โทรทัศน์ HDR ช่วยทำให้เกมมีกราฟิกที่สวยงามขึ้นมากแค่ไหนกันนะ ?

จากการประกาศ E3 2018 ที่ผ่านมา มีเกมกราฟิกสวยงามมากมายสมกับที่เป็นเจเนอเรชั่นในปัจจุบันโผล่มาอย่างไม่หยุดหย่อน แต่เท่าที่สังเกตมาไม่ว่าจะเกมคุณภาพ AAA อย่าง Death Stranding, Forza Horizon 4 หรือแม้กระทั่ง Battlefield V และอีก ๆ หลายเกม ได้ปล่อยตัว Trailer และ Gameplay ที่รองรับความละเอียดหน้าจอในระดับ 4K และระบบ HDR ซึ่งยังคงได้รับความนิยมอยู่เรื่อย ๆ ไม่เสื่อมคลาย

หรือแม้แต่เกมที่ปล่อยมาแล้วในช่วง 1 ปี ที่ผ่านมา มีฟังก์ชั่นการตั้งค่าหน้าจอให้เลือกเล่นแบบ 2K หรือ 4K และออพชั่นตั้งค่ากราฟิกพิเศษได้หลากหลายรูปแบบมากขึ้นหากเครื่องมีประสิทธิภาพที่แข็งแกร่งพอ เกมเมอร์บางส่วนมองว่า 4K มันไม่มีความจำเป็น แต่ถ้าเป็นโทรทัศน์ระบบ HDR ทุกคนเชื่อว่ามันจะต้องทำกราฟิกสวยขึ้นแน่นอน แต่ก็ฝันสลายเมื่อได้เห็นราคาที่แพงกระฉูดเป็นหมื่นเป็นแสนบาท พอที่สามารถนำเงินนี้ไปอัพเกรดซื้อเครื่อง PC ได้หนึ่งเครื่องเลยทีเดียว

จนบางครั้งก็เริ่มสงสัยว่ากราฟิกในเกมกับโทรทัศน์ระบบ HDR ช่วยทำให้ปรับปรุงยกระดับได้ขนาดไหน  มันจำเป็นหรือไม่ ทำไมเกมต้องนำระบบนี้มาใช้ทั้ง ๆ ที่เกมเดิมก็มีกราฟิกที่สุดยอดอยู่แล้ว ซึ่งบทความนี้จะเป็นเรื่องของ HDR มีความสำคัญต่อเกมในยุคปัจจุบันอย่างไร

รู้จักกับระบบ HDR

ก่อนที่จะอธิบาย ต้องรู้เรื่อง HDR แบบเบสิคซะก่อน

HDR คือโทรทัศน์ระบบ High Dynamic Range ที่มีคุณสมบัติการสร้างค่า Dynamic Range โดยการปรับปรุงความความชัดลึกของรายละเอียด ความสว่างและเงาชัดเจน และระดับโทนสีมีความกว้างมากขึ้น เปรียบเสมือน HDR Photoโดยการนำภาพถ่ายทั้ง 3 ภาพ คือ ภาพที่มืดกว่า สว่างกว่า และสว่างกว่ามาก มารวมเป็น 1 ภาพ แล้วผลลัพธ์ออกเป็นภาพที่มีรายละเอียดครบถ้วน และมีความสว่างที่พอดี ซึ่งใช้เทคนิคเดียวกันนำมาประยุกต์ใช้ในโทรทัศน์

ไม่ว่าจะภาพยนตร์ หรือรายการโทรทัศน์ สามารถแสดงภาพให้มีสีสันสดใส เป็นธรรมชาติสวยงาม และรู้สึกสมจริง ถึงแม้ว่าต้นสัญญาณโทรทัศน์จะไม่ได้อยู่ในระดับ 1080p ก็ตาม ถ้าคุณยังไม่เห็นภาพ ภาพด้านล่างก็คือการตัวอย่างเปรียบเทียบการแสดงผลระหว่าง โทรทัศน์ธรรมดา SDR และ โทรทัศน์ HDR

โทรทัศน์ธรรมดา SDR (ซ้าย) โทรทัศน์ HDR (ขวา)

HDR จะมีรายละเอียดเงาที่เข้มขึ้น และเน้นในส่วนของ Highlights ที่มากขึ้น สีโดยรวมก็มีความเที่ยงตรงเช่นกัน

ปัจจุบัน โทรทัศน์ HDR เป็นเทคโนโลยีที่ทุกคนสามารถจับต้องได้ และไม่ยากเกินไปที่จะครอบครอง เพราะมีราคาหลากหลายระดับตั้งแต่ราคาระดับปานกลางไปจนถึงระดับ High End แล้วรายการโทรทัศน์ แอพพลิเคชั่นสมัครสมาชิกรายเดือนต่าง Ultra Blu-ray และรวมไปถึงวีดีโอเกม ก็เริ่มมีการรองรับระบบ HDR มากขึ้น

ฉะนั้น HDR จึงไม่ได้สิ่งที่ไกลตัวกันอีกต่อไป แต่สำหรับพวกเรานำมาใช้ในการเล่นเกม มันจะคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปหรือไม่ ?

ระบบ HDR ต้องใช้ระบบคุณภาพสูง

การเล่นเกมภาพสวย ไม่ได้จบเพียงแค่ซื้อ TV HDR ราคาแพงอย่างเดียว

เพราะถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง โทรทัศน์จะไม่แสดงความแตกต่างระหว่าง SDR กับ HDR แม้แต่นิดเดียว ฉะนั้นถ้าคุณซื้อ TV HDR คุณจะต้องซื้อเครื่องเล่นเกมคอนโซล หรือ PC ที่มีประสิทธิภาพสูงพอที่จะรองรับระบบ HDR ด้วยเช่น ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นอัพเกรดอย่างเช่น Xbox One S หรือ Xbox One X เครื่องคอนโซลตัวแรกที่มีระบบ HDR หรือ PlayStation 4 Pro ที่มีระบบรองรับ HDR และต่อมาก็ได้เพิ่มระบบนี้เข้าสู่ PlayStation 4 รุ่นเดิม (รวมถึงรุ่น Slim) ในภายหลังต่อมา

Xbox One S

ในส่วนของชาว PC เกมคอมพิวเตอร์มีรองรับการรองรับ HDR มาตั้งแต่ 12 ปีก่อนแล้วก็จริง แต่ก็เป็นเพียงแค่ HDR สมมุติเลียนแบบขึ้นมา ไม่ใช่ HDR แบบจริง ๆ เพราะฉะนั้นการที่เล่นเกมโดยใช้งานระบบ HDR จะต้องซื้อการ์ดจอที่รองรับระบบดังกล่าวด้วยเช่นกัน

อย่างค่ายเขียว Nvidia รุ่น Maxwell และ Pascal ส่วนค่ายแดงก็คือการ์ดจอรุ่น AMD Polaris และ Radeon R9 300 โดยจะมีฟีเจอร์พิเศษเสริม รองรับรายละเอียดหน้าจอระดับ 4K และ 60Hz ที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูง ราคาไม่ใช่ย่อยเลย

ฉะนั้นระบบ HDR จึงเป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้สามารถดึงประสิทธิภาพของเกมให้สวยงามที่สุด โดยใช้เทคโนโลยีของโทรทัศน์และวีดีโอเกมเข้าร่วมกัน ผสมผสานกันจนสามารถทำให้เกมมีภาพที่สวยงามเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

ปัญหาระบบ HDR เคยส่งผลกระทบต่อการเล่นเกมในช่วงแรก

ปัญหาเคมีไม่ตรงกัน

ในปี 2015 ทีวี HDR ส่วนใหญ่ไม่ได้รองรับเพื่อเกมมิ่ง เมื่อทีวีที่ต้องใช้เทคโนโลยี HDR กับเกมที่วิ่งด้วยระบบดังกล่าวพร้อมกัน ทำให้การเชื่อมต่อระหว่างเกมและตัวโทรทัศน์เกิดการใช้ทรัพยากรเครื่องเกินประสิทธิภาพ ทำให้ภาพการแสดงผลของทีวีล่าช้าและกระตุกอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็น Samsung หรือ LG ก็ต่างมีปัญหาเกี่ยวความเสถียรภาพในการเล่นเกมด้วยระบบ HDR เกือบทั้งหมด

ถึงแม้ว่าโทรทัศน์ในปัจจุบันจะมีฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า Game Mode ที่สามารถเล่นเกมในระบบ HDR ได้ แต่ก็ต้องแลกด้วยลดประสิทธิภาพของทีวี ซึ่งทำให้การเล่นเกมผ่านทีวี HDR โดนจำกัด ไม่สามารถได้สัมผัสเกมที่มีกราฟิกสวยงามเป็นธรรมชาติแบบเต็ม 100 เปอร์เซนต์

มีทางเลือกเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้ก็คือ ซื้อโทรทัศน์ HDR รุ่นใหม่ในปี 2016 ขึ้นไป ที่มีระบบรองรับ Game HDR Option อย่างแท้จริง ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะหมดไปในที่สุด ถึงจะมีการกระตุกนิดเดียวอยู่บ้างขึ้นอยู่กับเกมและทีวีที่คุณใช้ แต่ก็อยู่ในผลลัพธ์เกณฑ์ที่น่าพึงพอใจ

เกมกับ HDR ผลลัพธ์เป็นอย่างไร ?

ไม่ใช่ทุกเกมที่จะสนับสนุนการใช้ระบบ HDR

แต่แน่นอนว่าเกมคุณภาพระดับ AAA จะต้องใส่ฟีเจอร์รองรับกราฟิกทุกรูปแบบ ตามที่ผู้เล่นเกมต้องการแบบไหน ระหว่างสีสัน ความละเอียดหน้าจอ หรือความลื่นไหลเป็นหลักมากกว่า

สำหรับ Assassin’s Creed: Origins เป็นเกมที่มีสภาพแวดล้อมสวยงามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการใช้งาน HDR ในเกมนี้จึงเป็นทางเลือกที่ดีมาก ๆ เพราะจะทำให้เกมมีกราฟิกในโลกอียิปต์โบราณ มีสีสัน สมจริงมากขึ้น แต่ก็ต้องแลกด้วยปัญหาดั้งเดิม Input lag ที่อาจจะรู้สึกขัดใจในเกมเมอร์บางคน

Forza Motorsport 7 ก็เป็นอีกเกมหนึ่งที่ใช้ระบบ HDR แล้วเห็นเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนได้เรื่องแสงและสี พร้อมกับกราฟิกสภาพแวดล้อมที่สวยงาม ทำให้เป็นอีกเกมหนึ่งที่แนะนำให้ใช้ระบบ HDR ถ้าคุณมีโทรทัศน์ในระบบดังกล่าว

สรุปคุ้มค่าและสำคัญหรือไม่ ?

การเล่นเกมโดยใช้ระบบ HDR เป็นประสบการณ์ที่เยี่ยมมาก เพราะจะเป็นการยกระดับภาพกราฟิกที่มีสีสันสดใสสวยงาม เป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ทว่าก็ต้องใช้งบประมาณจำนวนอย่างมหาศาล เพราะไม่ใช่จบการอัพเกรดเครื่อง PC หรือซื้อเครื่องเล่นคอนโซลเวอร์ชั่นอัพเกรดอย่างเดียว แต่จะต้องจ่ายเงินเพิ่มกับโทรทัศน์มีมูลค่ามากกว่าหลักหมื่นถึงแสน ซึ่งสามารถเอาเงินส่วนนี้ไปลงอัพเกรดอย่างอื่นได้อีกเยอะ

คุ้มค่าไหม ? : ถ้าเกมเมอร์ที่มีเงินพอที่จะซื้อได้ มันคุ้มค่าแน่นอน แต่ไม่ค่อยคุ้มซักเท่าไหร่สำหรับคนที่มีงบจำกัด

สำคัญไหมต่อวงการเกมไหม ? : สำคัญแน่นอน

ซึ่งไม่แปลกใจที่เกมมิ่งกับทีวี HDR จึงเป็นของคู่กัน เพราะว่ามันสามารถอัพเกรดงานกราฟิกให้สวยงามไปถึงอีกขั้นหนึ่ง ถึงแม้ว่าในการเล่นเกมจะไม่ลื่นไหลเหมือนดูโทรทัศน์ และชม Trailer ตามที่โชว์ห้างหรือดูทีวีที่บ้าน แต่เป็นการแสดงถึงความก้าวกระโดดของเทคโนโลยีทั้งโทรทัศน์และวีดีโอเกม เพื่อให้ดึงผลลัพธ์หน้าจอออกมาแบบคุณภาพสูงสุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งในอนาคตข้างหน้าเราอาจจะได้เห็น 6K, 8K หรือ 10K UHDR ก็เป็นได้