นับตั้งแต่ Playerunknown’s Battleground ประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ปี 2017 ค่ายเกมหลายค่าย ผู้พัฒนาหลายทีมก็ปลุกปั้นเกมแนว Battle Royale กันยกใหญ่ เพื่อหวังจะประสบความสำเร็จให้ได้แบบที่ PUBG เป็น แน่นอนว่าบางเกมก็รุ่ง บางเกมก็ร่วง แต่จะมีอยู่หนึ่งประเภทที่เปิดตัวด้วยกระแสฮือฮายกใหญ่ และคิดว่ามันจะต้องออกมาดี แต่สุดท้ายไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม เกมเหล่านี้กลับล้มเหลวโดยสิ้นเชิง และจะมีเกมอะไรบ้างที่เราคัดมาให้ดูกันแล้ววันนี้
1.Island of Nyne : Battle Royale
เกม Battle Royale ที่เคลมตัวเองช่วงเปิดตัวว่ามันจะต้องฮาร์ดคอร์ และเป็นมาตรฐานใหม่ของเกมแนวนี้ ด้วยการออกมาโปรโมทตัวเองว่าพัฒนาโดยคนที่รักและชอบในการเล่นเกม จะเข้าใจอารมณ์ของเกมเมอร์แน่ ๆ บวกกับธีมของเกมที่เป็นไซไฟสุดอลังการ ในช่วงแรกที่เปิดตัว เกมนี้ถูกมองว่าเป็น Crisis ฉบับ Battle Royale เลยทีเดียว แต่เกมกลับเปิดตัวด้วยความเงียบเชียบ นอกจากบัคที่แม้จะเป็นช่วง Early Access แต่มันก็มากเกินจนทำให้การเล่นเกมไม่สนุก บวกกับตัวเกมบังคับเล่นแบบมุมมอง FPS เท่านั้น ทำให้หลายคนที่ไม่ถนัดหรือไม่ชอบ โบกมือลาเกมนี้ไป ปัจจุบันแม้ตัวเกมจะเปิดให้เล่นฟรีแล้ว แต่ก็ไม่สามารถกอบกู้ชื่อเสียงตัวเองกลับมาได้ บวกกับเป็นช่วงขาลงของ Battle Royale แล้ว เป็นอีกเกมที่น่าเสียดายจริง ๆ ครับ
2.The Swordsmen X
เป็นเกมที่ผู้เขียนเสียดายมากเป็นพิเศษ Swordsmen X เปิดตัวเมื่อกลางปี 2018 ในรูปแบบ Early Access เช่นกัน Swordsmen X เป็นเกมแรก ๆ ที่ฉีกแนว Battle Royale แบบเดิมจากการแบกปืนไปไล่ยิงกัน กลายเป็นจอมยุทธ์สะบัดกระบี่ สะพายดาบมาดวลกันอย่างดุเดือด และน่าจะเป็นเกม Battle Royale แรก ๆ ด้วยที่กลายมาเป็นการต่อสู้ระยะประชิด แต่ตัวเกมก็ยังมีอาวุธโจมตีไกล อย่างเช่นปืนยาว หรือธนูให้ได้ใช้อยู่ ในช่วงเปิดตัวมันได้รับความสนใจอย่างมาก แต่เพราะมันยังไม่รองรับเซิร์ฟเวอร์เอเชียในช่วงแรก บวกกับภาษาที่ไม่สมบูรณ์ทำให้ตัวเกมโด่งดังอยู่เพียงไม่กี่วัน ก่อนจะกระแสลดลงไป และหายไปอย่างเงียบ ๆ อย่างน่าเสียดาย ปัจจุบันตัวเกมยังคงอัพเดทแพทช์เป็นประจำ แต่ก็ถูกแฟน ๆ ถล่มโป้งแดงใส่หน้า Steam รัว ๆ เพราะประสิทธิภาพเกมก็ยังคงไม่คืบหน้าไปจากตอนแรกสักเท่าไรเลยอยู่ดี
3.Fear the Wolves
สำหรับเกมนี้ต้องบอกว่า “เลื่อนเป็นเหตุ” แท้ ๆ ในตอนแรกเกมนี้ได้รับความสนใจและการจับตามองสูงมาก ๆ เพราะว่าตัวเกมนำเสนอเกมเพลย์แบบ Battle Royale ในพื้นที่กัมมันตรังสีสูงอย่างโรงงานเชอร์โนบิล และตัวเกมพรีเซนต์ระบบการต่อสู้ทั้งจากผู้เล่นด้วยกัน และจากเหล่าสัตว์ร้ายติดเชื้อรังสีที่จะสร้างความตื่นเต้นในการเล่น ซึ่งทั้งตัวอย่าง เกมเพลย์การเล่น ก็พร้อมเรียกแขก และเตรียมสร้างสัญญาณที่ดี แต่สุดท้าย ไม่รู้เพราะเหตุใดในโค้งสุดท้ายก่อนวางขายตัวเกม กลับโดนเลื่อนออกไปไกลถึง 2 เดือนเต็ม (กำหนดการวางขายตอนแรกคือช่วงพฤษภาคม 2018 เลื่อนยาวมากรกฎาคม 2018) ทำให้แฟน ๆ ที่รอเกมนี้ต่างผิดหวังไปตาม ๆ กัน และพอเกมวางจำหน่ายจริง ต่างก็ไม่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเหมือนช่วงตอนเปิดตัว แถมตัวเกมดันออกจากช่วง Early Access ในเดือนกุมภาพันธ์ 2019 ที่เป็นช่วงเวลาที่ Apex Legends เปิดตัวและดังแบบปรอทแตก ทำให้เกมนี้ต้องนั่งอยู่ในมุมมืดแบบเงียบ ๆ ไปอย่างน่าเสียดาย
4.Last Tide
Last Tide เป็นอีกเกมแนว Battle Royale ที่ออกมาสร้างความแปลกใหม่ในช่วงกลางปี 2018 เช่นกัน แม้จะยังเป็นการยิงปืนต่อสู้กันตามปกติ แต่ตัวเกมเปลี่ยนสมรภูมิจากบนพื้นดิน เป็นใต้ท้องทะเลที่มีฝูงฉลามแทน ! แน่นอนว่า Danger Zone หรือวงบีบ ก็เปลี่ยนจากคลื่นพลังงานให้กลายเป็นฝูงฉลามที่จะมาไล่ฆ่าคุณแทน ส่วนเครื่องแต่งกายทั่วไปก็มีพวกอุปกรณ์ดำน้ำ ตีนกบ ชุดสูทที่ทำให้ว่ายน้ำได้เร็วขึ้นเพิ่มเข้ามาสร้างความแปลกใหม่ให้ตัวเกมด้วย ในตอนแรกตัวเกมกวาดยอดผู้เล่นสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่เพราะการอัพเดททีี่ค่อนข้างช้า บวกกับบัคและปัญหาต่าง ๆ ที่ไม่ค่อยจะได้รับการแก้ไข ทำให้ยอดผู้เล่นลดลงอย่างรวดเร็ว จนถึงช่วงที่ผู้เล่นต้องเล่นกันไปแบบเหลือ 20 คน ก็เล่นกัน 20 คนนั่นแหละ เพราะหาผู้เล่นเกินนี้ไม่ได้แล้ว กลายเป็นอีกเกมที่ล้มเหลวไปอย่างน่าเสียดายอีกหนึ่งเกม
5.Maverick : Proving Ground
อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่น่าสนใจและปล่อยให้แฟน ๆ รอคอยกันมาอย่างยาวนาน และถูกยกเลิกไปในที่สุด สำหรับเกม Battle Royale ที่เคลมตัวเองว่าใน 1 ตาจะรองรับผู้เล่นมากถึง 400 คน (และยังบอกอีกว่าหลังเปิดตัวจะพัฒนาให้รองรับได้ถึง 1,000 คน) ทำให้หลายคนหันมาจับตาดูเกมนี้กันนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2017 แต่เมื่อวันก่อนตัวเกมก็ออกมาประกาศว่าต้องยกเลิกการพัฒนาไปแล้ว ซึ่งแม้จะไม่บอกสาเหตุว่าเพราะอะไร แต่เพราะเดาว่าการพัฒนาเกม Battle Royale ที่มีความใหญ่ระดับนี้จะต้องไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ บวกกับตอนนี้ค่อนข้างที่จะเป็นขาลงของเกม Battle Royale แล้ว การดันเกมนี้ออกมาในช่วงนี้ คงไม่คุ้มค่าแก่การลงทุนและพัฒนาอีกต่อไป ทำให้โปรเจกต์ถูกยกเลิกไปที่สุด น่าเสียดายที่เราแทบไม่ได้เห็นเกมเพลย์การเล่นในแบบไฟนอลเลย (ล่าสุดที่เห็นคือเกมเพลย์ระหว่างพัฒนาเมื่อปี 2018 เพียงเท่านั้น) ก็เป็นอันต้องปิดตำนานของตัวเองไปทั้ง ๆ ที่แฟนเกมทั่วโลกยังไม่ทันได้เล่นมัน
แม้จะบอกว่าปี 2019 เป็นช่วงขาลงของเกม Battle Royale แล้ว แต่ Apex Legends ที่เปิดตัวในปีนี้กลับมาประสบความสำเร็จอย่างสูง (แม้จะมีบัค โปร และดราม่า ฯลฯ ตามมาไม่หยุดหย่อน) จึงเกิดเป็นคำถามที่น่าคิดว่าจริง ๆ แล้วเราเบื่อเกม Battle Royale กันแล้ว หรือแค่เรายังไม่เจอเกมที่ตั้งใจทำออกมาจริง ๆ กันแน่ สำหรับหัวข้อนี้เอาไว้เรามาคุยกันต่อในโอกาสหน้า ตอนนี้ผู้เขียนก็คงต้องกลับไปนั่งเล่น Apex Legends ตามเดิม
