ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ที่ผ่านมา มีรายงานค้นพบวิดีโอหลุดเกม Dead Rising 5 ซึ่งเชื่อว่าเป็นเกมที่โดนยกเลิกการพัฒนาหลังจากทีมงาน Capcom Vancouver (อดีตมีชื่อทีมงานว่า Blue Castle Games) ถูกยุบอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2018
การรายงานข่าวดังกล่าว ทำให้นึกถึง Dead Rising 4 ซึ่งเป็นเกมภาคล่าสุดที่ไม่ถูกใจแฟน แล้วด้วยกระแสตอบรับที่ย่ำแย่ในด้านยอดขาย จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ Capcom Vancouver ต้องปิดตัวลง และเกมตระกูล Dead Rising ยังคงไร้วี่แววที่จะมีภาคใหม่จนถึงตอนนี้
Dead Rising จากเกมซอมบี้ดัง กลายเป็นเกมตกกระป๋องเพราะภาค 4
สำหรับคนที่ไม่รู้จัก Dead Rising เป็นซีรีส์เกมซอมบี้ Open-World ของ Capcom ที่เปิดตัวภาคแรกเมื่อปี 2006 แล้วได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม จนเกมดังกล่าวกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์โด่งดังจากค่าย Capcom
แตกต่างจากเกมตระกูล Resident Evil ที่เป็นเกมสยองขวัญ-เอาตัวรอด เกม Dead Rising เป็นเกมแนวแอ็กชัน-ผจญภัยอย่างเต็มรูปแบบ โดยเกมดังกล่าวมีเอกลักษณ์โดดเด่นในด้านองค์ประกอบ Sandbox Open-World ให้ผู้เล่นเดินทางไปไหนก็ได้ตามใจชอบ, มี Killcount นับจำนวนซอมบี้ที่ผู้เล่นกำจัดไปได้ตลอดทั้งเกม, มีฉากจบหลากหลาย และระบบจำกัดเวลา ด้วยระบบดังกล่าว Dead Rising จึงเป็นเกมที่มีตัวตนของตัวเอง ไม่ค่อยถูกเอาไปเปรียบเทียบกับ Resident Evil เท่าไหร่นัก
แม้ไม่ใช่เกมระดับ Masterpiece แต่ด้วยความนิยม และกระแสตอบรับที่ดีของ Dead Rising ทำให้เกมดังกล่าวสามารถเดินทางมาถึงภาคที่ 4 และ Frank West หนึ่งในตัวละครหลักของเกม ได้เป็นแขกรับเชิญในเกมต่อสู้ Capcom vs. Marvel แต่น่าเสียดายที่เกมภาค 4 อาจจะเป็นเกมสุดท้ายของ Dead Rising และไม่มีภาคต่อไปอีกนานแสนนาน
เกิดอะไรขึ้นกับ Dead Rising 4
ย้อนกลับไปช่วงปี 2014 ตอนนั้น เกม The Last of Us ของ PlayStation ได้เป็นที่พูดถึงในสังคมเกมอย่างล้นหลาม ด้วยคุณภาพระดับท็อปเกือบทุกด้าน และได้รับรางวัลเกมหลายสาขามากมาย Microsoft จึงมีไอเดียอยากมีเกมซอมบี้ที่เป็นเกม Exclusive ของตัวเอง ด้วยเหตุผลดังกล่าว Microsoft จึงเสนอ Capcom ให้นำเกม Dead Rising 3 มาวางจำหน่ายเป็นเกม Timed Exclusive สำหรับแพลตฟอร์ม Xbox กับ Windows
หลังจาก Dead Rising 3 ออกวางจำหน่ายในปี 2013 ในปี 2014 ทีมพัฒนาเกม Capcom Vancouver ก็ได้จับมือกับ Microsoft เพื่อพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ที่เรียกว่า Project Climber ซึ่งภายหลังมีการคอนเฟิร์มว่าเป็นเกม Dead Rising 4
อ้างอิงข้อมูลจาก Matt McMuscles เผยว่า Dead Rising 4 จะเป็นการ Reboot ที่มีเนื้อเรื่องสมจริงกว่าทุกภาคที่ผ่านมา เน้นการลอบเร้นมากขึ้น เล่าเรื่องผ่านมุมมองตัวละครใหม่ และบรรยากาศโทนของเกมโดยรวมได้แรงบันดาลใจมาจากสื่อซอมบี้ชื่อดังในตอนนั้นอย่างเช่น The Walking Dead
แต่อย่างไรก็ตาม Capcom ประเทศญี่ปุ่น ไม่ชื่นชอบไอเดีย Dead Rising ฉบับ Reboot ที่มีเนื้อหาสมจริงมากขึ้น และต้องการให้ Dead Rising ภาคใหม่เหมือนเกมทุกภาคที่ผ่านมา คือเน้นลูกเล่นบ้า ๆ บอ ๆ เน้นการฆ่าซอมบี้แหลก ด้วยเหตุผลดังกล่าว Capcom ญี่ปุ่นจึงสั่งให้ทีมงาน Capcom Vancouver ต้องพัฒนาเกม Dead Rising ใหม่ทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้น
เนื่องจากมีเวลาพัฒนาเกมที่เหลือค่อนข้างน้อยนิด และงบประมาณการสร้างเกมที่มีจำกัด ทีมงาน Capcom Vancouver จึงตัดสินใจเอาตัวละคร Frank West และสถานที่ห้างสรรพสินค้า Willamette Parkview Mall จากเกมภาคแรกกลับมาอีกครั้ง แล้วนำทรัพยากรทั้งหมดที่สร้างไว้ในเกม Dead Rising 4 เวอร์ชันแรก มาใช้สำหรับการสร้างเกม Dead Rising 4 เวอร์ชันปัจจุบัน
ซ้ำร้าย ในช่วงสุดท้ายของการพัฒนาเกม Dead Rising 4 ทาง Capcom ญี่ปุ่น มีการปลดพนักงานโปรดิวเซอร์ใน Capcom Vancouver บางส่วน ซึ่งหนึ่งในคนที่ถูกปลดออกคือ Josh Bridge หัวหน้าผู้สร้าง Project Climber โดยให้เหตุผลว่า “ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจากการสร้างโปรเจกต์โดยพลการ และไม่มีการบอกกล่าวล่วงหน้า” หรือหมายความว่า Capcom Vancouver ได้พัฒนาเกม Dead Rising 4 ในฉบับของตัวเอง โดยไม่มีการปรึกษา Capcom ญี่ปุ่นล่วงหน้า ?
ด้วยเวลาการสร้างเกม และงบประมาณที่จำกัด ทำให้ Dead Rising 4 เป็นเกมที่ดูขาดความสมบูรณ์ และเป็นภาคที่มีกระแสถกเถียงมากที่สุดจากแฟน ๆ
ทำไม Dead Rising 4 จึงมีกระแสตอบรับไม่ดีจากแฟน
Dead Rising 4 ได้เปิดตัวครั้งแรกในงาน E3 2016 พร้อมประกาศวางจำหน่ายใน Xbox One กับ PC วันที่ 6 ธันวาคม 2016 แล้ววางจำหน่ายลง PlayStation 4 ในภายหลัง
ความจริงแล้ว ก่อนวันวางจำหน่าย Dead Rising 4 อย่างเป็นทางการ เกมดังกล่าวเคยตกเป็นกระแสถกเถียงจากแฟน ๆ เนื่องจากตัวเกมมีการเปลี่ยนแนวทางจากภาคเก่าค่อนข้างเห็นได้ชัด
ถึงแม้ Frank West จะกลับมาอีกครั้งในเกมภาคนี้ แต่มีการเปลี่ยนนักพากย์ใหม่เป็น Tly Olsson จากที่เกมภาคก่อนหน้านี้ ตัวละครได้พากย์เสียงโดย Terence J. Rotolo มาตลอด ซึ่ง Trant Lee-Aimes ผู้จัดการทรัพยากร Dead Rising ได้เผยสาเหตุที่เปลี่ยนนักพากย์ใหม่ เพราะ “ต้องการนำเสนอตัวละคร Frank ที่สมจริง และมีอายุมากขึ้น” ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทำให้แฟน ๆ มีการตั้งแคมเปญเรียกร้องให้ Rotolo กลับมาพากย์เสียงตัวละครให้ Frank West อีกครั้ง
นอกจากนี้ เนื่องจาก Dead Rising 4 มีการเปลี่ยนแนวทางใหม่ เน้นการนำเสนอเนื้อหาที่สมจริงกว่าเดิม ก็ทำให้แฟน ๆ รู้สึกกังวลว่า Dead Rising 4 จะสูญเสียเอกลักษณ์ที่เคยมีในเกมภาคก่อน แต่อย่างไรก็ตาม Capcom Vancouver ยังคงมุ่งหน้าพัฒนาเกมต่อไป จนตัวเกมออกวางจำหน่ายในวันที่ 6 ธันวาคม 2016
ถึงแม้ Dead Rising 4 มีกระแสตอบรับดีในด้านระบบเกมเพลย์ที่ออกแบบเล่นได้อย่างสนุกสนานเหมือนเกมทุกภาค แต่ข้อดีหลักเพียงข้อเดียว ไม่สามารถแบกข้อเสียต่าง ๆ ของเกมนี้ไปได้
ข้อวิจารณ์ส่วนใหญ่ของ Dead Rising 4 เป็นคุณภาพเกมโดยรวม ดรอปลงจากเกมภาคก่อนหน้านี้อย่างเห็นได้ชัด รวมถึงมีปัญหา Performance ต่าง ๆ ในช่วงวันเปิดตัว ทำให้ผู้เล่นได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ไม่ลื่นไหล
หนึ่งในข้อเสียร้ายแรงที่สุดสำหรับ Dead Rising 4 คือทีมงานพยายามฝืนใส่เนื้อหาตลกขำขันมากจนเกินไป สำหรับคนที่ไม่เคยเล่น Dead Rising มาก่อน เกมดังกล่าวจะสามารถแบ่งโทนระหว่างช่วงซีเรียส และตลกขำขันได้เป็นอย่างดี แต่ในเกมภาค 4 Frank West มีการเล่นมุกตลกเชิงเสียดสีตลอดเวลา ที่รู้สึกว่าเล่นมุกผิดเวลาหลายครั้งจนทำลายบรรยากาศ และสร้างความรำคาญต่อผู้ฟัง นอกจากนี้ บทสนทนาโดยรวมของเกมนี้ก็จัดว่าเข้าข่ายยัดเยอะเกินจนฝืนธรรมชาติอีกด้วย
เหมือนที่ Capcom Vancouver เคยกล่าวไว้ข้างต้นว่า ทีมงานต้องการให้ Dead Rising 4 กลายเป็นเกม Open-World อย่างแท้จริง ด้วยเหตุผลดังกล่าว ทีมงานจึงนำระบบจำกัดเวลาออกไปจากเกม ให้ผู้เล่นสามารถเดินทางทั่วเมืองได้อย่างอิสรเสรี โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเวลาอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับมุมมองของเกมเมอร์ส่วนใหญ่ การตัดฟีเจอร์ระบบจำกัดเวลาออกไปนั้น ส่งผลทำให้เกมการเล่นเกม Dead Rising ลดความตึงเครียดลงอย่างมาก โดยปกติแล้ว เกม Dead Rising ทุกภาค มีการใส่ระบบจำกัดเวลา เพื่อบังคับให้ผู้เล่นต้องทำภารกิจเสริม และดำเนินเนื้อเรื่องให้เสร็จสิ้นก่อนเวลาที่กำหนด ซึ่งระบบดังกล่าวเป็นการมอบความรู้สึกกดดันต่อเพลเยอร์ ให้เราต้องคอยเช็กนาฬิกาในเกม และเลือกทำภารกิจตามความเหมาะสมของเวลา
แม้ระบบดังกล่าวดูแล้วอาจจะเป็นข้อเสียสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการความอิสระอย่างเต็มรูปแบบ แต่ระบบดังกล่าว ถือเป็นหนึ่งในฟีเจอร์เอกลักษณ์ของเกมตระกูล Dead Rising ที่หากขาดฟีเจอร์นี้ไป มันก็กลายเป็นเกม Open-World ทั่วไปที่ไม่ได้มีอะไรน่าตื่นเต้น นอกจากไล่ฟันซอมบี้เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ Psychopath หรือคนวิกลจริต ซึ่งเป็นบอสของเกมตระกูล Dead Rising นั้น ขาดการนำเสนอที่น่าสนใจ และขาดความท้าทาย ทำให้การต่อสู้ Psychopath (ในภาค 4 เรียกว่า Maniac) ไม่น่าดึงดูดเหมือนเกมภาคเก่า
โดยรวมแล้ว Dead Rising 4 เป็นเกมที่สร้างความผิดหวังต่อแฟน ๆ และมีความมั่นใจอย่างสูงว่าต้องเป็นเกมภาคที่แฟน ๆ เกลียดอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะฟีเจอร์ที่ดีเยี่ยม และมีเอกลักษณ์จากเกมภาคก่อนได้หายไปในภาคนี้ ทำให้ Dead Rising 4 ได้มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่เหมือนเป็นเกมซอมบี้เกมหนึ่งที่ไม่มีอะไรน่าจดจำเป็นพิเศษ นอกเหนือจากเกมเพลย์ไล่ทุบซอมบี้ที่ยังสนุกสนานเหมือนเกมภาคก่อน ๆ
ด้วยข้อเสียทั้งหมดที่กล่าวมา ส่งผลลัพธ์ทำให้เกม Dead Rising 4 ทำยอดขายได้เพียงแค่ 900,000 ชุด หลังเกมออกวางจำหน่ายผ่านไป 3 เดือน จากที่ Capcom ตั้งเป้าไว้ว่าต้องขายให้ได้ 2 ล้านชุด ซึ่งเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้ทีมพัฒนาเกม Capcom Vancouver ต้องถูกยุบเมื่อปี 2018 รวมถึงเกม Dead Rising 5 ต้องถูกยกเลิกการพัฒนา
แม้เกม Dead Rising 4 จะสร้างความผิดหวังให้กับแฟน ๆ แต่หลังจากเวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี รวมถึงทีมพัฒนาเกม Capcom เริ่มมีชื่อเสียงที่ดีขึ้นจากการสร้างเกม Resident Evil 2 Remake, Devil May Cry 5 และ Monster Hunter World ทางแฟน ๆ ก็พร้อมต้อนรับเกม Dead Rising ภาคใหม่อีกครั้ง ซึ่งแน่นอนว่า Capcom จะทำตามคำร้องขอของแฟน ๆ หรือไม่ ก็อยู่ที่การตัดสินใจของทีมงานเพียงฝ่ายเดียว