Dying Light 2 เป็นเกมแอ็คชัน-ผจญภัย ที่ผู้เล่นต้องหลบหนีเอาตัวรอดจากเหล่าซอมบี้ และฝ่ายมนุษย์ด้วยการใช้ทักษะการวิ่งปากัวร์ และการเข้าโจมตีอย่างรวดเร็วจนศัตรูไม่ทันได้ตั้งตัว
เนื่องจาก Dying Light 2 มีระบบเกมเพลย์ที่แตกย่อยออกมามากมาย รวมถึงมีความยากในระดับหนึ่ง จึงอาจทำให้ผู้เล่นหน้าใหม่ที่เพิ่งเข้าถึง Dying Light ครั้งแรก อาจต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายต่าง ๆ ซึ่งบทความนี้จะเป็นการเผย Tip เล็ก ๆ ที่ช่วยให้การเล่นเกมสะดวกสบาย หรือง่ายมากขึ้นไม่มากก็น้อย
หมั่นตรวจสอบหลอด Stamina
แม้ผู้เล่นมีร่างกายแข็งแรง สามารถวิ่งปากัวร์ หรือกระโดดข้ามตึกได้อย่างสบาย ๆ แต่แน่นอนว่าร่างกายของเราก็มีขีดจำกัดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นระหว่างการเดินทางหรือต่อสู้ ให้หมั่นตรวจสอบหลอด Stamina (ค่าพละกำลัง) ที่กลางหน้าจอตลอดเวลา เพราะหากค่า Stamina หมดหลอดผิดที่ผิดเวลา มันจะสร้างอุปสรรคต่อผู้เล่นได้มากเลยทีเดียว
กลางคืน คือช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด
กลางคืน คือช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด
หนึ่งในเอกลักษณ์ที่ทำให้ซอมบี้ของเกม Dying Light มีความโหดเหี้ยม และไม่ใช่กระสอบทรายให้เหล่าเกมเมอร์กำจัดเหมือนแมลงกับมด คือช่วงเวลากลางคืน ซอมบี้จะเพิ่มความดุดันกว่าช่วงเวลากลางวันเกือบเท่าตัว ซึ่งระบบดังกล่าว ยังกลับมาอีกครั้งในเกมภาคนี้
ถ้าหากเป็นไปได้ เราไม่แนะนำให้เกมเมอร์เดินบนท้องถนนในช่วงเวลากลางคืน เพราะมีความเสี่ยงโดนเหล่าซอมบี้รุมล้อมกัดกินคุณได้ตลอดเวลา หากต้องการเดินทางจากจุด A ไป B ในช่วงกลางคืนอย่างปลอดภัย หรือไม่ต้องเผชิญหน้ากับอันตราย เราแนะนำให้เดินวิ่งบนดาดฟ้าหรือใช้ทางลัดจะดีที่สุด
ตรงกันข้าม ในช่วงเวลากลางวัน ตามท้องถนนหรือซอยจะปลอดซอมบี้ แต่พบได้เยอะในตึกราวบ้านช่องแทน ถ้าหากเกมเมอร์ตกอยู่ในสถานการณ์โดนซอมบี้รุมล้อม ให้ใช้ไฟฉาย UV ซึ่งช่วยให้ซอมบี้ถอยออกจากผู้เล่นไป
การตะลุยช่วงกลางคืนคือความท้าทาย ยิ่งเสี่ยงยิ่งได้รางวัลเยอะ
High Risk High Reward คือระบบที่มีมาตั้งแต่ตัวเกมภาคแรก และในภาคนี้เองก็เช่นกัน ในช่วงเวลากลางคืน เกมเมอร์จะมีโอกาสเจอ “Special Infected” มากกว่าช่วงเวลากลางวัน แม้มันจะโหดกว่าซอมบี้ปกติ และมีความสามารถเฉพาะตัว แต่หากกำจัด Special Infected ได้สำเร็จ ก็มีโอกาสดรอปชิ้นส่วนทรัพยากรหายาก ไว้ใช้อัปเกรดอาวุธให้ดียิ่งขึ้นเช่นกัน
ด้วยเหตุผลดังกล่าว ถ้าหากเกมเมอร์มีความพร้อมระดับหนึ่งแล้ว ให้ลองผจญภัยล่าซอมบี้ในช่วงเวลากลางคืนสักตั้ง เพราะของรางวัลจากการล่าซอมบี้มันคุ้มค่ากับความเสี่ยงอย่างแน่นอน
ปั๊มแต้มสกิล ด้วยการฝึกวิ่งปากัวร์ และต่อสู้
อย่างที่เกมเมอร์หลายคนทราบกันดี Dying Light 2 มีฟีเจอร์เด็ด คือตัวละครเอกมีร่างกายยืดหยุ่นสามารถปากัวร์ เพื่อวิ่งหรือกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย
ทุกครั้งที่มีการใช้สกิลปากัวร์ หรือสกิลการต่อสู้ (ทั้งสองสกิลจะแยกหมวดกัน) เช่น การกระโดดถีบ, การวิ่งไต่กำแพง, วิ่งกระโดดบนรถยนต์, การสไลด์พื้น, Active Landing ฯลฯ ตัวเกมจะมีการเพิ่มค่าประสบการณ์ให้ผู้เล่นแบบเล็ก ๆ น้อย
ฉะนั้นระหว่างการเดินทางจากจุด A ไปจุด B เราแนะนำให้ฝึกฝนใช้สกิลปากัวร์หรือการต่อสู้จนคล่องแคล่ว เพื่อฟาร์มค่าสกิลระหว่างทาง และเอาตัวรอดจากสถานการณ์อันตรายต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
ปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยกล้องส่องทางไกล
อุปกรณ์กล้องส่องทางไกลใน Dying Light 2 มีประโยชน์ไว้ใช้สำหรับตรวจสอบเส้นทางการเดินทาง, หาตำแหน่งศัตรูกับซอมบี้ และมองหาจุด Landmark ที่น่าสนใจ
เนื่องจากผู้เล่นใช้เวลาส่วนใหญ่กับการเดินทางบนดาดฟ้าตึกราวบ้านช่อง ทำให้กล้องส่องทางไกล เปรียบเสมือนเป็นตาดวงที่ 3 ช่วยเพิ่มวิสัยทัศน์การมองเห็นหลายเท่าตัว
อาวุธ Rarity ยิ่งแรร์ยิ่งใช้ดี
จัดว่าเป็นเทรนด์ของเกมแอ็คชัน-ผจญภัยไปแล้วก็ว่าได้ ที่ทุกไอเทมต้องมีการโชว์ระดับความแรร์ ชี้ให้เห็นว่ามันมีประสิทธิภาพใช้งานดีมากน้อยแค่ไหน
ไอเทมและอาวุธของเกม Dying Light 2 มีระดับความแรร์ทั้งหมด 5 ระดับ โดยเรียงจากหาง่ายสุดไปหายากสุด เช่น Common > Uncommon > Rare > Exceptional และ Legendary
ไอเทม Rare ถึง Legendary สามารถพบได้จากการปลดล็อกตู้เซฟตามระดับความยาก (ยิ่งยากเท่าไหร่ ยิ่งเจอไอเทมแรร์เท่านั้น) ส่วนไอเทมระดับ Common และ Uncommon สามารถเก็บจากศัตรู และการสำรวจพื้นที่
Vault Kick คือสกิลต่อสู้ที่ใช้ประโยชน์ได้สารพัด
Vault Kick เป็นสกิลการต่อสู้ ที่ผู้เล่นสามารถปลดล็อกได้ในช่วงเริ่มต้นเกม ซึ่งมันมีคุณสมบัติเป็นการกระโดดข้ามศัตรูที่ติดสถานะ Stagger แล้วเตะศัตรูที่อยู่ด้านหลังอย่างรุนแรง
สกิลดังกล่าว นอกจากใช้ในการปราบศัตรูหลายตัวแล้ว ยังสามารถใช้ในการหลบหนี และตั้งหลักใหม่จากการโดนศัตรูรุมล้อมอีกด้วย ทำให้สกิลนี้จัดว่ามีประโยชน์ใช้ได้ตลอดทั้งเกม
เลือกอาวุธตามสไตล์การเล่นของผู้เล่น
Weapon หลักของเกมนี้จะเน้นอาวุธ Melee หรืออาวุธสำหรับโจมตีระยะประชิดเป็นหลัก ซึ่งแบ่งเป็นอาวุธถือสองมือ เช่น ค้อน, พลั่ว, ขวานไฟ และอาวุธถือมือเดียว เช่น มีด, มาชาเต้ กระบอง และอื่น ๆ อีกมากมาย
อาวุธถือสองมือ จะมีความรุนแรงกว่าอาวุธมือเดียว สามารถโจมตีเป็นวงกว้าง และบล็อกป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนอาวุธมือเดียว มีคุณสมบัติโจมตีเร็ว และตัวละครจะเคลื่อนไหวสะดวกกว่าการถืออาวุธสองมือ
ความจริงแล้ว Dying Light 2 มีอาวุธปืนสำหรับใช้โจมตีศัตรูจากระยะไกล แต่อาวุธดังกล่าวจะยังไม่มีให้ใช้ในช่วงต้นเกม และต้องใช้ให้ถูกสถานที่กับสถานการณ์ เพราะเสียงปืนทำให้ซอมบี้กับศัตรูตื่นตัวได้
ไอเทมส่วนประกอบมีค่า อย่ามองข้าม
ใน Dying Light 2 มีระบบ Modification สามารถอัปเกรดอาวุธธรรมดา ให้กลายเป็นอาวุธทำลายล้าง และระบบ Craft ให้ผู้เล่นส่วนนำผสมต่าง ๆ มาสร้างเป็นไอเทมที่มีประโยชน์ เช่น ยาฟื้นพลังชีวิต, มีดสำหรับขว้างปา ใช้กำจัดศัตรูระหว่างลอบเร้น, ระเบิดขวด (Molotov) หรือระเบิดมือ ไว้ใช้กำจัดซอมบี้เป็นวงกว้าง
ชิ้นส่วนประกอบสำหรับการอัปเกรดอาวุธ และคราฟต์สิ่งของนั้น สามารถเก็บจากตามพื้น, การกำจัดศัตรู, เปิดหีบแถวหอคอยหรือดาดฟ้า และการสำรวจในตึกอาคาร ถ้าหากพบเจอไอเทมเหล่านั้น เราแนะนำให้เก็บเข้ากระเป๋า (เท่าที่จำเป็น) เพราะมันมีประโยชน์ต่อการเอาตัวชีวิตรอดในโลก Dying Light 2 เป็นอย่างมาก