BY StolenHeart
15 Nov 19 1:25 pm

รำลึก 8 ปี The Elder Scrolls V: Skyrim เกมผู้เป็นตำนานและ Meme บนโลกออนไลน์

258 Views

วันที่ 11 พฤศจิกายนปี 2011 ถือเป็นวันที่เหล่าเกมเมอร์ทั่วโลกต่างจดจำกันได้ไม่ลืม เพราะมันคือวันวางจำหน่ายของสุดยอดเกม Action RPG แบบ Open World ระดับสุดยอดของ Bethesda เป็นเกมที่สร้างปรากฏการณ์มากมาย เปิดตัวได้อย่างยิ่งใหญ่และอลังการ และกลายเป็นเกมที่ถูกนำมาวางจำหน่ายใหม่มากที่สุดเกมหนึ่งในประวัติศาสตร์

เกริ่นมาขนาดนี้ ทุกคนต้องรู้กันอยู่แล้วว่านี่คือเกมอะไร ซึ่งมันก็คือ The Elder Scrolls V: Skyrim นั่นเอง

ทำไม Skyrim ถึงพิเศษกว่า The Elder Scrolls ภาคอื่น?

เพราะมันเป็นภาคที่เทพที่สุด ก็ถูก…

เป็นภาคที่มีอะไรน่าจดจำมากที่สุด ก็ถูก…

และเป็นภาคที่มีเรื่องราวและถูกนำไปทำเป็น Meme บนโลกออนไลน์มากที่สุด ก็ถูกอีก!

แถมที่สำคัญก็คือตัวเกมนั้นมีการออกวางจำหน่ายมาหลายเวอร์ชั่นมาก ตั้งแต่บน PC, PS3, Xbox 360 มาจนถึงยุคใหม่อย่าง PS4, Xbox One, Nintendo Switch แถมยังมีการอัพเกรดเป็น Special Edition ที่อัพเกรดกราฟฟิกและเอฟเฟกต์อื่น ๆ ให้สวยงามตามยุคสมัยโดยไม่ต้องพึ่งพา Mod จนถึงขนาดที่เกมเมอร์เอามาแซวกันว่า คงเหลือเพียงแค่บนรถยนต์เท่านั้นที่ยังไม่มี Skyrim ให้เล่น

แม้เนื้อเรื่องของเกมจะไม่ได้แหวกกรอบจากภาคที่ผ่าน ๆ มานัก ผู้เล่นจะได้รับบทเป็นนักโทษที่กำลังจะถูกประหากจากข้อหาที่ไม่ชัดเจน ในระหว่างที่กำลังจะถูกประหาร มังกรแห่งความชั่วร้ายก็ปรากฏกายออกมาจัดการทุกคนจนเกลี้ยง แต่ตัวเอกก็สามารถรอดมาได้พร้อมกับไปฝึกวิชา(หรือพูดง่าย ๆ คือไปรับพรมาจากเทพ) เพื่อมาจัดการกับเหล่ามังกรจอมโฉด และพบว่าตัวเองมีความสามารถในการดูดซับพลังของมังกรมาเป็นของตน หรือที่เรียกว่า Dragon Born นั่นเอง และการผจญภัยเพื่อปลดแอดดินแดน Skyrim จากหายนะก็เริ่มขึ้น

ตามสไตล์ของ The Elder Scrolls ที่เนื้อเรื่องหลักของเกมนั้นค่อนข้างจะสั้นเสียหน่อย แต่ที่เป็นเสน่ห์ที่หลายคนหลงใหลก็คือบรรดาเควสเสริมที่มีจำนวนมหาศาลและน่าดึงดูดมากกว่าเควสหลักของเกมเสียอีก(อะไรนะ? ปราบมังกรใจทรามเหรอ? ใครเขาสนใจกันล่ะ) ไม่ว่าคุณจะเข้าไปทำเควสให้กับเหล่านักรบ นักเวทย์ สมาคมโจรย่องเบา หรือนักฆ่า Dark Brotherhood ก็ดูจะน่าดึงดูดกว่าหลายเท่า พร้อมด้วยดันเจี้ยนและเควสจากชาวบ้านหรือเทพ Daedra ก็บันเทิงเริงใจกว่าเป็นไหน ๆ

ซึ่งถ้าว่ากันตามตรงแล้ว The Elder Scrolls เริ่มที่จะได้รับความสนใจจากเหล่าเกมเมอร์ทั่วไปที่ไม่ใช่คอ RPG มาตั้งแต่ภาค Oblivion แล้ว

หลังจากที่มีการประกาศว่าตัวเกมนั้นถูกปรับระบบการเล่นต่าง ๆ ให้ดูเข้าถึงได้ง่ายขึ้น กราฟฟิกที่ล้ำหน้ายิ่งกว่าเกมอื่น ๆ ในตลาด และเนื้อเรื่องสไตลืแฟนตาซีอันน่าตื่นตาตื่นใจ ก็ไม่น่าแปลกใจที่กระแสตอบรับที่มีต่อ Skyrim จะเป็นไปในแง่บวกอย่างที่คาดกัน

แถมด้วยระบบการเล่นที่น่าสนใจและแหวกกรอบเกม RPG อื่น ๆ ก็คือผู้เล่นจะมีการอัพเลเวลได้จากการเพิ่มพูนทักษะของตนเองด้วยการทำอะไรซ้ำ ๆ เช่นอย่างเก่งดาบ ก็ต้องฟันให้โดนศัตรูบ่อย ๆ อยากเก่งเวทย์ชนิดไหน ก็ใช้เวทย์ชนิดนั้นไปเรื่อย ๆ เมื่อขึ้นจนครบก็จะเข้าสู่เลเวลใหม่ ยิ่งสายไหนอัพมาเยอะ ก็จะมีสิทธิ์เลือก Perk หนุนให้ตัวเองเก่งขึ้นไปอีกได้ด้วย และอาวุธกับชุดเกราะเองก็สามารถตีบวกเพิ่มพลังได้อีก เรียกว่าอยากเก่งแบบไหน ก็สร้างเอาเองได้เลย

และตามสไตล์เกมของ Bethesda ที่อุดมไปด้วย Mod คุณภาพมากมาย

จากการประกาศสนับสนุนการใช้ Mod อย่างเป็นทางการของทางผู้พัฒนาเอง ทำให้เราได้เห็น Mod คุณภาพมากมายทั้งแบบปกติ ๆ ไปจนถึงเหนือสามัญสำนึก(และใช่ ผู้เขียนหมายถึง Mod พวกนั้นด้วย ฮา) แม้ตัวเกมจะมีขนาดแค่ไม่กี่ GB แต่ถ้าถูกเติมแต่งเข้าไปด้วย Mod มันก็อาจจะกลายเป็นเกมใหม่ที่น่าสนใจ มีภาพสวยยิ่งกว่าเดิม และระบบการเล่นที่เสถียรมากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับเนื้อที่ในการติดตั้งมากขึ้นไปอีก จนน่าจะถึงระดับ 100GB หรือ HDD เต็มกันได้เลย

นอกจากจุดแข็งอันยิ่งใหญ่อย่างที่กล่าวมาแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่น่าจดจำไม่แพ้กันก็คือความเป็น Meme ของมัน

มีหลายจุดในเกมที่ผู้เล่นจดจำได้เป็นอย่างดีจนถูกหยิบเอามาล้อกันในโลกออนไลน์มากมาย เช่นวลี “ธนูปักที่เข่า” อันโด่งดัง เสียงตะโกน Fus Ro Dah หรือขนม Sweetrolls ต่างก็เป็นมุกที่ถูกหยิบมาเล่นหลายรอบจนถึงทุกวันนี้ แม้เกมจะออกมานาน แต่มุกจาก Skyrim ก็ยังเป็นสิ่งที่สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากพวกเราได้เสมอ และคงเป็นไปอีกนาน

Skyrim ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่เกมที่ยังคงมีผู้เล่นในจำนวนที่สูงมากจนถึงตอนนี้ แม้จะผ่านมา 8 ปี แต่จำนวน Mod และยอดขายก็ยังอยู่ในระดับที่ขายออกเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะวางจำหน่ายบนระบบไหน และเชื่อว่าในยุคหน้าที่ PS5 และ Xbox Scarlet วางจำหน่าย เราก็ต้องได้เห็นเกมนี้วางขายมาอีกแน่นอนแบบไม่ต้องสงสัย เพราะ Bethesda เองก็เคยบอกเองว่า ถ้าคุณไม่ชอบ ก็หยุดซื้อสิ เราถึงเลิกขาย ซึ่งก็คงเป็นไปได้ยากแน่นอน

ส่วนใครที่ไม่เคยเล่นหรือเคยสัมผัสซีรีส์นี้มาก่อน ก็สามารถหามาเล่นได้เลยในเกือบทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งถึงแม้ราคาในช่วงปกติจะแพงสักหน่อย แต่ตัวเกมก็มีการลดราคาที่ค่อนข้างบ่อยอยู่แล้ว ถือเป็นอีกหนึ่งเกมที่ขายดีไม่แพ้ใครในช่วงเทศกาลกันเลย และSkyrim เองก็เป็นเกมที่เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่เคยสัมผัสกับเกม RPG สไตล์ตะวันตกอีกด้วย เพราะมันย่อยง่าย เล่นสนุก และมีเรื่องราวให้ค้นหามากมาย

ถ้าได้ลองแล้วรับรองว่าติดหนึบติดใจ เหมือนอย่างที่ผู้เขียนแล้วเกมเมอร์ทั่วเคยได้เจอมาแล้วเมื่อ 8 ปีก่อนอย่างแน่นอนครับ

Putinart Wongprajan

เค้ก - Content Writer

Back to top