอนแรกมันถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะไปรอดหรือไม่ จากวีรกรรมของ EA ในตอนนั้น และจนถึงตอนนี้คงไม่ต้องบอกอะไรแล้วว่ามันคือหนึ่งในเกม Battle Royale ที่ประสบความสำเร็จไม่น้อยเลยทีเดียว เรามาดูกันว่า 1 ปีมานี้ Apex Legends ผ่านอะไรมาแล้วบ้าง

Season 1 : Wild Frontier (มีนาคม 2019)

Wild Frontier คือชื่อของฤดูกาลแรกของ Apex Legends ซึ่งมาหลังจากที่เกมเปิดตัวไปได้แล้วราว ๆ เดือนกว่า ในช่วงนั้นตัวเกมเริ่มถูกบ่นแล้ว แม้ว่ากระแสตอนเปิดตัวจะออกมาแรงมาก ทำลายแทบจะทุกสถิติหลังจากเปิดตัว แต่ด้วยคอนเทนต์เกมที่น้อยไปมาก เล่นได้เต็มที่เดือนเดียวผู้เล่นก็เริ่มอิ่มตัวกันแล้ว ด้วยกระแสเรียกร้องจากแฟน ๆ ในเดือนมีนาคม Season 1 ก็ถูกปล่อยออกมา

และต้องบอกว่ามันน่าผิดหวังพอสมควร เพราะไม่ว่าจะเป็นระบบการเล่น ตัวละครใหม่ หรือ Battle Pass ไม่ได้ช่วยทำให้เกมดูแตกต่างหรือน่าเล่นขึ้นมาเลย ในตอนนั้นเองที่ผู้เล่นหลายคนเป็นห่วงว่าเกมจะมาได้แค่นี้จริง ๆ หรือ เรียกได้ว่า ณ ตอนนั้นความวิ่งเร็ว วิ่งแรงของ Octane ก็ฉุดกระแสเกมกลับมาได้ไม่ค่อยดีนัก

แต่โชคดีที่ระบบเกมเพลย์ยังดึงผู้เล่นเอาไว้ได้ แม้ยอดผู้เล่นจะตกลงฮวบฮาบ แต่สิ่งที่เหลืออยู่คือผู้เล่นขาประจำ ซึ่งก็มากที่จะทำให้เกมไม่ล้ม และสามารถ Matchmaking เจอห้องเล่นได้อย่างง่ายดายอยู่ดี ในตอนนั้นทางผู้พัฒนาอย่าง Respawn ถึงขั้นต้องออกมาบอกว่า พวกเขาไม่คาดคิดว่าเกมมันจะประสบความสำเร็จ และโด่งดังได้ขนาดนี้ ทำให้แผนการอัปเดตแต่เดิมของพวกเขานั้นไม่สามารถตอบสนองแก่ผู้เล่นทั้งหมดได้ แต่ในที่สุดพวกเขาก็รีบกลับมาแก้เกมโดยเร็วในการมาถึงของ Season 2

Season 2 : Battle Charge (กรกฎาคม 2019) มังกรที่หายไป..

จะบอกว่าเป็นการ Come Back ก็คงไม่ถูก เพราะในระหว่างที่ Season 1 ดำเนินอยู่ แม้จะมีหลายคนถอดใจเลิกเล่น แต่อย่างที่บอกว่าเกมมันไม่ได้ขาดแคลนคนเล่นขนาดนั้น และในวันที่ 28 มิถุนายน Apex Legends ได้ปล่อยตัวอย่างของ Season 2 ออกมา และมันสร้างกระแสให้แฟนเกมทั้งเก่าและใหม่มาสนใจเกมนี้ได้อีกครั้ง

ใน Season 2 ตัวเกมมาพร้อมกับระบบการปรับแผนที่แบบ Fortnite นั่นคือ ใช้แผนที่เดิมเป็นมาตรฐาน แต่สร้างเรื่องราวและเหตุการณ์ขึ้นมา ทำให้แผนที่บางส่วนถูกทำลาย มีสิ่งปลูกสร้างใหม่เกิดขึ้นมา และทำให้รูปแบบการเล่นเปลี่ยนไปพอสมควร รวมไปถึงการมาของลีเจนด์คนใหม่ Wattson ที่ช่วยทำให้รูปแบบการเล่นเปลี่ยนไปพอสมควรอีกด้วย นอกจากนั้นของรางวัลใน Battle Pass ก็ถูกปรับใหม่ โดยออกแบบให้รางวัลสกินมีความน่าสนใจมากขึ้น คุ้มค่าที่จะเล่นมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการมาของระบบ Rank System ที่ทุกวันนี้โดนบ่นโอดครวญพอตัวเลยว่าเจอแต่เหล่ายอดมนุษย์ (โปรแกรมช่วยเล่น)

แต่จะอย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หลายคนผิดหวังก็ยังมี ในตัวอย่าง Season 2 นั้น มีเหล่ามังกรและ Leviathan ให้เห็น ทำให้แฟนเกมคาดว่าเราอาจจะได้เห็นลูกเล่นใหม่ในแผนที่ เช่นการหลบสัตว์ประหลาดหรือมังกร แต่สุดท้ายแล้ว เหล่ามังกรก็ทำได้เพียงแค่บินถือ Banner เพื่อเสิร์ฟไอเทมฟรี ๆ และ Leviathan ก็เป็นเพียงสัตว์ประหลาดตัวยักษ์ยืนอยู่กับที่ รอกระทืบเท้าแบบขาตายเท่านั้น น่าเสียดายมากที่พวกเขาใส่มันเข้ามา แต่กลับไม่ใช้ประโยชน์สูงสุดจากมัน

ใน Season นี้ยังมีการปรับความสามารถของปืนเก่า ๆ ให้ติดตั้งอุปกรณ์เสริมอย่าง Hop-up ได้ เช่นปืนสั้นอย่าง RE-45 และ Alternator ที่ติดตั้ง Disrupt Armor ทำให้ยิงโจมตีศัตรูที่ไม่ติดเกราะได้ดีขึ้น จนแฟนเกมหลายคนออกมาบ่นว่ามัน OP เกินไป จนขอให้ปรับใหม่เลยทีเดียว

โดยรวม Season 2 ของ Apex Legends ได้ทำให้แฟนเกมกลับมาติดกันงอมแงมอีกครั้ง

Season 3 : Meltdown (ตุลาคม 2019) Goodbye King’s Canyon

หลังจากปล่อยให้เราเล่นแผนที่ King’s Canyon กันมากว่าครึ่งปี ใน Season 3 ของเกมนี้ก็ได้พาเราเข้าสู่แผนที่ใหม่อย่างเป็นทางการในชื่อ World’s Edge และการมาของตัวละครใหม่ที่ชื่อ Crypto

การมาของ Season 3 นี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็นเกมใหม่กันไปเลยทีเดียว เพราะแผนที่ใหม่ ทำให้เราต้องศึกษาจุดร่อนลง จุดปะทะกันใหม่หมด เรียนรู้ว่าตรงจุดนี้ต้องใช้อาวุธประเภทอะไร ถึงจะได้เปรียบ ตอนไหนควรสู้ หรือหนี และตัวละคร Crypto ที่มาพร้อมกับสกิลโดรนสอดส่องพื้นที่ ทำให้รูปแบบการเล่นพลิกแพลงได้อย่างหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าสมาชิกในทีมเรา เอาตัวละครอะไรมาสนับสนุนกันบ้าง และมันยังทำงานได้ดีในแผนที่ World’s Edge ที่มีอาคารสูงใหญ่ และพื้นที่ซอกเล็กซอกน้อย ที่ทำให้โดรนของ Crypto ทำงานได้อยา่งมีประสิทธิภาพ

นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มและถอดถอน Hop-Up บางปืนออกไป และนำมาใส่ให้ปืนใหม่แทน เช่น Anvil Receiver ที่ติดตั้งให้กับ R-301 และ Flatline ปืนยอดนิยมของเกม ทำให้ยิงแบบ Single Shot ยิงทีละนัดแต่ได้ดาเมจสูงกว่า ทำให้พลิกแพลงการเล่นได้อีกมากมาย

แต่สิ่งสำคัญของ Season 3 นี้คือ การนำเอาแผนที่ World’s Edge มาแทนที่แผนที่เก่าอย่าง King’s Canyon แม้ว่าหลายคนจะเบื่อแผนที่เก่าเต็มทีแล้ว แต่การนำเอาออกไปเลย และแทนที่ด้วยแผนที่ใหม่นั้น ก็ทำให้ใครหลายคนคิดถึงไม่ใช่น้อย ซึ่งตรงนี้ทาง Respawn เองได้ออกมาบอกถึงสาเหตุที่ทำแบบนี้ เพราะจะได้ตัดปัญหาเรื่องคนเลือกแผนที่กันเล่น และจะทำให้ระบบ Matchmaking ทำงานได้ยากขึ้น และใช้เวลาในการหาห้องนานกว่าเดิม

แน่นอนว่า Season 3 นี้ ได้นำผู้เล่นกลับมาเล่นกันอีกครั้ง น่าเสียดายที่ทาง EA และ Respawn ไม่ได้เผยยอดตัวเลขผู้เล่นที่ชัดเจนมากนัก ทำให้เราไม่รู้ว่าเกมได้ยอดผู้เล่นกลับมามากน้อยเพียงใด แต่การหาห้อง Matchmaking ก็ไม่ได้ยากเกินไปนัก มีคนเล่นอยู่ตลอด เพียงแต่ไม่รู้ตัวเลขที่ชัดเจนเท่านั้น

Season 4 : Assimilation (กุมภาพันธ์ 2020) การตบตาครั้งใหญ่

ผ่านไปสามเดือน ในที่สุด Apex Legends ก็เข้าสู่ Season 4 และคราวนี้พวกเขามาแสบมาก ด้วยการสับขาหลอกผู้เล่นซะจนหงายเงิบกัน ไปข้าง เริ่มจากการที่พวกเขาปล่อยภาพอาร์ทของตัวละครที่ชื่อ Forge ออกมาก่อน

และหลังจากนั้นเพียงไม่กี่วันก็มีตัวอย่างใหม่ออกมา โดยเป็นการที่ Forge โดนลอบสังหารจากตัวละครปริศนาที่ชื่อ Revenant ที่เคยออกมาในกิจกรรมฮาโลวีนเมื่อปีที่แล้ว ทำให้แฟน ๆ คาดเดาว่า Revenant น่าจะเป็นตัวละครหลักประจำ Season 4 นี้ และก็เป็นเรื่องจริง เมื่อ Launch Trailer และ Gameplay Trailer เปิดเผยชัดเจนถึงตัวละครใหม่ซีซั่น 4 อย่าง Revenant

โดยรูปแบบของซีซั่นนี้ก็ยังคงเป็นเหมือนตอนซีซั่น 1 มา 2 นั่นคือการใช้แผนที่เดิมเป็นต้นแบบ แต่สร้างเรื่องราวขึ้นมา ทำให้แผนที่ถูกทำลาย และเปลี่ยนรูปแบบไป ซึ่งน่าจะทำให้เกิดแผนการเล่นใหม่ ๆ ขึ้นมาตามเดิม และมีอาวุธใหม่นั่นคือปืน Sentinel ที่จะเป็นปืนสไนเปอร์แบบโบล์ทแอ็คชั่นกระบอกที่ 2 ต่อจาก KRABER ที่คาดว่ามันอาจจะใช้ไอเทมเติมเกราะอย่าง Shield Cell มาเป็นกระสุนอีกด้วย

ถือว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่น่าจับตามองสำหรับ Apex Legends ที่สรรหาอะไรใหม่ ๆ มาให้ผู้เล่นได้เล่นกันเสมอ ซึ่งในฤดูกาลนี้จะอัปเดตให้เราได้เล่นกันในตี 1 คืนนี้นั่นเอง

กิจกรรมที่ทำให้เกมไม่เคยน่าเบื่อ

อีกหนึ่งอย่างที่ต้องชื่นชมทีมพัฒนา ก็คือการออกแบบกิจกรรมต่าง ๆ มาทำให้เกมน่าเล่นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นโหมด Solo / Duo ที่แม้จะไม่ได้ใส่มาในเกมจริง ๆ แต่สุดท้ายก็กลายมาเป็นโหมดกิจกรรมขำ ๆ ให้เราได้ลองเล่นกัน แม้ว่าจะมีปัญหาดราม่าในกลุ่มผู้เล่นว่า มันทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ทัวร์จีน หรือผู้เล่นแอบจับกลุ่มกันเอง ออกมาให้เห็นบ้าง

และล่าสุดอย่างเช่นกิจกรรม Grand Soiree Arcade Event ที่เป็นกิจกรรมนำโหมดใหม่มาให้เล่นกันทุก 2 วัน ไม่ว่าจะเป็นโหมดจำกัดอาวุธให้เหลือแค่ปืนลูกซอง สไนเปอร์ และเกราะที่จำกัด , โหมดการเล่นแบบดรอปแต่อาวุธระดับสีทอง , โหมดการเล่นแบบตัวละครดัมมี่ ไร้ซึง่สกิลใด ๆ ก็ทำให้สร้างสีสันการเล่นใหม่ ๆ ได้อีกมากมาย

แม้จะไม่รู้ว่าต่อจากนี้ Apex Legends จะใส่อะไรเข้ามาในเกมอีก แต่ก็เป็นที่ยืนยันได้แล้วว่า 1 ปีที่ผ่านมานี้ เป็น 1 ปีที่ไม่อยู่นิ่งของทีมผู้พัฒนา Respawn และเราอาจจะคาดเดาอะไรไม่ได้เลยสำหรับการอัปเดตในอนาคต สาวก Apex Legends ก็สบายใจกันได้ว่าเกมนี้น่าจะอยู่กับเราไปอีกนานเลยทีเดียวครับ

SHARE

Aisoon Srikum

Back to top