ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา Hideo Kojima ได้ขึ้นเวทีงาน Tokyo Game Show 2019 เพื่อเปิดเผยวิดีโอเกมเพลย์ของ Death Stranding เพื่อไขปมปริศนาตัวเกมที่เกมเมอร์หลายคนเรียกร้องแบบจัดเต็มรวมกว่าเวลา 1 ชั่วโมงเกือบครึ่ง ! (รวม Part 1 กับ Part 2)
แน่นอนว่าด้วยจำนวนระยะเวลาการโชว์ที่ยาวเหยียดและวิดีโอบรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่น เกมเมอร์หลายคนอาจพลาดหรือไม่เข้าใจฟีเจอร์ดี ๆ ที่ออกมานำเสนอในงานอีเว้นท์ ทางทีมงานจึงรวบรวมรายละเอียดข้อมูลใหม่ของเกมดังกล่าวที่คาดว่าน่าสนใจจากงาน Tokyo Game Show 2019 มาให้คุณรับชมกันครับ
- ในเดโม Capital Knot City Distribution Centre เป็นเมืองที่ Sam รับภารกิจและเตรียมตัวออกเดินทาง
- ตัวเกมจะมีระบบการแบกสิ่งของ ยิ่งมีเราแบกของน้ำหนักเยอะเท่าไหร่ ยิ่งทำให้การควบคุมทรงตัวยากขึ้น เมื่อต้องเดินทางลงเขาหรือขึ้นเขา
- UI ของเกมจะแสดงค่า Stamina, ความทนทานของรองเท้า, ปริมาณเลือดของ Sam, ค่าความสุขของ BB และปริมาณจำนวน Likes ซึ่งเรายังไม่มีการสาธิตว่าระบบดังกล่าวมีลักษณะการทำงานอย่างไร แต่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับ “Chiral Network” ระบบออนไลน์ของเกมที่เชื่อมต่อกับผู้เล่นเกมทั่วโลก (หรือผู้เล่นที่อยู่โซนเวลาเดียวกัน)
- หน้าเมนู “Sam’s Orders” จะเปิดเผย Objective, แผนที่เกม และค่าสถานะโดยรวม
- Sam มีค่าสถานะ 9 อย่าง เช่น ค่าคล่องแคล่วในการเคลื่อนไหว, ความสามารถในการเดินทางในที่ขรุขระ, เลเวลของซิงค์, ปริมาณความจุของแบตเตอรี่, พลังความแข็งแกร่งกับความเหนื่อยล้า, ขีดจำกัดการแบกน้ำหนัก, ความอดทดเพื่อไม่ให้สลมืดบ และพลังปอด
- เกมเมอร์สามารถมาร์กจุดเส้นทางติดต่อกันหลายเส้น เพื่อวางแผนหาเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด
- ขนาดของแผนที่ ผู้เล่นอาจสามารถสำรวจได้ทั่วประเทศสหรัฐฯ
- Sam สามารถตะโกนเรียก เพื่อให้คนรอบข้างรับรู้ได้
- เครื่องแต่งกายของ Sam เลือกสีได้ โดยแต่ล่ะสีจะมีคุณสมบัติเสริมแตกต่างกัน เช่น การเพิ่ม Stamina
- เกมมีอุปกรณ์แว่นตาเพื่อสแกนตรวจสอบภูมิประเทศ โดยเกมสาธิตระบบดังกล่าวด้วยการข้ามแม่น้ำนที่ไหนที่มีสีแดงจะมีโอกาสทำให้ Sam จมน้ำ เพราะพื้นที่ในน้ำมีความต่างระดับเกินไป
- การจมน้ำทำให้ค่าความเครียดของ BB เพิ่มขึ้น และพัสดุสิ่งของอาจหลุดออกจากกระเป๋า
- หลังจากจมน้ำ Sam สามารถหายใจทางปาก เพื่อเพิ่มค่า Stamina ที่สูญเสียไป
- เกมมีเครื่องดื่มพลังงานแบรนด์ชื่อดัง “Monster Energy” ให้ดื่ม เพื่อเพิ่มค่า Stamina
- Lost Cargo เป็นพัสดุปริศนาที่หาได้ตามพื้นที่ต่าง ๆ ถ้าเก็บแล้วจะขึ้นจุดหมาย Side Quest โดยอัตโนมัติ
- เชือกไต่กำแพงจะมีระดับเลเวลของมัน โดยเชือกเลเวลหนึ่งจะไต่ลงได้ลึกสุด 30 เมตร
- บันไดของ Sam ยืดได้ถึง 10 เมตร โดยสามารถใช้เดินทางข้ามเขา หรือขึ้นลงบันได โดยผู้เล่นจะเก็บบันไดทันที หรือวางไว้ตรงนั้น เพื่อให้ผู้เล่นคนอื่นใช้งานต่อ
- หากส่งเควสต์เสริมสำเร็จ พื้นที่ที่ส่งพัสดุจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Chiral Network และปลดล็อกจุดสถานที่น่าสังเกตต่าง ๆ และจุดมาร์กอื่น ๆ ที่เกมเมอร์จากทั่วโลกบันทึกไว้
- โฮโลแกรมหลังจาก Sam นำพัสดุส่งของสำเร็จ นำแสดงโดย Daichi Miura นักร้องเพลงญี่ปุ่นชื่อดัง
- หลังจากทำเควสต์สำเร็จ Sam ได้รางวัลพิเศษ ซึ่งรางวัลเควสต์ที่ขึ้นโชว์ในเดโม เป็นเครื่องดนตรีฮาร์โมนิก้า ซึ่งเป็นไอเท็มที่ช่วยให้ BB มีความสุข
- รองเท้าของ Sam มีโอกาสเสียหายหรือพังจากการเดินทาง ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่า Stamina และการทรงตัวของร่างกายลดลง
- Sam สามารถพักผ่อนกลางแจ้งด้วยการกดนั่งนอน, นวดไล่ไหลกับเท้าของตัวเอง หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ
- ถ้าหากนอน เลือดของ Sam จะเพิ่มขึ้น และตัวเกมมีการจับเวลานอน
- สภาพของพัสดุก็มีระบบความเสียหายเช่นกัน ผู้เล่นสามารถฟื้นฟูพัสดุด้วยการใช้ไอเท็มสเปรย์ซ่อมพัสดุ ซึ่งหากเกมเมอร์ซ่อมพัสดุปริศนาก่อนรับเควสต์ ผู้เล่นอาจได้ของรางวัลพิเศษหลังการส่งพัสดุสำเร็จ
- Postboxes จะมีอยู่ทั่วแผนที่ มันมีหน้าที่ช่วยให้ผู้เล่นสามารถแชร์สิ่งของซึ่งกันและกัน (สามารถตั้งค่าเป็น “ส่วนตัว” ก็ได้) หรือส่งพัสดุบางประเภท
- Floating carrier เป็นอุปกรณ์ชนิดหนึ่งที่สามารถแบกสัมภาระสูงสุด 300 กิโลกรัม และติดตาม Sam เกือบตลอดการเดินทาง
- หากนำพัสดุออกจาก Floating carrier ทั้งหมด Sam จะสามารถใช้งานเป็น Hoverboard แทน
- Sam พบกับหอเสียงที่ตั้งโดยผู้เล่นคนอื่น มีคุณสมบัติฟื้นฟูหลอดเลือดของพัสดุทั้งหมด
- การบุกแคมป์ของศัตรู ผู้เล่นสามารถเข้าบุกแบบลอบเร้น หรือบุกไปตรง ๆ เลยก็ได้
- Pulse scan ของ Sam จะมีหน้าที่แท็คไอเท็มที่อยู่ช่วงบริเวณนั้นชั่วคราว โดยการใช้งานจะต้องแลกกับค่าแบตเตอรี่
- Strand เป็นอาวุธประชิดที่ช่วยกำจัดศัตรูจากด้านหลังแบบ non-lethal
- Bola Gun เป็นปืนยิงเส้นตาข่ายล่องหนที่สามารถมัดศัตรูให้นอนอยู่กับพื้น ใช้ยิงได้ทั้งศัตรูประเภทมนุษย์และ BT
- พัสดุสามารถใช้เป็นอาวุธระยะประชิดหรือโยนระหว่างการต่อสู้ แต่ทำให้หลอดเลือดของพัสดุลดลงเช่นกัน
- “The Power Skeleton” คาดว่าเป็นพลังจากชุดพิเศษของ Sam ซึ่งมีคุณสมบัติ ทำให้ Sam วิ่งเร็วกว่ารถยนต์บางคัน
- แน่นอนว่าการใช้ The Power Skeleton ก็ต้องแลกกับการใช้งานแบตเตอรี่ลดลง
- Sam พบหอปริษนาที่คาดว่าตั้งโดยผู้เล่นคนอื่นเช่นเคย โดยครั้งนี้ หอมีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูแบตเตอรี่เร็วขึ้น และนอกจากนี้ ผู้เล่นสามารถตอบแทนผู้เล่นคนอื่นกลับ ด้วยการกด Likes
- ระหว่างการเดินทางจะมีไอเท็มให้เก็บ ซึ่งนำใช้เป็นส่วนประกอบในการคราฟท์ไอเท็ม
- Sam สามารถกลั้นหายใจระหว่างการเดินผ่าน BT แต่แลกกับการสูญเสียพลัง Stamina
- การยิงปืน Bola Gun ใส่ BT ทำให้ BT ไม่สามารถเคลื่อนไหวชั่วคราว
- หากเกมเมอร์โดน BT พบเห็น BT จะพุ่งเข้าหาผู้เล่นอย่างรวดเร็ว และดึง Sam ลงบ่อดำ
- Sam สามารถขัดขืน BT แต่หากไม่สำเร็จ Sam จะถูกดึงไปยังอีก “ภพ” หนึ่ง แล้วพบกับบอสไฟต์เป็นม้าที่เคยปรากฏตัวบน Trailer แนะนำตัวละคร Higgs
- เกมสามารถปราบบอสม้าแบบ non-lethal โดยการสาธิตครั้งนี้ Sam ใช้อาวุธระเบิด Hematic grenade ที่ต้องเสียสละ “เลือด” ตัวเองบางส่วนเพื่อใช้งาน
- ผู้เล่นคนอื่นบางส่วนจะเข้ามาช่วยเหลือผู้เล่นด้วยการโยนไอเท็มที่มีประโยชน์มาให้ใช้
- Anti-BT Gun เป็นปืนที่สร้างความเสียหายให้ BT อย่างมหาศาล แต่ก็ต้องแลก “เลือด” ของตัวเองคล้ายกับ Hematic grenade
- ปราบบอส BT ได้สำเร็จ BB จะชื่นชมเราด้วยการให้ Like
- บ่อน้ำร้อน “อนเซ็ง” Sam และ BB สามารถอาบน้ำพักผ่อนได้
- Sam สามารถจุดมาร์กสถานที่ว่ามีลักษณะเป็นอย่างไร เช่น จุดบ่อน้ำร้อน, จุดพักผ่อน, จุดกระโดดข้าม และอื่น ๆ
- Sam พบมอเตอร์ไซค์ที่ทิ้งไว้โดยผู้เล่นคนอื่น
- ผู้เล่นสามารถสร้างสะพานข้ามแม่น้ำขนาดใหญ่สำหรับยานพาหนะ ซึ่งแน่นอนว่าสะพานในวิดีโอเกมเพลย์นั้น สร้างโดยผู้เล่นคนอื่น
- การนอนในห้องพักของ Sam จะช่วยฟื้นฟูพลังทั้งหมด (รวมถึง BB ด้วย)
- ห้องน้ำในเกมสามารถทำได้เกือบทุกอย่าง ไม่ว่าจะอาบน้ำ ล้างหน้า ปัสสาวะ และนั่งโถส้วม
- Death Stranding มีเนื้อหาการทำลายกำแพงที่สี่ ด้วยการปัดกล้องออก หรือสาดน้ำเบียร์ใส่หน้าจอ
- กิจกรรมอื่น ๆ บนห้องพักของ Sam จะมีตั้งแต่ดื่มเบียร์, ตกแต่งห้อง, สอดส่องห้องเก็บของ, แต่งตัว, เชค BB หรือแม้กระทั่งเอาใบหน้าของ Sam มาทาบกับกระจก
- ตัวเกมมีโหมดถ่ายรูป พร้อมท่าโพสต์กับใบหน้าให้สร้างสรรค์ภาพถ่าย
- เกมเมอร์สามารถจัด Playlist เพลงระหว่างการเดินทางได้
Death Stranding วางจำหน่ายวันที่ 8 พฤศจิกายน 2019 บนระบบ PlayStation 4
ที่มาของข้อมูล : IGN