ประเด็นถกเถียงกันร้อนแรงในวงการเกมช่วงนี้ คงไม่มีทางหนีพ้นเรื่องเกี่ยวกับความยากของเกม Sekiro: Shadows Die Twice ที่เว็บไซต์ข่าวสารเกมอย่าง Kotaku กับ Forbes ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าตัวเกมจำเป็นต้องมี “โหมดง่าย” หรือไม่ ?
ซึ่งก็แน่นอนว่าความคิดเห็นมีการแตกออกเป็นสองฝั่งระหว่าง ควรใส่ กับ ไม่ควรใส่ โดยมีเหตุผลร้อยแปดมากมาย แต่ล่าสุด เราได้ผลรับโหวตจากชาว GamingDose จำนวน 14,400 คนแล้วว่าไม่เห็นด้วยที่เกม Sekiro ที่ใส่ Easy Mode ถึง 73% และสมควรใส่เพียง 27% เท่านั้น ก็ต้องบอกเลยว่ามีมติแทบเป็นเอกฉันท์จริง ๆ
ในขณะเกมเมอร์ส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า Sekiro (ซึ่งเป็นเกมยาก) ไม่ควรใส่ Easy Mode แต่ทีมงาน GamingDose มีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้าง ? นี่คือการรวมความเห็นของทีมงานว่าเกมยากควรมี Easy Mode ให้ทุกคนเข้าถึงง่ายขึ้นหรือไม่ แล้วจะมีเหตุผลน่าสนใจอะไรบ้าง เรารวบรวมมาให้คุณได้อ่านแล้ว
Jokeboy – Co-Founder / Editor in Chief
ไม่เห็นด้วย
เอาจริง ๆ เป็นหัวข้อที่ผมสองจิตสองใจ ในด้านของคนรักเกมมุมหนึ่งผมก็คิดว่าการที่วิดีโอเกมเข้าถึงคนเยอะขึ้นก็เป็นเรื่องที่ดีกว่า การที่ผู้คนสามารถสัมผัสเกมที่น่าสนใจโดยไม่ต้องมีความยากเป็นกำแพง ถือเป็นแนวคิดที่น่าสนับสนุน
ส่วนอีกด้านผมก็เชื่อว่า “ผู้พัฒนา” ควรมีสิทธิ์ในการสร้างผลงานที่ตนเองต้องการและตั้งใจไว้ เหมือนงานศิลปะที่ดีก็ไม่ได้มีการมานั่งอธิบายให้คนทั่วไปเข้าใจความหมายที่แท้จริงของงาน
ดังนั้นสรุปแล้วผมขอยืนข้างทีมงาน อยากมีหรือไม่มีทีมงานน่าจะตัดสินใจได้เองว่าเหมาะสมหรือเปล่า
gene (Sett) – Founder / Project Manager
เห็นด้วย
สำหรับการจะมี Easy Mode หรือ Super Hard นั้นควรมีเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค แน่นอนว่าการที่ตัวเกมจะนำเสนอความยากเป็นลายเซ็นของตัวเกมนั้น ๆ เป็นสิ่งที่เขาสามารถทำได้และมีความชอบธรรมในการสร้างเกมโดยยึดถือแนวทางของตัวเองเป็นหลัก
แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นเหมือนดาบสองคมที่จะทำให้ทรัพยากรบุคคล, เวลา, ความสามารถที่ทุ่มเทลงไปในผลงานของตนนั้นสูญเปล่าไปเพียงเพราะเกมเมอร์หลายคนเข้าไม่ถึงตัวเกม
ยกตัวอย่างถึงประเด็นร้อนของเกม Sekiro: Shadows Die Twice ที่กำลังเป็นข้อถกเถียง เกมนี้มีหลายส่วนมากมายที่ผมชอบ ทั้งการนำเสนอ โลกของเกม, เนื้อหา, ตัวละคร, และองค์ประกอบแทบทุกอย่างในเกมนั้นต่างเป็นสิ่งที่ผมหลงรัก (ยกเว้นเจ้างูยักษ์นั่นน่ะนะ เพราะผมเป็นโรคกลัวงูขึ้นสมอง แค่เห็นรูปก็แทบหยุดหายใจละครับ)
ผมหลงรักเกมนี้ถึงขั้นที่ต้องซื้อเกมทั้งบน PS4 และ PC เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการสนับสนุนเกม แต่แล้วการเล่นก็ต้องสะดุดลงเนื่องจากในแต่ละวันผมมีเวลาเล่นเกมที่ค่อนข้างจำกัด ดังนั้นการที่ต้องมาเสียเวลาเล่นเกมซ้ำไปซ้ำมาจึงไม่ใช่คำตอบของชีวิตเกมเมอร์ช่วงนี้ของผมเท่าไหร่นัก
หลายคนอาจจะบอกว่า “ก็นี่ไงล่ะ เพราะแกไม่ทำการบ้าน ไม่เตรียมตัวมาให้เรียบร้อย เกมนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคนยกเว้นแกด้วย เล่นไม่ไหวก็ไม่ต้องเล่น” ใช่ครับ ผมไม่เถียงว่าเกมนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน นี่ไม่ใช่ Game for everyone ถ้าเราจะมองกันในมุมนั้นก็คงใช่และก็คงไม่มีอะไรต้องเถียงกันอีก
แต่ถ้าย้อนกลับมาที่คำถามแรกว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการมีโหมดง่ายในเกมยาก ผมก็คงต้องตอบว่า “เห็นด้วย” ที่จะมีทางเลือกให้ “ง่าย” สำหรับ “บางคน” และก็ยังมีตัวเลือกให้ “ยาก” สำหรับ “หลายคน” ด้วยเช่นกันครับ
BOM – Content Writer
เห็นด้วยกับการที่เกมมีโหมด Easy
สำหรับผมซึ่งเป็นเกมเมอร์สาย Casual อยู่แล้ว การเล่นเกมสำหรับผมถือเป็นการเสพความบันเทิง เพื่อที่จะฟื้นฟูสภาพจิตใจและพักผ่อนหย่อนใจ
ผมมองว่าโหมดยากง่ายมันเป็นรสนิยมในการเล่น ฉะนั้นการที่มีโหมดง่ายล้วนเป็นผลดีต่อเกมมากกว่าใส่โหมดความยากแล้วให้เหล่าผู้เล่นต้องวัดฝีมือกันเอาเอง
แต่ถึงกระนั้น ผมก็ไม่ได้เสพติดเกมง่ายจนถึงระดับต้องใส่โหมด Easy ทุก ๆ เกมที่ผมเล่น เพราะผมก็เคารพในการนำเสนอของทีมพัฒนาเกม ที่อยากให้ผู้เล่นเข้าถึงเนื้อหาของเกมที่ต้องการจะสื่อ
อย่างเกม Sekiro Shadows Die Twice หรือ Bloodborn ผมไม่ได้มองว่ามันเป็นเกมยาก แต่มันเป็นเกมที่มีความท้าทาย ซึ่งไม่ได้ถึงระดับที่ต้องหัวร้อนปาจอยทิ้งหรือทำลายข้าวของ เพราะหากเราเข้าใจตัวเกมเพียงพอแล้ว เกมการเล่นก็จะมีความสนุกสนาน เร้าใจ และแฟร์ต่อผู้เล่น
โดยสรุปสำหรับผมแล้ว การใส่โหมดง่ายถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้ตัวเกมเข้าถึงง่าย เปิดกว้างไปยังผู้กลุ่มอื่น ๆ แต่หากไม่ใส่ก็ไม่เป็นไร ตราบใดที่เกมมันยัง “สนุก”
KKMTC – Content Writer
เห็นด้วย
เพราะเกมเมอร์ทุกคนมีรสนิยมการเล่นเกมที่แตกต่างกัน บางคนอยากเสพเนื้อเรื่อง, เสพบรรยากาศ ยกตัวอย่างเช่น รสนิยมการเล่นเกมของผู้เขียนที่แม้จะชื่นชอบความท้าทายระดับหนึ่งก็จริง แต่บางเกมก็ยากเกินไปจนไม่สามารถดำเนินเนื้อหาต่อไปเช่นกัน
และผู้เขียนเชื่อว่า Easy Mode ที่เกมเมอร์หลายคนพูดถึง ไม่ใช่เป็นการลดระดับความยากของเกมอย่างถาวร แต่เป็น ตัวเลือกชั่วคราว ที่ช่วยให้เกมประนีประนอมกับผู้เล่นมากขึ้น โดยยังมีกลิ่นอายความท้าทายหลงเหลืออยู่ซะมากกว่า
เหมือนกับเคสของเกม Metal Gear Solid V: Phantom Pain ที่หากผู้เล่นตายบ่อย ตัวเกมจะเริ่มถามว่าต้องการลดระดับความยากหรือไม่ ? ถ้าหากยอมรับ ตัวเกมจะปรับความยากลดลจริง
แต่ต้องแลกกับเกมเมอร์ต้องสวมหมวกไก่ที่ดูตลกซะไม่มี และ A.I. จะหัวเราะเยาะใส่เรา ซึ่งแม้จะทำให้เกมง่ายขึ้น แต่แลกกับความท้าทายกับความสนุกลดลง ซึ่งอาจช่วยเป็นแรงผลักดันให้เกมเมอร์ฝึกฝนเล่นเกมเก่งขึ้นเช่นกัน
โดยรวมแล้ว ผู้เขียนคิดว่าเกม Sekiro, ซีรีส์ Souls หรือเกมยากอื่น ๆ ทุกเกม ควรมีตัวเลือกให้มีการปรับระดับความยากเกม แต่ต้องใช้อย่างเหมาะสมและมีมาตรฐานของตัวเอง ไม่เอนเอียงมากเกินไปจนกลายเป็นเกม Casual หรือเกมยังคงยากเกินไป
แต่อย่างนั้น ผมก็แอบเห็นด้วยว่าเกมก็ควรมีตัวเลือกให้สามารถเลือกเล่น โหมดง่าย อย่างเต็มรูปแบบ 100% เพราะทุกคนที่เล่นเกมนี้ก็เสียเงินเหมือนกัน ประสบการณ์จากการเล่นเกมดังกล่าวที่ควรได้รับคือ “ความสนุก” ซึ่ง “ความสนุก” ของแต่ละคนไม่เหมือนกันคล้ายกับที่กล่าวไว้ข้างต้นครับ
StolenHeart – Content Writer
ไม่เห็นด้วย
เพราะผมเชื่อว่าถ้าหากทีมงานต้องการจะนำเสนอตัวเกมด้วยความยากท้าทาย การตัดทอนในจุดนี้จะเป็นการลดอรรถรสของเกมที่ทางทีมงานตั้งใจนำเสนอ เพราะบางครั้ง ความสนุกของเกมมักมาพร้อมกับความท้าทายที่สมเหตุสมผลเป็นองค์ประกอบสำคัญสำหรับเกมยาก
ซึ่งถ้าเปรียบเกมเป็นเสมือนอาหาร การถอดความยากออกไปก็เหมือนกับการลดเครื่องปรุงหรือส่วนประกอบของเกมลง จนผู้กินไม่ได้รับรู้รสชาติที่แท้จากผู้พัฒนาที่ปรุงมาให้อย่างสุดฝีมือ และบางครั้งความยากเองก็อาจจะเป็นวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงสำคัญที่ทำให้ตัวเกมโดดเด่นขึ้นมาได้
และในบางครั้ง เกมที่ดีหรืออาหารที่อร่อยก็อาจจะไม่ได้ถูกปากถูกใจคนทุกคน ดังนั้นผมจึงสนับสนุนให้ผู้พัฒนาสามารถปล่อยของ นำเสนอได้อย่างเต็มที่ เพื่อปรุงรสชาติของเกมออกมาได้อย่างที่ต้องการ โดยที่ไม่จำเป็นต้องลดทอนสิ่งใดไปเพื่อเอาใจตลาดคนหมู่มาก
ซึ่งไม่แน่ว่าในอนาคต ถ้าหากคงรสชาติแบบนี้ต่อไป คนหมู่มากบางส่วนก็อาจจะอยากมาลิ้มลองรสชาติที่แตกต่างไปจากเดิมก็เป็นได้
TheStarrySky – MOBA Writer
เห็นด้วย
เนื่องจาก Easy Mode เป็นทางหนึ่งที่ผู้พัฒนาเกมได้แสดงฝีมือของตัวเอง
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกับคำว่า “Easy Mode” ในความเห็นของผมก่อน สำหรับผมแล้วโหมดง่าย คือโหมดที่จะทำให้เล่นเกมจนจบได้ ในทางใดทางหนึ่งด้วยวิธีต่าง ๆ ที่ผู้พัฒนาจะคิดได้
โหมดง่ายไม่ได้จำกัดว่าแค่โจมตีแรงขึ้น, ศัตรูอ่อนลง, หรือพร้อมปลดล็อกทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เป็นตัวเลือกให้กับผู้เล่นที่อาจเป็นมือใหม่ที่ยังไม่เข้าใจองค์ประกอบของเกม ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ สำหรับการเติบโตของวงการเกม ซึ่งในความคิดของผม แฟนเกมเดนตายน่าจะเกิดยากกว่าแฟนรุ่นใหม่
นอกจากนี้ ผู้พัฒนาสามารถจินตนาการและสร้างสรรค์ “Easy Mode” ให้ออกมาน่าสนใจโดยไม่ทำให้แก่นแท้ของเกมหายไป เช่น คนที่เล่นโหมดง่ายอาจพบกับเนื้อเรื่องอีกแบบหนึ่งที่โหมดปกติจะไม่เจอ หรือพบกับฉากจบพิเศษเฉพาะโหมดเล่นง่าย เป็นต้น (เป็นการบังคับกลาย ๆ ให้ไปเล่นโหมดที่ยากกว่านี้)
เหมือนเคยได้ยินมาว่า เกมอย่าง Ninja Gaiden ซึ่งเป็นเกมยากที่มีโหมดง่ายให้เลือกเล่น แต่จะมีระบบการปลดล็อกด้วยวิธีแปลก ๆ มากมาย เช่น ต้องตายซ้ำซากจนเกมยอมปลดโหมดนี้ให้ หรือแลกกับการที่เกมเมอร์ต้องเล่นเกมอย่างน่าอับอายตลอดทั้งเกม
หรือบางเกม ถ้าเล่นโหมดง่ายก็ดำเนินเนื้อเรื่องไปไม่ถึงฉากจบ, อาจต้องแต่งตัวแปลก ๆ, และมี Achievement บ้าบอให้เลือกทำมากมาย ซึ่งจะเห็นได้ว่าโหมดง่ายมันเป็นอะไรที่มากกว่าทำให้เล่นแบบง่าย ๆ อย่างเดียว มันมีความบันเทิงอย่างหนึ่งแอบแฝงอยู่เสมอ ถ้าผู้พัฒนามีไอเดียที่ดีพอ
GunnMano – Social Media Manager
เห็นด้วย
เป็นเรื่องจริงที่เกมอาจขาดสเน่ห์ดั้งเดิมไปถ้ามีโหมดง่าย แต่ “โหมดง่าย” ของเกมนั้นมีหลายรูปแบบ โหมดง่ายที่ผู้เล่นหลับตาเล่นก็ได้ หรือโหมดง่ายที่เพิ่มจำนวนตัวช่วยมามากกว่าโหมดปกติ ยังไม่ทิ้งสเน่ห์ “ความยาก” แบบเดิมไป
Oat – Content Creator
ไม่เห็นด้วย
เกมบางเกมทำให้ยากเพราะต้องการสื่ออะไรบางอย่าง ความท้าทายที่ผู้พัฒนาตั้งใจแฝงมาถือเป็นคุณค่าอย่างหนึ่ง ถ้าคุณฝ่าฝันอุปสรรคที่เขาตั้งใจมอบให้ไม่ได้ นั่นไม่ได้แปลว่าเขาผิด แต่เราอาจไม่พร้อมจะรับสารจากเขา เกมบางเกมเลือกคนเล่น ไม่ต่างจากงานบางงานที่เลือกคนทำ และนั่นทำให้เรามีเกมที่หลากหลายรสชาติให้ลิ้มลอง
ที่สำคัญ ผมไม่ได้รู้สึกว่าโหมดง่ายจะทำให้คนเข้าถึงเกมได้ง่ายขึ้น เกมบางเกมไม่ได้มีดีที่ง่าย แต่มีดีที่สารและสาระ เกมบางเกมก็เล่นง่ายแต่ล้ำลึก เหมือนนิยายบางเรื่องที่อ่านง่ายแต่ลึกล้ำ เพราะฉะนั้น เราอาจจะต้องแยกการเล่นเกมง่ายออกจากการเข้าถึงหรือเสพย่อยได้ง่ายหรือเปล่า ผมรู้สึกว่ามันเป็นคนละอย่างกันและอาจไม่ได้ส่งผลกระทบถึงกันไปเสียหมด
XTER-VENDETTA – Video Editor
ไม่เห็นด้วย
ผมมองว่ามันขึ้นอยู่กับผู้พัฒนากับผู้ผลิตเกมว่าเขาต้องการนำเสนออะไร เหมาะกับการเล่นแบบไหน และเข้าถึงได้กับผู้เล่นกลุ่มใดบ้าง
อย่างล่าสุดที่เป็นประเด็นเร่าร้อนกับ Sekiro: Shadows Die Twice สำหรับเกมนี้ ผมมองว่ามันไม่ได้ใช้ความยากเพื่อความท้าทายอย่างเดียว แต่เขาใช้มันในการสร้างเรื่องราวภายในเกม ซึ่งก็เป็นวิธีที่เขาใช้มาตั้งแต่ Demon’ s Souls
อย่างเช่นตัวละครในเกมจะมีการเย้ยหยันใส่ผู้เล่นว่า “ยอมแพ้ซะเถอะ ยิ่งเจ้าไปต่อเจ้าก็จะพบกับความตายอย่างทรมานซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า…” และผู้เล่นก็จะได้เจอความทรหดอย่างที่ตัวละครนั้นพูดเอาไว้จริง ๆ
…แต่ถ้าเกม มีโหมดง่ายเสริมเข้ามาแทนล่ะ? ทั้งที่เรื่องราวมันสื่อออกมาแบบนั้น แต่ผู้เล่นกลับผ่านไปได้ง่าย ๆ บริบทของเกมตรงนี้มันจะไม่ดูตลกไปเลยหรือ? เพราะอย่างนั้นผมเลยมองว่าการที่เกม Soulsborne และ Sekiro ไม่มีความยากให้เลือกมันคือสิ่งที่ถูกต้องแล้ว
แต่ถ้าเราจะพูดว่าเกมยากอื่น ๆ ก็ยังมีให้เราเลือกโหมดง่ายจนถึงอภิมหายาก อย่างเช่น The Evil Within ทั้งภาค 1 และ ภาค 2 ที่เขาทำได้อย่างนั้นเพราะเขาไม่ได้ต้องการนำเสนอความท้าทายอย่างเดียว เขายังมีเนื้อเรื่อง มีความน่ากลัวที่อยากให้ผู้เล่นได้สัมผัส แต่ถ้าผู้เล่นต้องการให้มันท้าทายด้วย ก็สามารถเลือกได้ ซึ่งแตกต่างจากเกม Souls ที่การนำเสนอมันคนละเรื่องเลย
สรุปคือมันขึ้นอยู่กับผู้พัฒนาที่อยากจะให้ผู้เล่นได้สัมผัสอะไร ถ้าเกมเขาตั้งใจทำออกมาให้ยาก แต่เราไปตะแบงให้เขาทำ Easy Mode มาให้ เราก็คงไม่ต่างกับเด็กงอแงเอาแต่ใจ… เว้นแต่ว่าคุณจะใส่สูตรโกง หรือ Mod เกมให้ง่าย อันนั้นมันก็เป็นสิทธิ์ของคุณไม่มีใครเดือดร้อน
เกมเมอร์อมตีน – Guest
ไม่เห็นด้วย
ทีมสร้างเกมอาจจะมีจุดมุ่งหมายให้เกมตัวเองเป็นเกมที่ยาก เพื่อตอบสนองกับแฟนเกมบางกลุ่มอยู่แล้วครับ
ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละทีมงานชอบทำเกมไปในทางไหนครับ
เกมถูกบอกด้วย – Guest
เห็นด้วย
ถ้าทุกเกมยาก มีตัวเลือกการปรับระดับความยากได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่จะทำให้หลายคนสามารถสนุกสนานไปกับตัวเกมได้ แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบเกมยาก ต่อให้มีการปรับแต่งระดับ ให้สามารถเล่นแบบง่ายได้ ส่วนตัวก็คงปรับให้ยากสุดตอนเล่นอยู่ดี
เดมติดเก๊ก – Guest
เห็นด้วย
ถ้าตามจุดประสงค์ของผู้พัฒนา เขาได้วางกลยุทธ์ทางการทำตลาดมาแล้ว เกมยากมันจะเกิด impact แบบหนึ่ง ถ้าเพิ่มโหมดง่ายเข้าไป Impact เหล่านั้นอาจจะหายไป เพราะมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งของวงการเกม
แต่ถ้าถามผม ผมก็อยากให้มีโหมดง่ายนะ เพราะรสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน มีคนชอบความยาก ง่ายที่แตกต่างกัน แต่ถ้าผู้พัฒนาเขานำเสนอในรูปแบบนี้ เราก็ต้องปรับตัวตามวิสัยทัศน์เขา ผมเชื่อว่าไม่ว่ายังไง ผู้พัฒนาก็อยากจะให้ผู้เล่นรับประสบการณ์การเล่นเกมที่แปลกใหม่และสนุกสนานกับมันให้ได้มากที่สุด
สรุปแล้ว ทีมงาน GamingDose ก็มีความเห็นที่แตกออกเป็นสองฝั่งไม่แพ้กับเหล่าเกมเมอร์ ส่วนใหญ่ทีมงานที่เห็นด้วยกล่าวว่าควรใส่ Easy Mode เพราะเป็นเพียงแค่ตัวเลือกหนึ่งที่เกมเมอร์สามารถเลือกเล่นได้อย่างอิสระ คนชอบเล่นง่ายก็เล่นง่าย คนเล่นโหมดยากก็เล่นโหมดยาก ทุกฝ่ายแฮปปี้
ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วย ให้เหตุผลว่าความยากของเกมเป็นสิ่งที่ผู้สร้างกล้าที่จะนำเสนอ ถ้าหากผู้เล่นต้องการรับประสบการณ์จากการเล่นเกมแบบเต็มอรรถรส เกมเมอร์ก็ควรพร้อมเปิดอกรับเนื้อหาในสิ่งที่ผู้พัฒนาพยายามจะนำเสนอ แม้เกมจะยากมากแค่ไหนก็ตามครับ