เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา CD Projekt RED ได้เปิดตัวเกม Cyberpunk 2077 เวอร์ชัน Next-Generation สำหรับ PlayStation 5 และ Xbox Series X/S พร้อมกับ Patch ใหม่ที่มีการปรับปรุงเกมหลายส่วน จนตัวเกมกลับมาสภาพดีอย่างที่ควรจะเป็น
แม้ประสบการณ์การเล่น Cyberpunk 2077 เวอร์ชันล่าสุดโดยรวม จะยังไม่เป็นไปตามที่หลายคนคาดหวังไว้ตั้งแต่แรก แต่ CD Projekt RED ได้พิสูจน์ให้เหล่าเกมเมอร์เห็นแล้วว่าพวกเขายังให้ความสำคัญกับเกมดังกล่าวมาตลอด ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคต เราอาจจะได้เห็นฟีเจอร์ที่โดนตัดทิ้งระหว่างการพัฒนา กลับมาอีกครั้งใน Patch รอบถัดไป
การวิ่งไต่กำแพง
ย้อนกลับไปช่วงปี 2018 ทีมพัฒนาเกม CD Projekt RED ได้เผยตัวอย่างเกมเพลย์ครั้งแรกของ Cyberpunk 2077 (เวอร์ชัน Preview Build) ที่ชวนสร้างความตื่นเต้นให้กับเหล่าเกมเมอร์หลายคน โดย Footage มีการโชว์ความสามารถของตัวละครที่ V สามารถวิ่งไต่กำแพง แล้วกระโดดเข้าโจมตีโดยที่ศัตรูยังไม่ทันได้ตั้งตัว
แม้ระบบการวิ่งบนกำแพงจะดูมีความสมเหตุสมผลในจักรวาล Cyberpunk แต่ในปี 2020 Max Pears นักออกแบบดีไซน์ด่าน ได้ออกมายืนยันแล้วว่าระบบดังกล่าวได้ถูกตัดทิ้งระหว่างการพัฒนาเกม เนื่องจากเหตุผล “ในด้านการออกแบบ” แต่ถึงอย่างนั้น เขายืนยันว่าตัวละคร V จะมีความสามารถอื่น ๆ ที่มอบความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหวอย่างสูงสุด
ระบบ Acid Rain
Alivn Liu นักออกแบบ UI เคยออกมาเผยว่าใน Cyberpunk 2077 จะมีสภาพอากาศอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “Acid Rain” หรือฝนกรด ที่ในน้ำฝนมีสารเคมีปนเปื้อนจนเป็นอันตรายต่อสุขภาพกับร่างกาย โดยสาเหตุที่ Night City มีสภาพอากาศดังกล่าวนั้น ก็สืบเนื่องมาจากตัวเมืองมีมลพิษที่สูงมากอยู่แล้วตามเนื้อหา Lore จากบอร์ดเกมต้นฉบับ
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว หลังเกม Cyberpunk 2077 ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ก็พบว่าสภาพอากาศฝนกรดนั้น ไม่ได้ปรากฏตัวในเกมเวอร์ชันสุดท้ายเลยแม้แต่ครั้งเดียว
แม้ CDPR ไม่เคยเผยสาเหตุที่ตัดฟีเจอร์ฝนกรดทิ้งออกไป แต่เราคาดเดาว่าระบบดังกล่าว อาจส่งผลทำให้ผู้เล่นเดินทางสำรวจเมืองยากลำบากเกินไป จึงเป็นเหตุทำให้ทีมงานตัดสินใจลบฟีเจอร์นี้ไปในที่สุด
การให้เงินสินบนกับตำรวจ
Alvin Liu อธิบายว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในโลก Cyberpunk 2077 นั้น เปรียบเสมือนเป็นบอดี้การ์ด หรือทหารรับจ้างมากกว่าผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คอยรักษาความสงบในบ้านเมือง เนื่องจากวงการตำรวจของ Night City มีการคอร์รัปชัน และสภาพบ้านเมืองเต็มไปด้วยความป่าเถื่อน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจบางคน ตัดสินใจเข้าสู่ด้านมืดด้วยการเปิดรับสินบน เพื่อหาเงินเข้ากระเป๋าตังค์ของตัวเอง
Liu เผยว่าหากผู้เล่นให้เงินสินบนกับตำรวจ (หรือมีชื่อเสียงมากพอ) ผู้เล่นจะสามารถก่ออาชญากรรมต่าง ๆ ได้ โดยเจ้าหน้าที่จะพยายามมองข้ามทำเป็นมองไม่เห็นว่าคุณกำลังอะไรบางอย่างที่ขัดต่อกฎหมาย แต่แน่นอน ถ้าหากคุณ “ล้ำเส้น” ด้วยการสังหารคนมากเกินไป บางครั้ง เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องเข้ามาปราบปรามคุณด้วยกำลัง เพื่อหยุดความวุ่นวายที่เกิดขึ้น
แต่สุดท้าย ฟีเจอร์การให้เงินสินบนตำรวจ ไม่ได้ปรากฏตัวในเกมเวอร์ชันสุดท้าย รวมถึงระบบ Spawn ตำรวจของเกม Cyberpunk 2077 โดนวิจารณ์จากเหล่าเกมเมอร์ว่ามาถึงที่เกิดเหตุเร็วเกินไป และมีพฤติกรรมดุดันที่ทำอะไรผิดนิดผิดหน่อยก็มีโดรนมาไล่ยิงเราแล้ว
ระบบการตกแต่งรถยนต์
Customization Vehicle หรือระบบการตกแต่งยานพาหนะ เป็นฟีเจอร์ที่เห็นได้บ่อยตามเกมประเภท Open World เช่น Saints Row และ Grand Theft Auto ซึ่งทีมงาน CDPR เองก็เคยกล่าวว่า Cyberpunk 2077 ได้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถแต่งรถ หรือมอเตอร์ไซค์คันโปรด เพื่ออัปเกรดประสิทธิภาพให้ดีขึ้น และเสริมภาพลักษณ์ของยานพาหนะให้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกับใคร
จนกระทั่งในงาน E3 ประจำปี 2020 ทาง CD Projekt RED ออกมาคอนเฟิร์มอีกครั้งว่า ยานพาหนะทั้งหมดของเกม Cyberpunk 2077 จะไม่สามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ ส่วนสาเหตุที่ตัดฟีเจอร์ดังกล่าวทิ้งออกไปนั้น ทาง CDPR ยังไม่เคยออกมากล่าวถึงจนถึงทุกวันนี้
ระบบการขึ้นรถไฟฟ้า เพื่อ Fast Travel
it looks like they planned on having a fully functioning train system but couldn’t finish it in time!
byu/Sybekul incyberpunkgame
หลังเกม Cyberpunk 2077 ได้ออกมาวางจำหน่ายที่มาพร้อมกับปัญหาบั๊ก และประสิทธิภาพต่าง ๆ มากมาย ก็ทำให้เกมเมอร์หลายคน เริ่มมีการเดินทางสำรวจทั่วแผนที่ เพื่อมองหาจุดบกพร่องต่าง ๆ ในเกม
จนกระทั่งวันหนึ่ง เกมเมอร์นามว่า Sybekul ค้นพบว่าในเมือง Night City มีสถานีรถไฟฟ้า และรางรถไฟหลายจุดที่ทีมพัฒนาเกมยังสร้างไม่เสร็จสิ้น ทำให้เหล่าผู้เล่น เชื่อว่าเดิมที CD Projekt RED เคยมีความตั้งใจอยากออกแบบระบบ Fast Travel ด้วยการขึ้นรถไฟฟ้า แต่เนื่องจากทำไม่ทันก่อนออกวางจำหน่าย จึงเปลี่ยนไปใช้ระบบ Fast Travel ที่เรียบง่ายแทน
Backstory
ใน Cyberpunk 2077 มีระบบอย่างหนึ่งที่เรียกว่า “Lifepaths” หรือตัวเลือกเนื้อเรื่องช่วงเริ่มต้นว่าก่อนที่ V จะมาเป็นทหารรับจ้างนั้น เขา/เธอเคยมีเส้นทางการดำเนินชีวิตเป็นอย่างไรมาก่อน ซึ่ง Lifepaths จะมี 3 ตัวเลือกระหว่าง Street Kid, Nomad และ Corpo
แต่รู้หาไม่ว่า Lifepaths เป็นระบบใหม่ที่ได้เข้ามาทดแทน “Backstory” ที่เคยเปิดตัวในตัวอย่างเกมเพลย์ครั้งแรกในปี 2018 ซึ่งถ้าให้อธิบายแบบง่ายที่สุด Backstory จะมีความคล้ายคลึงกับ Lifepaths แต่มีการลงรายละเอียดที่ล้ำลึกกว่าระบบใหม่
ใน Backstorys คุณสามารถเลือกได้ว่าฮีโร่ในดวงใจวัยเด็กของ V คือใคร, เหตุการณ์สำคัญที่เปลี่ยนชีวิตของ V ไปตลอดกาล และสาเหตุที่เดินทางเข้ามาในเมือง Night City
Backstory เป็นหนึ่งในระบบการสร้างตัวละครที่สร้างความ “ว้าว” ให้เกมเมอร์หลายคน และน่าเสียดายที่ไอเดีย Backstory ถูกแทนที่ด้วย Lifepaths ซึ่งโดนวิจารณ์ว่าไม่ได้เป็นระบบที่พิเศษเหมือนที่ทีมงานกล่าวอ้างไว้