Fallout: New Vegas เป็นเกมที่มีข้อมูล Lore น่าสนใจมากมายที่ผู้เล่นหลายคนอาจจะพลาดได้ง่ายหากไม่สังเกตให้ดี แต่มี Lore หนึ่งที่มีผู้เล่นหลายคนให้ความสนใจเป็นพิเศษ คือ เรื่องเล่าของ Vault 11 บ้านหลุมหลบภัยใต้ดินที่ใช้อำนาจประชาธิปไตยเป็นเครื่องมือในการตัดสินที่จะเลือกบูชายัญโดยแลกกับชีวิตของมนุษย์ จนนำไปถึงจุดจบของ Vault 11 ที่มีความหักมุมจนผู้เล่นหลายคนต้องเก็บไว้เป็นความทรงจำอีกนานแสนนาน
นี่คือ ตำนาน Fallout – Vault 11 เมื่อพลังประชาธิปไตยใช้เป็นเครื่องมือบูชายัญ
Vault 11 คืออะไร
Vault 11 ตั้งอยู่ในทะเลทราย Mojave Watseland โดยอยู่ทางตอนตะวันตกของ Boulder City และทางตอนตะวันตกเฉียงใต้ของ 188 Trading Post
Vault 11 มีจุดประสงค์คล้ายกับ Vault หลังอื่น คือฉากหน้าเป็นที่อยู่อาศัยใต้ดินที่สร้างขึ้นโดยรัฐบาลเพื่อป้องกันภัยจากสงครามนิวเคลียร์ แต่ฉากหลังที่แท้จริง Vault มีจุดประสงค์หลักเพื่อทำการทดลองมนุษย์ในรูปแบบ Social Experiment ที่แตกต่างออกกันไป
โดยเป้าหมายทดลองของ Vault 11 คือให้ผู้ที่อาศัยใน Vault 11 จะต้องทำการเลือก “บูชายัญ” คนใน Vault หนึ่งคนในทุกปี หากใครฝ่าฝืน, ปฏิเสธ หรือไม่สามารถหาคนที่จะบูชายัญได้ ผู้อาศัยใน Vault 11 ทุกคนจะต้องตาย
ถึงแม้ว่าข้อมูล Vault 11 ภายในเกม Fallout: New Vegas จะเล่าเนื้อเรื่องเฉพาะในช่วงเวลาการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย แต่อ้างอิงจากข้อมูลคอมพิวเตอร์ในเกมกล่าวว่า ก่อนที่ประตู Vault 11 จะปิดลงตลอดกาล มีผู้คุม Overseer เท่านั้นที่กุมความลับเกี่ยวกับกฎการบูชายัญคนใน Vault 11 หนึ่งคนในทุกปี แต่ด้วยวิธีการบางอย่าง ผู้ที่อยู่อาศัย Vault 11 ได้ค้นพบว่ามีกฎการบูชายัญมนุษย์ ทำให้ผู้อาศัย Vault 11 รู้สึกช็อกและโกรธเกรี้ยวต่อ Overseer เป็นอย่างมาก จนทำให้ผู้อาศัย Vault 11 เกือบทุกคนรวมตัวกันบังคับให้ Overseer เป็นเหยื่อรายแรกที่ถูกเลือกบูชายัญให้กับ Vault 11
นับแต่เหตุการณ์นั้นเป็นต้นมา สังคมใน Vault 11 ก็เริ่มสั่นคลอน ในทุกปี ชาว Vault 11 จะมีการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการเพื่อโหวตหาบุคลากรที่เหมาะสมกับตำแหน่ง Overseer แห่ง Vault 11 โดยผู้ใดได้รับเลือกเป็น Overseer คนนั้นจะต้องโดนเลือกบูชายัญแบบไม่สามารถขัดขืนหรือปฏิเสธได้ ซึ่งขัดกับบทบาทหน้าที่ของ Overseer ที่จะต้องเป็นผู้ดูแลควบคุมการทดลองและสมาชิกในบ้าน รวมไปถึงเป็นบุคคลที่มีอำนาจสูงสุดใน Vault ทั้งหมด แต่สำหรับ Vault 11 การที่คุณได้ถูกเลือกเป็น Overseer หมายถึงคุณจะต้องตาย
ดังนั้นลักษณะการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย Vault 11 จะเต็มไปด้วยบรรยากาศเกมการเมือง ความระหวาดระแวง และมีการแบ่งแยกพรรคพวกเกิดขึ้น โดยแบ่งออกเป็นทีม Utilitarian Bloc, Divine Will Bloc, Justice Bloc, United Vault Technicians Bloc, Human Dignity Bloc และ Allied Service Workers Bloc โดยต่างฝ่ายต่างโปรโมทพรรคด้วยวิธีการโปรยโฆษณาชวนเชื่อ การป้ายสี แบล็คเมล์ และชักชวนให้เข้าร่วมแนวทางสนับสนุนพรรคของตนเอง ถ้าหากคุณต้องการอยากให้ใครตายมากที่สุด
จุดเริ่มต้นของจุดจบ
ในช่วงหนึ่งก่อนที่จะถึงเหตุการณ์ Fallout: New Vegas (ไม่ระบุเวลา) Vault 11 จะเริ่มเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย โดย Roy Gottlieb ผู้นำพรรคแห่ง Justice Bloc (ตอนนั้นเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากผลโหวตทั้งหมดในสมาชิก Vault 11 ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะส่งใครก็ได้ให้เป็น Overseer) ได้ประจันหน้ากับ Katherine Stone ภรรยาของ Nathan Stone แล้วบังคับให้เธอรับบทเป็นโสเภณีแก่สมาชิกใน Justice Bloc โดยข่มขู่ว่าหากไม่ทำอย่างนั้น Justice Bloc จะนำเสนอรายชื่อให้ Nathan Stone เป็น Overseer
โดย Katherine กลัวว่าหากสามีของเธอ Nathan รู้เรื่องนี้เข้า ตัวเขาพร้อมจะยอมโดนบูชายัญโดยไม่ลังเลอย่างแน่นอน ทำให้ Katherine สมยอมให้กับพรรค Justice Bloc แต่โดยดี เพื่อไม่ให้สูญเสียสามีของเธอไป แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ทีม Justice Bloc ยังคงนำเสนอชื่อให้ Nathan Stone เป็นตำแหน่ง Overseer และพยายามใช้พลังอำนาจทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้สมาชิกใน Vault 11 ทั้งหมดหันมาโหวตคะแนนให้แก่ทีม Justice Bloc
ด้วยความกลัวว่าจะสูญเสียสามีของเธอไป Katherine จึงตัดสินใจขั้นเด็ดขาดด้วยการลงมือแอบฆาตกรรมสมาชิกของ Justice Bloc เป็นรายบุคคลทีละนิด ๆ จนกระทั่งเธอถูกจับกุมในเวลาต่อมาไม่นาน โดยเธอยอมรับทุกข้อกล่าวหา พร้อมทั้งให้สาเหตุว่าเธอลงมือก่อดคีฆาตกรรมล้วนเป็นเหตุผลส่วนตัวทั้งสิ้น ในฐานะที่ Katherine ถูกตีหน้าเป็นฆาตกรเลือดเย็น ทำให้เธอได้รับผลโหวตสูงสุดให้รับตำแหน่งเป็น Overseer เข้ามาแทนที่จะเป็นสามีของเธอ
รัฐประหาร
แต่สมาชิก Vault 11 ได้ลืมกฎพื้นฐานสำคัญไปข้อหนึ่ง ถึงแม้ว่า Overseer จะเป็นตัวแทนบูชายัญประจำปี แต่อำนาจสูงสุดของ Vault 11 ยังคงตกเป็น Overseer อยู่ดี
Katerine Stone ในฐานะเป็น Overseer ก่อนที่เธอจะขึ้นแท่นบูชายัญ เธอได้เปลี่ยนนโยบายการคัดเลือกผู้บูชายัญประจำปีตัวแบบใหม่ ด้วยการประกาศคำสั่ง “Overseer Order 745” โดยยกเลิกการเลือกตั้งและเปลี่ยนหันมาใช้การสุ่มตัวเลขด้วยคอมพิวเตอร์กลายเป็นระบบลอตเตอรี่แทน
การเปลี่ยนนโยบายดังกล่าว สร้างความไม่พอใจแก่กลุ่ม Justice Bloc เป็นอย่างมาก เพราะนโยบายใหม่ทำให้พรรคสูญเสียพลังอำนาจใน Vault 11 ทั้งหมด, มีโอกาสตัดสินใจส่งตัวบูชายัญแบบไม่บริสุทธิ์ และที่สำคัญสุด นโยบายของ Katerine อาจสร้างความเสียหายให้แก่โครงสร้างสังคมอย่างรุนแรงจนพรรคต่าง ๆ ค่อย ๆ ล่มสลายหายไปตามกาลเวลา
ทีม Justice Bloc จึงทำการปลูกระดมติดอาวุธก่อการรัฐประหาร เพื่อต่อต้าน Overseer Order 745 จนกลายเป็นสงครามกลางเมืองที่ทุกคนต้องจับอาวุธต่อสู้ด้วยกันเอง ซึ่งผลลัพธ์ออกมาทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยใน Vault 11 เกือบทั้งหมดเสียชีวิตจากสงคราม โดยมีเพียงผู้รอดชีวิตเพียง 5 คน เท่านั้น
ความจริงปรากฎ
ถึงแม้ว่าสงครามกลางเมือง Vault 11 จะจบลง แต่การบูชายัญประจำปียังดำเนินต่อไป แต่ผู้รอดชีวิตทั้ง 5 คนให้ความเห็นตรงกันว่าไม่อยากจะส่งใครไปตายอีกแล้ว พวกเขาทั้งหมดจึงตัดสินใจเดินตรงไปที่ห้องเชือดที่ทำการบูชายัญ เพื่อปฏิเสธว่าจะไม่มีการส่งตัวแทนในการบูชายัญอีกต่อไป ในขณะที่พวกเขาต่างเตรียมใจแล้วว่าจะต้องจบชีวิตแต่เพียงเท่านี้ แต่ผลลัพธ์ที่ตอบกลับมาได้สร้างความช็อกเกี่ยวกับความจริงของ Vault 11 ทั้งหมด เทปเสียงได้กล่าวว่า
ขอแสดงความยินดีกับประชากร Vault 11 ทุกคน! คุณได้ตัดสินใจว่าจะไม่ส่งตัวแทนบูชายัญโดยใช้คนของคุณเอง! จากนี้คุณสามารถจะเดินก้าวต่อไปด้วยความภาคภูมิใจจากการเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่เหล่ามนุษยชาติและพวกเราทุกคน เพื่อเป็นรางวัลให้น่าชื่นชมยิ่งขึ้น ฉันมีข่าวที่น่าตื่นเต้นมาบอก! เนื่องจากคุณเชื่อในสิ่งที่คุณทำ ประชากรทั้งหมดใน Vault 11 จะไม่ถูกกำจัดทิ้งจากการขัดขืนคำสั่ง แต่ตรงกันข้าม ประตูหลักของ Vault 11 จะถูกปลดล็อค ซึ่งคุณสามารถจะเดินจากไปหรือกลับมาก็ได้แล้วแต่ตามสะดวก
หลังจากผู้รอดชีวิตทั้งหมดรู้จุดประสงค์ที่แท้จริงของการทดลองของ Vault 11 พวกเขาตัดสินใจว่าจะลงมือฆ่าตัวตายเพื่อลงโทษตัวเองที่ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น และป้องกันไม่ให้โลกภายนอกได้เรียนรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมที่น่าอับอายของพวกเขา
แต่มีคนหนึ่งพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้มีชีวิตรอดทั้งหมดให้ดำเนินใช้ชีวิตต่อไป แล้วเดินทางออกจาก Vault เพื่อประกาศให้โลกรับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นใน Vault 11 แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ ผู้รอดชีวิตทั้ง 4 คนตัดสินใจได้ทำการยิงตัวตาย ในขณะที่ผู้ชีวิตรอดคนสุดท้ายยังอยู่รอดต่อไปแล้วคุกเข่าในสภาพสิ้นหวัง แล้วชะตากรรมของผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายใน Vault 11 เป็นอย่างไรก็ยังคงเป็นปริศนาที่เราไม่มีทางรู้
(จบเรื่องราวของ Vault 11 เพียงเท่านี้)