เวลาที่เราลง Windows ใหม่ เราก็ต้องมาลงโปรแกรมที่เราจะใช้งานกันเป็นปกติอยู่แล้ว และยิ่งใครที่ทำงานเฉพาะทาง ที่ต้องใช้โปรแกรมเฉพาะ ก็ต้องดาวน์โหลดโปรแกรมนั้นๆ ลงเครื่อง แต่สำหรับบางคนที่ไม่รู้ว่าเราควรลงโปรแกรมอะไรบ้างเพื่อใช้งาน อยากลงโปรแกรมทั้งหมดให้เสร็จภายในครั้งเดียว วันนี้เรามีโปรแกรมแนะนำ ที่ควรลง หลังการติดตั้ง Windows เสร็จแล้วมาฝากกัน
โปรแกรมสามัญประจำเครื่อง
- Web Browser ต่างๆ
ยุคนี้ก็ต้องพูดถึงอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าคอมพิวเตอร์ของเราไม่มีโปรแกรมที่ใช้เปิดสิ่งต่างๆ บนอินเทอร์เน็ตก็ใช้ไม่ได้ ดังนั้น การติดตั้งเบราว์เซอร์ต่างๆ ที่เราชื่นชอบหรือใช้งานเป็นประจำอยู่แล้ว เป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวว่าจะติดตั้ง Google Chrome , Mozilla Firefox , Opera หรืออื่นๆ
- 7 Zip
มาถึงโปรแกรมที่จำเป็นอีกหนึ่งตัว นั่นคือ 7 Zip ซึ่งมีประโยชน์ในการบีบอัดไฟล์และแตกไฟล์ที่ถูกบีบอัดมานั่นเอง หลายคนอาจจะมองว่ามันไม่ได้สำคัญอะไรนัก แต่ไฟล์ขนาดใหญ่ที่เราดาวน์โหลดมาจากอินเทอร์เน็ต เกือบจะทั้งหมดที่ต้องใช้ 7 Zip ในการเปิดไฟล์นั้นออกมา
- โปรแกรม Support อุปกรณ์ต่างๆ เช่นการ์ดจอ
สิ่งนี้รวมไปถึง Driver การ์ดจอ ในกรณีที่เราใช้งานการ์ดจอแยกในคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊ก ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ให้เข้ากับโปรแกรมและการใช้งานของเราในอนาคต ฉะนั้น การติดตั้ง Driver ต่างๆ หลังการลง Windows เสร็จ เป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง
ความบันเทิง
- Netflix
โปรแกรมสำหรับการดูหนังและซีรีส์ต่างๆ ที่ได้รับความนิยมสูงทั่วโลก ปกติแล้วเราก็สามารถดูได้จากทางเบราว์เซอร์ต่างๆ ได้เพียงการเข้าเว็บไซต์ของ Netflix แต่เราแนะนำให้ติดตั้งโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันผ่าน Microsoft Store เพราะจะทำให้การเข้าไปรับชมหนังหรือซีรีส์ต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น
- Spotify
เมื่อเรามีโปรแกรมดูหนังก็ต้องมีโปรแกรมสำหรับฟังเพลงกันบ้าง กับ Spotify ที่เราสามารถฟังเพลงจากที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ เพียงแค่เชื่อมต่อบัญชีเดียวกัน ทั้งในมือถือ และคอมพิวเตอร์ เราก็สามารถฟังเพลงที่เราต้องการได้ทุกเมื่อ
- Steam , Origin , Epic Game , Uplay , Battle.net ฯลฯ
อันนี้น่าจะถูกใจสายเล่นเกม เพราะโปรแกรมเหล่านี้ คือเส้นทางที่เราจะเข้าไปเล่นเกมต่างๆ ได้ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครมีบัญชีอยู่บนโปรแกรมอะไร ก็ดาวน์โหลดโปรแกรมนั้นๆ มาติดไว้บนเครื่อง เอาไว้เวลาพักผ่อนจากการทำงาน เราก็สามารถมาเล่นเกมได้ผ่านโปรแกรมเหล่านี้
ตัดต่อภาพ
- Photoshop
โปรแกรมยอดนิยมสำหรับการตัดต่อและปรุงแต่งรูปภาพ ซึ่งเป็นโปรแกรมที่เสียเงินก็จริง แต่ก็มีหลายคนที่ยอมจ่าย เพื่อให้ได้มาซึ่งโปรแกรมที่เราสามารถทำงานด้านภาพได้เต็มประสิทธิภาพ การใช้งานโปรแกรม Photoshop เราจะต้องเสียค่าใช้จ่ายรายเดือน เริ่มต้นที่ 800 บาท / เดือน
- GIMP
สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเงิน เป็นสายฟรี ก็ต้องโปรแกรมนี้เลย GIMP เป็นโปรแกรมสำหรับตกแต่งรูปภาพที่ฟรี แต่ก็มีความสามารถไม่แพ้ Photoshop เลย แต่ต้องยอมรับว่าการใช้งานอาจจะไม่คล่องมือเหมือน Photoshop เท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่ใช้งานจนคล่องมือแล้ว แทบจะไม่ต้องง้อ Photoshop เลย
การประชุมและสนทนา
- Zoom
Zoom Meeting คือ แพลตฟอร์มการประชุมออนไลน์ (Video Conference Platform) ที่ได้รับความนิยมหลังจากที่เกิดการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดย Zoom Meeting นั้นมีฟังก์ชันการใช้งานทั้งการประชุมออนไลน์ แชทผ่านข้อความ และยังมีลูกเล่นอื่น ๆ อย่างเช่น การแชร์หน้าจอจากอุปกรณ์นั้น ๆ (Share Screen), การเปลี่ยนภาพพื้นหลังขณะประชุมได้ (Change Background), การอัดวิดีโอขณะประชุมได้ (Record Video) ฯลฯ
- Line
แอปพลิเคชันแชทที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา ซึ่งมีฟีเจอร์ที่ให้เราติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ ได้ทีละคน หรือจะตั้งกลุ่มมาเพื่อคุยงานและหัวข้อต่างๆ นอกจากนี้ Line ยังมีฟีเจอร์สำหรับการประชุมที่รองรับคนได้เป็นร้อยๆ คนภายในการประชุมเดียวอีกด้วย
- Discord
เป็นโปรแกรมที่คนเล่นเกมคุ้นเคยกันดี ข้อดีของ Discord คือการที่เราสามารถใช้งานได้ทั้งบนเว็บ มือถือ หรือบนตัวโปรแกรมได้เหมือนกัน โดยลักษณะการประชุมของ discord คือการสร้างห้องประชุมไว้หลายๆ ห้องสำหรับแผนกหรือทีมนั้นๆ แล้วถ้ามีการประชุมเกิดขึ้น เราเพียงกดชื่อห้องนั้นก็สามารถเข้าประชุมได้เลย และยังสามารถแชร์หน้าจอในขณะที่คนอื่นแชร์เพื่อให้เพื่อนเข้ามาดูหน้าจอเราได้อีกด้วย
การทำงานทั่วไป
- Microsoft Office
โปรแกรมสำคัญที่ใช้สำหรับการทำงานเกือบจะทุกประเภท นั่นคือ Microsoft Office ซึ่งเราจะคุ้นเคยกันในชื่อของ Microsoft Word , Excel และ Power Point ซึ่งตอนนี้ก็มีโน้ตบุ๊กหลายเครื่องหลายรุ่น ที่มีการแถม Microsoft Office มาให้ในตัวเลย แต่สำหรับใครที่อยากได้มาใช้งานบนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือโน้ตบุ๊กของตัวเอง ก็สามารถไปซื้อมาใช้งานได้ผ่านร้านคอมพิวเตอร์ และหน้าเว็บไซต์ของ Microsoft ได้เลย ราคาค่าตัวของ Microsoft Office จะต้องเสียค่าบริการรายปี เริ่มต้นที่ 2,099 บาทต่อปี
- LibraOffice
โปรแกรมทางเลือกสำหรับคนที่อยากใช้งาน Microsoft Word แต่ไม่อยากเสียเงิน เมื่อติดตั้งแล้ว LibreOffice จะมีเพียงไอคอนรวมโปรแกรมทั้งหมดอยู่ 1 ไอคอน เมื่อเปิดขึ้นมาจะมีตัวโปรแกรมย่อยภายในซึ่งใช้ทดแทนโปรแกรมหลักของ Microsoft Office ได้ทันที โดย Writer ทดแทน Microsoft Word, Calc แทน Excel, Impress แทน PowerPoint, Base แทน Access มี Draw สำหรับวาดภาพรูปทรงสำหรับทำงานนำเสนอต่าง ๆ และ Math เป็นโปรแกรมใช้คำนวณค่าต่าง ๆ จัดว่ามีโปรแกรมจำเป็นครบเครื่องและรองรับไฟล์จาก Microsoft Office ถึง Microsoft 365 แล้ว
- Foxit Reader
Foxit Reader เป็นโปรแกรมอ่านไฟล์ PDF และมีฟีเจอร์สำคัญเช่นการแก้ตัวเอกสาร PDF, เพิ่มคอมเมนต์, ทำฟอร์มเอกสาร, ลงลายเซ็นในเอกสาร PDF ครบไม่แพ้กับ Adobe Acrobat นอกจากนี้หน้าตาโปรแกรมก็ใช้งานได้ง่าย และถ้าเปิดไฟล์ PDF หลาย ๆ อันพร้อมกันก็จะรวบเอาไว้เป็นแท็บไม่เปิดเป็นไฟล์ใหม่เหมือนกับ Adobe Acrobat ทำให้สลับไปมาระหว่างไฟล์ PDF ได้เร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังโหลด Plug-in ใหม่เข้ามาเสริมได้รวมทั้งใช้งานร่วมกับโปรแกรม Evernote, Microsoft OneNote ได้อีกด้วย
และนี่ก็เป็นโปรแกรมทั้งหมดที่เราหยิบยกมาแนะนำให้ทุกคนได้ลองติดตั้งและใช้งานกัน บางโปรแกรมอาจจะมีแล้ว หรือบางคน อาจจะไม่เคยใช้งานหรือรับรู้ว่ามีโปรแกรมแบบนี้อยู่ด้วย ทั้งนี้ โปรแกรมที่เราหยิบยกมาเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะยังมีโปรแกรมอื่นๆ ที่มีประโยชน์และน่าจะเหมาะกับเราอยู่ก็เป็นได้
