การส่งข้อความหากันของมนุษย์มีมาตั้งแต่ยุคหินที่เป็นการส่งสัญญาณควันหรือจะเป็นช่วงที่พ่อแม่ของใครหลายคนใช้จดหมายสื่อรักส่งหากันผ่านตู้ปณ.หรือเป็นการส่งเอกสารที่ใส่ซองน้ำตาลเพื่อเก็บความลับของเอกสารไว้ แต่ด้วยการมาถึงของอีเมล ทำให้การสื่อสารต่างๆไม่ว่าจะทางการหรือไม่ทางการก็ตามเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ซึ่งอีเมลที่เราใช้กันทุกวันนี้ก็มีสารพัดประโยชน์ไม่ว่าจะส่งงาน , ยื่นเอกสาร , หรือส่งจดหมายบอกรายละเอียดที่เป็นทางการก็ทำได้ วันนี้เราจะมาดูกันว่าอีเมลเกิดขึ้นที่ไหน แล้วอะไรทำให้อีเมลได้รับความนิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
อีเมล คืออะไร ?
อีเมล (E-mail) เป็นคำที่หลายคนคุ้นหูที่ย่อมาจากคำว่า Electronic Mail หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ การทำงานของอีเมลไม่แตกต่างจากการส่งจดหมายธรรมดาเลย นั่นคือมีผู้รับและผู้ส่ง แต่ที่แตกต่างกันนั่นคือแทนที่เราจะเขียนข้อความลงในกระดาษและหาซองจดหมายมาเพื่อใส่แผ่นกระดาษนั้น เปลี่ยนเป็นการพิมพ์ข้อความลงบนหน้ากระดาษในหน้าต่างคอมพิวเตอร์ และส่งผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แต่ด้วยการเดินทางของอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วกว่าการนำส่งจดหมายของไปรษณีย์ทำให้การใช้งานอีเมลได้รับความนิยมและแพร่หลายไปในหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะกลุ่มที่ทำงานเล็กๆ ไปจนถึงองค์กรระดับใหญ่
จุดเริ่มต้นของ “อีเมล”
อีเมลถูกคิดค้นในปี ค.ศ. 1965 ในฐานะเครื่องมือสำหรับการรับ-ส่งข้อมูลระหว่างผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ฺเมนเฟรม ซึ่งช่วงเวลานั้นเป็นเหตุการณ์สงครามเย็น ดังนั้นการใช้อีเมลจึงมีจุดประสงค์ในด้านความมั่นคงเป็นหลัก ซึ่งใช้ในระบบ AUTODIN ของเพนตากอนหรือกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และระบบ SAGE ซึ่งใช้สำหรับการตรวจจับอากาศยานของฝ่ายตรงข้ามที่เข้ามาในน่านฟ้าอเมริกัน แต่อีเมลในรูปแบบที่รู้จักในปัจจุบันนั้น เริ่มมีการพัฒนาอย่างจริงจังในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1969 – 1971 โดยเฉพาะการพัฒนาอีเมลเพื่อใช้ในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ARPANET ซึ่งในการพัฒนาครั้งนี้ทำให้ Ray Tomlinson วิศวกรคอมพิวเตอร์ระดับตำนานของอเมริกาเลือกที่จะใส่เครื่องหมาย @ คั่นกลางระหว่างชื่อผู้ใช้กับชื่อเครื่องส่ง ซึ่งเป็นต้นแบบของอีเมลที่ใช้งานกันในปัจจุบัน
แต่ในยุคนั้น ระบบ ATPANET ยังมีผู้ใช้งานในวงจำกัดเท่านั้น จึงมีการพัฒนาเครือข่ายขึ้นมาใหม่อย่าง UUCP หรือ VNET ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมโยงระบบดังกล่าวเข้ากับ ARPANET ผ่านการค้นหาเส้นทางส่งอัตโนมัติ (auto-routing) ที่ทำให้เป็นครั้งแรกที่อีเมลสามารถถูกส่งข้ามเครือข่ายได้ จนในปี ค.ศ.1977 Internet Engineering Task Force (IETF) ได้ออกแบบและกำหนดรูปแบบการส่งอีเมลที่เรียกว่า Simple Mail Transfer Protocol (SMTP) ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นมาตรฐานในการส่งอีเมล และรับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อีเมลก็ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายทั่วทั้งอเมริกา กระทั่งในช่วงทศวรรษที่ 1990s ที่มีฟรีอีเมลเกิดขึ้นมากมายเช่น Yahoo, Hotmail และ Gmail
การใช้อีเมลในไทย
อีเมลได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายตั้งแต่ปี 1980 แต่ช่วงเวลาที่อีเมลเข้ามาในประเทศไทยคือปี 1990 หรือถ้านับจริงๆก็เพิ่งมีเข้ามาเพียง 30 ปีเท่านั้น โดยเครือข่ายในยุคแรกที่มีการใช้งานอีเมลเกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยซะส่วนใหญ่ ซึ่งเราเรียกว่า “Campus Network” โดยมี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ เป็นสถาบันแห่งแรกที่ใช้งานอีเมลผ่านอินเทอร์เน็ตเพื่อใช้ในการรับ-ส่งข้อมูล
จริงๆแล้วไทยก็มีอีเมลที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในสาธารณะเหมือนกันในชื่อ “ไทยเมล” โดยไทยเมลเป็นอีเมลที่พัฒนาโดยเอ.อาร์. อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน เปิดให้มีการใช้งานโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งแรกในปี 1997 แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร บวกกับช่วงที่ Hotmail และ Gmail เข้ามาก็ส่งผลให้ผู้ใช้งานในไทยเมลลดลงจนต้องปิดตัวลงในปี 2014
บทบาทของอีเมลในปัจจุบัน
ในปัจจุบันการใช้งานอีเมลถือว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำความเข้าใจ เพราะการสร้างอีเมลในปัจจุบันเป็นเหมือนการสร้างตัวตนในโลกอินเทอร์เน็ตของเรา ซึ่งจะต้องใช้ในการเข้าถึงการทำงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่เก็บเอกสารบนคลาวด์ , การสมัครแอปพลิเคชันโซเชียลต่างๆ และการส่งข้อมูลไปหาบุคคลอื่นโดยใช้อีเมลที่มีความซับซ้อนกว่าในปี 1990 เป็นไหนๆ ทุกวันนี้อีเมลที่หลายคนให้ความนิยมหรือเลือกใช้งานจะมีหลักๆ 2 อันคือ Outlook และ Gmail
Outlook คือ Hotmail ที่ถูกเปลี่ยนชื่อมาตามกาลเวลา ถูกพัฒนาขึ้นมาโดย Microsoft ตั้งแต่ปี 1996 ในเวลาต่อมา Microsoft ก็ได้พัฒนา Hotmail ควบคู่กับกับ MSN หรือโปรแกรมแชตที่หลายคนอาจจะเกิดทันและได้ลองเล่นกันมาบ้าง ทำให้ Hotmail ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนกระทั่ง Google ได้พัฒนาอีเมลของตัวเองขึ้นมาในชื่อ Gmail
Gmail เป็นอีเมลจากเว็บไซต์ Search Engine อันดับต้นๆของโลกอย่าง Google ที่ใช้เวลาในการพัฒนาอยู่ 5 ปี จนกระทั่งปี 2004 Gmail ก็ได้เปิดตัวออกมาให้เราได้เห็นแล้วใช้งานกัน โดยมีจุดเด่นในเรื่องของฟีเจอร์ที่ได้ตามมาหลังจากสมัคร Gmail แล่ว ไม่ว่าจะเป็น Drive , Docs , Sheet , Slide และเครื่องมืออื่นๆ ที่ทำให้องค์กรหลายๆองค์กรตัดสินใจใช้งาน Gmail เป็นอีเมลหลัก นอกจากนี้ Gmail ยังมีจุดเด่นในเรื่องของการจัดการจดหมายที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นการทำเครื่องหมาย , การลบ , การใส่คำลงท้ายที่กำหนดเองได้ และลูกเล่นอื่นๆที่ทำให้ Gmail ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของอีเมลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลายคนคงไม่นึกว่าอีเมลเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องจนเราสามารถใช้งานอีเมลกันได้อย่างหลากหลาย และยังคงได้รับความนิยมถึงแม้ในวันที่โซเชียลจะเป็นช่องทางการสนทนาที่ตอบสนองได้ไวกว่าก็ตาม