หากพูดถึงหนึ่งในตัวละคร 5 ดาวในเกม Genshin Impact ที่ได้รับความนิยมมากสุด อย่างไรก็ไม่มีทางหนีพ้น Raiden Shogun เทพเจ้าแห่งสายฟ้า ที่มาพร้อมกับท่า Burst สุดโด่งดัง และความน่าเกรงขามตั้งแต่พบครั้งแรก
บทความนี้จะเป็นการเผยประวัติเบื้องต้นของ Raiden Shogun เทพเจ้าแห่งสายฟ้า ผู้แสวงหาความเป็นนิรันดร์ที่แท้จริง
เทพเจ้าแห่งสายฟ้า ผู้แสวงหาความเป็นนิรันดร์
Raiden Shogun เป็นตัวละคร 5 ดาว ธาตุสายฟ้า (Electro) ใช้อาวุธหอก ซึ่งเธอมีคุณสมบัติเด็ด ช่วยฟื้นฟูพลังงานให้เพื่อนร่วมทีมและตัวเอง รวมถึงสกิล Burst มีความรุนแรงค่อนข้างสูง (และเป็นท่า Burst เท่ที่สุดในเกมจากความคิดเห็นส่วนตัว) ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้ Raiden Shogun เป็นคาแรคเตอร์ 5 ดาวที่มีเกมเพลย์สนุกสนาน Fast-Paced และเหมาะสำหรับการตะลุย Spiral Abyss
อย่างที่แฟน ๆ Genshin หลายคนทราบกันดี Raiden Shogun คือเทพเจ้าแห่งสายฟ้า เป็นผู้ยิ่งใหญ่และผู้ดูแลปกครองประเทศ Inazuma มานานหลายร้อยปี จากการเปิดตัวครั้งแรก Raiden มีบุคลิกเยือกเย็น ไร้ความรู้สึก กับเป็นผู้ออกคำสั่งล่าวีชันของชาวเมือง ส่งผลลัพธ์ทำให้ Inazuma เกิดสงครามกลางเมืองและความวุ่นวายไปทั่วประเทศ แต่แน่นอน สิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นเพียงแค่ “เบื้องหน้า” ของเธอเท่านั้น ยังมีเรื่องราว “เบื้องหลัง” ที่คาดว่าชาว Inazuma ทุกคนไม่มีทางรู้มาก่อน
ตัวตนที่แท้จริงของ Raiden
ก่อนที่เริ่มเรื่องราวของ Raiden Shogun เราต้องเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของเธอซะก่อน
Raiden ไม่ได้มีตัวตนเพียงคนเดียว แต่ความจริงแล้ว Raiden เป็นพี่น้องฝาแฝด 2 คน โดยมี Raiden Makoto (Baal) และ Raiden Ei (Beelzebul) ตอนแรก Raiden Makoto เป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าคนดั้งเดิม โดย Ei เป็นซามูไรมือขวาคอยรับใช้ Makoto แต่หลังจากเธอตายในเหตุการณ์ภัยวิบัติใน Teyvat เมื่อช่วง 500 ปีก่อน Ei จึงเข้ามาสวมบทบาทเป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าแทนที่ Makoto
Raiden Makoto (Baal)
ระหว่าง Ei รับบทเป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้าภายใต้ชื่อ Baal และเป็นผู้ปกครองเมือง Inazuma กับกองทัพ Shogunate เธอได้สร้าง “ดินแดนแห่งใจบริสุทธิ์” (Plane of Euthymia) ด้วยจิตสำนึก เพื่อใช้เป็นสถานที่กักขังอายุขัยของตัวเองให้เป็นนิรันดร์ และสร้างหุ่นเชิดสุดซับซ้อนจำนวนนับไม่ถ้วน เพื่อใช้เป็นตัวแสดงแทนในโลกความเป็นจริง จนสุดท้ายได้ถือกำเนิด The Raiden หุ่นเชิดของ Ei และ Scaramouche หุ่นเชิดรุ่น Prototype ที่ถูกทอดทิ้ง ซึ่งภายหลังกลายเป็นหนึ่งในผู้บริหารสูงสุด 11 คนของ Fatui
หากสรุปอย่างง่ายดายที่สุด ครอบครัว Raiden มีอยู่ 4 คนด้วยกัน
- Raiden Makoto (Baal) เทพเจ้าแห่งสายฟ้าคนดั้งเดิมที่ตายไปแล้ว
- Raiden Ei (Beelzebul) เทพเจ้าแห่งสายฟ้าคนปัจจุบัน เข้ามาแทนที่ Makoto
- The Shogun (หรือ Raiden Shogun) ตัวแทนหุ่นเชิดของ Ei ที่มีจิตใต้สำนึกของตัวเอง
Scaramouche
และสุดท้าย Scaramouche หุ่นเชิดรุ่น Prototype ที่อยู่ฝั่ง Fatui ด้วยสาเหตุบางอย่าง แต่บทความนี้เราจะพูดถึงเนื้อหาของ Ei เท่านั้น
ในมุมมองของ Ei นิรันดร์เท่านั้นที่ทำให้ Inazuma เป็นอมตะ
ย้อนกลับไปช่วง 500 ปีก่อนไทม์ไลน์ปัจจุบัน Makoto คือเทพเจ้าแห่งสายฟ้าคนดั้งเดิม คอยปกป้องประเทศและชาวเมือง Inazuma โดย Ei เป็นซามูไรมือขวาที่ต้องคอยรับใช้ ทำสงคราม กับปกป้อง Makoto ให้พ้นจากอันตราย
แม้เป็นพี่น้องฝาแฝด แต่ทั้งสองคนกลับมีนิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหว โดย Makoto เป็นคนอ่อนโยน สนใจในเรื่องราวของผู้คน แต่ร่างกายอ่อนแอ ขณะที่ Ei เป็นคนดื้อรั้น ชื่นชอบการเอาชนะตามจิตวิญญาณของซามูไร มีความหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่ Ei จะเหมาะเป็นนักรบแนวหน้า รวมถึงได้เป็นสมุนมือขวาใกล้ชิดกับ Makoto มากที่สุด
จนกระทั่ง Makoto ได้จบชีวิตลง รวมถึง “กาลเวลา” ทำให้เพื่อนสนิทที่อยู่เคียงข้าง Ei ต้องตายไปทีละคน หรือไม่ก็กลายเป็นศัตรูอาฆาต, ได้เห็น Khaenri’ah ดินแดนที่ไร้เทพ ต้องล่มสลายอย่างรวดเร็ว, ได้เห็นเทพแห่งหิน Morax ในประเทศ Liyue โดนฆาตกรรมอย่างปริศนา จากการเห็นความสูญเสียมานานหลายปี ทำให้ Ei ฉุกคิดได้ว่ามีแต่ “ความเป็นนิรันดร์” เท่านั้น ที่จะทำให้ประเทศและชาวเมือง Inazuma มีความสุข เป็นอมตะ และไม่เกิดความสูญเสียอีกต่อไป
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เธอจึงได้สร้าง “ดินแดนแห่งใจบริสุทธิ์” เพื่อรักษาตัวเองไม่ให้เกิดการ “สึกหรอ” และมีการอนุมัติคำสั่งล่าวีชัน โดยมีจุดประสงค์เพื่อไล่ตามหา “ความเป็นนิรันดร์” อย่างแท้จริง
คำสั่งล่าวีชันเดิมทีไม่ใช่ความคิดของ Ei แต่เป็นไอเดียมาจากเจ้าสำนัก Tenryou กับ Kanjou ที่ได้สมคบร่วมคิดกันกับเหล่า Fatui อย่างลับ ๆ เพื่อทั้งสองสำนักได้รับการสนับสนุนจาก Fatui อย่างเต็มกำลัง แล้วฟื้นฟูชื่อเสียงสำนักให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ทั้งที่ไม่รู้ความจริงหรือตามืดตามัวว่ามันเป็นแผนการปั่นของ Fatui ที่หวังทำให้ Inazuma เกิดความวุ่นวาย และเปิดช่องทางการวางจำหน่าย “วีชันปลอม” ทั่วประเทศ เนื่องจากทหารทั้ง 2 ฝั่ง (ฝ่ายโชกุน และฝ่ายต่อต้าน) มีความต้องการใช้ในการทำสงครามกลางเมือง
แม้ Ei รับรู้แผนการที่แท้จริงของ Fatui แต่เธอก็ยังยอมอนุมัติให้ใช้คำสั่งล่าวีชันต่อไป เพราะการมีวีชัน ทำให้ผู้คนเกิดความทะเยอทะยาน ซึ่งนำไปสู่ความสูญเสียกับความทุกข์ทรมาน หรือหมายความว่าสำหรับมุมมองของ Ei แล้ว วีชันคือสิ่งที่ขัดต่ออุดมการณ์ “ความเป็นนิรันดร์” อย่างแท้จริงนั่นเอง
หากอ้างอิงจากคำพูดของ Yae Miko เพื่อนสนิทของ Ei แม้เธอรู้สึกทรมานจากการกักขังตัวเองในดินแดนแห่งใจบริสุทธิ์เป็นเวลาหลายร้อยปี แต่เพื่อเป็นการแสวงหา “ความเป็นนิรันดร์” อย่างแท้จริง รวมถึงเป็นธรรมชาติของเธอที่มีนิสัยดื้อรั้นอยู่แล้ว จึงไม่แปลกใจเท่าไหร่ที่เธอจะเลือกขังตัวเองอย่างโดดเดี่ยวตัวเองต่อไป
แต่แม้ Ei เป็นคนชื่นชอบการเอาชนะ และมีนิสัยดื้อรั้น แต่เธอก็มีด้านเด็ก ๆ ที่ไม่ค่อยโชว์ให้ใครเห็น คือเธอเป็นคนชื่นชอบขนมหวานอย่างมาก Yae บอกว่าถ้าหากเธอขาดขนมหวานกับหนังสือไป เธอจะร้องงอแง บ่นเหมือนเด็กหญิงเอาแต่ใจเลยทีเดียว
ดินแดนแห่งใจบริสุทธิ์
อย่างไรก็ตาม หลังจาก Yae Miko, นักผจญภัย (ตัวผู้เล่น) เผชิญหน้ากับ Ei แบบตัวต่อตัวในดินแดนแห่งใจบริสุทธิ์ มีการปะทะต่อสู้กัน (ไม่) นิดหน่อย พูดทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ในที่สุด Ei ตัดสินใจหยุดคำสั่งล่าวีชัน, เปลี่ยนแนวคิด “ความเป็นนิรันดร์” ใหม่ พยายามเรียนรู้ เห็นมุมมองความทะเยอทะยานกับความสำเร็จของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เข้าใจมาตลอดหลายปี เพื่อประโยชน์ของประเทศ กับชาวเมือง Inazuma เอง