รู้ไว้ก่อน จะได้ไม่ต้องให้คนอื่นแบก
หลายคนชอบแซวกันยับ ว่านี่คือ ‘Battlefield 1.5’ ด้วยความที่ภาพรวมดูไม่ได้ห่างไกลกับภาคก่อนหน้า ที่พึ่งจะวางขายไปเมื่อปี 2016 แต่ Battlefield 5 มีอะไรหลายอย่างที่ผู้เล่นหน้าเก่าต้องปรับตัว หากใครที่เคยอ่านบทความ “12สิ่งที่เปลี่ยนไป ใน Battlefield 5” ในบทความนั้น นั่นคือเกมเวอร์ชั่น Closed-Alpha แต่มาในวันนี้ นี่คือข้อมูลจากเวอร์ชั่น Open Beta ที่จะเปิดให้ทุกคนได้เล่นกันในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า และในวันนี้ ทางเราได้ใช้สิทธ์ Early Accesss เพื่อถลุงกับตัวเกมไป 24 ชั่วโมงเพียว ๆ เพื่อนำข้อมูลที่ควรรู้มาให้ท่านผู้อ่านได้รับชมกัน
สำหรับความต้องการระบบของ Battlefield 5 เอาง่าย ๆ เลย ถ้าเครื่องคอมของคุณ เคยเล่น Battlefield 1 ได้แบบปรับสุดทุกอย่าง คุณก็สามารถปรับสุดทุกอย่างได้ใน Battlefield 5 สำหรับเครื่องที่ผมใช้ คือ i7-6700K การ์ดจอ GTX 980ti และแรม 16 GB DDR 4 2400 โดยเฟรมเรตเฉลี่ย จะอยู่ที่ 70 กว่า ๆ ซึ่งแน่นอนว่าน้อยกว่า BF1 ที่อยู่เกิน 80+ แทบจะตลอดเวลา แต่ด้วยคุณภาพกราฟฟิกระดับนี้ รวมถึงเอฟเฟคใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาเต็มกระบุง เล่นด้วยเครื่องเดิมแต่ได้เฟรมเรตไม่ห่างไกล ต้องถือว่าน่าประทับใจมาก ระดับการ Optimize ในตอนนี้ แทบจะวางขายได้เลย แต่สำหรับเรื่องอื่น ๆ อย่างบาลานซ์กับดีไซน์น่าจะยังต้องปรับกันอีกเยอะ
มาเริ่มกันที่เบสิคเกมกันก่อน นั่นคือคลาสทหาร ทั้ง 4 แบบ แต่ละคลาสจะมี Trait หรือความสามารถติดตัวที่แตกต่างกันไป นั่นคือภาคนี้จะไม่มีระบบ Perk อีกแล้ว
Assault
ในเวอร์ชั่น Closed-Alpha ทหารคลาสนี้จะใช้อาวุธเป็น ไรเฟิลจู่โจม กับปืนกลเล็ก หรือ SMG แต่มาในวันนี้ เขาไม่มีปืนกลเล็กอีกแล้ว แต่เปลี่ยนมาเป็น Self-Loading Rifle ที่เคยเป็นของ Medic อย่างเช่น Gewehr 43, M1A1 Carbine (ปืนที่ รด. เด็กไทยหัวเกรียน คุ้นเคยกันดี) ที่เป็นปืนยิงทีละนัด เน้นความแม่นยำในระยะกลาง-ไกล ส่วนอุปกรณ์ต่อต้านรถถังจะพกได้แค่ชิ้นเดียว ต่างจากภาคอื่น ๆ ที่เราพกได้ 2 อย่าง โดยมี Sticky Bomb, Panzerfaust (จรวดต่อต้านรถถัง) และ AT Mine
ความสามารถติดตัว: Assault สามารถฟื้นพลังชีวิตด้วยตัวเองได้มากกว่าคลาสอื่น ในขณะที่คลาสอื่น ๆ จะฟื้นเองได้ที่ 30HP แต่ Assault จะฟื้นได้ถึง 40HP
Medic
หากใครที่เคยบ่นว่า Medic ใน Battlefield 1 ใช้ยาก เล่นลำบาก สู้ระยะใกล้ไม่ได้เลย ใน Battlefield 5 คุณบ่นอย่างนั้นไม่ได้อีกแล้ว เพราะปืนกลเล็ก หรือ SMG จะมากองให้คุณอยู่ในคลาสนี้เพียงคลาสเดียว ทำให้ Medic กลายเป็นนักสู้ระยะประชิด และในเมื่อภาคนี้เราไม่สามารถนอนแอบรอจนพลังชีวิตฟื้นเองจนเต็ม Medic จึงต้องช่วยให้เพื่อนทหารสามารถบุกทะลวงขึ้นหน้าได้เรื่อย ๆ ด้วยพลังชีวิตเต็มเปี่ยม ยิ่งบวกกับอาวุธ SMG ประจำคลาส ทำให้ Medic เป็นตัวทะลวงฟันอย่างแท้จริง แต่มันก็แลกมาด้วยการที่เราสู้ระยะไกลลำบากมาก ๆ ต้องอาศัยคลาสอื่นช่วยยิงให้แทน
ความสามารถติดตัว: เข็มฉีดยาชุบชีวิต จะไม่ได้เป็น ’อุปกรณ์’ อีกต่อไป แต่มันจะเป็นความสามารถติดตัวไปเลย แค่วิ่งไปกดปุ่ม E (หรือปุ่ม Interactive หากเล่นบนคอนโซล) คุณก็จะทำการชุบชีวิตเพื่อนของเราทันที นั่นคือเราไม่ต้องมาห่วงว่าต้องพกไอเทมชุบชีวิตมาด้วย เลือกของอย่างอื่นมาได้เลยเพราะยังไงเราก็ชุบเพื่อนได้อยู่แล้ว
Support
ยังคงถือปืนกลหนัก LMG กับแบกกล่องกระสุนให้เพื่อน ๆ เช่นเดิม แต่คราวนี้ ปืนลูกซองที่เคยเป็นของ Assault ใน Battlefield 1 ได้กลายมาเป็นอาวุธที่ 2 ให้กับ Support ทำให้คุณสามารถเปลี่ยนมาบู๊ระยะใกล้ แต่การยิงกดดันของ Support ยังไงก็คือไม้ตายหลัก และในเมื่อภาคนี้ทุกคนจะมีกระสุนน้อยกว่าเดิมมาก เกิดออกมาก็มีติดตัวแค่ 2 หรือ 3 แม็กกาซีน ทำให้ Support ต้องคอยเติมกระสุนให้เพื่อน ๆ อยู่เสมอ
ความสามารถติดตัว: การสร้างฐานหรือ Fortification ที่คลาสอื่น ๆ ทำได้ แต่ Support จะทำได้มากกว่านั้น อย่างเช่นคลาสอื่นทำได้แค่สร้างกำบัง แต่ Support สามารถสร้างสิ่งที่เป็นอาวุธ อย่างเช่น วางลวดหนาม, สร้างป้อมปืนกล หรือปืนต่อต้านอากาศยาน
Recon
สไนเปอร์สอยหัวที่ยังคงมีอยู่ทุกภาค แต่ขอให้ลืมความง่ายที่เคยเล่นใน Battlefield 1 เพราะมันกลับมาใช้ระบบดั้งเดิมของ Battlefield นั่นคือเข้าหัวเท่านั้นถึงจะตาย ไม่มีระบบ Sweet Spot ที่เราจะยิงแรงขึ้นในระยะนึง แต่สิ่งที่ทำให้ Recon สำคัญเอามาก ๆ นั่นเพราะว่า Battlefield 5 ได้ตัดระบบ 3D Spot ออกไป ที่ว่ารัวปุ่ม Q แล้วเห็นจุดแดงเหนือหัวศัตรู คุณทำไม่ได้อีกแล้ว (การกด Q เปลี่ยนมาเป็นการวางสัญลักษณ์ใบ้ว่า มีอะไรบางอย่างตรงจุดนั้น) แต่ Recon สามารถทำได้ โดยการใช้กล้องสอดแนมส่องไปที่ตัวศัตรูก็จะมีจุดแดงขึ้นเหนือหัวทันทีโดยไม่ต้องกดอะไร และเพื่อนร่วมทีมของเราก็จะเห็นจุดแดงนั้นเช่นกัน เพราะงั้นถึงแม้ว่าคุณจะนอนแคมป์อยู่ห่าง ๆ คุณก็ไม่ได้เป็นตัวถ่วงทีมเหมือนแต่ก่อน(ซักเท่าไหร่) เพราะคุณสามารถช่วยให้เพื่อน ๆ เห็นศัตรูได้อย่างชัดเจน และคอยยิงไล่ให้ฝั่งตรงข้ามต้องระส่ำระส่าย
ความสามารถติดตัว: ในเวลาที่คุณบาดเจ็บหนักคุณจะวิ่งได้เร็วกว่าปกติ เพื่อใช้ในการวิ่งหาที่ปลอดภัย (ซึ่งจากความเห็นของผู้เขียน ผมรู้สึกมันไม่มีประโยชน์เท่าไหร่ น่าจะทำให้ Recon สามารถกด Q เพื่อ 3D Spot ได้อยู่คลาสเดียวจะเหมาะกว่า)
ระบบของยานพาหนะและอากาศยาน
ถ้าหากว่าคุณเคยเล่น Battlefield 1 ในภาคนี้ก็ยังใช้ระบบคล้ายกัน แต่สิ่งที่ต่างออกไป นั่นคือกระสุนของยานพาหนะจะไม่สามารถเติมขึ้นมาด้วยตัวเอง คุณต้องมองหาไอคอนกล่องกระสุนตามแผนที่ และเข้าไปกด X ค้าง เพื่อเติมกระสุน และถ้าหากว่ารถถังของคุณได้รับความเสียหายขนาดหนัก คุณก็ยังสามารถกด X ค้าง เพื่อซ่อมได้ แต่คุณจะซ่อมได้แค่ระดับนึง ไม่สามารถซ่อมได้จนเต็มหลอด ถ้าจะให้เต็มคุณก็ต้องกลับมาที่กล่องกระสุนเช่นกัน และระบบนี้ก็ยังใช้กับอากาศยาน ซึ่งในเวอร์ชั่น Closed-Alpha สัญลักษณ์นี้จะลอยอยู่บนอากาศเหนือฐานหลักของเรา แต่ในเวอร์ชั่น Open Beta มันจะเป็นไอคอนเลียด ๆ อยู่ที่พื้น เมื่อคุณบินเข้าไปใกล้ระยะของไอคอน คุณจะสามารถกด X ค้าง เพื่อเติมกระสุนและซ่อมแซมความเสียหายหนัก
หมายเหตุ: รถถังไม่สามารถใช้กล่องกระสุนของทหารราบที่ตั้งอยู่ตามธง กล่องของรถถังจะเป็นแบบพิเศษของมันเอง และในทางกลับกัน ทหารราบก็ใช้ของรถถังไม่ได้เช่นกัน
Tips ต่าง ๆ ที่ควรรู้
- ระบบปืนในภาคนี้ จะต่างออกไปจาก Battlefield ทุก ๆ ภาค มันไม่เหมือนเมื่อก่อนที่เรายิงเป้านิ่ง ๆ แต่กระสุนกระจายตัวออก ไม่มีอย่างนั้นอีกแล้ว คราวนี้ถ้าปืนเราสะบัดไปทางไหน กระสุนก็จะตกตามเป้าจริง ๆ ทำให้คุณเข้าใจเอกลักษณ์ของปืนแต่ละกระบอกได้ง่ายขึ้น แต่มันก็ยากขึ้นที่จะฝึกให้ชำนาญ เพราะคุณต้องเรียนรู้ทางสะบัดของแรงถีบ ต้องดูว่าปืนนี้ควรจะยิงเป็นชุด, ยิงแตะ ๆ หรือกดข้างไปเลยแล้วลากเมาส์ฝืนแรงไปทางไหน เรียกได้ว่าเป็นระบบลูกผสมระหว่าง Call of Duty กับ Counter-Strike
- ระบบยิงกดดัน หรือ Suppresion จะมีไม่มีผลกับความแม่นยำของปืน แม้คุณจะถูกยิงกด คุณก็สามารถยิงสวนกลับไปได้เหมือนปกติ แต่ระบบ Suppresion จะมีผลลัพธ์อยู่ 2 ระดับ นั่นคือระดับแรก คนที่ถูกยิงกดจะปรากฏเป็นจุดแดงใน Mini-map แต่ถ้าหากคุณยิงจนมันขึ้นว่า ‘Enemy Suppressed’ พร้อมกับแต้ม 50 นั่นแปลว่า ศัตรูตัวนั้นถูกยิงกดดันอย่างสมบูรณ์ หรือ Fully Suppressed ซึ่งจะทำให้มีจุดสี่เหลี่ยมสีแดงกระพริบขึ้นให้เห็นเหนือหัวศัตรู และเพื่อนร่วมทีมของเราก็สามารถมองเห็นศัตรูตัวนั้นได้เช่นกัน และในทางกลับกัน ถ้าคุณโดนยิงกดดันจนสมบูรณ์ คุณก็จะรู้ตัวได้ด้วยการที่หน้าจอของคุณเริ่มเบลอ ซึ่งต้องระวังให้ดี เพราะนั่นแปลว่าฝั่งตรงข้ามสามารถมองเห็นคุณได้อย่างชัดเจน
- การอัพเกรดอาวุธกับยานพาหนะ จะต้องใช้แต้มเงินที่ได้มาจากการอัพเลเวลตัวละคร, เลเวลปืน หรือทำ Challegne พิเศษที่มีให้เราเลือก (อยู่ในหน้า assignment) โดยมันจะเป็นระบบแผนผังรากไม้ ซึ่งจะแตกแขนงแยกออกเป็นสาย อย่างเช่นสายนึงอาจจะเน้นการยิงแบบ Hip-Fire (ยิงโดยไม่ต้องกดเล็ง) ส่วนอีกสายจะเน้นการยิงแบบเล็งประณีต ข่าวร้ายคือคุณต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง หากคุณเลือกสายนึงไปแล้วคุณก็จะอัพเกรดต่อได้แค่สายที่คุณเลือก และปืนกระบอกนั้นก็จะมีอัพเกรดที่คุณเลือกติดไว้อย่างถาวร เพราะงั้นเลือกสายไหนก็คิดให้ดี ๆ ว่ามันเหมาะกับสไตล์การเล่นของเรารึเปล่า ถ้าเลือกผิดซวยแน่นอนเพราะมันไม่สามารถ Roll Back กลับได้ (จากข้อมูลที่ฟังมาเห็นว่าในเกมเต็มเราสามารถซื้อปืนเดิมซ้ำอีกกระบอก เพื่อลองสายอัพเกรดอีกทาง)
- ลืมการกดตัว T เพื่อใส่หน้ากากกันแก๊สพิษไปเลย มันไม่มีอีกแล้วรวมทั้งระเบิดแก๊สพิษ แต่การกดตัว T จะเป็นการเปิดโหมดสร้าง หรือ Fortification พอคุณกดตัว T เราจะหยิบค้อนขึ้นมา พร้อมกับเห็นไอคอนลาง ๆ ที่เป็นการไกด์ว่า คุณสามารถสร้างอะไรได้บ้าง ณ จุดนั้น อย่างเช่นวางกระสอบทราย สร้างกำบัง สร้างบังเกอร์ ซึ่งถ้าคุณใช้มันอย่างมีแทคติคมันจะเป็นประโยชน์อย่างมาก อย่างเช่น คุณต้องการจะป้องกันธงนี้ แต่ทางเข้าออกมีหลายทางมาก คุณก็สามารถวางกระสอบทรายปิดทางอื่น เหลือทางเข้าออกทางเดียวที่เราคุ้มกันได้ง่ายขึ้น หรือบางธงมีจุดกำบังน้อยมาก เป็นที่โล่ง ๆ ไปหมด แต่พอเข้าโหมด Fortification คุณก็จะเห็นว่าเราสามารถสร้างที่กำบังได้ด้วยตัวเอง
- การฟื้นพลังชีวิตด้วยตัวเองจะมีตัวเลขที่ชัดเจน นั่นคือ 30HP มีแต่คลาส Assault ที่ฟื้นได้ 40 HP อย่างถ้าคุณโดนยิงจนเหลือ 15 HP คุณก็จะฟื้นพลังได้ถึง 45 HP เท่านั้น ถ้าอยากให้เต็มก็ต้องใช้กล่องพยาบาล นี่คือความสำคัญของ Medic วิ่งไปไหนก็โยนกล่องพยาบาลให้เพื่อนไปเรื่อย ถึงไม่เจ็บก็โยนให้ได้ เพื่อนเราจะได้มีพกติดตัวไว้ฟื้นพลังเอง
- ทุกครั้งที่คุณเกิดออกมา คุณจะมีกระสุนน้อยกว่าที่คุณจะพกได้ 1 แม็ก อย่างคลาส Assault คุณจะมีกระสุนในปืนหลัก 1 แม็ก และพกสำรอง 1 แม็ก ซึ่งจริง ๆ คุณต้องพกสำรองได้ 2 แม็ก รวมทั้ง Sticky Bomb กับ จรวดต่อต้านรถถัง คุณก็จะมีแค่ 2 ลูก จากที่ควรพกได้ 3 ลูก นั่นคือ คุณต้องวิ่งไปหากล่องกระสุนทุกครั้งที่เกิดออกมา แต่จะดีที่สุดหากเรามีเพื่อนเป็น Support คอยเติมกระสุนให้
- การใช้งานกล่องกระสุนกับกล่องพยาบาลที่อยู่ในธงหรือตั้งอยู่ตามฉาก คุณไม่สามารถหยิบใช้งานมันได้เรื่อย ๆ หลังจากที่คุณหยิบใช้ 1 ครั้ง มันจะมีเวลาในการ Cooldown ประมาณ 30 วินาที จึงจะหยิบได้อีก และกล่องของพวกนี้สามารถถูกทำลายได้ แต่ก็สามารถซ่อมมันขึ้นมาใช้งานใหม่ได้เช่นกัน ด้วยระบบ Fortification
- ใน Open Beta มีระบบใหม่ที่เวอร์ชั่น Alpha ไม่มี นั่นคือการพกกล่องพยาบาลติดตัว ทุกคลาสสามารถพกกล่องพยาบาลเล็กติดตัวได้ 1 กล่อง และกดเลข 5 เพื่อใช้มันในการรักษาตัวเรา และถ้าอยากจะใช้ได้อีก Medic ก็ต้องโยนให้ หรือวิ่งไปหยิบที่กล่องพยาบาลในธง ซึ่งนี่เป็นระบบที่เวิร์คมาก ๆ ด้วยความที่ภาคนี้เราไม่สามารถ Regenerate Health เองได้จนเต็ม 100 แต่เราสามารถพกกล่องพยาบาลมาฟื้นพลังเองจนเต็มได้ 1 ครั้ง เพราะงั้นอย่าลืมหากล่องพยาบาลติดตัวเอาไว้ (ไอคอนกล่องพยาบาลจะอยู่ข้างพลังชีวิตที่ด้านล่างจอ)
- คลาส Medic กับ Support สามารถเติมพลัง กับ กระสุนให้ตัวเองได้เรื่อย ๆ ด้วยการกดเลข 3 หรือ เลข 5 ค้างเอาไว้ ถ้ากดเฉย ๆ ไม่ค้าง จะเป็นการโยนกล่องให้เพื่อนที่อยู่ในระยะ ซึ่งตรงจุดนี้ ผู้เขียนรู้สึกว่ามันออกจะดู Overpower ไปซักนิด เพราะ Medic สามารถกดฟื้นพลังได้ตลอดเวลา แทบจะไม่มีการ Cooldown แต่อย่างว่า นี่คือ Beta ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่ต้องปรับแต่งกันอีกเยอะ
- และในภาคนี้ เราไม่สามารถโยนกล่องพยาบาลกับกล่องกระสุนเล็กไว้ตามพื้นได้อีกแล้ว การโยนกล่องเล็กจะทำได้แค่โยนส่งให้เพื่อนตัวต่อตัว โยนทิ้งไว้บนพื้นรอให้คนอื่นมาเก็บแบบภาคก่อนไม่ได้ ส่วนกล่องพยาบาลกับกล่องกระสุนแบบใหญ่ จะยังใช้ในการโยนลงพื้นเหมือนเดิม แต่มันจะไม่ฟื้นพลังกับเติมกระสุนคนรอบ ๆ แบบ อัตโนมัติ คุณต้องเดินไปหา ก้มลงไปมอง แล้วกดปุ่ม E หยิบมันขึ้นมาเอง และมันจะมีระยะเวลา Cooldown เหมือนกับกล่องในธง
- หากเพื่อนในหมู่รบของเราตาย แม้ว่าเราจะไม่ได้เป็น Medic แต่เราก็สามารถชุบชีวิตเขาขึ้นมาได้ แต่มันจะใช้เวลานานกว่า 2 เท่า แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้เพื่อนนอนตายโดยทำอะไรไม่ได้เลย
- และถ้าหากว่าเราตายยกหมู่รบ จะเป็นการส่งทุกคนกลับเข้าหน้าจอเกิดทันที ไม่มีใครถูกชุบได้อีก
- การตายอย่างรุนแรง อย่างเช่น ระเบิด, ปืนรถถัง, ตกจากที่สูง มันจะนับว่าเป็น Critical Death ที่คุณไม่สามารถถูกชุบชีวิตได้ และจะถูกส่งกลับหน้าจอเกิดเช่นกัน ซึ่งใน Beta นี้ มี Bug อย่างนึง ที่ถ้าหากว่าคุณโดน Critical Death แต่เพื่อนคุณมือไวไปหน่อย กดชุบทันที คุณจะติดแหง็กอยู่ในหน้าจอเกิด ทั้งที่ร่างของคุณยังนอนหมอบและมีชีวิตอยู่ในเกม คุณเลยกดเกิดไม่ได้เพราะตัวคุณยังมีชีวิต แต่ก็เล่นต่อไม่ได้เพราะเกมนับว่าคุณโดน Critical Death จนกว่าจะมีศัตรูมาเจอร่างไร้สมองของคุณแล้วยิงคุณทิ้ง คุณถึงจะเกิดใหม่ได้ (กลับตัวก็ไม่ด้ายยย… ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึงงงงง)
- และทั้งหมด ทั้งมวล ‘Teamwork’ สำคัญที่สุด ฟังผมเล่ามาขนาดนี้ ก็น่าจะเข้าใจแล้วว่าเราไม่สามารถทำอะไรคนเดียวได้เลยจริง ๆ เพราะฉะนั้นสามัคคีคือพลัง วิ่งด้วยกันไปด้วยกัน รวมตัวเป็นหมู่รบคอยสนับสนุนกัน ยิ่งถ้าคุณทำแต้มร่วมกันเยอะ ๆ หัวหน้าหมู่ของเราจะสามารถเรียกการสนับสนุนพิเศษ อย่าง Supply Drop กล่องกระสุนพิเศษเรียกมาจากฟ้า เติมได้ทุกอย่างทั้งกระสุนละพลังชีวิต, รถถังปืนไฟ Churchill Crocodile และ จรวด JB-2 สุดอลังการ ลงตูมเดียวตายยกธงแม้แต่รถถังยังกระจุย แต่เราจะได้มาก็ต่อเมื่อเราเล่นเป็นทีม จำไว้ครับสามัคคีคือพลัง
ณ เวลานี้ Battlefield 5 Open Beta ก็น่าจะเปิดให้เล่นกันเป็นที่เรียบร้อย ยังไงก็ขอให้สนุกกับ Battlefield ภาคนี้แล้วกันนะครับ