Metroidvania พูดถึงเกมแนวนี้ อาจจะเป็นเกมที่ใครหลายคนชื่นชอบ เพราะคอนเทนต์ของเกมที่แน่น คุ้มค่าเกินราคา และสืบทอดมาจากแนวเกมยุคเก่าอย่างเกมจำพวก Castlevania ในยุคหลัง ๆ นี้เราจึงเห็นเกมแนวนี้ออกมามากมาย ENDER LILIES: Quietus of the Knight คือหนึ่งในนั้น ซึ่งจากลองสัมผัสมาด้วยตัวเองแล้ว ทำให้เรารู้ว่าเกมนี้มีดีเกินราคาไปไกลมาก และวันนี้ขอเชิญทุทก่านพบกับความยอดเยี่ยมของเกมนี้ในบทความรีวิวเกมตัวนี้ของเรากัน
Story
นานมาแล้ว ในดินแดนอันไกลโพ้นที่มีชื่อว่า Land’s End สายฝนปริศนาได้เปลี่ยนสิ่งมีชีวิตเกือบทั้งหมดให้กลายเป็นสัตว์ประหลาดที่บ้าคลั่ง โดยมันถูกเรียกว่าพวก Blighted อาณาจักร Land’s End ค่อย ๆ พินาศสิ้นเพราะผลของสายฝนมรณะ และฝูง Blighted แต่แล้วในส่วนลึกของโบสถ์ ตัวเอกของเราคือ Lily เด็กสาวปริศนาก็ตื่นขึ้น เธอคือทายาทคนสุดท้ายของนักบวชหญิงที่มีความสามารถในการชำระล้างวิญญาณ และนำมาเป็นพวกพ้องคอยช่วยสู้ การเดินทางเพื่อกอบกู้อาณาจักรแห่งนี้จึงเริ่มต้นขึ้น
ปกติแล้วเกมแนว Metroidvania แบบนี้ จะมาด้วยเนื้อเรื่องสุดซับซ้อน ซึ่ง ENDER LILIES เองก็ไม่ต่างกัน แม้ว่าภาพรวมของเนื้อเรื่องจะไม่ยากเกินทำความเข้าใจ แต่หากคุณเป็นสายเล่นเกมแบบไถผ่านไป หรือเล่นเอามัน ลุยดะให้จบอย่างเดียว คุณอาจจะจบเกมโดยที่ไม่รู้เลยว่ามันเกิดเรื่องราวอะไรขึ้นในโลกของเกมนี้บ้าง เพราะหลายสิ่งหลายอย่างถูกเล่าผ่าน Note ของเกม หรือบางเนื้อหาสำคัญก็เล่าผ่านคัทซีนที่บังคับไม่ให้เรา Skip ได้ด้วย หรือบางทีเราก็๗ะไปสำรวจเจอด้วยตัวเองเลยเช่นกัน
การเล่าเรื่องของเกมนี้จึงค่อนข้างเป็นงานศิลป์พอสมควร ใครที่ขี้เกียจ มาเพื่อเล่นอย่างเดียว ก็บอกได้แค่ว่า มันไม่ผิด แต่มันน่าเสียดายที่เราจะไม่ซึมซับอะไรเลยนอกจากเกมเพลย์ เพราะทุกอย่างของเกมนี้ทำออกมาได้ค่อนข้างดี เนื้อเรื่องก็ถือว่าเข้มข้น ดาร์ค และชวนติดตาม เพียงแต่เพราะการนำเสนอของมัน อาจทำให้ใครหลายคนไม่อินด้วย
เราขอบอกไว้ตรงนี้ว่า เกมมีฉากจบทั้งหมด 3 แบบ แต่จะเล่นแบบไหน ได้ฉากจบแบบไหน เราขอไม่สปอยล์ เพราะเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกท่านควรจะเดินทางไปพบเจอด้วยตัวเอง
Presentation
ENDER LILIES เป็นเกมที่นำเสนอในรูปแบบ 2D Side Scroller ด้วยความเป็นเกมมุมมองด้านข้าง ทีมงานจึงต้องออกแบบงานศิลป์มาให้สามารถซึมซับได้เพียงแค่การเดินไปซ้ายกับขวา (และขึ้นบนลงล่าง) แต่ไม่น่าเชื่อว่าเกมนี้สามารถถ่ายทอดบรรยากาศของเกมออกมาได้อย่างสวยงาม ไม่แพ้เกมอื่น ๆ เลย ด้วยฉากหลังที่ดูมีมิติ บางฉากสวยจนอยากยืนอยู่เฉย ๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศ และกดแคปภาพหน้าจอเป็น Screenshot สวย ๆ เอาไว้
และการใช้ตัวเอกเป็นเด็กสาวเอวบางร่างน้อย ผิวขาว ก็ส่งผลกระทบต่อผู้เล่นตรงที่เราแทบจะไม่อยากให้ตัวละครของเราโดนโจมตีจนได้รับบาดเจ็บหรือตายเลย ออกแนวน่ารัก น่าเอ็นดู ก็อาจทำให้ใครหลายคนอินกับเกมนี้ได้ง่ายมากขึ้นไปอีก
ส่วนที่ผู้เขียนชอบเป็นพิเศษในหมวดของการนำเสนอนี้ คือเกมนี้จะใช้ระบบคล้าย ๆ กับ Bon Fire ของ Dark Souls คือเมื่อเราไปถึงจุด Checkpoint แต่ละสถานที่จะไม่เหมือนกัน บางทีก็เป็นม้านั่งเก่า ๆ บางที่เป็นเตียงนอน บางที่เป็นเก้าอี้หรู ๆ ซึ่งเมื่อเรากดนั่ง เกมจะฟื้นคืนพลังชีวิตและจำนวนยาที่เรากดใช้ได้ทั้งหมดให้ แต่ศัตรูรอบตัวก็จะเกิดใหม่ด้วย แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าได้พักผ่อน ได้เซฟเกมจริง ๆ คือเมื่อเรากดนั่งพักที่จุด Checkpoint วิญญาณต่าง ๆ ที่ได้รับการชำระล้างแล้ว จะปรากฎกายออกมาคุ้มกันอยู่ข้าง ๆ เราด้วย รู้สึกอบอุ่น และทำให้เราอินกับเกมได้มากจริง ๆ
ด้วยความที่เกมนี้เป็นแนว Metroidvania แผนที่จะสลับซับซ้อน และในช่วงแรก จะมีหลากหลายเส้นทางที่เรายังไม่สามารถเปิดทางเพื่อไปต่อได้ ต้องเล่นไปเรื่อย ๆ ก่อน แล้วเราจะได้สกิล หรือความสามารถใหม่ ๆ เพื่อนำมาเปิดเส้นทางเหล่านี้ในภายหลัง ดังนั้นเกมนี้ การย้อนกลับมาสำรวจเส้นทางเก่า จึงเป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ เพราะบางทีทางไปต่อก็ต้องวนกลับมา หรือใครที่ช่างสำรวจ ก็จะได้พบไอเทมใหม่ ๆ หรือโน้ตใหม่ ๆ ให้อ่านซึมซับเรื่องราวมากมาย
ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือเรื่องของเพลงประกอบที่ได้ Mili ผู้เคยมีผลงานทำเพลงเปิดตัวของ Goblin Slayer หรือแม้แต่ Ghost in the Shell มาช่วยทำเพลงประกอบ ทำให้แต่ละฉากของเกมนี้มีเพลงประกอบที่ได้อารมณ์เป็นอย่างมาก ช่วงพักก็คือสบายใจ ผ่อนคลาย ช่วงสู้ก็ระทึก ตื่นเต้นปนหลอนผวา เป็นอีกส่วนหนึ่งของเกมที่ต้องชื่นชมจริง ๆ
หากคุณเป็นคนหลงทางง่าย ก็อาจจะปวดหัวกับแผนที่ที่สลับซับซ้อนแบบนี้ แต่สำหรับใครที่ชื่นชอบการสำรวจ การหาเส้นทางลับที่ซ่อนอยู่ในแต่ละฉาก เอาแค่เดินสำรวจฉากก็ทำให้คุณผลาญเวลาได้หลายสิบชั่วโมงแน่นอนแล้ว ดังนั้นเทียบกับราคา คอนเทนต์ที่เกมนี้ให้มา อิ่มแน่นอน
Gameplay
เกมเพลย์ของ ENDER LILIES นั้น ก็แทบจะครบสูตร Metroidvania แบบ 2D ผู้เล่นจะได้เจอทั้งการต่อสู้ที่มีความยากในระดับหนึ่ง รวมไปถึงการไขปริศนาและรวบรวมไอเทมต่าง ๆ
ตัวเอกของเราอย่าง Lily เป็นเพียงสาวน้อยร่างบางที่ไม่มีอาวุธใด ๆ แต่นางจะมีร่างวิญญาณคอยช่วยเหลืออยู่ข้างกายตลอด ร่างวิญญาณพื้นฐานเลยคือ Umbral Knight ที่น่าจะเป็นการโจมตีหลักที่เราจะได้ใช้กันไปตลอดทั้งเกม ในการฆ่าศัตรูแต่ละคน ผู้เล่นจะได้รับค่า EXP ที่จะอัพเลเวลให้เองเมื่อสะสมจนเต็ม ทุกครั้งที่เลเวลอัพ ค่าพลังโจมตีของเราจะสูงขึ้น สิ่งที่จะทำให้ตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้นคือ Spirit และ Relic ใหม่
สำหรับ Spirit หรือร่างวิญญาณที่จะมอบพลังใหม่ให้กับเราเสมอ ส่วนใหญ่แล้วร่าง Spirit จะสามารถหามาใช้ได้โดยการจัดการกับศัตรูตั้งแต่พวกมินิบอสไปจนถึงบอส เราสามารถเลือกติดตั้ง Spirit พร้อมกันได้ 3 อย่างต่อ 1 ชุด และชุดสกิลจะมีทั้งหมด 2 ชุด ซึ่งสามารถกดสลับใช้งานระหว่างการต่อสู้ได้ ร่างวิญญาณแต่ละแบบจะมาพร้อมขีดจำกัดการใช้งานสกิลที่ต่างกันไป เมื่อใช้จนหมดเราก็จะไม่สามารถกดใช้งานสกิลนั้นต่อได้ เราสามารถเติมสกิลได้ ด้วยการกลับไปนั่งพักที่จุด Checkpoint หรือมองหาฐานดอกบัวสีแดง
อีกส่วนคือ Relics สิ่งนี้จะทำให้ค่าสเตตัสของตัวละครสูงขึ้น และเพิ่มรูปแบบการโจมตี หรือการเคลื่อนไหวใหม่ ๆ ได้ด้วย และเป็นสิ่งจำเป็นมาก เพราะบางฉากจำเป็นต้องใช้ Relics ช่วยในการผ่านไป เช่น ช่วงแรกเราไม่อาจลงไปว่ายน้ำหรือเคลื่อนที่ในน้ำได้ แต่เมื่อเล่นไปสักพักก็จะปลดล็อคมาใช้งาน แต่ Relics บางอย่างนั้น อยู่ในส่วนลับของแผนที่ ซึ่งต้องอาศัยการค้นหาและการสำรวจของผู้เล่นเอง ยิ่งค้นหาเจอเยอะ ตัวละครเราก็จะยิ่งแข็งแกร่ง และมีลูกเล่นกันโจมตีที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น แต่การจะติดตั้ง Relics นั้นก็มีข้อจำกัด ในช่วงแรกผู้เล่นอาจติดตั้งได้เพียงไม่กี่ชิ้น ต้องออกตามหาไอเทมปลดล็อคการใส่ Relics ด้วย
ส่วนของระบบการต่อสู้ หากให้พูดถึงเกมที่คล้าย ๆ กันก็อาจจะเป็นพวก Hollow Knight, Salt & Sanctuary การต่อสู้ของเกมนี้ จะไม่มี Stamina มาเป็นตัวกำหนด แต่คุณจะได้รับการโจมตีจากศัตรูอย่างหนักหน่วงมาก ๆ เรียกได้ว่าโอกาสพลาดนั้นมีน้อยเหลือเกิน การโจมตีบางอย่าง โดนไปทีเดียวยังเกือบตายเลยก็มี ดังนั้นแม้มันจะไม่ยากระดับ Dark Souls แต่มันก็ไม่ใช่เกมที่คุณจะมานั่งเล่นแบบชิลล์ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุด Checkpoint ที่ห่างกันพอสมควร การลุยไปข้างหน้า ด้วยยาฟื้นพลังที่มีจำกัด และโดนโจมตีให้น้อยที่สุดเพื่อเซฟชีวิต จึงเป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนของ Boss Fight นั้น ต้องบอกว่าไม่ยากเท่าไร เพราะการโจมตีของบอสแต่ละตัวนั้น จะมีรูปแบบการโจมตีที่ชัดเจนมาก เราแค่ต้องเรียนรู้ จากนั้นทุกอย่างก็จะง่าย หากว่ากันตามตรงแล้ว เมื่อเรียนรู้การโจมตีของบอสจนครบทุกท่าน ทุกเฟสแล้ว การตะลุยฉากทั่วไปยังอาจจะยากกว่าด้วยซ้ำ แต่ส่วนของ Boss Fight นั้น ยังมีความท้าทายเรื่องความนิ่งของจิตใจด้วย ถ้าเราลนลาน กดหลบไวไป ใจร้อนนิดหน่อย ก็อาจเป็นจุดจบของตัวละครเราได้เหมือนกัน
Performance
ประสิทธิภาพของ Unreal Engine 4 ไม่เคยทำให้เราผิดหวังอยู่แล้ว และด้วยความที่ตัวเกมเป็นเพียง 2D Side Scroller คอมพิวเตอร์ยุคนี้ เล่นกันได้ทุกเครื่องอย่างแน่นอน ส่วนของบั๊กหรือการแสดงผลผิดพลาดนั้น ตลอดเวลาการเล่นก็แทบไม่เจอให้เห็นเลย และยังต้องชื่นชมในส่วนของ Setting ตั้ง ๆ ที่มีให้เลือกปรับอย่างมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นการสั่นของมุมกล้องตอนโดนดาเมจ การตั้งค่าแสดงผลต่าง ๆ ของศัตรู หรือแม้แต่การปรับให้เราเลือกได้ว่า เวลาสลับ Loadout ของสกิลและอาวุธ จะให้เป็นกดค้างหรือกดทีเดียว ถือว่าทำการบ้านด้านความละเอียดมาพอสมควร ในด้านประสิทธิภาพ ENDER LILIES สอบผ่านแทบจะทุกอย่าง ซึ่งก็เป็นมาตรฐานของเกมแนวนี้แน่นอนอยู่แล้ว
สำหรับแฟนเกม Metroidvania ที่ชื่นชอบการผจญภัย การค้นหา สืบเสาะเส้นทางใหม่ ๆ ENDER LILIES: Quietus of the Knight เป็นอีกเกมคุณภาพที่รับประกันได้ว่ามันจะคุ้มราคาแทบจะทุกบาททุกสตางค์ที่คุณจ่ายไป ด้วยขนาดของเกมที่ใหญ่พอ ดนตรีประกอบและการออกแบบที่งดงามและไพเราะ การต่อสู้ที่หาจุดลงตัวได้ระหว่างความยากกับความท้าทาย และเนื้อเรื่องที่ชวนติดตามไปจนถึงการได้ฉากจบแต่ละแบบที่ชวนให้ผู้เล่นทำทุกอย่างในเกมให้ถึงที่สุด นี่คืออีกผลงานเกมคุณภาพประจำปี 2021 นี้เลยก็ว่าได้