ผิดคาดจากที่คิดไว้ เพราะนี่เป็นอีกหนึ่งเกมคุณภาพต้อนรับปี 2024 กันเลยทีเดียว เพราะอะไรมันถึงเป็นแบบนั้น ขอเชิญพบกับ Prince of Persia: The Lost Crown Article Review
Story
ในประเทศแห่งหนึ่งจักรวรรดิ Kushan ที่อดทนต่อความแห้งแล้งอดอยากและทุรกันดารไม่ไหว อาณาจักรนี้เลือกกรีฑาทัพบุกโจมตีอาณาจักร Persia แต่อาณาจักร Persia เองก็มีกลุ่มสุดยอดนักรบอย่าง The Immortals ที่ออกโรงปกป้องอาณาจักรเอาไว้ หนึ่งในสมาชิกกลุ่มก็คือ Sargon ตัวเอกของเกมภาคนี้ และในขณะที่พวกเขากำลังเลี้ยงฉลองที่ป้องกันอาณาจักรเอาไว้ได้ เจ้าชายกลับถูกบุกมาลักพาตัวไปถึงที่ แถมคนที่หักหลังดันเป็นอาจารย์ของ Sargon ซะเอง ภารกิจของกลุ่ม The Immortals รอบนี้คือการบุกไปชิงตัวเจ้าชายกลับมาให้ได้ และการผจญภัยของ Sargon จึงเริ่มต้นขึ้น
ฟังดูเนื้อเรื่องอาจจะผิวเผิน ไม่มีอะไรมาก แต่เนื้อเรื่องเกมนี้มีความลึกลับซับซ้อนอยู่เยอะพอสมควร และมันจะค่อย ๆ เฉลยเรื่องราวเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ แม้ว่าบทเกมแบบนี้ อาจจะไม่ได้สดใหม่ แต่จังหวะจะโคนที่เขาใช้ในการบอกเล่าเรื่องราว รวมไปถึงเฉลยเนื้อหา ตรงนี้เขาทำดีมาก รวมไปถึงการค่อย ๆ คลายปมอะไรบางอย่าง การเขียนบทให้ตัวละครแต่ละตัวดูมีเหตุผล มีเอกลักษณ์ของตัวเอง และยิ่งพอเล่นไปเรื่อย ๆ กลิ่นอายความเป็น Prince of Persia ก็จะยิ่งชัดขึ้น หลายคนอาจจะไม่ชอบที่เราดันไม่ได้เล่นเป็นเจ้าชายซะอย่างนั้น แต่พอเล่นไปจนจบแล้ว เราจะเข้าใจ ว่าทำไมภาคนี้ถึงใช้ชื่อว่า The Lost Crown
และยังมีช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นการหักมุมซ้ำซ้อนอยู่เหมือนกัน ถึงแม้จะมีเบาะแสชี้นำว่าเรื่องราวน่าจะเป็นแบบนี้ แต่ตอนเฉลย กลับเป็นอีกแบบหนึ่ง หรือบางที มันก็เป็นแบบที่เราคิด แต่มีใจความสำคัญที่ซับซ้อนกว่านั้นให้เราได้ทำความเข้าใจ นี่เป็นเกมแรกที่บทสนทนาในเกมนั้น น่าอ่านแทบจะทุกประโยค ทุกบรรทัด เพราะอยากรู้ว่าเรื่องราวมันจะเป็นยังไงต่อ แถมยังมี Collectible Item อีกมากมายที่เป็นการเสริมเนื้อหาต่าง ๆ ให้กับโลกของเกมภาคนี้ อันนี้ใครอยากอ่านก็จัดไป แต่ใครจะไม่สนใจ ไม่ตามเก็บ ก็ได้อีกเหมือนกัน เพราะเนื้อหาหลักของมัน ถือว่าครบถ้วนสมบูรณ์แบบมาก การตามเก็บอะไรพวกนี้จะช่วยเสริมเรื่องราวให้มันเท่านั้น และจังหวะการดำเนินเรื่องก็ดีซะด้วย คือมันอาจจะไม่ใช่พล็อตสุดตื่นเต้น ระทึก หักมุม แต่จังหวะจะโคนการเล่าเรื่อง การเขียนบท อันนี้ทำดี ก็ถือว่าส่วนของเนื้อเรื่องเกมนี้ สมบูรณ์แบบอย่างคาดไม่ถึงจริง ๆ
Presentation
เดินไปข้างหน้า หาคีย์ไอเทม ถอยกลับมา เพื่อเข้าสู่ทางใหม่ นี่คือสไตล์และหัวใจของเกมแนว Metroidvania แนวเกมยอดนิยมที่มักจะมาในรูปแบบของเกมอินดี้ แต่สำหรับ The Lost Crown นั้น ก็จัดว่าเป็นเกมทุนสูงเกมหนึ่ง และอยู่ภายใต้การดูแลจัดการโดย Ubisoft ดังนั้นนี่คือโอกาสสำคัญที่เราจะได้เห็นว่า ถ้าเป็นค่ายใหญ่หยิบเกมแนวนี้มาทำจะเป็นยังไง
อย่างแรกคือเรื่องของขนาดแผนที่และโลกภายในเกมที่ต้องบอกว่ามันเยอะมากและใหญ่มาก ๆ และมันจะมีการแบ่งโซนเป็นพื้นที่เหมือนกันกับเกม Metroidvania เกมอื่น ๆ จะเรียกว่ามันแบ่งออกเป็น Biome ก็ว่าได้ แต่ละ Biome จะมีเหล่าศัตรูที่ต่างกัน และที่ยิ่งกว่าศัตรูคือเรื่องของ Platformer หรืออุปสรรคที่เป็นฉากนั่นเอง ขอบอกเลยว่าเกมนี้ มีอุปสรรคแบบ Platformer ที่เจ๋ง ท้าทาย และยอดเยี่ยมมาก ๆ เอาไว้เราจะพูดถึงกันในช่วงเกมเพลย์ แต่เราบอกเลยว่าฉากและ Platformer ของเกม ที่ต้องบอกเลยว่าทั้งสร้างสรรค์ และหัวร้อนในหลาย ๆ รอบ มันไม่ได้ยากอะไร แต่มันจะเน้นที่ความเป๊ะของจังหวะการกดและการผ่าน หลายฉาก ทำให้เรารู้สึกทึ่งมาก คือตอนออกแบบดีไซน์นี่ เขาคิดได้ยังไง แล้วพอเราเล่นผ่านแบบคลีน ๆ ไม่พลาด ไม่โดนอะไรเลย เราจะรู้สึกว่ามันเท่มาก แต่บางฉากกว่าจะทำได้เนี่ย อาจจะต้องพลาดกันหลายรอบมาก ๆ ถึงจะรู้จุด รู้มุมว่าต้องผ่านแบบไหน บวกกับยิ่งเราได้สกิลและความสามารถที่มากพอ การผ่านแพลตฟอร์มบางช่วงอาจจะง่ายขึ้น แต่บางช่วงจะไปเน้นที่ความแม่นยำแทน
และตามสไตล์ของเกมแนวนี้ เมื่อเราเดินทางไปจนถึงจุดหนึ่งแล้ว เราอาจจะพบว่ามันเป็นทางตันที่เราจะต้องไปหาคีย์ไอเทม หรือไปดำเนินภารกิจหลักจนได้สกิลและความสามารถใหม่มาก่อน จากนั้นทางที่ถูกปิดไว้ ก็จะสามารถเปิดออกได้ และนำพาไปสู่เส้นทางใหม่ ๆ หรือบางทีไม่ต้องเป็นจุดภารกิจหลักหรอก บางอย่างที่ถูกปิดไว้ ถ้าใช้ความสามารถเปิดได้ ก็อาจจะพาเราไปเจอไอเทมสำคัญ ๆ หรือทรัพยากรที่ช่วยทำให้ Sargon ของเราเก่งขึ้นได้ ดังนั้นเกมนี้คุณจะต้องไปหน้ามาหลัง วกกลับไปกลับมาเพื่อสำรวจทุกซอกทุกมุมถ้าอยากเก่งขึ้น หรือจะตรงดิ่งไปทำแต่ภารกิจหลักเลยก็ได้ ถ้าเราคิดว่าแน่พอ ซึ่งมันก็ทำได้เหมือนกัน
อีกส่วนที่ชอบเป็นการส่วนตัวคืออนิเมชั่นการต่อสู้ของเกมนี้ เขาทำได้ดีมาก เวลาเราสู้กับบอส เกมอื่นเวลาเข้าเฟสต่อ ๆ ไปหรือตัดเลือดบอสเยอะ ๆ มันก็จะเป็นท่าพิเศษเท่ ๆ ของเรา เกมนี้ก็ทำเหมือนกัน แต่เขาทำให้มันต่างออกไป คือมันจะเป็นจังหวะ Parry แล้วพอเรากดติด มันจะเข้าสู่ซีนพิเศษที่จะมีท่าเท่ ๆ สังหารศัตรูออกมา และท่าพวกนี้ ใช้กับศัตรูปกติบางตัวได้ด้วยนะ แต่ต้องรอมันใช้ท่าพิเศษเพื่อรอให้เรา Parry ซึ่งจากที่เล่นมาเนี่ย โอกาสที่มันจะใช้ น้อยมาก ๆ สู้ไปเลยให้มันจบ ๆ แต่กับบอสเราได้ใช้บ่อยแน่นอน
สำหรับเกมนี้ คอนเทนต์หลัก ๆ จะไม่มีอะไรมากไปกว่าโหมดแคมเปญเนื้อเรื่ง ที่ใช้เวลาราว ๆ 25-30 ชั่วโมง และอาจจะมากกว่านั้น หากคุณหลงทาง หรืองง แก้ปริศนาไม่ผ่าน ต้องใช้เวลาจดจำและเรียนรู้ ก็อาจจะต้องบวกเข้าไปอีก และหากคุณจะเก็บมันให้ครบทุกอย่างที่มีในเกม ก็อาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้อีกหลายเท่าตัวเลยทีเดียว และถือว่าเซอร์ไพรส์อยู่เหมือนกัน สำหรับเกมที่มาจากค่าย Ubisoft ที่ทำให้เราเห็นว่า การจะลดสเกลลงมาทำเกมเล็ก ๆ เขาก็ทำได้ แถมน่าจะทำได้ดีกว่าเกมฟอร์มยักษ์ AAA ของพวกเขาเองด้วย ตอนแรกเปิดมาในราคา 1500 หลายคนก็อาจตั้งแง่ ว่ามันจะไปรอดไหม มันจะดีแค่ไหน ตอนนี้ได้คำตอบแล้วครับ ยอดเยี่ยมมาก
Gameplay
ส่วนที่สนุกที่สุด มันส์ที่สุดของเกมนี้ก็คือ Gameplay นี่ล่ะ ยอมรับเลยว่าตอนแรกไม่ได้คาดหวังอะไรเลย คิดแค่ว่ามันอาจจะเป็นเกม Metroidvania เดือด ๆ สู้กันง่าย ๆ แล้วจบไป แต่พอได้เล่นจริงแล้ว ไม่ใช่เลย
แม้ดูเผิน ๆ เหมือนจะใช่ แต่สิ่งที่ทำให้เกมนี้แตกต่าง คือทั้งตัวเอก Sargon ของเรา และศัตรูด้วย เอาที่ศัตรูก่อน อย่างที่บอกไป เกมนี้ศัตรูมันไมไ่ด้เงอะงะ ชักช้าเหมือนกับเกมอื่น และมันรู้ด้วยว่าเราจะถอย หรือจะเข้า จังหวะที่เรากระโดดเข้าหาศัตรู มันแทบจะตอบโต้เราทันที อย่างพวกตัวยิงธนูจากระยะไกล ปกติเป็นเกมอื่น พอเราเข้าถึงตัวมัน ก็จะจัดการได้ง่าย ๆ ไม่ก็หลบหนี แต่พอกับเกมนี้ พวกมือธนูมันจะถีบเรารอบนึงก่อน ให้เราเสียจะงหวะ แล้วยิงซ้ำ คือสุดท้ายเราก็โดนดาเมจจนได้ถ้าไม่ระวังให้ดี การเริ่มเล่นเกมนี้ อาจจะต้องเปลี่ยนความคิดไปก่อนเลย ศัตรูง่อย ๆ ถ้าเราไม่ระวัง มันก็ฆ่าเราได้ แม้จะวนกลับมาเจอมันในตอนที่สกิลและความสามารถเราครบเครื่องแล้ว
ในเกมนี้มีหลายวิธีที่จะทำให้ตัวละคร Sargon ของเราเก่งขึ้นได้ อย่างแรกคือระบบ Amulet หรือเครื่องราว เจ้าเครื่องราวนี้เราจะสามารถติดตั้งได้อย่างจำกัด ในช่วงแรกอาจจะใส่ได้ไม่กี่ชิ้น แต่เมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ เราจะเจอไอเทมที่ขยายขีดจำกัดได้ เครื่องรางแต่ละชิ้นจะกินพื้นที่ติดตั้งไม่เท่ากัน ยิ่งออปชั่นดูดีก็ยิ่งกินที่เยอะ แลกมากับการที่เราอาจจะติดตั้งออปชั่นอื่นได้น้อยลง ส่วนไอเทมที่ใช้ขยายพื้นที่ก็ไม่ใช่จะหากันได้ง่าย ๆ ด้วย และเครื่องรางของเรายังสามารถอัปเกรดได้ด้วย เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบออปชั่นใดออปชั่นหนึ่งมาก ๆ แล้วไม่อยากเปลี่ยน ส่วนเครื่องรางใหม่ ๆ จะหาได้จากการผจญภัย เล่นไปเรื่อย ๆ หรือไปเจอพื้นที่ลับเข้า ผมชอบเครื่องรางอันนึงใส่แล้วมันโจมตีแรงขึ้นมาก มากแบบมาก ๆ เอาไปสู้บอสนี่คือแปปเดียวจบ แต่มันทำให้พลังชีวิตเราเหลือ 1 เท่านั้น ก็คือถ้าโดนอะไรก็ตามทีเดียวเท่านั้น คุณบินกลับเช็คพอยท์ทันที เหมือนโหมดความยากลับ ท้าทายและเร้าใจมาก คือเราตีแรง เคลียร์ไวมาก ๆ แต่เราจะไม่มีโอกาสพลาดเลยแม้แต่น้อย ดูฮาร์ดคอร์ดี ใครสนใจลองไปหามาใส่กันดูได้ แต่บอกเลย ตึงมาก
อาวุธของเราในเกมไม่ได้มีแค่ดาบ แต่ยังมีธนู และพลังวิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย วิธีการอัปเกรดนั้นจะต้องใช้แท่งสีเงินที่หาได้ยากมาก ๆ โดยจะใช้อัปเกรดอาวุธสองอย่างคือดาบและธนูของเรา ที่จะทำให้เกมการเล่นสะดวกขึ้น เพราะเราตีได้แรงขึ้น แต่นอกเหนือจากนั้นเราจะได้รับพลังต่าง ๆ มากมาย ทั้งการแดชกลางอากาศ กระโดดสองขั้น การใช้กงจักร และพลังเหล่านี้ มันไม่ได้มาทำให้เราสู้ง่ายขึ้น แต่เราจะต้องใช้ไขปริศนาหรือผ่านแพลตฟอร์มบางช่วงด้วย ขอบอกเลยว่าเกมนี้เกลี่ยความเป็นเกมแอ็คชั่นและเกมไขปริศนาได้ดีมาก ๆ อันไหนบู๊ก็ต้องบู๊จนสุด อันไหนไขปริศนาก็ต้องใช้เวลาสังเกตกันพอสมควรเลยทีเดียว
นอกจากพลังพิเศษก็จะมีหลอดพลังท่าไม้ตาย โดยเราจะค่อย ๆ เรียนรู้ท่าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น แต่ท่าพวกนี้อาจจะต้องคิดสักนิดก่อนกด หลอดท่าพิเศษของเราจะมีสามระดับ ระดับแรกจะกดใช้ท่าโจมตีพิเศษที่รุนแรงมาก ท่าที่สองจะเป็นการวางอาณาเขตฟื้นพลังชีวิต นั่นหมายความว่าหากเราอยากฟื้นเลือดฉุกเฉินตอนที่ขวดยาหมด เราจะต้องใช้หลอดท่าไม้ตายมากถึงสองหลอด มันคุ้มไหมกับการฟื้นพลัง หรือจะยอมกดท่าโจมตีอันรุนแรง ปิดจ๊อบศัตรูให้มันจบ ๆ ไป แต่มันเสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ? ผมว่าเขาบริหารจัดการส่วนนี้ได้ดีมาก
และเมื่อเล่นไปเรื่อย ๆ ความยากของศัตรูก็จะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่เราเล่นมา ราวกับเป็นการย้ำเตือนคนเล่นเสมอว่า เวลาที่คุณแพ้ คุณลืมอะไรไปหรือเปล่า ? เวลาเห็นบอสหรือแพลตฟอร์มนั้น ๆ คุณจำได้หรือไม่ ว่า Sargon ของคุณทำอะไรได้ มันมีบอสอยู่ตัวหนึ่ง ที่คุณจะต้องใช้ทักษะแทบทุกอย่างในการเอาชนะมัน ตอนแรกผมเจอบอสตัวนี้ ผมติดอยู่กับมันเป็นชั่วโมง นั่งสงสัยว่า การโจมตีแบบนี้จะผ่านได้ยังไงวะ แต่พอนึกขึ้นได้ว่า เฮ้ย เรามีพลังนี้นี่หว่า เรา Parry ได้ เราทำแบบนั้นแบบนี้ได้ เท่านั้นแหละ ความสนุก และการโต้กลับก็บังเกิด จนเอาชนะมันได้ บอกเลยว่ามันเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ เวลาที่เราแพ้ ถ้าหัวร้อนนี่เราจะไม่รู้เลยว่าพลาดอะไร แต่ถ้าคิดให้ดี ทบทวนให้ดี เรียนรู้จากความพ่ายแพ้บ่อย ๆ แล้วสวนกลับได้ด้วยพลังที่เรามี แหม สุดยอดจริง ๆ อารมณ์นี้
ตลอดทั้งเกมเราจะได้สัมผัสอารมณ์แบบนี้เยอะมาก แต่ผมจะรู้สึกว่าความยากของบอสบางตัวมันแกว่งไปหน่อย คือบางตัวนี่ต้องงัดทุกอย่างที่เล่นและเรียนรู้มาเพื่อสู้กับมัน แต่พอบอสตัวต่อไป มันดันเป็นบอสธรรมดา ๆ ซะงั้น และ Moveset ของบอสในเกมนี้ก็ง่ายมาก ๆ ตายไม่นานเดี๋ยวก็รู้เองว่าท่าไหนเป็นยังไง แต่มันก็มีบ้าง ที่มันจะมีท่าหลอก หรือเสริมจังหวะการโจมตีเข้ามาจนเราตั้งตัวไม่ทันให้หัวร้อนเล่น แถมพวกศัตรูลูกกระจ๊อกเองก็มีทีเด็ดของมัน มีจังหวะการโจมตีกวนโอ๊ยให้เราเสียเลือดเล่น บอกเลยว่านี่เป็นเกมที่เราจะเอนเบาะนั่งเล่นชิว ๆ ไม่ได้เลย ไม่งั้นมีร้อนกันไปข้างนึงแน่นอน
แต่ฟังถึงตรงนี้ อย่าคิดว่าเกมมันจะยากอะไรขนาดนั้น เพราะเกมนี้เราสามารถตั้งค่าความยากของเกมเพลย์ได้ละเอียดมาก ๆ หากคุณเป็ฯคนชอบบู๊ และรำคาญกับการโดนกับดักหรือแทรปต่าง ๆ ในเกมทำดาเมจจนหงุดหงิด คุณก็ปรับลดดาเมจที่ได้รับจากกับดักไปเลย จะปรับให้ศัตรูเลือดน้อยลงหน่อย แต่ความยากโดยรวมยังเท่าเดิมก็ได้ จะปรับให้เกจพลังพิเศษของเราเติมได้เร็วขึ้นก็ทำได้อีก หรือเราจะเปิดตัวช่วยผ่านแพลตฟอร์มก็ได้ คือกดเข้าประตูมิติไปโผล่อีกด้านหนึ่งเลย มันอาจจะทำให้เกมง่ายเกินไป แต่มันเป็นตัวเลือกระหว่างทางได้ดี คือสมมติเราผ่านไปแล้ว แต่ดันพลาดระหว่างทาง ต้องกลับมาเริ่มใหม่ ไม่อยากกระโดดลุยใหม่อีกรอบ ก็ใช้มันทุ่นเวลาได้ ถือว่าเวิร์คมาก คือมันเป็นเกมที่สามารถปรับความยากได้แบบยืดหยุ่นจริง ๆ
ทั้งการต่อสู้ บอสไฟท์ สกิลเพลย์การต่อสู้และการผ่านแพลตฟอร์ม Prince of Persia: The Lost Crown นำเสนอและส่งมอบออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก ๆ จนคาดไม่ถึงว่านี่คือเกมจาก Ubisoft ตลอดเวลา 30 ชั่วโมงของการเล่นเกมนี้ ผมไม่ณ้จะหาข้อเสียตรงไหนมาตำหนิในส่วนของเกมเพลย์เลย เพราะหากเราตั้งใจทบทวนดี ๆ มันมีวิธีผ่าน มีทางเลือกในการต่อสู้ให้เราเสมอ ถ้ายังไม่ผ่านอีก ก็ไม่มีทางเลือก นอกจากฝึกฝนรัว ๆ เท่านั้น และนี่น่าจะเป็นเกมแรกของปี 2024 นี้ที่ให้เต็มสิบได้แบบไม่มีข้อกังขา
Performance
ใช่แล้ว ยังเหลืออีกหัวข้อหนึ่ง แต่ก็เป็นหัวข้อที่พูดถึงได้ง่ายมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเราเล่นเกมนี้บนเครื่อง PlayStation 5 แล้ว ปัญหาในด้านเกมเพลย์การเล่นและ Performance นั้น แทบจะไม่มีให้เห็นเลยก็ว่าได้ เรื่องการตั้งค่าของเกมนี้ จะยืดหยุ่นในส่วนของเกมเพลย์ แต่ในส่วนของงานภาพ กราฟิก รายละเอียดต่าง ๆ ก็ปรับไม่ค่อยจะได้อยู่แล้ว เพราะมัน Fix ให้ตายตัวบนเครื่องคอนโซล ส่วนระบบการตั้งค่าอื่น ๆ นั้น ไม่ได้มีอะไรมากเลย หลัก ๆ จะเป็นเรื่องของการแสดงผลภาพ และลูกเล่นอื่น ๆ เช่นการสั่นหน้าจอตอนโดนดาเมจ หรือระบบเกมเพลย์เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างพวก Aim Assist ที่เราสามารถปรับแต่งเองได้ตามความสะดวกและความถนัดของเรา ก็ชัดเจนว่าตรงส่วนนี้เขาก็ทำมาได้ดี และไม่รู้จะหาที่ติตรงไหนได้เช่นกัน
น่าจะเป็นเกมแรกของปี 2024 ที่เราสามารถให้ 10/10 ได้อย่างเต็มภาคภูมิ มันออกมาสนุก เซอร์ไพรส์อย่างคาดไม่ถึงว่ามันจะดีได้ขนาดนี้ เอาซะเราลืมไปเลยว่า เกมนี้เราไม่ได้เล่นเป็นเจ้าชาย ก็หวังว่าในอนาคต Ubisoft จะทำเกมแนว ๆ นี้ออกมาอีก และรักษามาตรฐานของตัวเองเอาไว้ได้