ปี 2009 เป็นปีที่รุ่งเรื่องอีกหนึ่งปีของวงการเกม มีเกมออกใหม่ระดับตำนานมาให้ได้เล่นกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Call of dUty: Modern Warfare 2, Batman Arkham Asylum, Uncharted 2 และอีกมากมาย แต่ยังมีอีกหนึ่งเกมที่ช่วยตอกย้ำความนิยมของเกมแนว Co-op ให้แจ่มชัดและนิยมมากขึ้น ซึ่งตอนนี้ก็เป็นปีครบรอบ 10 ปีของเกมเดินหน้ายิงแบบ Co-op ที่ดีที่สุดในโลกเกมหนึ่ง ซึ่งก็คือ Left 4 Dead 2 นั่นเอง
อันที่จริงแล้ว Left 4 Dead ภาคแรกที่ได้รับการพัฒนาโดย Turtle Rock Studio นั้นก็ถือว่าเป็นเกมที่ดีและมีศักยภาพมากพออยู่แล้ว ด้วยรูปแบบการเล่นแบบร่วมมือกันผ่านฉากของผู้เล่น 4 คน ปะทะกับเหล่าผู้ติดเชื้อหรือซอมบี้ และยังมีซอมบี้แบบพิเศษที่คอยป่วนไม่ให้ผู้เล่นบรรลุไปถึงเป้าหมายหรือเส้นชัย เล่นกับ AI หรือคนด้วยกันก็สนุกทั้งสองแบบ และซอมบี้แบบพิเศษก็มีความสามารถดีและน่าจดจำทุกตัว
และยังมีโหมดการเล่นแบบ 8 VS 8 ที่ผู้เล่นจะได้เล่นเป็นผู้รอดชีวิตกับผู้ติดเชื้อเข้าต่อสู้กัน ซึ่งฝ่ายผู้ติดเชื้อก็ต้องขัดขวางไม่ให้ผู้รอดชีวิตผ่านด่านไปให้ได้ และความสามารถของซอมบี้แบบพิเศษที่มีให้ใช้งานนั้นก็มีความสมดุลดีมากและสร้างรูปแบบการเล่นได้หลากหลาย เรียกว่าวางตำแหน่งการยืนดี ๆ แล้วก็อาจสามารถจัดการผู้เล่นฝ่ายผู้รอดชีวิตทั้งกลุ่มได้เลย
ดูจากทรงแล้ว ภาคแรกทำออกมาสมบรูณ์ขนาดนี้แล้ว การจะออกภาคต่อมาในเวลาอันสั้นนั้นถือเป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายไปเสียหน่อย
เพราะ Left 4 Dead ภาคแรกนั้นวางจำหน่ายในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2008 และในปีต่อมาหลังจากที่เกมวางจำหน่ายไปได้ไม่กี่เดือน Valve ก็ประกาศภาคต่อของเกมออกมาทันทีและวางจำหน่ายในเดือนเดียวกันอีกด้วย
แน่นอนว่าเรื่องนี้สร้างความกังขาให้กับเกมเมอร์บางส่วน(และรวมไปถึงตัวของผู้เขียนเอง) ที่มองว่าการมาของ Left 4 Dead 2 นั้นยัง”เร็วเกินไป” เพราะเป็นเวลาเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้น แถมตัวละครหลักในภาคที่สองก็ดูไม่มีเสน่ห์น่าดึงดูดนักเมื่อเทียบกับเหล่าสี่สหายในภาคแรก(อาจจะเพราะเรายังไม่ได้เห็นลักษณะนิสัยหรือผูกพันกับพวกเขานั่นแหละ ก็เลยพูดแบบนั้นไปก่อน)
เรียกว่าประกาศเปิดตัวมาช่วยแรก หลายคนก็ตั้งแง่กับตัวเกมมากมาย จนหลายคนบอกว่าเกมภาคนี้อาจจะเจ๊งได้เลย
แต่หลังจากที่ Left 4 Dead 2 วางจำหน่าย มันก็ได้รับความนิยมอย่างสูงไม่แพ้ภาคแรก ด้วยลูกเล่นใหม่อย่างอาวุธแบบ Melee Weapon ที่ไม่ต้องมีกระสุนก็ตีศัตรูจนยับได้ แผนที่ของเกมที่ออกแบบมาดีมากจนน่าทึ่งว่าใช้เวลาเพียงปีเดียวในการสานต่อ รวมไปถึงปรับสมดุลในการเล่นที่เคยมีมาและเพิ่มโหมดใหม่เข้าไป พร้อมบทพูดมากมายที่ตั้งใจทำมาเป็นอย่างดี ทำให้หลายคนที่เคยพูดว่าร้ายก่อนเกมออกนั้นต้องยอมกลืนน้ำลายขอตัวเองกันเลย เพราะตัวเกมนั้นทำออกมาได้ดีจริง ๆ
และที่สำคัญทั้งอาวุธและซอมบี้พิเศษแบบใหม่ก็ล้วนมีการออกแบบที่ยอดเยี่ยม ทั้ง Spliter และ Jocky ต่างก็เป็นซอมบี้พิเศษที่มีพิษสลร้ายกาจถ้าเลือกจัดการเป้าหมายในจุดที่เหมาะสม และบีบให้ผู้เล่นฝ่ายผู้รอดชีวิตต้องเล่นแบบระวังตัวมากขึ้น เรียกว่าเป็นภาคที่ออกมาเพื่ออุดจุดอ่อนที่เคยมีของภาคแรกให้เกมสมบรูณ์ขึ้นไปอีก ด้วยระยะเวลาที่น่าทึ่งเพียงหนึ่งปีเท่านั้นอีกด้วย
ถ้าแค่ฉากหลัก 5 ฉากนั้นยังไม่พอ Valve ยังมีการอัปเดตตัวเกม เพิ่มเนื้อหาใหม่ ๆ ให้เล่นให้ติดตาม หรือโหมดการเล่นพิเศษในช่วงเทศกาลที่ออกแบบมาดีไม่แพ้กัน เช่น Mutation หรือโหมด Arcade ที่มีความหลากหลายมากมาย เรียกว่าช่วยปลุกกระแสและผู้เล่นทั่วโลกให้ติดหนึบกับเกมการเล่นที่เต็มไปด้วยความสนุกแบบไม่รู้เบื่อของเกมซอมบี้ขึ้นมาให้ชุ่มชื้นอีกครั้ง
และที่ทำให้ตัวเกมสามารถต่อชีวิตมีลมหายใจมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็คือชุมชนผู้สร้าง Mod อันใหญ่โตของเกม ที่ส่ง Mod แสนสนุกมาให้ผู้เล่นเพลิดเพลินมากมายจนเล่นไม่หมด ทั้งแผนที่อันใหญ่โตและหลากหลาย โมเดลตัวละครจากการ์ตูนหรือเกมอื่นก็มีการสร้างและใส่มาเพียบ เรียกว่าเอาแค่โหลด Mod แผนที่มาลงเล่นในเครื่องวันละชิ้นก็น่าจะเล่นไปได้อีกหลายปีหลังจากนี้กันเลย
ความสำเร็จของ Left 4 Dead ไม่ได้หยุดอยู่แค่คำชมจากผู้เล่นและนักวิจารณ์เท่านั้น ยอดขายของมันก็เรียกว่าถล่มทลายไม่แพ้กัน ในปี 2012 Chet Faliszek หนึ่งในทีมพัฒนาเกมได้ยืนยันว่ายอดขายของซีรีส์ Left 4 Dead นั้นทำไปได้มากกว่า 12 ล้านชุดแล้ว หลังจากที่ในปี 2011 ก็มีการเผยว่าตัวเกมในแต่ละภาคขายไปแล้วมากกว่า 3 ล้านชุด เรียกว่ามียอดขายเพิ่มขึ้นมาถึงสองเท่าจากของเดิมภายในเวลาแค่ปีเดียว
ปัจจุบันนี้ Left 4 Dead 2 ก็ยังคงเป็นเกมที่มีผู้เล่นเหนียวแน่นบน Steam แม้ในคอนโซลยุคใหม่จะไม่มีการสานต่อมาให้เล่นก็ตาม แถมชุมชนผู้สร้าง Mod เองก็ยังมีการสร้างสรรค์ผลงานใหม่ ๆ ออกมาให้ได้เล่นกันอีกมากมายนับไม่หมด และยังมีความสนุกแบบที่แตกต่างออกไปเมื่อเอามาเล่นกับเพื่อกลุ่มใหม่ ๆ แบบที่ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก หรือเล่นกับเพื่อนกลุ่มเก่าเพื่อซึมซับช่วงเวลาดี ๆ ที่เคยมีให้กันมาก็ได้อีกเหมือนกัน
Left 4 Dead 2 เปรียบเสมือนรากฐานที่เกมแนว Co-op อื่น ๆ หยิบมาต่อยอดมากมายจนถึงทุกวันนี้ และเป็นเกมที่ช่วยจุดกระแสให้เกมอื่น ๆ ในแนวเดียวกันออกมามากขึ้นในเวลาต่อมา เรียกว่าถ้าไม่มีเหล่าสี่สหายตะลุยดงซอมบี้ในวันนั้น เกมแนว Co-op ก็อาจจะไม่ได้มีรูปร่างและแนวการเล่นแบบที่เราคุ้นเคยมาจนทุกวันนี้ก็เป็นได้ครับ
