BY StolenHeart
13 Sep 19 12:07 pm

รวมของใหม่จากงาน Apple Event ที่เกมเมอร์ต้องร้องว้าว

0 Views

จบกันไปเรียบร้อยในวันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมาสำหรับงาน Apple Event ที่เปิดตัวของใหม่จาก Apple มากมาย ทั้งบริการและสินค้าใหม่ ๆ มาให้เหล่าสาวกเสียเงินกันมากมาย ซึ่งในงานนี้พวกเขาปล่อยของจัดใหญ่กันแบบเต็มที่ รวมไปถึงมีหลายอย่างที่เหล่าเกมเมอร์น่าจะตาลุกวาวกันไม่น้อยเมื่อได้เห็นกัน

ซึ่งวันนี้เรามาดูกันว่า สิ่งที่ได้เห็นในงาน Live Event ครั้งนี้ มีอะไรที่ดึงดูดสายตาพวกเราเหล่าเกมเมอร์กันบ้างครับ

Apple Arcade

สิ่งแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับเหล่าเกมเมอร์ก็คือบริการเช่าเล่นเกมรายเดือนแบบ Exclusive อย่าง Apple Arcade ที่พวกเขาทุ่มทุนโฆษณากันเต็มที่ และยังดึงตัวผู้พัฒนาเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง Konami และ Capcom มาร่วมพัฒนาเกมเพื่อลงให้กับแพลตฟอร์ม iOS โดยเฉพาะ แถมหลายเกมที่มีให้เล่นก็น่าสนใจมาก ที่สำคัญที่สุดคือราคาค่าบริการที่ถูกมากเพียงเดือนละ 99 บาทเท่านั้น

นอกจากจะถูกและเล่นเกมที่มีให้บริการทั้งหมดรวม 100 กว่าเกมแล้ว ยังมีความเป็นส่วนตัวที่สูง และแชร์เล่นกับคนในครอบครัวได้สูงสุด 5 คน เรียกว่าเป็นบริการที่คุ้มมากสำหรับเกมเมอร์ชาว iOS อย่างแท้จริง

Apple TV+

เชื่อว่าหลายคนน่าจะสมัครสมาชิกรับชมภาพยนตร์ผ่านทาง Netflix กันอยู่แล้ว และ Apple ก็เริ่มมาลุยตลาด Streaming สำหรับภาพยนตร์ด้วยเหมือนกัน แถมค่าบริการก็ยังถูกมากเมื่อเทียบกับผู้ให้บริการเจ้าอื่น ๆ อย่าง Netflix หรือ Disney+ ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี และแน่นอนว่าผู้ใช้ในบ้านเราก็จะได้สัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยที่ราคา 99 บาทต่อเดือน และโปรโมชั่นใช้ฟรี 1 ปีสำหรับผู้ซื้อ iPhone, iPad, iMac และ Apple TV เครื่องใหม่ เรียกว่าคุ้มจนไม่รู้จะคุ้มอย่างไรแล้ว

และซีรีส์ที่นำมาฉายนั้นก็มีความเป็นเอกเทศไม่เหมือนกับช่องอื่น เพราะมีภาพยนตร์และรายการที่มีเฉพาะใน Apple TV+ ให้ชมด้วยมากมาย เช่น The Morning Show, For All Mankind และอื่น ๆ อีกเพียบ

แม้สำหรับเกมเมอร์ที่ไม่ได้ชมซีรีส์ทางบริการ Live Stream เป็นหลักอาจรู้สึกว่าบริการ Apple TV + นี้เหมือนเป้นของแถม แต่สำหรับผู้ที่เตรียมซื้อโทรศัพท์หรือ iPad ของ Apple เครื่องใหม่ นี่ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน

New iPad

หากเราพูดถึงแทปเล็ตที่ดีที่สุดในท้องตลาดที่หาได้ในตอนนี้ เชื่อว่าเกือบทุกคนตอบโดยไม่คิดว่า iPad อย่างแน่นอน และในรุ่นใหม่นี้ก็มาพร้อมกับคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมกว่าเดิม เช่นหน้าจอขนาด 10.2 นิ้วแบบ Retina ใหญ่ขึ้นกว่าเก่า iPad iOS ที่พัฒนาขึ้นจนสามารถทำงานหลาย ๆ อย่างบนหน้าจอเดียวได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และคุณสมบัติเซฟรูปหน้าจอให้เป็นไฟล์ PDF ได้ทันที จนทาง Apple เคลมว่าทำงานได้ไวและดีกว่ากว่าเครื่อง PC ในปัจจุบันนี้เสียอีก

นอกจากการทำงานแล้ว การเล่นเกมก็เป็นสิ่งที่ iPad ให้ความใส่ใจ ตัวเครื่องสามารถเชื่อมต่อจอย PlayStation 4 แบบไร้สาย เล่นเกมผ่าน Apple Arcade ได้ทันที และขุมพลังของชิป A10 Fusion ก็แรงเพียงพอจะรับมือกับเกมบนมือถือได้อย่างสบายหายห่วง ทำงานก็ได้ เล่นเกมก็เยี่ยม เรียกว่ายังเป็นตัวยืนหนึ่งของแทปเล็ตในตลาดตอนนี้แบบไม่มีข้อโต้แย้งกันเลย

ส่วนราคาเริ่มต้นนั้นก็ยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ 10,900 บาทสำหรับขนาด 32GB ซึ่งถือว่าไม่แพงจนเกินไปนัก และคนที่จัดเต็มกับขนาด 128GB + Cellular ก็อยู่ที่ 18,900 บาท เรียกว่าคุ้มกว่าตัวเก่ามากทีเดียว

iPhone 11

หนึ่งในสิ่งที่หลายคนรอคอยมากที่สุดในงานนี้ก็คือการเปิดตัวของ iPhone รุ่นที่ 11 ซึ่งการเปิดตัวในครั้งนี้แม้จะไม่มีอะไรเพิ่มเติมจากข่าวลือที่หลุดออกมาก่อนนัก แต่ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้นทุกปีเช่นเดิม

สำหรับ iPhone 11 ตัวปกตินั้นชูจุดเด่นที่ปรับปรุงมาจาก iPhone XR ในเรื่องของกล้องคู่ด้านหลังเป็นพิเศษ ซึ่งสามารถถ่ายรูปแบบ Wide ได้กว้างขึ้นถึง 120 องศา ขยายขนาดได้จนถึง 16:9 หรือเต็มจอก็ย่อมได้ และด้วยหน่วยประมวลผลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ภาพที่ได้จะสวยกว่าเดิมมาก

สำหรับเกมเมอร์อย่างเรา ๆ สิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ CPU รุ่นใหม่ A13 Bionic ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า A12 Bionic อย่างเห็นได้ชัด เช่นการประมวลผลกราฟฟิกที่ Apple บอกว่าแรงกว่า Snapdragon 855 หรือ Kirin 980 ในโทรศัพท์เรื่องธงของแบรนด์อื่น ๆ  ซึ่งน่าจะทำให้คอเกมหลายคนรู้สึกดีขึ้นมาได้

และที่น่าดีใจก็คือการปรับปรุงให้ตัวเครื่องมีความอึดในการใช้งานมากขึ้น หลังจากที่ผู้ใช้งานบ่นกันมานานว่า iPhone รุ่นก่อน ๆ นั้นแบตเตอรี่ไม่ค่อยอึด คราวนี้ iPhone 11 จะมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานขึ้นกว่ารุ่นเดิมประมาณ 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย แถมยังรองรับการชาร์จด้วยระบบ Wireless Charge ได้แล้ว รวมไปถึง Quick Charge แบบ 18W เช่นกัน ทำให้เล่นเกมหรือชมวิดีโอระหว่างวันได่นานขึ้นด้วย

ส่วนรุ่นสูงสุดนั้นมีชื่อว่า iPhone 11 Pro และ Pro Max ที่มีเลนส์กล้องหลังเพิ่มขึ้นเป็นสามเลนส์(จนถูกนำไปล้อกันอย่างสนุกสนาน) แม้รูปทรงจะดูตลก แต่ประสิทธิภาพในการใช้งานนั้นจัดเต็มไม่น้อย ด้วยฟีเจอร์ Deep Fusion ที่ใช้เทคโนโลยี Machine learning ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในตอนนี้ และยังมีฟีเจอร์กับโปรแกรมที่ช่วยเสริมให้การถ่ายวิดีโอมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย

ส่วนหน้าจอนั้นสำหรับรุ่น Pro จะอยู่ที่ 5.8 นิ้ว และ 6.5 นิ้วสำหรับ Pro Max เปลี่ยนจาก LCD เป็น OLED ที่คมชัดมากยิ่งขึ้น และการกันน้ำก็ทำให้ลึกมากขึ้นจากเดิม 2 เมตร เป็น 4 เมตรในระยะเวลา 30 นาทีด้วยกัน มั่นใจมากขึ้นเวลานำไปถ่ายรูปในน้ำได้ในระดับหนึ่งกันเลย

ส่วนสุดท้ายคือเรื่องของแบตเตอรี่และการประมวลผลกราฟฟิก iPhone 11 Pro ยังคงใช้ชิปเซ็ต A13 Bionic เหมือนรุ่นเล็ก แต่ถูกปรับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และตัวแบตเตอรี่เองก็ใช้งานในการรับชมวิดีโอได้ต่อเนื่องถึง 18 ชั่วโมง มากกว่า iPhone 11 ธรรมดาอยู่เล็กน้อย และมากกว่า iPhone Xs ถึง 4 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปก็หายห่วงมากกว่าเดิมแน่นอน

ณ เวลานี้ iPhone 11 ทั้งสามรุ่นยังไม่มีการเปิดเผยราคาขายในประเทศไทยออกมา(ราคาขายในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ $699, $999 และ $1,099 ตามลำดับ) แต่หลายฝ่ายคาดเดากันว่าน่าจะไม่หนีจากรุ่นก่อนนัก สำหรับคอเกมที่ใช้งานโทรศัพท์ iPhone รุ่นเก่าและพิจารณาอยากเปลี่ยนใหม่ ก็ลองรอดูราคาอย่างเป็นทางการกันก่อนจะดีกว่าครับ

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่น่าสนใจสำหรับเหล่าเกมเมอร์ในงาน Apple Event ที่ผ่านมา ซึ่งที่จริงแล้วยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจเช่น Apple Watch 5 กับตัวเลือกในการสำรวจร่างกายเพื่อสุขภาพและการทำงานมากขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง รวมไปถึงปรับลดราคาของอุปกรณ์ในรุ่นเก่า ๆ ลงด้วย โดยรวมถือว่าน่าสนใจมากกว่าปีที่ผ่านมาไม่น้อยครับ

SHARE

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top